บทที่ 1474 มีความคิดที่ดี
เป็นคนทำบัญชีเมื่อตอนที่นางอายุเก้าขวบ
เด็กอายุเก้าขวบก็สามารถใช้ลูกคิดได้แล้วงั้นหรือ?
คุณชายเฉิงนิ่งเงียบเป็นเวลานาน ครั้งนี้ชายวัยชราห้าสิบปีที่ผมขาวโพลนกำลังจ้องมองหญิงสาวอายุสิบห้าสิบหกปีด้วยความประหลาดใจ
หญิงสาวตรงหน้าตนเองอายุไม่มากนัก แต่รอบกายกลับเต็มไปกลิ่นอายที่สุขุมเยือกเย็นที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ แม้ว่านางจะไม่ได้งดงามจนล่มเมือง แต่ท่าทางสงบเสงี่ยมของนางกลับทำให้หลงรักได้เมื่อมองเพียงแวบเดียว และเกิดความรู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ได้
คุณชายเฉิงเคยเห็นคุณหนูจากตระกูลสูงส่งหลายคนมาใช้บริการร้านจิ่นฝู แต่เขาไม่เคยเห็นหญิงสาวที่ท่าทางสง่างามและโดดเด่นเช่นนี้มาก่อน หญิงคนนี้เป็นคนแรกที่เขาพบเห็น
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ถูกจ้องมอง ดังนั้นจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเฉิง มีอะไรติดหน้าข้าหรือเปล่า”
“อ่า… ไม่ไม่ไม่” เมื่อรู้ว่าตอนนี้เขาเหมือนเสียความควบคุมไป ใบหน้าที่เต็มไปด้วยร่องรอยความเหี่ยวย่นตามกาลเวลาก็ขึ้นสีแดงก่ำอย่างหาได้ยาก แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็กลับมาเป็นปกติ “ข้าเพียงแค่ตกใจเท่านั้น ข้าไม่คิดว่าแม่นางที่อายุยังน้อยจะมีความสามารถเช่นนี้ ข้าประเมินแม่นางต่ำไป และหวังว่าแม่นางจะไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ”
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานก็ยกมือขึ้นปิดปากและยิ้ม “คุณชายเฉิงเป็นคนทำบัญชีมาหลายปี ท่านเก่งกว่าเสี่ยวหวานมาก มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่เสี่ยวหวานได้ยินส่วนที่คุณชายเฉิงมองข้ามไป”
“เฮ้อ…” เมื่อพูดถึงการคำนวณเมื่อครู่ คุณชายเฉิงก็ถอนหายใจและตำหนิตนเอง “ข้าเป็นคนทำบัญชีมาหลายสิบปีแล้ว แต่ก็ทำเรื่องผิดพลาด และอีกอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นข้าที่ประมาทเอง ในฐานะคนทำบัญชี ข้าทำผิดมหันต์ ข้าคำนวณบัญชีผิดพลาด เถ้าแก่โปรดลงโทษข้า”
คุณชายเฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึมจริงจัง ดูเหมือนว่าเขากำลังรอการลงโทษจากเถ้าแก่หลี่
ทำงานกับคุณชายเฉิงคนนี้มาหลายปี จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นคนอย่างไร
เขาเป็นคนเข้มงวด ซื่อตรง และทำสิ่งต่าง ๆ อย่างระเอียดรอบคอบ ไม่เคยเกิดความผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น หลี่ฝานจึงเอ่ยว่า “คุณชายเฉิงทำงานอย่างขยันขันแข็งมาหลายปี ครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย”
ทว่าคุณชายเฉิงกลับขมวดคิ้วแน่น “ในฐานะคนทำบัญชี การคำนวณบัญชีผิดจะถือว่าข้าทำงานผิดพลาด จะถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยได้อย่างไร ครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย หากมีครั้งต่อไปร้านจะได้รับความเสียหาย ในฐานะคนทำบัญชี ข้าจะคำนวณให้รอบคอบมากกว่านี้ หากข้าทำผิดพลาดอีก ต่อไปข้าจะได้รับความไว้วางใจจากเถ้าแก่อีกได้อย่างไร?”
คุณชายเฉิงแสดงความจริงจัง และสิ่งที่เขาแสดงออกมาก็น่าชื่นชม
คนรู้ข้อผิดพลาดของตนเองและแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเองได้ คนที่จริงจังและมีความรับผิดชอบต่องานเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาของกลุ่มคน
หลี่ฝานต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการค้นหาคนเช่นนี้
“คุณชายเฉิงเป็นคนแบบไหน ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร เพราะความแน่วแน่ตั้งใจของท่าน ข้าจึงจ้างท่านมาที่นี่ เรื่องวันนี้เป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย สำหรับการลงโทษ นี่เป็นเพียงความผิดครั้งแรกคุณชาย เลิกคิดเรื่องการลงโทษเสียเถอะ หลายปีมากนี้ท่านภักดีต่อร้านของเรา ข้ารู้สึกขอบคุณเสมอมา ครั้งนี้ข้าคิดว่าเป็นการดีกว่าที่จะลืมมันไป”
“ไม่ได้เด็ดขาด” ถ้อยคำของหลี่ฝานได้จริงจังเกินไปแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าคุณชายเฉิงจะไม่ยอม “เถ้าแก่ ข้าผิดแล้วก็คือผิด ข้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดของข้าได้ ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก เพื่อไม่ให้เกิดการสับสน วันนี้ข้าทำผิด หากท่านไม่ลงโทษแล้วเกิดข้าทำผิดในครั้งต่อไป แม้ว่าเถ้าแก่จะไม่ว่าอะไร แต่ข้าก็รู้สึกทนไม่ได้ หากเถ้าแก่ไม่ยอมลงโทษข้า ข้าจะลงโทษตัวเอง ข้าจะหักค่าจ้างเดือนนี้เป็นการลงโทษตัวเอง”
เมื่อมองไปยังคนดื้อรั้นที่ดูเหมือนว่าหากเขาไม่ถูกลงโทษ คนคนนี้จะจำไปตลอดชีวิต
หลี่ฝานส่ายหน้าและยิ้มอย่างขมขื่น “ในเมื่อท่านยืนยันเช่นนั้น ดังนั้นข้าจึงทำได้เพียงทำเช่นนั้น หักค่าจ้างหนึ่งเดือนนั้นมากเกินไป หากหักเป็นหนึ่งในสามส่วนของค่าจ้างเดือนนี้คงจะดีกว่า”
เมื่อมองไปที่คู่ต่อรอง กู้เสี่ยวหวานก็หัวเราะเบา ๆ
หากคนอื่นไม่รู้ อาจคิดว่าผู้กระทำผิดขอให้เถ้าแก่ลดโทษ แต่ใครจะรู้ว่าผู้กระทำผิดขอให้ลงโทษตัวเองมากขึ้น แต่เถ้าแก่กลับลดโทษให้
สามารถเห็นได้จากเหตุการณ์นี้ว่าคุณชายเฉิงเป็นคนซื่อตรงและไม่เห็นแก่ตัว
กู้เสี่ยวหวานยิ้มและพูดว่า “เถ้าแก่หลี่ คุณชายเฉิง ทุกท่านหยุดเถียงกันได้แล้ว พวกท่านฟังข้าก่อนดีหรือไม่”
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานพูดขึ้น หลี่ฝานก็ตอบตกลงทันทีและพูดว่า “แน่นอน เสี่ยวหวาน เจ้าพบปัญหานี้แล้ว ทำไมเจ้าไม่ตัดสินมันล่ะ”
คุณชายเฉิงพยักหน้า “ใช่แล้วแม่นาง วันนี้ต้องขอบคุณท่าน ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน เกรงว่าข้าจะต้องจ่ายเงินมากกว่าสิบตำลึงเงินในครั้งต่อไป วันนี้ท่านช่วยให้ข้าไม่เสียเงินมากกว่าสิบตำลึง ท่านว่าข้าลงโทษตัวเองด้วยการหักเงินเดือนหนึ่งเดือนไม่ดีหรือ”
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า แต่นางไม่ได้ตอบว่าใช่หรือไม่ แต่หลี่ฝานยืนกรานปฏิเสธที่จะลงโทษเขา ต้องเป็นเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณชายเฉิงไม่เคยทำงานผิดพลาดเลย เขาเป็นคนมีมโนธรรมและขยันหมั่นเพียรมาเสมอ แม้ว่าคุณชายเฉิงจะขอให้ลงโทษตัวเอง แต่ถ้าทำการลงโทษจริง ๆ เกรงว่ามันจะทำให้หัวใจของคนที่จริงใจเช่นนี้เปลี่ยนไป
“หากไม่เป็นเช่นนั้น เถ้าแก่หลี่ คุณชายเฉิง ทุกท่านถอยคนละหนึ่งก้าว แม้ว่าวันนี้จะมีความผิดพลาด แต่โชคดีที่ไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น ควรถือเป็นบทเรียนและบทลงโทษ ทำไมเราไม่หักเงินเดือนคุณชายเฉิงครึ่งเดือนล่ะ หากสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายของร้านอาหารได้เล็กน้อยในเดือนหน้า เราก็จะให้รางวัลแก่คุณชายเฉิงอีกครั้ง ด้วยวิธีนี้ถือได้ว่าเป็นการลงโทษคุณชายเฉิงสำหรับความผิดพลาดของเขา ในทางกลับกันก็เป็นกำลังใจให้คุณชายเฉิงด้วย”