ตอนที่ 1527 สวรรค์ทนดูไม่ได้
จักรพรรดินีของพวกเขาทิ้งความสุขสบายในวังหลวง นางไม่เพียงเสี่ยงอันตรายเดินทางมาปลอบขวัญชาวบ้านในเมืองที่เต็มไปด้วยโรคระบาดเท่านั้น นางยังเดินทางมายังสถานที่พักรักษาตัวของผู้ป่วยโรคระบาดอีกด้วย
การที่ฝ่าบาทเสด็จมายังสถานที่พักรักษาตัวในวันนี้ทำให้ชาวบ้านของแคว้นศัตรูเต็มใจกลายเป็นชาวบ้านของต้าโจวอย่างไม่มีข้อแม้ จักรพรรดิทุกคนไม่ได้มีความกล้าเช่นนี้เสมอไป
ต่อให้นี่เป็นเพียงวิธีการซื้อใจคนของจักรพรรดิเท่านั้น ทว่า เฉียนหย่งจงก็นับถือไป๋ชิงเหยียนมากอยู่ดี นางควรได้ใจชาวบ้านเหล่านี้ไปจริงๆ
ลำคอของเฉียนหย่งจงร้อนผ่าว ขอบตาเริ่มแดงก่ำ เมื่อเห็นชาวบ้านที่ก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตด้วยความสิ้นหวังกลับมามีความหวังอีกครั้งความรู้สึกมากมายถาโถมขึ้นในใจของเฉียนหย่งจงทันที
เขาเชื่อว่าเมื่อโรคระบาดหายไป ชาวบ้านเหล่านี้ต้องสรรเสริญจักรพรรดินีต้าโจวของเขามาก ชาวบ้านทุกคนล้วนอยากมีจักรพรรดิที่รักและห่วงใยพวกเขาอยู่แล้ว ถึงเวลานั้นเรื่องนี้จะถูกถ่ายทอดปากต่อปากไปเรื่อยๆ ต้าโจวจะได้ใจของชาวบ้านทุกคน!
วันนี้เฉียนหย่งจงรู้ซึ้งแล้วว่าใจของชาวบ้านมีอำนาจมากเพียงใด
มิน่าตอนที่ฝ่าบาทโค่นล้มราชวงศ์ต้าจิ้นและขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีของต้าโจวชาวบ้านส่วนใหญ่ถึงได้สนับสนุนฝ่าบาทถึงเพียงนั้น พวกเขาไม่เคยคิดว่าไป๋ชิงเหยียนไม่เหมาะสมที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดินีของต้าโจวเพียงเพราะนางเป็นสตรี
เมื่อปลอบขวัญชาวบ้านเสร็จไป๋ชิงเหยียนจึงเตรียมเดินทางไปยังสถานที่พักรักษาตัวที่เมืองใกล้เคียงต่อ ก่อนจากไปนางกำชับไม่ให้หมอหงฝืนร่างกายของตัวเอง หมอหงอายุมากแล้ว การช่วยชีวิตชาวบ้านสำคัญ ทว่า ร่างกายของหมอหงก็สำคัญเช่นเดียวกัน หมอหงคือเสาหลักของหมอทุกคน หากหมอหงล้มป่วยขึ้นมาหมอคนอื่นๆ ต้องหวาดกลัวแน่นอน หากหมอเกิดหวาดกลัว พวกเขาจะรักษาคนไข้ให้หายดีได้อย่างไรกัน
“อิ๋นซวงดูแลหมอหงให้ดีๆ” ไป๋ชิงเหยียนกำชับอิ๋นซวง “อยู่ที่นี่อย่ามัวแต่ห่วงกิน ต้องเชื่อฟังคำสั่งของท่านหมอหงเข้าใจหรือไม่”
อิ๋นซวงพยักหน้ารัว “เข้าใจเจ้าค่ะ”
เมื่อเดินออกมาจากกระโจมไป๋ชิงเหยียนจึงหันไปกล่าวกับเฉียนหย่งจง “เราจะเดินทางไปดูสถานการณ์ที่เมืองใกล้เคียง ค่ำของวันนี้คงมีชาวบ้านออกจากเมืองอีกมาก หากชาวบ้านเหล่านั้นต้องการจากไปไม่จำเป็นต้องห้ามพวกเขา ให้เงินติดตัวพวกเขาตามจำนวนคนในครอบครัวและปล่อยพวกเขาจากไป ทว่า จงกำชับพวกเขาก่อนจากไปว่าระหว่างที่เราเดินทางมาที่นี่เราเห็นต้าเยี่ยนปิดเมืองแทบทุกเมืองแล้ว! หากออกไปจากเขตการปกครองของต้าโจวจะไม่ใช่ชาวบ้านของต้าโจวอีกต่อไป พวกเขาจะถูกลบออกจากทะเบียนราษฎร์และจะไม่ได้กลับเข้ามาในเมืองอีก! ที่สำคัญหากจะไปก็ต้องไปทั้งครอบครัว ห้ามเหลือผู้ใดไว้ในเมืองเด็ดขาด!”
ไป๋ชิงเหยียนมีบทเรียนจากซีเหลียงแล้ว ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านของซีเหลียงไปจากเมืองมากมาย ทว่า คนหนุ่มสาวจากไป ทิ้งครอบครัวของตัวเองไว้ในเมือง พวกเขาคิดว่าหากได้รับการปกป้องจากกองทัพซีเหลียงค่อยมารับครอบครัวของตัวเองไปด้วย หากกองทัพซีเหลียงไม่ปกป้องพวกเขา พวกเขายังสามารถกลับมาได้ ไม่ว่าอย่างไรครอบครัวของพวกเขาก็ยังอยู่ในเมือง อยากน้อยก็มีคนช่วยขอร้องแทนพวกเขา
ต่อมาไป๋ชิงเหยียนออกคำสั่งประกาศิต แม้จะข่มขู่ชาวบ้านในเมืองได้ ทว่า ชาวบ้านที่ครอบครัวของพวกเขาเสียชีวิตอยู่ที่นอกเมืองก็ยังโกรธแค้นต้าโจวอยู่ดี
คราวนี้ไป๋ชิงเหยียนจะไม่ปล่อยให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
เฉียนหย่งจงมองไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่เข้าใจ “ฝ่าบาท กระหม่อมขอบังอาจทูลสิ่งใดสักนิด ฝ่าบาททรงเสี่ยงอันตรายเสด็จมาที่นี่เพื่อซื้อใจคน ให้ชาวบ้านยอมอยู่ในเขตการปกครองของต้าโจวต่ออย่างสบายใจ หากชาวบ้านรู้ว่าพวกเขาจะได้เงินติดตัวเมื่อจากไปด้วย…คนอื่นอาจอยากจากไปมากขึ้น เช่นนั้นเมืองของพวกเราจะกลายเป็นเมืองร้างนะพ่ะย่ะค่ะ พวกเราแข่งขันเรื่องจำนวนประชากรด้วย เกรงว่าจะไม่ส่งผลดีต่อต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ”
เขาคิดว่าจักรพรรดินีต้าโจวมานี่เพราะอยากให้ชาวบ้านอยู่ในเมืองซึ่งเป็นเขตการปกครองของต้าโจวต่ออย่างสงบและไม่ก่อความวุ่นวายขึ้นเสียอีก!
“ที่สำคัญพวกเราไม่ทราบว่ามีชาวบ้านต้องการจากไปมากเท่าใด หากพวกเขาจากไปจำนวนมาก เมื่อพวกเรามอบเงินติดตัวให้พวกเขาไปหมดแล้ว ชาวบ้านที่อยู่ในเมืองจะทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ” เฉียนหย่งจงกลัวว่าเงินในคลังจะไม่เพียงพอ ตอนนี้พวกเขาต้องรับมือกับโรคระบาด เงินคือสิ่งจำเป็นที่สุด หากเงินหมด ไม่มีเงินจ่ายเบี้ยเลี้ยงทหาร ทหารเหล่านั้นคงไม่ทำตามคำสั่งของเราอย่างเคร่งครัดเหมือนเดิมแน่นอน”
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มอย่างอ่อนโยน “เจ้าทำตามที่เราบอกก็พอ ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องเงินในคลัง เราให้คนส่งจดหมายกลับไปบอกให้เว่ยปู้จิ้งแห่งกรมการคลังเตรียมเงิน ของใช้ที่จำเป็นและเสบียงส่งมาที่นี่อย่างไม่ขาดสายแล้ว เราไม่มีทางตัดเสบียงและเบี้ยเลี้ยงของทหารแน่นอน”
เฉียนหย่งจงทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกไป๋ชิงเหยียนมองออกว่าเขากังวลเรื่องเบี้ยเลี้ยงของทหาร
ไป๋ชิงเหยียนไปเยี่ยมโรงพักรักษาตัวสองแห่งของสองเมืองภายในหนึ่งวัน ชาวบ้านในเมืองที่ไป๋ชิงเหยียนไปเยือนต่างรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของหญิงสาว พวกเขาพากันอวยพรให้นางมีอายุยืนเป็นหมื่นปี
บัณฑิตหลายคนของต้าเยี่ยนนับถือและยอมรับจักรพรรดินีของต้าโจวจากใจจริง คำกล่าวที่ว่าขอเป็นเพียงคนของต้าโจว ต่อให้อยู่ไกลเพียงใดก็พร้อมจะช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถทำคนทุกคนซาบซึ้งและตื้นตันมากจริงๆ
อาจารย์คนหนึ่งกล่าว “หากอยากให้แคว้นเจริญต้องดูแลชาวบ้านของแคว้นให้อยู่ดีกินดีก่อน เดิมทีพวกเราคือคนของแคว้นต้าเยี่ยน ทว่า จักรพรรดินีต้าโจวทรงปฏิบัติต่อพวกเราด้วยความเมตตา เห็นพวกเราเป็นชาวบ้านของพระองค์ หากต้าโจวไม่เจริญ…สวรรค์คงทนดูไม่ได้แน่นอน!”
ตอนไป๋ชิงเหยียนกลับถึงเมืองหิมะเริ่มตกลงมาแล้ว ท้องฟ้ามืดมิดลงแล้วเช่นเดียวกัน เมื่อไป๋ชิงเหยียนอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จจึงให้เว่ยจงไปตามเฉียนหย่งจงและรองแม่ทัพของเขามาพบ นางรับประทานอาหารพลางสอบถามสถานการณ์ภายในเมืองว่าชาวบ้านจากไปมากเท่าใดแล้วจากเฉียนหย่งจง
รองแม่ทัพทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวขึ้น “ตอนที่ฝ่าบาทเสด็จมาถึงที่นี่ช่วงแรกๆ ชาวบ้านไม่คิดไปจากเมือง ต่อมาฝ่าบาทเสด็จไปเยือนสถานที่พักรักษาตัวที่นอกเมืองชาวบ้านเหล่านั้นจึงคิดว่าฝ่าบาททอดทิ้งพวกเขาไปเพราะเห็นว่าสถานการณ์โรคระบาดรุนแรง ดังนั้นช่วงพลบค่ำจึงมีชาวบ้านเริ่มเก็บสัมภาระไปจากเมืองมากขึ้นพ่ะย่ะค่ะ! ตอนนั้นแม่ทัพเฉียนก็อยู่ในเหตุการณ์…”
เฉียนหย่งจงพยักหน้า จากนั้นกล่าวขึ้น “กระหม่อมมอบเงินติดตัวให้ชาวบ้านที่ตัดสินใจไปจากเมืองตามกระแสรับสั่งของฝ่าบาทแล้วพ่ะย่ะค่ะ อาจเป็นเพราะเห็นว่ามีเงินแจกชาวบ้านคนอื่นๆ จึงเริ่มหวั่นไหว ทว่า มีชาวบ้านหลายคนล้มเลิกความคิดนี้ตอนที่ได้ยินว่าหากไปจากต้าโจวจะถูกคัดชื่อออกจากทะเบียนราษฎร์ของต้าโจวและไม่สามารถกลับเข้ามาในเมืองได้อีกพ่ะย่ะค่ะ”
รองแม่ทัพของเจียงหย่งจงพยักหน้า จากนั้นกล่าวเสริม “มีชาวบ้านอวดฉลาดบางกลุ่มกล่าวว่าฝ่าบาททรงโกหกเรื่องที่ตรัสว่าเห็นชาวบ้านเร่ร่อนมากมายระหว่างที่เสด็จมาที่นี่ พวกเขาคือชาวบ้านที่เคยร่วมเป็นร่วมตายมากับต้าเยี่ยนตอนต้าเยี่ยนลำบาก ราชสำนักเชื่อใจพวกเขาจึงส่งพวกเขามายังเขตการปกครองของต้าโจว ดังนั้นคนเหล่านั้นจึงรับเงินและจากไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมือง ช่างเป็นสถานการณ์ที่วุ่นวายยิ่งนัก!
ทว่า การมาเยือนของจักรพรรดินีต้าโจวทำให้ชาวบ้านในเมืองมีขวัญและกำลังใจมากขึ้นมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงเลือกอยู่ในเมืองต่อ