ตอนที่ 611 เปลี่ยนตัวเองเพื่อความรักได้ไหม
เหมือนกับที่ลินดาว่าไว้ เซี่ยไห่ในตอนนี้ก็คือหมาป่าตัวหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาเผชิญหน้ากับลินดาที่สวมกระโปรงแล้วแลดูมีเสน่ห์แบบผู้หญิงเป็นอย่างมาก
เขาไม่กลัวหล่อนกัดอีก โฉบเข้าไปจูบหล่อนทันที
ลินดาอาจรู้สึกประทับใจคำพูดเมื่อครู่ของเซี่ยไห่ จึงไม่ได้ผลักไสเขาอีก
เหมือนที่เขาว่าไว้ คนที่ชอบมาใกล้ชิดหล่อน มีเพียงความตื่นเต้น แต่ไม่ปฏิเสธ
เซี่ยไห่พอใจกับปฏิกิริยาของหล่อนมาก เมื่อทั้งสองจูบกันจนเคลิบเคลิ้ม ลมหายใจถี่กระชั้น เขาก็กอดเอวสบตาหล่อนแล้วถามเธอด้วยน้ำเสียงลุ่มหลง “ลินดา เราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่?”
“แต่งงาน?” ลินดาได้ยินคำพูดของเขา อารมณ์เคลิบเคลิ้มก็แตกกระเจิงกะทันหัน เบิกตากว้างอย่างตกใจ
ท่าทางของหล่อนทำร้ายจิตใจเซี่ยไห่อย่างมาก เขาปล่อยมือจากหล่อนแล้วถามว่า “ทำไมเหรอ? มันแปลกมากเหรอไง? หรือคุณไม่เคยคิดจะแต่งงานกับผมเลย? ผมบอกคุณไว้เลยว่ผมเป็นคนจริงจัง ไม่มีทางเล่นสนุกกับความรู้สึกของใคร ผมคบคุณเป็นแฟนก็เพราะอยากแต่งงานด้วย”
“ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน”
เซี่ยไห่มองเห็นความสับสนในดวงตาของลินดา
หล่อนไม่ได้โกหกเขา หล่อนไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานมาก่อนจริง ๆ
ที่ผ่านมาไม่มีแฟน ทั้งยังเป็นพวกบ้างาน จะไม่เคยคิดถึงมาก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ตอนนี้มีเขาแล้ว ทำไมจะไม่คิดถึงอนาคตของทั้งคู่ล่ะ?
เซี่ยไห่เอ่ยเสียงเข้ม “งั้นคุณก็จงเริ่มคิดตั้งแต่ตอนนี้”
ลินดาพูด “ฉันหมายความว่าพวกเราควรเรียนรู้กันและกันก่อน การแต่งงานเป็นเรื่องชั่วชีวิต ไม่ควรทำอย่างสุกเอาเผากิน ควรดูก่อนว่านิสัยใจคอด้านต่าง ๆ ของพวกเราเข้ากันได้ไหม จากนั้นค่อยไปคิดถึงเรื่องแต่งงาน”
“พวกเราต้องเรียนรู้อะไรกันอีก? ผมคิดว่าจะนิสัยหรือความเคยชินในการใช้ชีวิตของพวกเราล้วนไม่มีปัญหา ตอนนี้สิ่งเดียวที่ต้องเรียนรู้กันก็คือ…” เซี่ยไห่โน้มหน้าเข้ามาใกล้หูหล่อนแล้วกระซิบอะไรบางอย่างด้วยน้ำเสียงคลุมเครืออย่างยิ่ง
ลินดาหน้าแดง ผลักเขาออกแล้วเดินเร็ว ๆ กลับเข้าห้องนอน ปิดประตูเสียงดังปัง
เซี่ยไห่ตามไป ผลลัพธ์คือดั้งจมูกชนเข้ากับบานประตู
เขาคลำจมูกอย่างเจ็บปวด เคาะประตูอธิบายว่า “ผมพูดเล่น คุณอย่าโกรธเลยนะ เปิดประตูเถอะ”
คนในห้องไม่ส่งเสียงตอบ ไม่สนใจเขา
“ผมผิดเอง ผมไม่น่าพูดอะไรแบบนั้นออกไปเลย คุณเปิดประตูให้ผมหน่อยได้ไหม?”
เซี่ยไห่ยืนอยู่หน้าประตูห้องอย่างมีน้ำอดน้ำทน อธิบายมุมมองของตัวเองให้เธอฟัง “พวกเราเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ผมพูดเล่นแบบนี้ คุณจำเป็นจะต้องโกรธผมด้วยหรือ? ผมอายุสามสิบกว่าแล้ว จะให้มีความรักไร้เดียงสาเหมือนคนหนุ่มสาวได้ยังไง ถ้าผมจะมีความคิดด้านนั้นกับคนรักของตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นี่ยิ่งแสดงให้เห็นว่าผมเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง ส่วนคุณก็เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์”
คนในห้องเอ่ยไล่อย่างโมโห “หยุดพูดได้แล้ว คุณกลับไปเถอะ”
“อ้อ งั้นผมไปแล้วนะ…”
เสียงเซี่ยไห่เดินไปจากหน้าประตูดังขึ้น
จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเดินออกไปจากหน้าห้องนอน
ลินดาฟังจากในห้องอยู่เป็นนาน เสียงฝีเท้าดูเหมือนจะจากไปไกลแล้ว ยังได้ยินเสียงปิดประตูอีกด้วย
หล่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก
หล่อนกำลังจะถอดเสื้อผ้า แต่เมื่อเหลือบขึ้นเห็นชุดกระโปรงบนร่างและทรวดทรงที่เย้ายวนใจของตัวเอง หล่อนก็พลันหยุดชะงักมือ
หล่อนพิจารณาตัวเองอย่างจริงจัง ริมฝีปากเผยรอยยิ้มอ่อนหวาน
ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนั้นตาแหลมจริง ๆ
กระโปรงชุดนี้สวยมาก
ถึงมันจะไม่ค่อยเหมาะกับหล่อนก็ตามที
หล่อนหมุนตัวเพื่อดูด้านหลัง แต่ก็มองไม่ค่อยเห็น จึงตัดสินใจว่าจะไปส่องกระจกในห้องน้ำเพื่อให้เห็นภาพรวมแบบเต็มตัว
ตอนนี้หล่อนอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว จึงสามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาส่วนตัวที่หาได้ยากนี้ และทำอะไรได้ตามใจชอบ
ลินดาเปิดประตูห้องออกมาอย่างอารมณ์ดี
หล่อนเดินไปที่ห้องน้ำพลางฮัมเพลงไปด้วย แต่เมื่อเหลือบไปเห็นคนผู้หนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น หล่อนก็อุทานออกมาอย่างตกใจ
จากนั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
มองชายบนโซฟาพลางถามคาดคั้น “ทำไมคุณยังไม่ไปอีก?”
“ผมทนอยู่ห่างจากคุณไม่ได้” เซี่ยไห่ลุกขึ้นเดินเข้ามาหา มองหล่อนโดยมีรอยยิ้มประดับที่มุมปาก “อารมณ์ดีจังเลยนะ?”
สายตาของเขากวาดผ่านเรือนร่างของหล่อนไปอย่างคล้ายไม่ตั้งใจ แล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ “ทำไมยังไม่ถอดชุด? ไม่อยากถอดแล้ว?”
ลินดารู้สึกอับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีเสียให้ได้
“คุณกลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” ใบหน้าของหญิงสาวกลับคืนสู่ความเยือกเย็นในทันที และเอ่ยไล่เขา
“อย่าไล่ผมเลย ผมอยากอยู่กับคุณ ไม่อยู่ตั้งหลายวัน ผมคิดถึงคุณมากจริง ๆ นะ” เซี่ยไห่มองเธออย่างน่าสงสารพลางสารภาพความในใจ “ผมแค่อยากอยู่กับคุณให้นานกว่านี้
เซี่ยไห่เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าความคิดถึงจนแทบขาดใจเวลารักใครสักคนนั้นเป็นเช่นไร
ดังนั้น เมื่อเขากลับจากเมืองเชินเฉิงมาถึงบ้านได้ไม่ทันไรก็ตรงมาที่นี่ เพียงเพราะอยากเห็นหน้าหล่อน
เมื่อเห็นหล่อนตัดใจถอดชุดกระโปรงที่เขาซื้อให้ไม่ลง เขาก็ยิ่งรู้สึกดีใจกว่าเดิม
“ขอร้องล่ะ ให้ผมอยู่ต่ออีกนิดเถอะนะ”
สุดท้ายลินดาก็ใจอ่อนตอบรับเขาเสียงเบา “จะอยู่ต่อสักพักก็ได้”
แต่หล่อนก็กระดากใจเกินกว่าจะเข้าไปส่องกระจกในห้องน้ำ
หล่อนจะถอดชุดกระโปรงที่สวมใส่อยู่ เซี่ยไห่กลับไม่ยอมให้ทำอย่างนั้น
“ฉันหนาว” ลินดาพูด
พอหล่อนพูดแบบนั้น เซี่ยไห่ก็ยอมทันที “งั้นถอดก็ได้ คุณรีบไปสวมชุดหนา ๆ เถอะ”
เซี่ยไห่เห็นว่ามีแอลกอฮอล์หลายขวดวางอยู่ในตู้ในห้องรับแขกของลินดาจึงหยิบไวน์แดงมาหนึ่งขวด เมื่อลินดาแต่งตัวเสร็จและเดินออกมา เขาก็ชวนหล่อนให้ดื่มด้วยกัน
“ไวน์นี่ของคุณใช่ไหม? กลางคืนยังอีกยาวนาน แค่นั่งเฉย ๆ ก็น่าเบื่อ พวกเรามาดื่มกันหน่อยดีไหม?”
เซี่ยไห่หยิบไวน์มาแล้ว ลินดาได้แต่รับคำว่า “ก็ได้”
เซี่ยไห่หยิบแก้วไวน์แดงสองใบมาอย่างร่าเริง จากนั้นก็รินไวน์ใส่แก้ว
เขามองไวน์ชาโตลาฟิตในมือพลางหัวเราะ “ไม่น่าเชื่อว่าคุณยังรู้จักวิธีเสพสุขด้วย ปกติคุณดื่มคนเดียวเหรอ?”
ลินดานั่งลงบนโซฟาแล้วพยักหน้า “อืม บางครั้งตอนเครียด ๆ เรื่องงาน กลับมาตอนเย็นฉันก็จะดื่มบ้าง มันช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น”
“มา ดื่มสักแก้ว” เซี่ยไห่ส่งแก้วไวน์ให้หล่อน “ก่อนอื่น แก้วแรกขอฉลองให้หนุ่มสาววัยผู้ใหญ่อย่างพวกเราที่ได้พบกับที่พักพิงใจเสียที”
ลินดามอง ‘ที่พักพิงใจ’ ที่แลดูพึ่งพาไม่ได้เท่าไหร่ตรงหน้า พูดตรง ๆ ว่าหล่อนไม่ได้รู้สึกอุ่นใจเลยสักนิด
เซี่ยไห่ดื่มไวน์ไปเรื่อย ๆ มองหญิงสาวที่กำลังเหม่อลอย คิดถึงตอนที่หล่อนเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับฮัมเพลงอย่างผ่อนคลาย เขาเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง “ลินดา คุณช่วย…ช่วยเป็นแบบนั้นต่อหน้าผมจะได้ไหม”
ลินดาจิบไวน์แล้วถามอย่างไม่เข้าใจ “อะไรนะ?”
เซี่ยไห่ชนแก้วกับหล่อน นิ่งคิดไปสักพักก็พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมรู้สึกว่าคุณเกร็งเกินไป เวลาอยู่ต่อหน้าทุกคน คุณดูเหมือนถูกขึ้นลานเอาไว้ ผมจะสื่อว่า คุณช่วยผ่อนคลายลงสักหน่อยได้ไหม? เวลาอยู่ต่อหน้าผม คุณช่วยพึ่งพาผมออดอ้อนผมเหมือนนกน้อยตัวหนึ่งได้หรือเปล่า ไม่จำเป็นต้องรักษามาดนักธุรกิจหญิงเอาไว้ตลอดเวลาแบบนั้นก็ได้ ตอนนี้พวกเราอยู่ดูใจคบหากัน ไม่ใช่เจรจาธุรกิจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องนั่งตัวตรงเรียบร้อยขนาดนั้น”
เซี่ยไห่นั่งพิงโซฟา มองหญิงสาวที่นั่งหลังตรงแล้วถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา
หล่อนคงทำงานมานานเกินไป ปกติแทบไม่มีเวลาส่วนตัว จึงลืมไปแล้วว่าท่าทางผ่อนคลายนั้นเป็นอย่างไร
“คำขอของคุณค่อนข้างยากสำหรับฉัน”
หล่อนไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนแปลงเพื่อความรักแม้แต่น้อย ทำให้เซี่ยไห่ถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง “ได้ ๆๆ คุณเป็นตัวของตัวเองเถอะ ถ้าคุณไม่เหนื่อยก็นั่งแบบนี้ต่อไปก็แล้วกัน”
ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่พอเห็นแฟนสาวสวมชุดสีดำสนิท ตัดผมสั้นและมีสีหน้าจริงจังก็รู้สึกไม่ดีเท่าใด
ในยามที่ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย เขาหวังอย่างยิ่งว่าหล่อนจะสามารถนั่งพิงเขา เอ่ยคำพูดหวาน ๆ ทำตัวออดอ้อนตามประสาคนรักกับเขาบ้าง
เซี่ยไห่รู้ดีว่าเขาคงเปลี่ยนแปลงลินดาไม่ได้ ดังนั้น เรื่องที่หล่อนไม่อยากทำ เขาทำเองก็ได้
ดังนั้น เขาจึงค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ เอียงศีรษะไปซบไหล่หล่อน
เขากอดแขนหล่อนพลางออดอ้อน “ผมเหนื่อยมาก ขอพิงหน่อยนะ”
“เหนื่อยก็กลับไปพักสิ” ลินดาปัดมือเกเรของเขาออก
เซี่ยไห่ “!!!”
“ผมคิดถึงคุณนี่นา ขอผมกอดคุณหน่อยเถอะนะ”