ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 568 สำเร็จ(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 568 สำเร็จ(1)

“แม่คะ เรากลับกันเถอะค่ะ”

เมื่อเห็นว่าซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือยังคงยืนมองประตู ฉินมู่หลานก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชวน

ในที่สุดซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือก็รู้สึกตัว แล้วพูดว่า: “ไม่รู้ว่าพวกเขาจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ ตั้งแต่พวกเขาไปเซินเจิ้นแล้วก็ยุ่งมาก ไม่ได้เจอกันเลย”

“ถ้าเปิดเทอมแล้ว เคอวั่งจะกลับมาแน่นอน ส่วนพวกพ่อน่าจะไม่กลับมาจนกว่าโครงการจะเสร็จค่ะ แต่ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีเวลากลับมา แม่ก็ยังไปหาพวกเขาได้นี่คะ” ฉินมู่หลานไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาเลย เพราะตอนนี้การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย

เมื่อทั้งสองได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน ความกังวลบนใบหน้าของพวกหล่อนก็จางลงมาก

“มู่หลานพูดถูก ถ้าพวกเขาไม่ว่าง พวกเราก็ไปเยี่ยมพวกเขาได้”

เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกหล่อนอีกครั้ง ฉินมู่หลานจึงรีบพูดว่า: “แม่คะ เราไปที่สวนหลังบ้านกันเถอะค่ะ ไม่รู้ว่าพวกเจ้าตัวเล็กกำลังทำอะไรกันอยู่”

“ได้จ้ะ เรารีบไปดูกันดีกว่า ถวนถวนกับหยวนหยวนเริ่มโตขึ้น แล้วก็ซนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย”

ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่เซี่ยเจ๋อหลี่กลับมา เขาก็ได้รับของขวัญจากถูเฉิงเสียง

“ผมได้ยินมาว่าลูกชายคนที่สามกับสี่ของคุณอายุครบหนึ่งขวบแล้ว นี่เป็นของขวัญวันเกิดปีแรกสำหรับพวกเขาครับ”

เมื่อเห็นสร้อยคอทองคำสองเส้นที่อยู่ตรงหน้า เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รีบบอกว่า: “ไม่จำเป็นหรอกครับ นี่มันแพงเกินไปแล้ว”

ถูเฉิงเสียงวางของขวัญลงบนโต๊ะ “เป็นของแทนใจของผมกับภรรยาน่ะครับ ไม่ต้องพูดถึงว่าคุณกับภรรยาช่วยเหลือพวกผมไว้ ของขวัญชิ้นนี้เป็นของเล็กน้อยเท่านั้นครับ หรือว่าคุณไม่ชอบของขวัญชิ้นนี้เหรอครับ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินดังนั้นก็เหลือบมองถูเฉิงเสียง แล้วพูดว่า “ผมจะไม่ชอบของขวัญราคาแพงแบบนี้ได้ยังไงล่ะครับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบรับไปเถอะครับ ความจริงมันไม่ใช่ของคุณด้วยซ้ำ แต่เป็นของลูกสองคนของคุณครับ” หลังจากพูดจบ ถูเฉิงเสียงก็ออกไปทันที

ขณะมองแผ่นหลังของถูเฉิงเสียงที่กำลังเดินจากไป ในที่สุดเซี่ยเจ๋อหลี่ก็ยอมรับสร้อยคอทองคำทั้งสองเส้นนั้นไว้ ถ้าถูเฉิงเสียงมีลูกในอนาคต เขาก็จะซื้อของขวัญคืนให้

เมื่อถูเฉิงเสียงกลับมาแล้ว คังอันเหอก็รีบถามว่า: “ให้ของขวัญไปแล้วเหรอคะ?”

ถูเฉิงเสียงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ให้ไปหมดแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วค่ะ”

ตอนนี้ใบหน้าของคังอันเหอมีเลือดฝาด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าช่วงนี้ดูแลตัวเองอย่างดี “ฉันได้ยินมาว่าลูกสองคนของมู่หลานกำลังจะอายุครบหนึ่งขวบ ฉันก็เลยรีบเตรียมของขวัญส่งไปให้ค่ะ”

เมื่อเห็นว่าภรรยาของตนชื่นชมฉินมู่หลานมากแค่ไหน ถูเฉิงเสียงก็อดถามไม่ได้ว่า “คุณตัดสินใจว่าจะไปทำงานกับภรรยาของผู้กองเซี่ย แทนที่จะทำงานในโรงพยาบาลต่อจริงเหรอครับ?”

“ใช่ค่ะ ฉันคิดเรื่องนี้แล้ว”

ในขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน ถูไคหัวก็เข้ามา เมื่อเห็นเขา ทั้งสองคนก็รีบเชิญเขาเข้ามา

“คุณอารอง ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะคะ”

ถูไคหัวโบกมือให้ทั้งสองคน แล้วพูดว่า “พวกหลานนั่งลงเถอะ ไม่ต้องยืนหรอก” พูดจบ เขาก็มองคังอันเหอแล้วถามว่า “อันเหอ ช่วงนี้หลานเป็นยังไงบ้าง?”

“คุณอารองไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ”

“อย่างนั้นก็ดีแล้ว”

ถูไคหัวก็ได้ยินข่าวแล้วเช่นกัน เขาจึงมาที่นี่ เขาไม่พูดอ้อมอ้อม ถามตรงประเด็นทันที: “อันเหอ อาได้ยินมาว่าหลานลาออกจากงานที่โรงพยาบาลแล้วเหรอ?” ตอนแรกเขาเป็นคนจัดการฝากคังอันเหอ ให้ทำงานในโรงพยาบาล ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าหลานสะใภ้ลาออกแล้ว เขาจึงต้องมาถาม

เมื่อได้ยินดังนั้น คังอันเหอก็รีบอธิบายว่า: “คุณอารอง ฟังหนูอธิบายก่อนนะคะ”

หลังจากนั้นเธอก็อธิบายเหตุผลที่ทำให้เธอลาออก และแผนการที่เธอตั้งใจจะศึกษาต่อ ในที่สุดก็พูดเรื่องเข้าร่วมทำงานในร้านซิ่งหลินด้วย

ถูไคหัวรู้เพียงว่าคังอันเหอลาออก แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องราวมากมายขนาดนี้

“จะไม่ไปทำงานที่โรงพยาบาล แต่ไปทำงานที่ร้านซิ่งหลิน ที่ภรรยาของเจ๋อหลี่จะเปิดแทน หลานคิดดีแล้วเหรอ?”

ต้องรู้ว่างานในโรงพยาบาลเป็นงานที่มีความมั่นคง และร้านซิ่งหลินที่ยังไม่เปิด ไม่สามารถเทียบได้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่แบบนั้น แต่ฉินมู่หลานก็เป็นคนดีมาก ถูไคหัวจึงไม่พูดอะไรมาก เพียงแค่ถามประโยคเดียว

“ค่ะคุณอารอง หนูคิดเรื่องนี้ดีแล้วค่ะ”

ใบหน้าของคังอันเหอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอรู้สึกจริง ๆ ว่าเธอจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากฉินมู่หลานแน่นอน

เมื่อเห็นหลานสะใภ้มีมั่นใจแบบนี้ ถูไคหัวก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “ในเมื่อหลานตัดสินใจแล้ว ก็จงเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ภรรยาของเจ๋อหลี่นั้นไม่ธรรมดาเลย คงจะดีถ้าหลานได้ติดตามเรียนรู้จากเธอ แต่ในเมื่อหลานอยากได้ความรู้จากเธอ หลานก็ไม่ควรคิดค่าเช่าตั้งแต่แรก”

“คุณอารอง หนูบอกไปตั้งแต่แรกแล้วค่ะ แต่มู่หลานไม่ยอม เธอบอกว่าเรื่องส่วนรวมกับเรื่องส่วนตัวควรแยกออกจากกันค่ะ”

ถูไคหัวได้ยินดังนั้น ก็ถามคำถามอีกหนึ่งข้อ

“แล้วหลานรู้ไหมว่าแผนตอนแรกของพวกเธอคืออะไร อยากจะเช่าบ้านหรือซื้อบ้าน?”

คังอันเหอคิดลองคิดเรื่องนี้จริงจัง ก่อนจะตอบว่า “ตอนแรกมู่หลานอยากซื้อบ้านเลยค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นหลานก็ขายบ้านเลย”

“คุณอารอง…”

คังอันเหอหันไปมองถูไคหัวด้วยความประหลาดใจ แล้วพูดว่า “จะต้องขายจริงเหรอคะ?”

ถูเฉิงเสียงที่อยู่ด้านข้างพูดถูกเวลาว่า: “คุณอารอง บ้านหลังนั้นเป็นสินเดิมที่ครอบครัวแม่ของอันเหอมอบให้ ตอนที่เธอแต่งงาน ดังนั้น…” เนื่องจากมันเป็นสินเดิมของคังอันเหอ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะตัดสินใจขายเลยจริง ๆ

ถูไคหัวได้ยินดังนั้น ก็มองถูเฉิงเสียงแล้วพูดว่า “ในเมื่ออันเหออยากเข้าร่วมทำงานในร้านซิ่งหลิน ก็ต้องแสดงจิตใจที่ตั้งมั่นจะติดตามผู้อื่น ดังนั้นการขายบ้านให้กับภรรยาของเจ๋อหลี่เลย จึงสามารถแสดงให้เห็นความตั้งใจของอันเหอได้ ยิ่งกว่านั้นคือ อาจำได้ว่าแถวนั้นมีบ้านสองหลังที่เป็นชื่อของหลานอยู่ด้วย ถึงตอนนั้นก็ยกบ้านนั้นให้เป็นชื่อของอันเหอสิ” ตระกูลถูของพวกเขาไม่ได้ขาดแคลนสมบัติเหล่านี้

เมื่อถูเฉิงเสียงได้ยินดังนั้น เขาก็พยักหน้าทันที แล้วพูดว่า “ได้ครับคุณอารอง ผมเข้าใจแล้วครับ”

เห็นถูไคหัวพูดเช่นนี้ คังอันเหอก็พยักหน้า แล้วพูดว่า “คุณอารอง ถ้าอย่างนั้นหนูจะไปหามู่หลาน เพื่อคุยเรื่องนี้พรุ่งนี้นะคะ”

“ดีแล้ว ช่วงนี้หลานยังต้องพักรักษาร่างกายตัวเองให้ดี แล้วคอยติดตามภรรยาของเจ๋อหลี่ให้ดีด้วยล่ะ”

“ค่ะ”

ใจของคังอันเหอเต็มไปด้วยความหวังสำหรับอนาคต เพราะแม้แต่สมาชิกในครอบครัวของเธอก็ยังสนับสนุนเธอมาก เธอเองก็รู้เรื่องบ้านที่คุณอารองพูดถึงเมื่อครู่นี้ด้วย แม้ว่าบ้านทุกหลังจะมีชื่อสามีกับภรรยาร่วมกัน แต่เขากลับจะยกบ้านให้เธอโดยเฉพาะ แสดงให้เห็นว่าคุณอารองสนับสนุนมาก

ถูเฉิงเสียงไม่คัดค้านการตัดสินใจของถูไคหัว คุณอารองของพวกเขามีอำนาจมากที่สุด ในเมื่อคุณอารองของเขาพูดเช่นนั้น พวกเขาก็ย่อมทำตาม

หลังจากที่ถูไคหัวพูดแล้ว เขาก็หันไปมองถูเฉิงเสียง ราวกับว่ามีอะไรจะพูดกับเขา

คังอันเหอเห็นแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า “คุณอารอง ฉันจะไปชงชาให้นะคะ”

“ได้ รบกวนหน่อยนะ”

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท