ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน – บทที่ 280 พูดได้หรือไง?

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

บทที่ 280 พูดได้หรือไง?

“พวกเจ้าโดนตีอีกแล้วเหรอ?!”

หลิงเยว่เห็นสือเชี่ยนและฉีซิวซีหน้าตาบวมช้ำ เดินกะโผลกกะเผลกกลับมา ขากรรไกรแทบหล่นเลยทีเดียว สำนักจ้านเจี้ยนทำเกินไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น แต่กลับลงมือรุนแรงขนาดนี้!

“ได้! เช่นนั้นต่อไปนี้จะไม่ส่งสุราปราบมารหรือน้ำแกงงูปีศาจให้สำนักจ้านเจี้ยนอีกแล้ว!”

เห็นหลิงเยว่โมโหจัด พี่น้องร่วมสำนักก็รู้สึกผิดมาก จริง ๆ แล้วลูกศิษย์สำนักจ้านเจี้ยนไม่ได้ลงมือ แต่เป็นพวกเขาสองคนแค่ทะเลาะกันเองต่างหาก ควรจะพูดความจริงดีไหมนะ?

ฉีซิวซีตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยก่อน แล้วค่อยบอกทีหลังว่าบาดแผลบนตัวมาจากไหน

“ใช่แล้ว ศิษย์น้องหลิง ทำไมเจ้าถึงได้สนใจสำนักจ้านเจี้ยนกับอีกสามสำนักขนาดนั้นล่ะ?”

“เพราะข้าอยากได้เลือดสัตว์เทพพิทักษ์ของพวกเขาไง!”

หลิงเยว่พูดตามความจริงว่าสัตว์อสูรหรือสัตว์วิญญาณธรรมดา ไม่อาจตอบสนองความต้องการของนางได้อีกต่อไป ยิ่งเลือดสัตว์แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ชารู้แจ้งที่ปรุงออกมาก็ยิ่งมีฤทธิ์มากเท่านั้น

ลองเปรียบเทียบสุนัขจิ้งจอกสีน้ำตาลกับหัวหน้าตะขาบมรกต แน่นอนว่าหัวหน้าตะขาบมรกตนั้นเก่งกาจกว่ามาก!

ดูอย่างตอนที่โม่จวินเจ๋อแปลงร่างเป็นหัวหน้าตะขาบมรกต พลังต่อสู้พุ่งทะยานขึ้นมากขนาดไหน ถ้าเปลี่ยนเป็นเลือดสัตว์เทพ หลิงเยว่ไม่กล้าจินตนาการเลยว่าจะแข็งแกร่งมากเพียงใด!

ได้ยินมาว่าของสัตว์เทพพิทักษ์ของสำนักจ้านเจี้ยน เป็นสัตว์เทพโบราณอิงหลง ซึ่งถือเป็นเทพแห่งการต่อสู้ มีพลังต่อสู้มากที่สุดในบรรดาสัตว์เทพทั้งหมด ถ้าสามารถแปลงร่างเป็นมันได้ล่ะก็…

สีหน้าของหลิงเยว่ฉายแววแห่งความปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง นางอยากจะไปผูกมิตรกับอิงหลงตัวนั้นที่สำนักจ้านเจี้ยนให้ได้โดยเร็ว!

“ศิษย์น้องหลิง เจ้า… หรือว่าเจ้าอยากจะกินมัน?”

สือเชี่ยนตกใจกับสีหน้าเหมือนจะน้ำลายไหลเวลาพูดถึงสัตว์เทพของหลิงเยว่ “ไม่ได้นะ ศิษย์น้อง! ทำแบบนั้นจะก่อให้เกิดการต่อสู้ระหว่างสองสำนักนะ”

“ข้าเพิ่งบอกไปไม่ใช่เหรอว่า ข้าแค่ต้องการเลือดมันนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

ถึงแม้รสชาติของสัตว์เทพจะต้องอร่อยเลิศ แต่หลิงเยว่จะยอมเอาพวกมันมาทำอาหารได้อย่างไร?

“จริง ๆ แล้วต้องการแค่เลือดนิดหน่อยเท่านั้นเหรอ?”

เสียงเบา ๆ ดังขึ้นข้างหูหลิงเยว่ นางชะงักกายแข็งทื่อ หันหน้าไปเผชิญหน้ากับดวงตาสีม่วงอ่อน เจ้าของดวงตามีผมหยิกสีม่วงเข้ม ใบหน้าประณีต ริมฝีปากสีม่วงอ่อน งดงามยิ่งนัก…

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์พอเห็นคนผู้นี้ต่างพากันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก จากนั้นก็ค่อย ๆ ถอยหลัง รวมถึงชิงยวนที่เพิ่งกลับมาก็หันหน้าเดินจากไปด้วย

ศิษย์รักเอ๋ย ไม่ใช่ว่าอาจารย์ไม่ปกป้องเจ้า แต่ว่า… อิงหลงตนนั้นช่างวิปริตเกินไป นางเป็นเพียงปรมาจารย์ด้านกลั่นโอสถที่บอบบางเท่านั้น นางช่วยอะไรไม่ได้หรอก

เมื่ออิงหลงปรากฏกาย ไม่มีผู้ใดในหมื่นลี้อยากจะเข้าใกล้แม้แต่น้อย

หลิงเยว่รู้สึกสิ้นหวังยิ่งนัก

“ต้องการเลือดของข้าไปทำอะไร?”

อิงหลงยิ้มหวานซึ้ง ดวงตาสีม่วงเป็นประกาย คว้าเนื้องูปีศาจย่างบนตะแกรงขึ้นมากินอย่างสง่างาม

“ทำ… การทดลอง” หลิงเยว่พูดตะกุกตะกัก อยากจะเตือนอิงหลงด้วยว่าเนื้องูปีศาจที่นางกินยังไม่สุกดีพอ แต่มังกรตนนั้นกลับกินอย่างมีความสุข สุดท้ายนางจึงไม่ได้กล่าวเตือนไป

อิงหลงยกคิ้วเลียมุมปาก “การทดลองอะไร?”

หลิงเยว่ไม่ได้ปิดบัง

“ยังมีชาแบบนั้นด้วยเหรอ?”

“มีเจ้าค่ะ ดังนั้น…” เมื่อแน่ใจว่าอิงหลงผู้โหดเหี้ยมน่าจะไม่ลงมือกับนาง ความกังวลสิ้นหวังและการพูดตะกุกตะกักในตอนแรกก็หายไป

“ขอได้สักนิดได้ไหม? ไม่ต้องมากก็ได้ แค่สองสามหยดพอ… ข้าสามารถใช้ของอย่างอื่นมาแลกได้ ตราบใดที่ข้าและสำนักหลานเทียนมี”

เจ้าสำนักหลานเทียนที่กำลังแอบฟังอยู่ในกระโจมข้าง ๆ พลันขมวดคิ้ว หากมังกรตัวเมียนั่นต้องการทั้งสำนักจะทำอย่างไร?!

ก็ต้องให้อยู่ดี!

“โอ๊ะ? เรื่องของสำนักหลานเทียนเจ้าก็ตัดสินใจได้ด้วยหรือ?”

หลิงเยว่รีบส่ายหัว “ไม่ได้หรอก แต่ข้าจะพยายามให้ได้มากที่สุด หากชักชวนเจ้าสำนักไม่ได้ ข้าจะให้บรรพจารย์เล่อเหอไปเอง”

“ให้ข้าไปที่ไหน?”

เล่อเหอรีบวิ่งมา คิดว่าหลิงเยว่โดนมังกรตัวนี้ตบ จึงได้ยินแค่ประโยคนี้เท่านั้น

มังกรอิงหลงกล่าวอย่างเย็นชา “พวกเจ้าลูกศิษย์ในสำนักนี่ใจกล้าจริง ๆ ถึงกับคิดจะเอาเลือดของข้าด้วย!”

เล่อเหอ “พวกสำนักจ้านเจี้ยนของเจ้า ตั้งแต่สัตว์เทพโบราณยันมดในสำนัก ทั้งหมดเป็นพวกขี้เหนียว แค่เลือดไม่กี่หยดก็ไม่ยอมให้!”

“อนาถา!”

พูดแบบนี้ได้ยังไง?

หลิงเยว่ตัวสั่นเทิ้ม นางกลัวว่ามังกรจะโมโห แล้วต่อสู้กับเล่อเหอจนนางที่อ่อนแอเปราะบางน่าสงสารและไร้ที่พึ่งต้องได้รับผลกระทบ

อิงหลงไม่ได้โกรธ แต่กลับพูดถึงเงื่อนไขแทน “ถ้าต้องการเลือดของข้า ขอเพียงแค่สำนักหลานเทียนตกลงว่าต่อไปจะให้ส่วนลดราคากระบี่และโอสถที่ขายให้ศิษย์สำนักจ้านเจี้ยน เรื่องเลือดก็พอจะพูดกันได้”

“อ้อ! แล้วก็…” อิงหลงชี้ไปที่เนื้อปีศาจร้ายบนเตาย่าง และน้ำแกงงูปีศาจในหม้อใหญ่ รวมถึงอาหารเนื้อปีศาจร้ายอื่น ๆ “ให้ของกินพวกนี้แบบไม่คิดเงิน…”

ยังไม่ทันที่อิงหลงจะพูดจบ เล่อเหอก็ส่งเสียงฟึดฟัดออกมาทันที “ข้อแรกตกลงลดให้สองส่วนสิบได้ แต่อาหารที่ช่วยขจัดพลังปีศาจได้ แถมยังอร่อยขนาดนี้ อย่าหวังว่าจะได้โดยเปล่า!”

อิงหลงมองเล่อเหออย่างประหลาดใจ “ตามที่ข้ารู้มา ถ้าเอาอาหารเนื้อปีศาจไปให้สำนักอื่น พวกเขาก็ไม่เอาอยู่แล้วนี่”

เล่อเหอ หลิงเยว่ “…”

“ได้ งั้นข้าจะใจกว้างหน่อยแล้วกัน”

อิงหลงวางถังใหญ่สีม่วงแดงที่เต็มไปด้วยเลือดลงบนโต๊ะไม้ ตาทั้งสองข้างของหลิงเยว่ส่องประกายวาววับทันที ถังใหญ่ขนาดนี้ จะทำชาเปลี่ยนร่างรสชาติใหม่ได้มากแค่ไหนกัน!

“ไม่ได้ผสมน้ำใช่ไหม?”

หลิงเยว่กับอิงหลงมองไปที่เล่อเหออย่างไร้คำพูด

เล่อเหอกระแอมอย่างอึดอัด เลือดข้นและมีกลิ่นคาวขนาดนี้ น่าจะไม่ได้ผสมน้ำแล้วล่ะ…

ทั้งสองฝ่ายเจรจากันจนลงตัว อิงหลงได้รับถุงเก็บของขนาดใหญ่เต็มไปด้วยอาหาร ส่วนหลิงเยว่ก็ได้รับถังเลือดสดถังใหญ่

ฝ่ายที่เสียเปรียบที่สุดคือ ยอดเขาหลอมศาสตราและยอดเขาโอสถ

เมื่อได้ยินว่าต่อไป ของที่จำเป็นต่อกระบี่ที่ขายให้สำนักจ้านเจี้ยนต้องลดราคาลงสองส่วนสิบ ใบหน้าของปรมาจารย์ยอดเขาหลอมศาสตราก็แดงก่ำด้วยความโกรธ แต่ไม่นานก็สงบลงเพราะหลิงเยว่ส่งถุงโลหะหายากมาให้

“ทำไมนางถึงทำเหมือนข้าเป็นคนนอกอย่านี้ล่ะ!” ปากบอกมองเป็นคนนอก แต่กลับรับถุงเก็บของไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ

ลู่เป่ยเหยียนมองอาจารย์ของตนอย่างรังเกียจ

“เจ้ามองข้าด้วยสายตาแบบไหนกัน? อยากถูกขับออกจากสำนักหรือ?”

ลู่เป่ยเหยียนไม่พูดอะไร เพียงหันหลังแล้วเดินจากไป

“ศิษย์ชั่ว!”

ยอดเขาหลอมศาสตราได้โลหะหายากมาเต็มถุง ส่วนยอดเขาโอสถได้สมุนไพรวิเศษหายากมาเต็มถุง ส่วนชิงยวนผู้เป็นปรมาจารย์ของยอดเขาได้ดอกบัวเก้ากลีบสีแดงมาหนึ่งดอก

“เจ้าได้มาจากไหน?”

ชิงยวนแปลกใจมาก ใบหน้าของนางยิ้มแย้ม

“เอามาจากวิหารเสินโม่เจ้าค่ะ”

หลิงเยว่พูดปด จริง ๆ แล้วนางทำภารกิจหลักที่สิบหกสำเร็จ ได้รับรางวัลค่าพลังวิญญาณห้าพันล้าน แล้วใช้ค่าพลังวิญญาณซื้อมาจากระบบต่างหาก!

นางซื้อมาทั้งหมดสองดอก อีกดอกหนึ่งมอบให้อาจารย์ใหญ่จานโจวของสำนักกลั่นโอสถเหอตง

“ทำได้ดีมาก”

หลิงเยว่แก้ปัญหาความโกรธแค้นของสองยอดเขาได้คนเดียว สูญเสียห้าพันล้าน ก็… นับว่าไม่ขาดทุน

หลิงเยว่ผู้ไม่ขาดทุนไปเก็บตัวฝึกฝน นางรอไม่ไหวที่จะใช้เลือดมังกรอิงหลงมาวิจัยชาเปลี่ยนร่างแล้ว! ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนเป็นมังกรจะรู้สึกอย่างไร แต่คงต้องมีความสุข ทรงพลัง และยิ่งใหญ่กว่าการเปลี่ยนเป็นตะขาบมรกตอย่างแน่นอน!

หัวหน้าตะขาบมรกตที่ถูกรังเกียจ “?”

เป็นตะขาบแล้วทำไม? พวกเขาพี่น้องรวมร่างกันก็ไม่ได้ด้อยกว่ามังกรตัวนั้นสักหน่อย!

เจ้ามนุษย์เปราะบางไม่อยากได้น้ำลายของพวกมันแล้วหรือ?

หัวหน้าตะขาบมรกตที่โกรธเคือง กินอาหารเลิศรสของปีศาจโดยรอบจนหมดเกลี้ยงในคำเดียว

ผู้บำเพ็ญคนอื่น ๆ ที่กำลังพยายามเรียนรู้การทำอาหารเลิศรส “?”

เขาบ้าไปแล้ว!

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

Status: Ongoing
‘หลิงเยว่’ ผู้ฝึกตนสำนักฝ่ายนอกแสนอ่อนหัด ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก ทว่ายังโชคดีได้ระบบนี้มาช่วยชีวิต มอบหมายภารกิจให้นางสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารให้เกิดประโยชน์ แม้เส้นทางการเป็นยอดเซียนจะหริบหรี่ ทว่าโชคชะตาของยอดแม่ครัวได้เปิดทางให้ ‘หลิงเยว่’ ได้พบหนทางที่จะช่วยให้ตนรอดจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้‘ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ตะหลิว เอ้ย! มานะตน หากนางไม่ยอมแพ้ ย่อมต้องมีหนทางสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท