รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 1016 ทุกคนต่างยอดเยี่ยม มีเพียงมัจฉาสัตมายาที่ถูกตี!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 1016 ทุกคนต่างยอดเยี่ยม มีเพียงมัจฉาสัตมายาที่ถูกตี!

สิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมหาศาลถูกส่งออกไปก็เพื่อจุดประสงค์ในการจุดประกายไฟแห่งความมืดมิดและเปิดฉากนองเลือด สิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น ต่างต้องกำจัดให้สิ้นโดยเร็วที่สุด

หากเจ้าหลวงไม่ถูกส่งออกมา คิดจะกำจัดสิ่งมีชีวิตมืดมิดทั้งหมดนับว่าเป็นเรื่องยุ่งยากอยู่บ้าง

อย่างไรเสียสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้ต่างก็ไม่ได้ย่ำแย่ แต่แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังถูกส่งไปยังสถานที่ต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน

คิดจะตามหาสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านั้นในทันทีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แต่มีเจ้าหลวงอยู่ เรื่องเหล่านั้นไม่นับเป็นปัญหาอย่างใด

เจ้าหลวงกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านั้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เป็นทั้งมารดาบุญธรรม บิดาบุญธรรม หรือกระทั่งพี่น้องแสนดี

หากมีเจ้าหลวงติดต่อไป ยอมทราบตำแหน่งแน่นอนของสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว

ต้องกล่าวว่ามนุษยสัมพันธ์ของเจ้าหลวงนั้นยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง ก่อนถูกส่งออกมาสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านั้นต่างทิ้งศาสตราสื่อสารเอาไว้ให้เจ้าหลวง เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้าหลวง พร้อมทั้งกำชับว่าเกิดเรื่องอันใดให้เจ้าหลวงติดต่อไปหาพวกเขา

ในไม่ช้า เจ้าหลวงก็ติดต่อกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้ เพียงแค่ทักทาย ไม่ได้ทำสิ่งอื่น ส่วนตำแหน่งของสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้ถูกกำหนดเรียบร้อยแล้ว

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเองก็ไม่ได้อยู่ว่าง อาศัยช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ติดต่อกับต้นหลิวและตงฟางเวิ่นตามลำดับ แจ้งสถานการณ์ต่าง ๆ ให้พวกเขาทราบ

ขณะเดียวกันเขาก็บอกเล่าเรื่องราวสถานการณ์ของร่างศพทั้งสองให้ต้นหลิวได้ฟังด้วย ลองดูว่าต้นหลิวจะมีหนทางอันใดในการทำลายร่างศพล่วงหน้าหรือไม่

“เจ้าทำถูกต้องแล้ว พวกมันทั้งสองไม่ใช่ศัตรูตัวฉกาจของคุณชายจริง ๆ ไม่คู่ควรแก่การแบ่งความสนใจของคุณชายไป ทว่าคิดจะทำลายร่างศพทั้งสอง นับว่าเป็นเรื่องยุ่งยากอยู่บ้าง ให้ข้าได้ลองคิดดูก่อน”

ต้นหลิวตอบกลับ มันรู้สถานการณ์ต่าง ๆ มากกว่า

แม้ร่างศพทั้งสองจะทรงพลังน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง แต่ก็ยังไม่คู่ควรกับการเป็นศัตรูที่แท้จริงของคุณชาย ห่างชั้นไปไกลไม่รู้เท่าใด

ทว่าด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน มันเองก็ไม่อาจทำสิ่งใดกับร่างศพทั้งสองได้

พลังของร่างศพทั้งสองเหนือกว่ามันมากอย่างไม่ต้องสงสัย

แน่นอน ประเด็นสำคัญคือกิ่งหลิวชะล้างส่งคืนคุณชายไปแล้ว หากมีกิ่งหลิวชะล้างอยู่ในมือ มันคงไม่เป็นเช่นนี้ สามารถทำลายร่างศพทั้งสองได้อย่างแน่นอน

“เรื่องนี้ค่อยคุยกันภายหลัง ก่อนอื่นต้องแก้ไขปัญหาสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้เสียก่อน”

ต้นหลิวตอบกลับ สิ้นสุดการติดต่อกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง

มันเตรียมจะบอกให้เจ้าก้อนหิน และพวกต้าเต๋อออกไปต่อสู้ด้วย จำนวนสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ส่งเข้ามานับได้ว่าไม่น้อย อีกทั้งส่วนใหญ่ล้วนแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง พึ่งเพียงตัวมันและเจ้าก้อนหินยากจะกำจัดให้สิ้นซาก

คุณชายไม่อยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้คุณชายหยิบกระดานวาดภาพออกไปพร้อมบอกให้พวกเขาทำกิจกรรมตามใจชอบ

‘ทุกสิ่งย่อมไม่อาจปิดซ่อนจากคุณชายได้ คุณชายบอกให้พวกเราออกไปต่อสู้…’

ต้นหลิวคิดในใจ รู้สึกเคารพเลื่อมใสคุณชายมากขึ้น

จากนั้นพวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว ไปตามตำแหน่งที่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมอบให้เพื่อสังหารเหล่าสิ่งมีชีวิตมืดมิด

“เฟย เป็นมันนี่แหละ พลังไม่ได้แข็งแกร่งมาก อยู่ขอบเขตอิสระ ข้าจะไปจัดการมัน!”

มัจฉาสัตมายาเริ่มเคลื่อนไหว เลือกสิ่งมีชีวิตมืดมิดนามว่าเฟยเป็นเป้าหมาย

ช่วงเวลาที่ได้ติดตามข้างกายคุณชาย พลังและขอบเขตของมันพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตอนนี้มันเข้าสู่ขอบเขตอิสระแล้ว มีความมั่นใจในการจัดการเฟย

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไม่ได้เพียงแต่ให้ตำแหน่งกับพวกเขาเท่านั้น ยังบอกให้พวกเขาทราบถึงสถานการณ์ทั่วไปของสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้ด้วย

แต่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงยังเอ่ยเสริมทิ้งท้ายเอาไว้ ว่าสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้ได้รับผลประโยชน์จากสสารมืดมิดที่หลั่งไหลออกมาหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาด้วย ความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้น ไม่อาจยืนยันได้อย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงควรระมัดระวังมากขึ้น

“แน่ใจหรือ? เหตุใดพวกเราสองคนจึงไม่เคลื่อนไหวด้วยกันเล่า?”

ชางเหยากังวลใจ กลัวว่ามัจฉาสัตมายาจะไม่สามารถรับมือได้ อย่างไรเสียจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก็กล่าวว่าสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้ได้รับการเสริมพลังหลายครั้ง ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

“ไม่จำเป็น! ข้าจะซ่อนตัวอยู่ด้านหลังสตรีตลอดเวลาได้อย่างไร?”

มัจฉาสัตมายาปฏิเสธทันที “วางใจเถิด ข้าไม่เป็นอันใด จะต้องจัดการเฟยได้อย่างแน่นอน!”

เขากล่าวต่อ “อีกทั้งคราวนี้สิ่งมีชีวิตมืดมิดออกมามากเกินไป ดังนั้นพวกเราแยกกันเคลื่อนไหวจะดีกว่า”

“ตกลง หากมีเรื่องเกิดขึ้นจริง อย่าลืมติดต่อข้ามาทันที”

ชางเหยาเอ่ยกับมัจฉาสัตมายา

“วางใจเสีย ข้า มัจฉาสัตมายาติดตามคุณชายมานานเพียงนี้ จะไม่สามารถเผชิญหน้าศัตรูโดยลำพังได้อย่างไร! อย่าได้ดูแคลนข้านัก!”

มัจฉาสัตมายาจากไป ตรงไปทางอาณาจักรที่เฟยอยู่

อีกด้านหนึ่ง ตงฟางเวิ่นที่ได้รับคำเตือนจากจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงติดต่อไปยังพวกเมิ่งจี

“มีงานต้องทำอีกแล้ว ไปเร็วเข้า!”

เขารีบติดต่อสุนัขดำ แจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์

“รีบไปเร็ว!”

สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงรีบเดินทางออกจากเมืองชิงซานทันที

“เฮ้ ข้าจะเตือนเจ้า อย่าได้ให้ข้าลงมืออีก!”

ระหว่างทาง เสียงของนักพรตอัษฎสมบูรณ์ดังขึ้นมาจากด้านในหนังสือ เขากลัวว่านักพรตอู๋เหลียงจะให้เขาลงมืออีกครั้ง จึงเอ่ยเตือนล่วงหน้าเอาไว้ก่อน

นักพรตอู๋เหลียงแย้มยิ้มออกมา “ทว่าข้ายังจำเป็นต้องใช้พลังของหนังสือ สหายเต๋าเคยได้ยินประโยคนี้หรือไม่? สหายเต๋าตายได้แต่ข้าตายไม่ได้*[1]!”

“หมายความว่าอย่างไร?”

นักพรตอัษฎสมบูรณ์ไม่เข้าใจ สหายเต๋าตายได้แต่ข้าตายไม่ได้คือสิ่งใด?

“คนฉลาดอย่างเจ้า เหตุใดจึงถามคำถามโง่งมเช่นนี้ออกมากัน”

นักพรตอู๋เหลียงกล่าวอย่างดูแคลน “ในหนังสือไม่ได้มีตัวละครอย่างเจ้าเพียงผู้เดียว ยังมีตัวละครอื่นอีกมาก เจ้าไม่อยากลงมือก็ส่งตัวละครอื่นให้ออกมาลงมือได้”

นักพรตอัษฎสมบูรณ์พุ่งออกมาจากหนังสือ เงื้อมมือขึ้นตบหัวนักพรตอู๋เหลียง

“ฉลาดนัก ข้าเห็นด้วย แต่อันใดคือถามคำถามโง่งมเช่นนี้ออกมา? เจ้าเบื่อหน่ายการใช้ชีวิตแล้วหรือ!”

เขาเอ่ยอย่างชิงชัง

ทว่าเขานั้นค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดของนักพรตอู๋เหลียง

นอกจากนี้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงยังได้ติดต่อกับองค์จ้าวอู๋เฉิน บอกให้องค์จ้าวอู๋เฉินและยอดฝีมือหลังฉากเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย

องค์จ้าวอู๋เฉินและยอดฝีมือหลังฉากต่างมีพลังพอต่อกรกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดเช่นกัน สามารถกำจัดสิ่งมีชีวิตมืดมิดบางส่วนได้

เขาไม่มีศาสตราสื่อสารติดต่อองค์จ้าวอู๋เฉินโดยตรง ทว่าไม่ใช่เรื่องยากอันใดสำหรับเขา

เขาอยู่ในขอบเขตอิสระ เพียงแค่หนึ่งความคิดสามารถส่งข้อมูลถ่ายทอดไปยังสมรภูมืดมิดได้

“ตกลง!”

องค์จ้าวอู๋เฉินและเหล่ายอดฝีมือหลังฉากตอบรับทันที แยกย้ายกันไปยังอาณาจักรต่าง ๆ เพื่อจัดการกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สามารถต่อกรได้

สงครามครั้งใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว!

จักรวาลโกลาหลหนึ่ง อาณาจักรแห่งหนี่ง

เฟยอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้

“มาเลย จุดดอกไม้ไฟแห่งความมืดมิดขึ้น ทำให้ความมืดมิดโดดเด่นทั่วอาณาจักรแห่งนี้!”

มันมีสีหน้าเย็นชา ไม่ใช่เผ่ามนุษย์ ทั้งร่างปกคลุมด้วยเกล็ดปลา มันคือปลาเฟย*[2] จึงเรียกตนเองว่าเฟย

สิ่งที่เรียกว่าการจุดดอกไม้ไฟความมืดมิดคือการปลุกความมืดมิดในใจสิ่งมีชีวิตขึ้นมา

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดย่อมมีด้านมืดอยู่ภายในใจ เพียงแต่ถูกตนเองระงับเอาไว้หรือฝังกลบไม่เปิดเผยออกมา

ตอนนี้สิ่งที่มันต้องทำคือการกระตุ้นความมืดในหัวใจสิ่งมีชีวิตทั้งหมดออกมา!

มันเริ่มเคลื่อนไหว แสงสีดำเส้นแล้วเส้นเล่าพุ่งออกมาจากร่างกาย ทั้งหมดล้วนเป็นพลังมืดมิดอันบริสุทธิ์ สามารถดึงความมืดในจิตใจสิ่งมีชีวิตออกมาได้

“หยุดมือ!”

ตอนนั้นเอง มัจฉาสัตมายาพลันแหวกความว่างเปล่ามายืนอยู่บนฟ้าสูง เผชิญหน้ากับเฟย

“ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ให้เจ้ามาทำตามอำเภอใจ จงรับความตายของเจ้าเสีย!”

มัจฉาสัตมายาตะโกนออกมา

“เจ้า…จริงจังหรือ?”

เฟยมองมัจฉาสัตมายาด้วยรอยยิ้มที่ไม่อาจบรรยายออกมาได้บนใบหน้า

“แน่นอน!”

มัจฉาสัตมายาตะโกน “ดูเสียว่าวันนี้ข้าจะจัดการกับเจ้าเช่นไร!”

เขาลงมือทันที พุ่งตรงเข้าหาเฟย สำแดงความแข็งแกร่งออกมา!

ขณะเดียวกัน พวกต้าเจ๋อเองก็ไปยังตำแหน่งของตนเองเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่เลือกเอาไว้

“อามิ…ต้าเต๋อฝอ ข้าต้าเต๋อผู้เปี่ยมเมตตาสูงสุด ข้าต้าเต๋อฝอผู้ไร้เกศา!”

มือข้างหนึ่งของต้าเต๋อถือหัวกะโหลก อีกมือถือไม้มู่อวี๋เคาะหัวกะโหลกระหว่างพูด

หัวกะโหลกนี้คือหัวของปีศาจกระดูก

น่ารำคาญจะตายแล้ว!

ปีศาจกระดูกสาปแช่งสบถใส่ต้าเต๋อ ทุกวันมันล้วนถูกใช้ไม้มู่อวี่เคาะกะโหลก มันแทบจะกลายเป็นตัวโง่งมแล้ว!

มันต้องการจะถามต้าเต๋อสักประโยคจริง ๆ เจ้าเรียกสิ่งนี้ว่าการโปรดสัตว์หรือ? โปรดให้มันกลายเป็นคนโง่? นี่คือสิ่งที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าสอนหรือ?

ถ้าหากทำได้ มันจะต้องไปร้องเรียนพระอมิตาภะพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ดูเณรน้อยของท่านซะสิ วิธีการโปรดสัตว์เช่นนี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข!

น่าเสียดายที่มันทำได้แค่ร้องเรียนภายในใจเท่านั้น

มันกระจ่างแจ้งเป็นอย่างดี เกรงว่ากระทั่งพระอมิตาภะพุทธยังไม่อาจควบคุมต้าเต๋อได้

ยามนี้เอง สิ่งมีชีวิตมืดมิดเบื้องหน้าตกตะลึงไปเรียบร้อยแล้ว

อามิ…ต้าเต๋อฝอ ข้าต้าเต๋อผู้เปี่ยมเมตตาสูงสุด ข้าต้าเต๋อฝอผู้ไร้เกศา!

นี่มันบ้าอันใดกัน!

การไร้เกศาเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเพียงนั้นหรือ?

“บังอาจ! มองเจ้าเพียงแวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่ากำลังดูหมิ่นข้าต้าเต๋อฝอในใจ!”

ต้าเต๋อตะโกน “ต้าเต๋อฝอไม่อาจดูหมิ่นได้ ตอนนี้ข้าจะตั้งใจโปรดเจ้ายิ่งกว่าเดิม!

เขายกมือขึ้นเหวี่ยงหัวปีศาจกระดูกออกไป ปีศาจกระดูกโกรธเสียจนเกือบสบถสาปแช่งออกมา

มารดาเถิด ต้าเต๋อผู้นั้นเป็นคนแบบใดกัน ชั่วร้ายผิดศีลธรรมเสียจริง เมื่อไม่ใช้มันแล้วก็ทำประหนึ่งมันเป็นขยะ โยนทิ้งไปอีกทาง

ต้าเต๋อเรียกมู่อวี๋ขึ้นมาในมือ ใช้ไม้เคาะลงบนมู่อวี๋เพื่อจัดการสิ่งมีชีวิตมืดมิดเบื้องหน้า

สิ่งมีชีวิตมืดมิดเบื้องหน้าไม่ได้อ่อนแอ อยู่ขั้นสองขอบเขตอิสระ ทว่าภายใต้เสียงเคาะมู่อวี๋ของต้าเต๋อแล้ว มันไม่อาจทำสิ่งใดได้โดยสิ้นเชิง!

ทันทีที่เพียงมู่อวี๋ดังขึ้น จิตใจของมันก็สับสน ประหนึ่งมีแมลงวันจำนวนนับไม่ถ้วนบินวนเวียนอยู่ด้านในหัว น่ารำคาญเสียจนแทบจะทุบหัวตนเองเข้าจริง ๆ!

สุดท้ายมันก็ไม่อาจทนเสียงมู่อวี๋ ทุบหัวตนเองเข้าอย่างแรง!

หลังจากนั้นเพียงไม่นาน มันก็ถูกต้าเต๋อระงับเอาไว้แล้วเก็บไป

“ข้าต้าเต๋อฝอผู้เปี่ยมเมตตาจะเก็บเจ้าเอาไว้ข้างกายเพื่อโปรดสัตว์!”

ต้าเต๋อจากไป รีบมุ่งหน้าหาสิ่งมีชีวิตมืดมิดตัวต่อไป

พวกอ้ายฉานยามนี้เติบโตขึ้นมากแล้ว ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป กลายเป็นเด็กหนุ่มเด็กสาวเรียบร้อย

ในมือของพวกเขามีภาพวาดตัวละครไซอิ๋วและสถาปนาเทวดาที่คุณชายวาดให้ อีกทั้งยังมีตุ๊กตาที่คุณชายเย็บให้พวกเขา ทั้งหมดต่างทรงพลังดุร้ายอย่างยิ่ง

ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็สามารถเอาชนะสิ่งมีชีวิตมืดมิดได้ เร่งรุดตรงไปยังสถานที่ต่อไป

จิ้งจอกทั้งสองตัวไม่ได้แยกจากกัน สาเหตุหลักเป็นเพราะจิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงไม่มีประสบการณ์ต่อสู้ พลังเองก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก

ขณะที่จิ้งจอกขาวนั้นต่างออกไป เติบโตอย่างรวดเร็วและยังสุขุมอีกด้วย

นางสวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กระโปรงสั้นสีดำ ถุงน่องสีดำ รวมทั้งรองเท้าส้นสูง ดูเย็นชาสูงส่งทั้งยังเย้ายวน

เสื้อผ้าที่นางใส่เป็นสิ่งที่คุณชายทำให้ เพิ่มความแข็งแกร่งให้นางเป็นอย่างมาก!

นางรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่เคยสำแดงพลังทั้งหมดออกมาก่อน จึงไม่รู้ว่าชุดนี้จะมอบพลังให้ได้มากเพียงใด นางเลือกสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ไม่แข็งแกร่งมากนัก เป็นเพียงแค่ขอบเขตนิรันดร์

ทว่าหลังจากมาถึงที่นี่ก็พบว่าสิ่งมีชีวิตขอบเขตนิรันดร์ตนนั้นไม่เหมือนเดิม ก้าวข้ามขอบเขตอิสระ บรรลุถึงขอบเขตล้ำขีด กลายเป็นสิ่งมีชีวิตมืดมิดล้ำขีดตนหนึ่ง

สิ่งที่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกล่าวนั้นถูกต้อง ความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้เพิ่มขึ้น

“ตาย!”

สีหน้าของจิ้งจอกขาวเย็นชา ไม่เกิดความกลัวเพราะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตมืดมิดล้ำขีด

ล้ำขีดก็ล้ำขีดเถิด มาก็มาแล้ว นางไม่อาจถอยกลับไปได้!

ตู้ม!

พลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งทะยาน ชุดที่สวมใส่มอบพลังให้นางแข็งแกร่งอย่างมาก นางเข้าต่อกรกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดตนนั้น เพียงอึดใจก็สามารถจัดการลงได้ทันที!

สิ่งมีชีวิตมืดมิดล้ำขีดขั้นหนึ่งยังห่างไกลจากการเป็นคู่ต่อกร นางจัดการมันลงได้อย่างง่ายดาย!

จิ้งจอกขาวเหยียบลงบนหัวสิ่งมีชีวิตมืดมิด กฎเกณฑ์พิเศษที่ไหลเวียนในรองเท้าส้นสูงบดขยี้หัวของสิ่งมีชีวิตมืดมิดตนนั้นทิ้งทันที ทั้งยังทำลายสิ่งมีชีวิตมืดมิดจนดับสูญ!

สิ่งมีชีวิตลำขีดนั้นยากยิ่งจะสังหารทิ้งไปโดยตรง ต้องให้เวลาอย่างมากในการต่อสู้อย่างดุเดือดนับแรมปีจนจะสังหารลงได้อย่างสมบูรณ์

ทว่าจิ้งจอกขาวกลับสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตมืดมิดล้ำขีดได้โดยตรง!

แสดงให้เห็นว่าชุดนี้ทำให้จิ้งจอกขาวแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงใด!

“ไปต่อ!”

จิ้งจอกขาวเกิดความมั่นใจมากขึ้น พาจิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงไปยังสถานที่ต่อไป

คราวนี้นางต้องการกำจัดสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม!

เฟิ่งหลวนเองก็เข้าร่วมการต่อสู้เช่นเดียวกัน นางเคยมีประสบการณ์ต่อกรกับสิ่งมีชีวิตล้ำขีดแล้ว สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่นางเลือกจึงนับได้ว่าทรงพลัง ถือครองพลังขั้นห้าขอบเขตล้ำขีด

หลังจากมาถึงที่นี่ นางก็พบว่าความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตมืดมิดได้รับการพัฒนา ไม่ใช่ขั้นที่ห้าแต่เป็นขั้นที่หกขอบเขตล้ำขีด

ทว่านางก็ไม่ได้กริ่งเกรง ทั้งยังคิดถึงสถานการณ์เช่นนี้เอาไว้ล่วงหน้าแล้วด้วย

“รอก่อน ข้าขอหลับก่อน!”

เฟิ่งหลวนนอนลงไปจริง ๆ สองตาปิดลง ผ่อนคลายความคิด เข้าสู่ห้วงนิทรา

นี่ทำให้สิ่งมีชีวิตมืดมิดมองอย่างโง่งม

เกิดอันใดขึ้นกัน?

มาเพื่อหยุดยั้งมัน แต่กลับหลับไปในทันทีหรือ?

คิดจะทำอะไรกัน!

“ไปตายเสีย!”

มันย่อมไม่ปล่อยเฟิ่งหลวนไปแน่นอน ยกมือขึ้นตบไปทางนางทันที!

ยามนั้นเองร่างของเฟิ่งหลวนพลันกระโจนขึ้นมาสกัดฝ่ามือของสิ่งมีชีวิตมืดมิดโดยตรง

นอกจากนี้นางยังใช้พลังอันแข็งแกร่งดุเดือดโจมตีสิ่งมีชีวิตมืดมิดเบื้องหน้า แล้วสังหารมันลงภายในการโจมตีครั้งเดียว!

นี่คือพลังของถุงหอมที่คุณชายมอบให้นาง หลังจากหลับไปจะมอบพลังอันไร้ที่สิ้นสุดให้กับนาง!

“ไป ไปฆ่าอีกตัว!”

นางตื่นจากการหลับใหล ตรงไปยังสถานที่ต่อไป

ไม่ต้องกล่าวอันใดมากถึงต้นหลิว เจ้าก้อนหิน ลั่วสุ่ย เซี่ยเหยียน และพวกหลิงอินเลย แต่ละคนต่างทรงพลังอย่างยิ่ง สำแดงฝีมือออกมา กวาดล้างสุดสิ่ง สังหารสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาเลือกด้วยความแข็งแกร่ง

มีเพียง…มัจฉาสัตมายาที่น่าเวทนาสุด

“มารดามันเถิด นี่มันขอบเขตล้ำขีดแล้ว!”

ใบหน้าของมัจฉาสัตมายาซีดเผือด เขาถูกทุบตีจนดูไม่ได้

ความแข็งแกร่งของเฟยเกินกว่าที่มันคาดการณ์ ก้าวข้าวขอบเขตอิสระ บรรลุถึงขอบเขตล้ำขีด!

มันคิดว่าแม้เฟยจะพัฒนาขึ้น แต่อย่างมากก็ได้เพียงสูงสุดขอบเขตอิสระ มันคิดว่าตัวเองยังพอสามารถจัดการได้

น่าเสียดาย มันคิดผิดไปอย่างสิ้นเชิง!

[1] สหายเต๋าตายได้แต่ข้าตายไม่ได้ (死道友不死贫道) หมายถึง ยอมทำร้ายผู้อื่นเพื่อตนเอง หรือยอมให้คนอื่นตายแต่ไม่ตายเอง

[2] ปลาเฟย (鲱鱼)- ปลาแฮร์ริ่ง

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท