ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 1473 ไม่อยากจะเชื่อ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1473 ไม่อยากจะเชื่อ

แม่นางผู้นี้ไม่มีแม้แต่ลูกคิดก็บอกว่าเขานั้นคำนวณผิดแล้ว คุณชายเฉิงจะกล้าเชื่อได้อย่างไรกัน

“ไม่เช่นนั้นคุณชายเฉิง ท่านเอาลูกคิดมาคิดคำนวณอีกสักรอบ” หลี่ฝานเห็นคุณชายเฉิงไม่เชื่อ จึงส่งคนไปเอาลูกคิดมา

จนเมื่อลูกคิดนั้นมาอยู่ตรงหน้าตัวเองแล้ว คุณชายเฉิงก็ยากจะเชื่อ “เถ้าแก่ ข้าคำนวณมาหลายรอบแล้ว ไม่มีทางผิดหรอก”

ไม่คิดว่าหลี่ฝานกลับหัวเราะ “คุณชายเฉิง เจ้าลองคิดอีกรอบเถอะ”

คุณชายเฉิงมองรอยยิ้มของหลี่ฝานอย่างสงสัย แล้วมองกู้เสี่ยวหวานที่อยู่ด้านข้าง ก็เห็นว่าแม่นางผู้นั้นนั่งอยู่อย่างใจเย็น ในมือถือถ้วยน้ำชาด้วยสีหน้าสบายใจ

ชั่วขณะนั้น คุณชายเฉิงก็เกิดความสงสัยขึ้นมาในใจ

เหตุใดเถ้าแก่จึงเชื่อแม่นางตัวเล็ก ๆ แล้วไม่เชื่อตัวเองกัน

และยังตอนที่แม่นางผู้นั้นพูดข้อสงสัยออกมา เถ้าแก่ก็ถามความคิดเห็นของแม่นางโดยไม่แม้แต่จะคิด ดูเหมือนกับว่าเชื่อใจแม่นางผู้นั้นอย่างมาก

คุณชายเฉิงวาดเครื่องหมายคำถามอันใหญ่ไว้ในใจแล้วเกิดความสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของแม่นางผู้นี้ เขาไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักวางตัว เมื่อเห็นหลี่ฝานต้องการเช่นนี้จึงพยักหน้าดีดลูกคิด คิดคำนวณอย่างจริงจังขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

คุณชายเฉิงกลัวว่าจะผิดพลาด คราวนี้จึงยิ่งตั้งใจอย่างรอบครอบ คำนวณอย่างละเอียดจริงจัง จนเมื่อเขาดีดลูกคิดลูกสุดท้าย ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกแล้ว ก็ยิ่งตกตะลึงจนไม่อาจหุบปากได้ “เถ้าแก่ คำนวณเกินมาสิบตำลึงจริง ๆ ด้วย”

จิ๊ ๆ เมื่อครู่นี้คิดเงินสิบตำลึงจ่ายค่าสินค้าพลาดไปแล้ว นี่ถ้าหากไม่คิดอีกที เมื่อถึงตอนที่คนอื่นมาเอาเงินสิบตำลึงนี้ไป ตัวเองก็ต้องจ่ายแทนแล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ คุณชายเฉิงก็รู้สึกเสียใจภายหลัง สิบตำลึงนี้ เป็นเงินเดือนทั้งปีของเขาเชียวนะ

แต่หลี่ฝานกลับยิ้มราวกับว่านี่อยู่ในความคิดของเขาอยู่แล้ว จึงไม่มีความรู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย “เจ้ากล่าวต่อเลย”

ครั้งนี้คุณชายเฉิงไม่กล้าประมาทและยิ่งไม่กล้าดูแคลนแม่นางที่สงบนิ่งผู้นั้น

สำหรับความสามารถของแม่นางผู้นี้ก็ยิ่งเป็นที่น่าเคารพเลื่อมใส

นางไม่ได้ใช้ลูกคิด หลังจากที่ฟังเขารายงานตัวเลขยาว ๆ แล้ว ก็สามารถคิดผลลัพธ์อยู่ในใจออกมาได้ ความสามารถเช่นนี้ทำให้คนรู้สึกทึ่งอย่างมาก

เมื่อหน้าสุดท้ายปิดลง กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ได้เอ่ยปากอีก คุณชายเฉิงนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เมื่อไม่เอ่ยปากก็ยืนยันได้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้คำนวณผิด

เมื่อคำนวณเสร็จแล้วก็เห็นหลี่ฝานมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เอาล่ะ จดลงในบัญชีเถอะ”

ความเชื่อใจในตัวแม่นางผู้นั้นอยู่เหนือกว่าที่คุณชายเฉิงจะคาดเดาได้

หลังจากที่รายงานบัญชีเสร็จแล้ว คุณชายเฉิงนั้นก็จะต้องออกไป แต่ว่าครั้งนี้เขากลับมีความกล้าหาญ มองไปยังหลี่ฝานแล้วกล่าวว่า “เถ้าแก่ ข้ายังมีสิ่งที่ยังต้องรบกวน”

“อะไรหรือ” หลี่ฝานมองเขาอย่างสงสัย กลับเห็นเขามองมาที่กู้เสี่ยวหวานก็พอจะเดาออกได้ราง ๆ แล้ว

“ถ้าหากเมื่อครู่นี้แม่นางผู้นี้ไม่ทักท้วง ข้าเองก็นับเงินเกินไปสิบตำลึง เกรงว่าตัวเองจะต้องสำรองเงินจ่ายล่วงหน้าเองแล้ว ข้าอยากจะขอบคุณแม่นางท่านนี้” คุณชายเฉิงกล่าว

หลี่ฝานยิ้มพลางกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ได้ เจ้าอยากขอบคุณก็ขอบคุณเถอะ”

เมื่อคุณชายเฉิงได้รับอนุญาตแล้ว จึงเดินมาหากู้เสี่ยวหวาน ประสานมือคำนับขอบคุณ “เมื่อครู่นี้ขอบคุณแม่นางมากแล้ว หากไม่ใช่คำพูดของแม่นาง เกรงว่าปีนี้ตาแก่อย่างข้าจะต้องทำงานเสียเปล่าแล้ว”

กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าชายชราผู้นี้คำนับต่อหน้าตัวเองจริง ๆ จะกล้ารับได้เสียที่ไหน นางรีบลุกยืนขึ้นแล้วเดินไปด้านข้าง ไม่กล้ารับการคำนับขอบคุณจากชายชราท่านนี้ “คุณชายเฉิงคิดมากไปแล้ว ข้าเพียงแค่ฟังตามแล้วรู้สึกว่าผิด จึงได้พูดออกมา ถ้าหากว่าเสี่ยวหวานล่วงเกินตรงที่ใด หวังว่าคุณชายเฉิงอย่าได้เก็บมาใส่ใจ”

คุณชายเฉิงนั้นกลับเป็นผู้ที่ชมชอบผู้มีความสามารถ จึงรีบโบกมือแล้วพูดด้วยความจริงใจว่า “ที่ไหนกัน ถ้าหากไม่ใช่แม่นาง ตาแก่ก็ต้องทำงานเสียเปล่าแล้ว ข้าต้องขอบใจแม่นางมาก”

เมื่อเห็นเขายืนกรานที่จะขอบคุณ กู้เสี่ยวหวานก็แอบชำเลืองมองไปที่หลี่ฝาน เห็นเขาพยักหน้าจึงไม่ได้ปฏิเสธ “คุณชายเฉิงสุภาพมากไปแล้ว”

หลังจากได้รับการคำนับจากคุณชายเฉิงแล้ว กู้เสี่ยวหวานจึงนั่งลงอีกครั้ง เพียงแต่เขากลับยังไม่ออกไปและยังคงยืนอยู่ด้านข้างของกู้เสี่ยวหวานราวกับว่าอยากจะพูดบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา

“คุณชายเฉิงยังมีเรื่องอะไรอีกหรือไม่” กู้เสี่ยวหวานเห็นเขาดูเหมือนมีอะไรอยากจะพูด จึงอดไม่ได้ที่จะถาม

“ในใจของตาแก่ยังมีคำพูด แม้ว่าจะล่วงเกินไปบ้าง แต่ถ้าไม่ได้พูดออกไปก็คงไม่สบายใจนัก หวังว่าแม่นางจะให้คำตอบแก่ข้าได้บ้าง”

“เรื่องที่คุณชายถามเป็นเรื่องที่ข้าคิดบัญชีเมื่อครู่นี้หรือ” กู้เสี่ยวหวานมองออกมานานแล้ว จึงถามด้วยรอยยิ้ม

คุณชายเฉิงไม่คิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะพูดได้ตรงใจ แม้ว่าจะน่าอายอยู่บ้าง แต่ก็พยักหน้า “อืม เมื่อครู่แม่นางไม่ได้ดูสมุดบัญชี เพียงแค่ฟังตาแก่รายงานตัวเลขรอบเดียว แม่นางก็สามารถคำนวณจุดที่ผิดพลาดในนี้ได้ สุดท้ายแล้วยังคำนวณออกมาได้อย่างแม่นยำ ตาแก่นั้นเลื่อมใสจริง ๆ ตาแก่เป็นคนทำบัญชีมาหลายสิบปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นผู้ใดคำนวณคำตอบได้อย่างรวดเร็วเช่นแม่นางมาก่อนเลย”

หลี่ฝานกลับยิ้มร่า “คุณชายเฉิง เจ้าถามได้ถูกคนแล้ว ความสามารถของแม่นางผู้นี้ เกรงว่าเจ้าจะไม่เคยพบจากที่ไหนมาก่อนเลยจริง ๆ”

เมื่อคุณชายเฉิงได้ฟังก็ยิ่งตกตะลึงมาก

เหลือบมองใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานแวบหนึ่งก็ละจากไปอย่างเหมาะสม ทว่าในใจกลับรู้สึกประหลาดใจ

เป็นเพียงแม่นางที่อายุสิบห้าสิบหกปี คาดไม่ถึงว่าจะมีความสามารถเช่นนี้

แม้ว่าในใจไม่อยากเชื่อ แต่ว่าเมื่อครู่นี้นางได้พบข้อผิดพลาดในสมุดบัญชีของตัวเอง และยังสามารถคิดคำนวณคำตอบที่ถูกต้องออกมาได้อย่างรวดเร็ว และยังมีความเชื่อใจจากเถ้าแก่ที่มีต่อนาง สิ่งเหล่านี้กำลังเตือนเขาว่า แม่นางที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้นั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

“คุณชายเฉิงคงได้ยินข้าพูดถึงคนทำบัญชีคนก่อนหน้านี้ของข้า อายุยังน้อยกลับมีความสามารถ นางคิดบัญชีได้รวดเร็วทั้งยังแม่นยำไม่มีใครเทียบได้” หลี่ฝานเห็นเขาไม่อยากจะเชื่อจึงพูดด้วยรอยยิ้ม

“อะไรนะ” เมื่อฟังหลี่ฝานพูดจบ คุณชายเฉิงก็ยิ่งทำสีหน้าเหลือเชื่ออย่างมาก “หรือว่าคนทำบัญชีผู้นั้น ก็คือแม่นางที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้?”

คนทำบัญชีเป็นสตรี

ถึงแม้ว่าไม่อยากเชื่อ แต่ก็เป็นไปตามคำพูดที่กล่าวว่าไม่เกินจริงเลย

ตามที่คิดไว้ดังคาด ก็เห็นหลี่ฝานพยักหน้าและกล่าวอย่างภูมิใจว่า “คุณชาย ผู้นี้ก็คือคนทำบัญชีก่อนหน้าของข้า ตอนที่นางเข้ามาร้านจิ่นฝูอายุเพิ่งจะเก้าปีเท่านั้น”

แม้ว่าคุณชายเฉิงจะคาดเดาได้แล้ว แต่เมื่อได้ฟังหลี่ฝานกล่าวเช่นนี้ก็ยังมีสีหน้าที่ตกใจ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท