สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 1193 ตอนพิเศษ (71.2)

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 1193 ตอนพิเศษ (71.2)

“น้องหญิงฮุ่ยเอ๋อร์ พี่สาวเจ้าผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ!” คุณหนูไช่กล่าว “เจ้าดูสิ นางเพิ่งกลับมาได้เพียงวันเดียว นึกไม่ถึงว่าจะประจบประแจงคุณหนูรองจวนลู่แล้ว มิหนำซ้ำยังเรียกว่าพี่หญิง นางกล้าเรียกคนสกุลลู่ว่าพี่หญิงได้อย่างไร? พวกท่านว่านางไม่รู้ตัวตนของคุณหนูรองจวนลู่จริง ๆ หรือแสร้งทำเป็นไม่รู้กันแน่? นางจงใจแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาเพื่อที่จะได้รับความชื่นชอบคุณหนูรองจวนลู่ เช่นนี้จะได้แทรกเข้าไปในจวนลู่ได้”

“บางทีอาจไม่รู้จริง ๆ กระมัง!”

“จะเป็นไปได้อย่างไร? เมื่อครู่มีความเคลื่อนไหวใหญ่โตเพียงนั้น นางไม่ได้ตาบอดจะมองไม่ออกหรือ?”

ถังจือฮุ่ยกล่าวเสียงค่อย “พี่หญิงใหญ่เพิ่งกลับมาที่จวนกั๋วกง ไม่เคยเห็นพี่หญิงรองสกุลลู่ ข้าคิดว่านางไม่รู้จริง ๆ นางเพียงแค่ปฏิบัติต่อพี่หญิงรองสกุลลู่ในฐานะแขกทั่วไป ทุกท่านอย่าได้คิดมากเลย”

“น้องหญิงฮุ่ยเอ๋อร์ เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว” คุณหนูจางที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น “เจ้าชอบคุณชายรองลู่ใช่หรือไม่? ข้าคิดว่าพี่หญิงของเจ้าผู้นี้ร้ายกาจนัก ระวัง…”

“พวกท่านอย่าได้กล่าวเช่นนั้น!” ถังจือฮุ่ยมองไปรอบ ๆ ด้วยความกังวล “ข้าไม่ได้มีความหมายอื่นใดต่อคุณชายรองลู่”

“น้องหญิงฮุ่ยเอ๋อร์ไม่ได้หมั้นหมายกับคุณชายรองจวนโหวแล้วหรือ?”

“ยังไม่ได้หมั้นหมาย” ถังจือฮุ่ยอธิบาย “เพียงแค่กำลังพูดคุยกัน ยังไม่แน่ชัดเจ้าค่ะ!”

“ผู้ใดไม่รู้บ้างว่าคุณชายจวนโหวชอบเจ้า?” คุณหนูไช่หยอกเย้า “การแต่งงานครั้งนี้จะต้องบรรลุผลอย่างแน่นอน”

“เพียงแต่น้องหญิงฮุ่ยเอ๋อร์ เจ้าต่อคุณชายรองลู่…”

“ข้าเพียงแค่ชื่นชมพระชายาลู่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณชายรองลู่” ถังจือฮุ่ยกล่าวอย่างจริงจัง “พี่หญิงน้องหญิงทั้งหลาย คำพูดเช่นนี้ไม่อาจกล่าวแล้ว เดิมทีก็เพียงแค่ล้อเล่น แต่หากเล่าลือออกไป ชื่อเสียงข้าจะเสียหายเอาได้”

“เอาเถอะ!”

บรรดาคุณหนูสูงศักดิ์ต่างมองหน้ากันไปมา

ถังจือฮุ่ยชมชอบลู่ฉาวจิ่งเป็นเรื่องที่ผู้ใดที่มีสายตาแหลมคมล้วนมองออก เพียงแต่ลู่ฉาวจิ่งเป็นผู้ใด? บุรุษสกุลลู่ล้วนเป็นดั่งน้ำแข็งและหิมะในเหมันตฤดู ผู้ใดก็ไม่อาจทำให้หัวใจพวกเขาอบอุ่นขึ้นได้ ถึงแม้ถังจือฮุ่ยจะชอบพอคุณชายรองลู่ก็ทำได้เพียงต้องยอมรับ ด้วยเหตุนี้ฮูหยินผู้เฒ่าถังจึงเลือกบุตรชายคนรองของภรรยาเอกสกุลโหว ตัวนางเองก็ยอมรับแล้ว

บัดนี้ดูจากท่าทีของของนาง พอเห็นคุณชายรองลู่กลับมาจึงคิดจะกลับคำแล้วหรือ? เพียงแต่จวนโหวก็ไม่ใช่สกุลธรรมดาสามัญทั่วไป ไม่ใช่สกุลที่คิดจะเปลี่ยนใจก็เปลี่ยนใจ คิดจะกลับคำก็กลับคำได้ เกรงว่าจะเกิดปัญหาในภายหลัง

หลิวจิ่วจู๋พาลู่จื่อชิงไปยังศาลาที่อยู่ห่างออกไป ในที่สุดก็ไม่ต้องฟังเสียงจ้อกแจ้กจอแจเหล่านั้นอีก

ลู่จื่อชิงมองหลิวจิ่วจู๋พลางถอนหายใจเบา ๆ เอ่ย “เจ้าไม่ชอบงานเช่นนี้หรือ?”

“ไม่ชอบเจ้าค่ะ” หลิวจิ่วจู๋ส่ายหัว “เสียงดังเกินไป อีกทั้งคนเหล่านั้นก็น่าเบื่อยิ่ง ในแววตาพวกเขาไม่มีความอบอุ่น ทว่าใบหน้ากลับมีรอยยิ้ม แสร้งทำเป็นมีความสุข เดิมทีข้าก็ไม่รู้จักพวกเขา พวกเขากลับเสแสร้งแกล้งทำเช่นนี้ ปากว่าตาขยิบเกินไปแล้ว”

“ต่อไปเจ้าก็จะชินกับมันเอง”

“พี่หญิง ข้าขอไปเล่นกับท่านได้หรือไม่?”

“แน่นอนว่าได้”

“ดียิ่งนัก” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “เช่นนั้นท่านชอบข้าหรือไม่?”

ลู่จื่อชิงเลิกคิ้ว “เหตุใจจึงถามเช่นนั้น?”

“ข้าอยากอยู่กับน้องชายของท่าน ครอบครัวเขามีท่าทีอย่างไร ข้าจำต้องเข้าใจเสียก่อน” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย

“หากพวกเราไม่ชอบเจ้าเล่า?”

“นั่น…” หลิวจิ่วจู๋ขมวดคิ้ว “ข้าจะถามพี่จิ่งว่าคิดอย่างไร หากเขาสนใจ เช่นนั้นข้าก็จะไปจากเขา! หากเขาไม่สนใจ เช่นนั้นข้าก็จะอยู่กับเขา เพียงแต่หากพวกท่านล้วนไม่ชอบข้า ข้าต้องอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกับพวกท่านจะต้องอึดอัดเป็นแน่ เช่นนั้นข้ากับพี่จิ่งก็จะย้ายออกไป ข้าหาเงินเองได้ ไม่ต้องใช้เงินจากจวนลู่แม้แต่อีแปะเดียว เรื่องนี้ข้ามั่นใจ”

“เจ้าน่ารักจริง ๆ” ลู่จื่อชิงหยิกแก้มหลิวจิ่วจู๋แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มิน่าเล่าน้องชายโง่เขลาผู้นั้นถึงได้เปิดใจ ที่แท้เป็นเพราะได้พบกับคนน่ารักสมองดีผู้หนึ่งนี่เอง”

หยางชิงซือเข้ามาหา

หลิวจิ่วจู๋แนะนำสหายที่ดีที่สุดของตนให้รู้จักกับลู่จื่อชิง

ลู่จื่อชิงกล่าว “ท้องเจ้าโตเพียงนี้แล้ว ใกล้คลอดแล้วหรือ?”

หยางชิงซือนึกไม่ถึงว่าคุณหนูสกุลลู่จะเข้าหาได้ง่ายเพียงนี้ ใบหน้าเล็ก ๆ พลันเปลี่ยนเป็นสีแดง ดวงตาที่มองลู่จื่อชิงเต็มไปด้วยดวงดาว

“นี่…”

“ข้าเคยได้ยินเรื่องของท่าน” หยางชิงซือกล่าว “เรื่องราวของพระชายาลู่ คุณหนูใหญ่ลู่ และเรื่องของท่าน ยังมีเรื่องของท่านอ๋อง เรื่องของท่านอ๋องน้อย ข้าล้วนเคยได้ยินมา พวกท่านร้ายกาจยิ่ง! ราวกับเทพเซียนในนิทานพื้นบ้านอย่างไรอย่างนั้นเลยเจ้าค่ะ!”

แต่ไรมาลู่จื่อชิงก็เป็นคนหนังหนา ทว่าเมื่อถูกหยางชิงซือยกย่องเกินจริงเพียงนี้ นางก็ทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือหยางชิงซือจริงใจเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาคู่นั้นใสบริสุทธ์ มองออกว่าทุกประโยคล้วนมาจากใจ

“อันที่จริง… ก็ไม่ได้ร้ายกาจขนาดนั้น”

คุณหนูรองลู่ผู้ไม่เคยรู้ว่าเจียมเนื้อเจียมตัวคือสิ่งใดกลับถ่อมตนอย่างหาได้ยาก

หลังจากงานเลี้ยงต้อนรับสิ้นสุดลง แขกเหรื่อต่างกลับไปคนแล้วคนเล่า

ลู่จื่อชิงพาหลิวจิ่วจู๋กลับไปยังจวนอ๋อง

“พี่สาวข้าเพิ่งเข้ามาเมืองหลวง ไม่คุ้นเคยกับที่นี่นัก ไปจวนอ๋องลู่อย่างกะทันหันเกรงว่าจะอึดอัด ไม่สู้ข้าไปกับพี่หญิง อย่างนี้จะได้ไปเป็นเพื่อนนาง” ถังจือฮุ่ยกล่าว

“ไม่จำเป็น” ลู่จื่อชิงเอ่ย “ข้ากับนางพบหน้าคราแรกก็รู้สึกคุ้นเคยกัน ภายหน้านางก็คือคนที่ข้าจะปกป้อง ข้าอยากจะรู้นักว่าผู้ที่ข้าลู่จื่อชิงปกป้อง ผู้ใดจะกล้าสร้างปัญหาให้นาง นางเองก็คงไม่อึดอัด ข้าเห็นว่านางใจกว้าง มีน้ำใจให้กับทุกคน ไม่ใช่คนไม่สุภาพเรียบร้อยอะไร”

“แต่…”

“พอแล้ว เจ้านี่มากความจริง ๆ” ลู่จื่อชิงหมดความอดทน “โชคดีที่สกุลลู่เราไม่มีคุณหนูเหมือนแม่สามีอย่างนี้”

ถังจือฮุ่ยเฝ้ามองหลิวจิ่วจู๋ขึ้นรถม้าสกุลลู่

ฟางซื่อที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ย “คุณหนูใหญ่ผู้นี้ร้ายกาจยิ่งนัก เพิ่งกลับมาถึงเมืองหลวงวันแรกก็ปีนป่ายขึ้นไปถึงสกุลลู่แล้ว”

“พี่หญิงเติบใหญ่ในชนบท สกุลลู่ก็เติบใหญ่ในชนบทเช่นกัน บางทีพวกเขาอาจจะประทับใจคนที่เติบใหญ่มาในชนบทมากกว่ากระมัง!” ถังจือฮุ่ยเอ่ย “ท่านแม่ ข้าเหนื่อยเล็กน้อย อยากกลับไปพักผ่อนแล้ว”

“ลูกสาว ข้าเข้าใจความคิดเจ้า เพียงแต่เป็นสกุลลู่ไม่ได้ พวกเราอาจเอื้อมไม่ถึง! เจ้าต้องแต่งงานกับจวนโหว ท่านโหวน้อยผู้นั้นพึงใจเจ้า หากเจ้าแต่งงานกับเขาจักต้องได้เป็นนายหญิงของสกุลอย่างแน่นอน”

“ท่านแม่…”

“ฟังแม่ แม่ย่อมไม่ทำร้ายเจ้า ผู้คนในสกุลลู่แต่ละคนโหดเหี้ยมฉลาดหลักแหลม เจ้าไม่อาจควบคุมพวกเขาด้วยกลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเจ้าได้ แต่ซื่อจื่อจวนโหวผู้นั้นแตกต่างออกไป ความคิดเขาล้วนอยู่ที่ตัวเจ้า”

“เหตุใดพี่หญิงถึงได้รับความโปรดปรานจากสกุลลู่?” ถังจือฮุ่ยกล่าว “หากข้าสามารถเป็นสหายกับคุณหนูรองสกุลลู่ ได้เข้าออกจวนอ๋องลู่บ่อย ๆ เช่นนั้นก็จะมีโอกาสปีนป่ายขึ้นสู่ที่สูงใช่หรือไม่?”

“นี่…”

แน่นอนว่าฟางซื่อย่อมอยากเกี่ยวดองกับสกุลลู่

นอกจากราชวงศ์แล้ว ผู้ใดไม่อยากเกี่ยวดองกับสกุลลู่บ้าง?

เพียงแต่ เรื่องแบบนั้นก็ต้องมีวาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง!

อย่างไรก็ตาม ถังจือฮุ่ยได้ย้ำเตือนนาง หลิวจิ่วจู๋ดูเหมือนจะได้รับความชื่นชอบจากสกุลลู่เป็นอย่างมาก หากนางใช้หลิวจิ่วจู๋เป็นสะพานเพื่อได้ใกล้ชิดกับสกุลลู่ บางทีลูกสาวที่โดดเด่นของนางอาจมีโอกาสได้เป็นฮูหยินรองลู่ก็ได้…

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท