บทที่ 894 อพยพ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

คน​ของ​สำนัก​นที​คราม​ที่​เหลือ​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ก็​เห็น​เจ้าสำนัก​หยวน​ชิงลี่​คว้า​ตัว​คน​หนี​ไปแล้ว​

คน​บางส่วน​ที่​ตอบสนอง​เร็ว​หน่อย​พุ่ง​ตาม​ขึ้น​ท้องฟ้า​ไปติดๆ​ บิน​ออก​ไปนอก​ดาวเคราะห์​

แต่​คน​ส่วนใหญ่​ที่​มีพลัง​ฝึกปรือ​ไม่พอ​จะบิน​ไปยัง​อวกาศ​ ได้​แต่​หนี​ออก​ไปอย่าง​เปล่าประโยชน์​เท่านั้น​

เวลานี้​ตำแหน่ง​เดิม​ของ​ลู่​เซิ่งมีก้อน​กลม​สีเทา​เจือจาง​กลุ่ม​หนึ่ง​กำลัง​ขยาย​ใหญ่​ ด้านใน​ก้อน​กลม​คล้าย​กับ​มีบางอย่าง​ดัน​ออก​ด้านนอก​อย่าง​บ้าคลั่ง​ พริบตาเดียว​จาก​ขนาด​เท่า​ลูกหนัง​ก็​ขยาย​ใหญ่​เท่า​อ่าง​อาบน้ำ​

ซู่

ทันใดนั้น​กลาง​ก้อน​กลม​ก็​แยก​ออก​เป็น​ช่อง​

ตูม​!

เศษกระบี่​นับไม่ถ้วน​พุ่ง​ออกมา​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ เศษโลหะ​แหลมคม​กระจาย​ไปด้านหน้า​ใน​ลักษณะ​รูป​พัด​ ด้วย​ความเร็ว​ยิ่งกว่า​กระสุน​

แสงสีแดง​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​ออก​มาจาก​ด้านใน​อย่าง​ฉับพลัน​ ไล่ตาม​ไปยัง​ทิศ​ทางการ​หลบหนี​ของ​หยวน​ชิงลี่​

ลู่​เซิ่งย่อม​คาดเดา​ไว้​ได้​ตั้งแต่แรก​แล้ว​ว่า​หยวน​ชิงลี่​จะหนี​ ผู้​เข้มแข็ง​ที่อยู่​ใน​ช่วงนี้​ส่วนใหญ่​ต่าง​มีสัมผัส​น่าอัศจรรย์​ใน​ความขมุกขมัว​ทั้งสิ้น​ โดยเฉพาะ​ผู้​เข้มแข็ง​บางส่วน​ที่​ฝึกฝน​วิชา​พิเศษ​ ก็​ยิ่ง​มีสัมผัส​แบบนี้​ชัดเจน​

พวก​ที่​มีความมั่นใจ​ใน​ตัวเอง​อย่าง​เจ้าสำนัก​แปลง​วายุ​มีอยู่​น้อย​นิด​ นึก​ว่า​ใกล้​ๆ มีคนรู้จัก​คอย​สะกดทัพ​ แล้​วจะ​ทำ​อะไร​ก็ได้​ น่าเสียดาย​ที่​บทสรุป​ไม่ใช่อย่าง​ที่​เขา​คิด​ไว้​

การ​ที่​หยวน​ชิงลี่​ตัดสินใจ​อพยพ​จาก​ดาว​หลัก​อย่าง​เด็ดขาด​ รวมทั้ง​หลบหนี​ใน​ตอนที่​สู้ไม่ได้​ โดย​ไม่เหลือ​บุคลิก​ของ​เจ้าสำนัก​อย่าง​สิ้นเชิง​ ก็​มาจาก​จุด​นี้​เช่นเดียวกัน​

นาง​สังหรณ์​ได้​ว่า​ตัวเอง​อาจจะ​พลาดท่า​ ดังนั้น​จึงใช้แผนการ​ที่​แย่​ที่สุด​ทันที​

ทั้งสอง​สู้กัน​ไม่เกิน​สามสี่กระบวนท่า​ นาง​ก็​ทิ้ง​ไพ่ตาย​สุด​แข็งแกร่ง​ของ​ตน​ออกมา​ ดู​ว่า​จะทำ​อะไร​ลู่​เซิ่งได้​หรือไม่​ ก่อน​จะหลบหนี​

ไกล​ออก​ไป หยวน​ชิงลี่​กลายเป็น​แสงสีเขียว​ห่อหุ้ม​พวก​ซวี​จั๋ว​กับ​หนิง​ซวง​ไว้​ ความเร็ว​จึงช้าลง​ไม่น้อย​อย่าง​เห็นได้ชัด​

ลู่​เซิ่งจึงไล่ตาม​มาทัน​ ระยะห่าง​ระหว่าง​ทั้งสอง​เริ่ม​ลดลง​

“ลู่​เซิ่ง ปรานี​ตรงไหน​ได้​ก็​ควร​ปรานี​เสีย​ เห็นแก่หน้า​ข้า​ ปล่อย​เจ้าสำนัก​ไปเถอะ​…เวลานี้​สำนัก​นที​คราม​จะทำให้​เจ้าพอใจ​อย่าง​ที่สุด​เอง​” เงาร่าง​ของ​รอง​เจ้าสำนัก​สวี​ฮ่าว​ไป่ปรากฏ​บน​เขา​สูงลูก​หนึ่ง​ทางขวามือ​ของ​คน​ทั้งสอง​

“เรื่อง​นี้​เกิดขึ้น​เพราะ​ซวี​จั๋ว​ เจ้าสำนัก​ไม่เคย​คิด​ลงมือ​กับ​ดาว​เงาพริบตา​ เพียงแต่​ซวี​จั๋ว​กระ​ทำโดยพลการ​ รอ​จน​ทุกอย่าง​จบ​ลง​ พวกเรา​ก็ได้​แต่​รับ​บทสรุป​ด้วย​ความ​จนปัญญา​” สวี​ฮ๋าว​ไป่ส่งกระแส​เสียงทุ้ม​ต่ำ​

“ไม่ว่า​กระบวนการ​จะเป็น​อย่างไร​ บทสรุป​ก็​คือ​ ดาว​เงาพริบตา​ของ​ข้า​ถูก​ทำลาย​ บริวาร​ของ​ข้า​ถูก​ไล่ล่า​จน​เกือบ​ไม่รอด​” ลู่​เซิ่งกระโดด​ครั้งหนึ่ง​ ก็​ขวางทาง​พวก​หยวน​ชิงลี่​ไว้​ดุจ​สายฟ้า​ฟาด​

ในที่สุด​ทั้งสอง​ก็​หยุด​ลง​

“ชนะ​เป็น​จ้าว​แพ้​เป็น​โจร​ เจ้าร้ายกาจ​จริงๆ​!” หยวน​ชิงลี่​เอ่ย​เสียง​แผ่ว​ต่ำ​ ก่อน​จะหมุนตัว​ไปกล่าว​กับ​ซวี​จั๋ว​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​แผ่วเบา​

“ข้า​ปกป้อง​เจ้าไม่ได้​แล้ว​ ดูแลตัวเอง​เถิด​”

ซวี​จั๋ว​สีหน้า​เปลี่ยนไป​อย่างยิ่ง​ เขา​เป็น​มายา​พิศวง​ย่อม​ไม่ใช่พวก​ซื่อบื้อ​ที่​เอาแต่​ก้มหัว​ฝึกฝน​ พอ​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ ก็​พลัน​เข้าใจ​ทันที​ว่า​หยวน​ชิงลี่​ละทิ้ง​เขา​แล้ว​

เขา​ระเบิด​ร่าง​กลายเป็น​แสงสีแดง​พุ่ง​ออก​ไป กระตุ้น​วิชา​ลับ​มากมาย​บน​ร่าง​สุด​ชีวิต​ แต่ละ​วิชา​ผลาญ​พลัง​เหลือประมาณ​ ถึงขั้น​ทำให้​วิชา​ลับ​อันเป็น​แต้มต่อ​อ่อนแอ​ลง​ เพื่อ​เพิ่ม​ความเร็ว​ของ​เขา​ในเวลานี้​อย่าง​ใหญ่หลวง​

พลัง​ระเบิด​ของ​เขา​ใน​ชั่ว​เสี้ยว​วินาที​นั้น​ ถึงขั้น​ก้าว​ข้าม​หยวน​ชิงลี่​ไปได้​เล็กน้อย​

พรุ่บ!​

ลู่​เซิ่งกลับ​เตรียมการ​ไว้​แต่แรก​ ความเร็ว​นี้​เหมือน​เร็ว​สุดขีด​ แต่​เป็น​เพราะ​ควบคุม​ไม่ดี​ จึงได้​แต่​พุ่ง​ตรงๆ​ ไม่อาจ​เปลี่ยน​ทิศ​ได้​

เขา​เพียงแค่​ไปยืน​ขวาง​บน​เส้นทาง​ที่​ซวี​จั๋ว​ต้อง​ผ่าน​ ยื่นมือ​ออก​ไป จากนั้น​ก็​มอง​อีก​ฝ่าย​พุ่ง​เข้ามา​ พลัน​ร่าง​ท่อน​บน​เหมือน​ถูก​บางอย่าง​ฟัน​เข้า​อย่าง​จัง ร่าง​ท่อน​ล่าง​ก็​กระเด็น​ออก​ไปไกลโพ้น​ ก่อนที่​เจ้าของ​ร่าง​จะพบ​ว่า​ร่างกาย​ตน​แยกส่วน​เสีย​อีก​

“อ๊าก!”​ เขา​กรีดร้อง​เผย​ใบหน้า​เจ็บปวด​

“ข้า​ไม่อยาก​ตาย​!” ถัดจาก​เสียงร้อง​โหย​หยวน​ ลู่​เซิ่งก็​อ้า​ปาก​ จิตวิญญาณ​ใน​ร่างกาย​ของ​ซวี​จั๋ว​ถูก​พลัง​มหาศาล​ฉุดกระชาก​ออกมา​ กลายเป็น​แสงสีแดง​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​หาย​เข้าไป​ใน​ปากลู่​เซิ่ง

“ตอนนี้​เจ้าพอใจ​แล้ว​หรือยัง​!?” หยวน​ชิงลี่​ตัว​สั่นเทา​ แท้จริง​แล้ว​ซวี​จั๋ว​ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​นาง​ แต่​เป็น​นาย​บำเรอ​ที่​นาง​รักใคร่​ที่สุด​ต่างหาก​!

ทว่า​ตอนนี้​ บุรุษ​อันเป็น​ที่รัก​ถูก​กิน​จิตวิญญาณ​ต่อหน้าต่อตา​นาง​!

ช่างน่าอัปยศอดสู​ยิ่งนัก​!

นี่​เป็นความ​อับอาย​ครั้ง​ใหญ่​ที่สุด​ของ​สำนัก​นที​คราม​ตั้งแต่​ประวัติศาสตร์​เคย​มีมา

“พอใจ​หรือ​ ยัง​ไม่พอ​” ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​

“อะไร​กัน​ หรือ​เจ้ายัง​คิด​จะฆ่าข้า​อีก​” หยวน​ชิงลี่​แค่น​เสียง​เย็นชา​ “เจ้าคิด​ว่า​หยก​แขวน​ปราณ​กระบี่​เมื่อ​ครู่​เอา​มาจาก​ไหน​ สามสำนัก​เรา​เป็น​พี่​เป็น​น้อง​ เจ้าสำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​รุ่น​ก่อน​มีความสามารถ​ยิ่งใหญ่​และ​พลัง​เหนือกว่า​คนรุ่นเดียวกัน​ สังหาร​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​มานับไม่ถ้วน​ มาร​สวรรค์​ผู้ปกครอง​เอง​ก็​มีไม่น้อย​ หยก​แขวน​ชิ้น​นั้น​ ข้า​ได้​มาจาก​มือ​ของ​ผู้อาวุโส​เอง​! ขอ​บอก​เจ้าตามตรง​ บน​จิตวิญญาณ​ของ​ข้า​มีพร​จิต​กระบี่​ที่​ผู้อาวุโส​ผู้​นั้น​มอบให้​ เจ้าไม่ลงมือ​ก็แล้วไป​ แต่​ถ้าสังหาร​ข้า​จริง​ ถึงเวลา​นั้น​ภัยพิบัติ​ใหญ่​จะมาเยือน​ แล้ว​อย่า​มาหาว่า​วันนี้​ข้า​ไม่เตือน​เจ้าเล่า​!”

ตอนแรก​ลู่​เซิ่งรู้สึก​ปกติ​ คน​ใกล้​ตาย​ก็​มักจะ​พูด​วาจา​ข่มขู่​เพื่อ​เอาตัวรอด​กัน​ทั้งนั้น​

เพียงแต่​นึกไม่ถึง​ว่า​ยิ่ง​ฟังก็​ยิ่ง​รู้สึก​แปลก​ๆ

“ประเดี๋ยว​ เจ้าสำนัก​คน​เก่า​ที่​เจ้าว่า​เป็น​ชาย​ชรา​สวม​เสื้อคลุม​สีขาว​ ชอบ​หรี่ตา​ ใช้กระบี่​ชื่อ​ท้อ​ขาว​ ไพร​ดำ​อะไร​สัก​อย่าง​ เวลา​ใช้กระบวนท่า​ทำให้​คน​หลบ​ไม่ทัน​ใช่หรือไม่​” ลู่​เซิ่งยกมือ​รีบ​หยุด​หยวน​ชิงลี่​

“อะไร​กัน​ เจ้ารู้จัก​ผู้อาวุโส​หรือ​” หยวน​ชิงลี่​พลัน​งุนงง​

ลู่​เซิ่งผุด​สีหน้า​พิกล​ โบก​นิ้ว​ที​หนึ่ง​ ฉับพลัน​นั้น​ชาย​ชรา​ร่าง​งอ​งุ้ม สวม​เศษผ้าขี้ริ้ว​ ฟันหน้า​หาย​ไปหลาย​ซี่ ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ด้าน​ข้าง​

“ฆ่า…ฆ่าข้า​เถอะ​…” ชาย​ชรา​สีหน้า​ท้อแท้​ หนังหุ้มกระดูก​ ไม่เหลือ​รูปลักษณ์​อย่าง​มนุษย์​อีกแล้ว​ ไม่มีใคร​รู้​ว่า​เขา​เจอ​อะไร​ใน​โลก​รูป​จิต​มา

หลังจาก​ถูก​สะกด​พลัง​ เขา​ก็​ถูก​โยน​เข้าไป​หลาย​วัน​แล้ว​ ซึ่งหลาย​วัน​ของ​ด้านนอก​เท่ากับ​หลาย​ปีด้านใน​โลก​รูป​จิต​

“ผะ​…ผู้อาวุโส​!?” หยวน​ชิงลี่​แทบจะ​จำสถานะ​แท้จริง​ของ​ชาย​ชรา​ได้​ใน​แวบ​แรก​ที่​เห็น​ สาเหตุ​เป็น​เพราะ​พวกเขา​ต่าง​เป็น​อาวุธ​จำแลง​กาย​ ไม่ใช่มนุษย์​

นี่​เป็นสาเหตุ​หลัก​ที่​ครั้งก่อน​ผู้อาวุโส​ยินดี​ช่วย​นาง​

“สอง​สามวัน​ก่อนหน้านี้​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​ถูก​ข้า​ทำลาย​ไปแล้ว​ ตอนนี้​ถึงคราว​ของ​เจ้าสักที​” ลู่​เซิ่งชัก​มือ​ดึง​จิตวิญญาณ​ชาย​ชรา​กลับ​ไป พร้อม​มอง​หยวน​ชิงลี่​ด้วย​รอยยิ้ม​

หยวน​ชิงลี่​ตัว​สั่นเทา​ เห็นได้ชัด​ว่าการ​ปรากฏตัว​ของ​ชาย​ชรา​เมื่อครู่นี้​ได้​สร้าง​ความกระทบกระเทือน​อัน​ยาก​จะจินตนาการ​ให้​แก่​นาง​

นาง​นึก​จินตนาการ​ไม่ออก​เลย​ว่า​ ตอนนี้​ผู้​เข้มแข็ง​บันลือโลก​ที่​เคย​ไร้​เทียมทาน​ผู้​นั้น​จะตกต่ำ​จน​ถึงขั้น​นี้​

ผ่าน​ไปสัก​พักใหญ่​นาง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​

“ฆ่าข้า​ แล้ว​ละเว้น​สำนัก​นที​คราม​ ได้​หรือไม่​”

“ผู้เข้าร่วม​ทุกคน​ต้อง​ตาย​” ลู่​เซิ่งเสริม​อีก​ประโยค​

“ได้​” สวี​ฮ่าว​ไป่ที่อยู่​ใกล้​กัน​เอ่ย​รับ​แทน​

ขณะ​มอง​เหตุการณ์​นี้​ สวี​ฮ่าว​ไป่ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ทั้ง​สามสำนัก​ได้​กลายเป็น​ประวัติศาสตร์​ไปแล้ว​ นอกจากนี้​ยังมี​โลก​ใบ​เล็ก​ที่​ยอด​ฝีมือ​กำลัง​บุกเบิก​ขึ้น​ใหม่​อีก​ ทว่า​เมื่อ​เจ้าสำนัก​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​พ่ายแพ้​ ทุกอย่าง​ก็​พังทลาย​ตาม​

เรื่อง​ดาว​เงาพริบตา​ ตอนนั้น​เขา​เอง​ก็​ทำท่า​เห็นด้วย​ แม้ไม่ได้​เข้าร่วม​ ทว่า​ตอนนี้​ก็​คง​ต้อง​จ่าย​ราคา​แสน​เจ็บปวด​เช่นกัน​

“ลงนาม​ใน​สัญญาวิญญาณ​เถอะ​” ลู่​เซิ่งตอบ​อย่าง​มีความสุข​ เป็นการ​ดี​ที่สุด​ที่​สำนัก​นที​คราม​ยอมแพ้​ เมื่อ​กำจัด​คนร้าย​ได้​ คน​ส่วนใหญ่​ความจริง​เป็น​ผู้บริสุทธิ์​ ขอ​แค่​เขา​รับ​ช่วงต่อ​ได้​อย่าง​ไม่ลำบาก​ก็​จะกลายเป็น​ขุม​กำลัง​รอบนอก​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ของ​ตัวเอง​

ขุม​กำลัง​ท้องถิ่น​เหล่านี้​ช่วย​เขา​ประหยัดเวลา​ได้​มาก​อย่าง​ที่สุด​ โดย​เฉพาะทาง​ด้าน​ข้อมูลข่าวสาร​ที่​สะดวก​รวดเร็ว​กว่า​เดิม​

สามสำนัก​พ่ายแพ้​ สอง​สำนัก​พินาศ​ สำนัก​นที​คราม​ที่​เหลืออยู่​ เจ้าสำนัก​หยวน​ชิงลี่​ฆ่าตัวตาย​ ผู้​เข้มแข็ง​มายา​พิศวง​สามคนใน​สำนัก​ถูก​สังหาร​อย่าง​ต่อเนื่อง​

เจ้าสำนัก​คน​ใหม่​ลู่​เซิ่งเพิ่งจะ​ก้าว​ขึ้น​เวที​ ก็​ประกาศ​เปลี่ยน​ชื่อ​สำนัก​เป็น​สำนัก​มาร​กำเนิด​ แยกตัว​จาก​สำนัก​นที​คราม​

ขณะเดียวกัน​ก็​ออกคำสั่ง​ให้​คนใน​สำนัก​ที่​เข้าไป​ยัง​โลก​ใบ​ใหม่​อพยพ​ต่อไป​ เพื่อ​ดำเนิน​ตาม​แผนการ​เดิม​ที่​หยวน​ชิงลี่​ได้​วาง​เอาไว้​

การ​เปลี่ยน​อำนาจ​ภายใน​สามสำนัก​ไม่ได้​ก่อให้เกิด​ความเคลื่อนไหว​อะไร​นัก​ ความสนใจ​ของ​ทุกคน​ต่าง​รวมกัน​อยู่​ที่​ศึก​ใหม่​ของ​พันธมิตร​ดวงดาว​กับ​สัตว์​โบราณ​

ครึ่ง​เดือน​ต่อมา​ จู่ๆ รองหัวหน้า​พันธมิตร​ดวงดาว​เอม​ม่า ฮาเกิน​และ​แม่ทัพ​ใหญ่​ดาว​มฤตยู​เก้า​สิบสอง​คนใน​พันธมิตร​ ได้​ปะทะ​กับ​ราชา​จิ่วอวิ้น​ผา​น​ผู้​เป็น​สัตว์​โบราณ​แถว​ระบบ​ดาว​ลม​สงบ​ สอง​ฝ่าย​เริ่ม​ประหัตประหาร​กัน​ จน​บาดเจ็บ​ล้มตาย​สาหัส​

คลื่น​พลัง​หลงเหลือ​จาก​การต่อสู้​อัน​ยิ่งใหญ่​ ทำให้​ระบบ​ดาวฤกษ์​ทั้ง​สิบ​สามระบบ​พินาศ​ใน​วันนั้น​ กลายเป็น​กระแส​อุกกาบาต​จำนวน​หลาย​ร้อย​ล้าน​สาย​ กระจัดกระจาย​ไปทั่ว​

ระหว่าง​ที่​การศึก​ยื้อ​ยัน​ พันธมิตร​ดวงดาว​กับ​สมาพันธ์​สัตว์​โบราณ​ก็​ตอบสนอง​ สอง​ฝ่าย​ส่งกำลัง​รบ​เข้าไป​มากกว่า​เดิม​

สมรภูมิ​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​อีก​ขั้น​ ไม่นาน​นัก​ ธาร​จักรวาล​เกือบ​ครึ่ง​ก็​พลอย​โดน​ลูกหลง​ไปด้วย​ พายุ​พลังงาน​และ​พายุ​รังสี​นับไม่ถ้วน​ถูก​สังเคราะห์​ขึ้น​ ดาวเคราะห์​จำนวนมาก​ถูก​หัวหน้า​สมาพันธ์​สัตว์​โบราณ​หลอม​เป็น​ของขลัง​ใช้แล้ว​ทิ้ง​ เพื่อ​ทำลาย​สนาม​พลัง​ชั้น​บรรยากาศ​คุ้มกัน​อัน​เหี้ยมหาญ​ที่​พันธมิตร​ดวงดาว​ครอบครอง​โดยกำเนิด​

ใน​สถานการณ์​ใหญ่​แบบนี้​ แม้เรื่อง​ที่​ลู่​เซิ่งชิงสำนัก​นที​คราม​และ​ทำลาย​อีก​สอง​สำนัก​จะน่า​ตื่นตระหนก​ แต่​ก็​ไม่มีคน​ให้ความสนใจ​มากเกินไป​นัก​

คน​ส่วนใหญ่​หวั่น​สะพรึง​เพราะ​กลัว​ลูกหลง​จาก​สงคราม​ กำลัง​ค้นหา​รายชื่อ​โลก​ใบ​อื่น​ที่จะ​อพยพ​ไปได้​อยู่​

แทนที่จะ​สนใจ​ว่า​เจ้าสำนัก​นที​คราม​คือ​ใคร​ พวกเขา​ให้ความสนใจ​มากกว่า​ ว่า​โลก​ใบ​เล็ก​ที่​สำนัก​นที​คราม​ครอบครอง​จะมีที่อยู่​สำหรับ​คนนอก​หรือไม่​

ลู่​เซิ่งใช้เวลา​หลาย​วัน​จัด​ขุม​กำลัง​สำนัก​ สังหาร​กองกำลัง​เก่า​ของ​หยวน​ชิงลี่​ทิ้ง​ สะกด​ทุกคน​เอาไว้​ ทั้ง​ยัง​ถอนรากถอนโคน​ฝ่าย​ต่อต้าน​ใน​อดีต​ แล้ว​เข้า​รับ​อำนาจ​ต่อ​

จากนั้น​เขา​ค่อย​มีเวลา​มุ่งหน้า​ไปยัง​สมรภูมิ​ใหญ่​ด้วยตัวเอง​ เพื่อ​สัมผัส​การศึก​ระหว่าง​สัตว์​โบราณ​และ​พันธมิตร​ดวงดาว​

เพียงแต่​สิ่งที่​ทำให้​เขา​คาดไม่ถึง​ก็​คือ​ เพียงแค่​เขา​ใกล้​ขอบ​สมรภูมิ​ ก็​เกือบ​ถูก​กระแส​พลังงาน​ที่​กระจัดกระจาย​กระแทก​จน​บาดเจ็บ​

พันธมิตร​ดวงดาว​กับ​เผ่าพันธุ์​สัตว์​โบราณ​ต่าง​เป็น​องค์กร​น่ากลัว​ที่​มีขุม​กำลัง​ยิ่งใหญ่​ไพศาล​ สมรภูมิ​ของ​สอง​ฝ่าย​กิน​พื้นที่​ธาร​จักรวาล​ไปครึ่งหนึ่ง​ ใน​นี้​ยัง​ลาม​ไปถึงระบบ​ดาวฤกษ์​นับไม่ถ้วน​ สามารถ​เห็น​ได้​แทบ​ทุก​วินาที​ว่า​ มีวิญญาณ​ดาว​ถูก​สัตว์​โบราณ​ทำลาย​ หรือไม่​ก็​สัตว์​โบราณ​ถูก​วิญญาณ​ดาวฤกษ์​กลืน​กิน​เผาไหม้​จนตาย​

เทียบ​กัน​แล้ว​ อาณาเขต​ของ​สามสำนัก​กับ​นคร​ตราชั่ง​ที่อยู่​ใกล้​ระบบ​ดาว​ปร​ภพ​ เป็น​เพียง​อาณาเขต​เล็ก​กระจ้อยร่อย​ใน​สมรภูมิ​เท่านั้น​

ลู่​เซิ่งกระโดด​ข้าม​ระยะทาง​หลาย​ร้อย​ปีแสง แต่​ยัง​ไม่อาจ​ออกจาก​อาณาเขต​ของ​สมรภูมิ​รบ​ได้​

เขา​เคย​ใช้อากาศยาน​ดาว​ระยะไกล​ของ​นคร​ตราชั่ง​ข้าม​มิติ​เป็นระยะ​ทางไกล​จาก​ประตู​ดวงดาว​ กระโดด​ข้าม​ระยะห่าง​มากกว่า​หมื่น​ปีแสงใน​ครั้ง​เดียว​ แต่​ยังคง​ไม่เห็น​ความหวัง​ที่จะ​หลุด​ออกจาก​เขต​สมรภูมิ​ได้​เลย​

ไม่ว่า​จะเป็น​เขต​ดาว​ที่​ห่าง​ออก​ไปมากกว่า​หมื่น​ปีแสง หรือ​เขต​ดาว​ท้องถิ่น​ก็​มีแต่​สนามรบ​ของ​สอง​องค์กร​ใหญ่​เท่านั้น​ ไฟสงคราม​แผ่​สะพัด​ไปทั่ว​ ทำให้​ลู่​เซิ่งแทบ​อ้า​ปาก​ตาค้าง​ ราวกับ​จักรวาล​โลก​มาร​สวรรค์​ทั้ง​หมดกำลัง​เกิด​ศึก​ใหญ่​

ขณะเดียวกัน​เหตุการณ์​นี้​ก็​ทำให้​เขา​ยิ่ง​ตัดสินใจ​เร่ง​อพยพ​มากกว่า​เดิม​

ทว่า​ก่อน​จะไป เขา​ยัง​มีเรื่อง​อีก​เรื่อง​ที่​ต้อง​จัดการ​

ครั้งกระโน้น​มารดา​แห่ง​ความเจ็บปวด​โจมตี​เรือ​เหาะ​ที่​มีครอบครัว​ของ​เขา​ จน​พวกเขา​ตกลง​ไปใน​กระแส​วังวน​มิติ​เวลา​ไร้​สิ้นสุด​

นี่​ทำให้​เฉินอวิ๋น​ซีผู้​เป็น​ภรรยา​เสียชีวิต​ ส่วน​ลู่​หนิง​ผู้​เป็น​บุตรชาย​ยัง​หายสาบสูญ​จนกระทั่งบัดนี้​ บัญชี​นี้​จะไม่ชำระ​ได้​อย่างไร​

ลู่​เซิ่งฉวยโอกาส​จังหวะ​ชุลมุน​ แอ​บ.​..ไม่สิ กลับ​ไปยัง​ระบบ​ดาว​ปร​ภพ​อย่าง​เปิดเผย​ อาจจะ​ใช้โอกาส​นี้​ชำระ​แค้น​มารดา​แห่ง​ความเจ็บปวด​ได้​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท