บทที่ 1018 มัจฉาสัตมายาดวงนำพาขึ้นมาแล้ว เห็นแจ้งถึงความไร้เทียมทาน!
พรวด! พรวด! พรวด!
ต้นหลิวกระอักเลือดไม่หยุด ถูกสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สามโจมตีรุนแรงจนสติสัมปชัญญะของมันเริ่มเลือนราง ทว่าหทัยเต๋ายังคงแน่วแน่ เปลวเพลิงมืดมิดไม่เคยลุกโชติช่วงขึ้นในใจมัน
นี่ก็เพราะเป็นมันผู้พึ่งเพียงตนเองในช่วงที่ผ่าน หาได้เคยพึ่งพิงศาสตราวิเศษ หากเป็นผู้อื่นอย่างเช่นก้อนหิน หทัยเต๋าคงแตกสลายไปนาน เปลวเพลิงมืดมิดลุกโชติช่วงในใจ!
“เปล่าประโยชน์!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สามแค่นยิ่ม “ทว่าข้ากลับยิ่งรู้สึกสนใจในตัวเจ้า เจ้าผู้มีหทัยเต๋าแน่วแน่ปานนี้ ยามเปลวเพลิงมืดมิดลุกโชติคงเจิดจ้าโชติช่วงเป็นพิเศษ! ข้าตั้งตารอเปลวเพลิงมืดมิดในกายเจ้า!”
มันบุกไปข้างหน้าอีกครั้ง!
…
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หนึ่งจู่โจม เริ่มการช่วยเหลือโดยเล็งไปที่ลั่วสุ่ย!
เสียงดังตู้ม มันรัวหมัดออกไป พลังมืดมิดเกินจินตนาการพวยพุ่ง ถล่มใส่ตัวลั่วสุ่ย!
ทว่าลั่วสุ่ยกลับไม่เป็นอันใด ผมสักเส้นยังไม่มีหลุดร่วง!
นางมีศาสตาวิเศษในตัวเยอะสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หนึ่งเพ่งเล็งลั่วสุ่ย ลั่วสุ่ยผู้มั่งคั่งด้วยศาสตราวิเศษต้องตึงมือที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ฆ่า!”
ทว่ามันหาได้เกรงกลัว อย่างไรศาสตราวิเศษก็ไร้ชีวิต เป็นพลังจากภายนอก หาได้คล่องแคล่วเฉกเช่นพลังในกาย มันมั่นใจว่าสามารถสังหารลั่วสุ่ยลงได้!
ลั่วสุ่ยยิ่งไม่รู้สึกหวาดกลัว เปล่งประกายจรัสทั่วร่าง ยอดศาสตราต่าง ๆ ของนางระเบิดพลังเต็มเปี่ยม เข้าปะทะดุเดือดกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หนึ่ง!
…
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สองสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ของสิ่งมีชีวิตมืดมิดในแต่ละพื้นที่เช่นกัน มันไม่ได้ลังเล รีบเข้าไปช่วยเหลือทันที
“โอ๊ย! เหตุใดเจ้าต้องมาเล่นงานข้าด้วย ข้าหาได้เก่งกาจปานนั้น!”
“แค่ผ่านทางมาเท่านั้น เจ้าไม่ควรค่าให้ข้าหมายหัว!”
ใบหน้าของสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สองเย็นชา พลังรุนแรงน่าพรั่นพรึงถึงขีดสุด ก้อนหินมีลวดลายที่คุณชายเคยสลักยังต้านไม่ไหว ถูกอัดจนร่างกายแหลกลาญอีกครั้ง!
“ผ่านทาง?”
ก้อนหินพิโรธ
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สองเห็นมันเป็นตัวอะไร วัชพืชข้างทางรึ? ผ่านทางมาจึงถือโอกาสถอนไปด้วยอย่างนั้นหรือ?
“ฆ่า!”
มันบุกถล่มไปข้างหน้า ต่อให้ร่างหินถูกอัดจนแหลกเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ยอมแพ้
…
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้าประมือกับหลิงอินและเซี่ยเหยียน
พวกนางติดตามหลี่จิ่วเต้ามานานที่สุด ได้รับประโยชน์เกินจินตนาการ ศาสตราวิเศษที่ต่างคนต่างมีก็มากพอ ต่อสู้สูสีกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้า
ทว่าพวกนางทำได้เพียงต่อสู้โดยไม่พ่ายแพ้เท่านั้น หากจะสังหารสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้านั้นทำได้ยากยิ่ง
สิ่งมีชีวิตที่สี่และที่ห้าทรงพลังกันทั้งคู่ รับมือไม่ง่ายเลย ประสบการณ์การต่อสู้ยังเปี่ยมล้น หลีกเลี่ยงการโจมตีจุดสำคัญได้เสมอ
“ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับนาง ไปฆ่าคนอื่นก่อน!”
“ไป!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าเห็นว่าเอาชนะหลิงอินและเซี่ยเหยียนไม่ได้สักที จึงเลือกถอดใจย้ายไปยังสมรภูมิอื่น
“จะไปไหน!”
“ตามไป!”
หลิงอินและเซี่ยเหยียนไล่ตามไม่เลิกรา ไม่ยอมให้สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าไปถึงสมรภูมิอื่น มิฉะนั้น ผู้อื่นต้องบาดเจ็บสาหัสกันแน่นอน หรืออาจถึงขั้นตายเลยก็ได้!
น่าเสียดาย สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าเจ้าเล่ห์เพทุบาย ตบตาหลิงอินและเซี่ยเหยียนจนสลัดพวกนางหลุด แยกย้ายกันไปตามสมรภูมิอื่น
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่ฟาดฝ่ามือใส่สุนัขดำ ร่างของสุนัขดำแหลกเหลว วิญญาณบาดเจ็บสาหัส พลังปราณอ่อนแรงลงมาก
“ฆ่า!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่อาศัยโอกาสนี้หมายจะสังหารสุนัขดำ ทว่าเวลานั้นเอง หลิงอินไล่ตามเข้ามา ระเบิดพลังของวิเศษทุกชิ้นสกัดการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่ที่เล็งไปยังสุนัขดำ
“เฮอะ!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่แค่นหัวเราะ ไม่ได้ต้องการพัวพันต่อไปแม้แต่น้อย ไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว ย้ายไปยังสมรภูมิอื่น
อีกด้าน สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้าบุกไปถึงด้านนักพรตอู๋เหลียง
“เอาเถิด ลงท้ายก็ต้องเป็นข้าที่ปกป้องเจ้า!”
นักพรตอัษฎสมบูรณ์เอ่ยว่าไม่ต้องการลงมืออีก และก็ไม่ได้ลงมืออีกจริง ๆ ที่ผ่านมาล้วนเป็นตัวละครตัวอื่นในหนังสือที่คอยช่วยนักพรตอู๋เหลียงต่อสู้
ทว่าหลังสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้าปรากฏตัวที่นี่มันก็หมดสิ้นความลังเล รีบควบคุมหนังสือโบราณไปหยุดยั้งการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้า!
มันไม่กล้าเผยตัว ลำพังตัวมันย่อมไม่อาจระงับการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้า มีเพียงต้องพึ่งหนังสือโบราณเท่านั้นถึงสามารถสกัดการโจมตีของสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้าได้!
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังกึกก้อง หนังสือโบราณส่องแสงเจิดจ้า ยับยั้งการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้าได้ทั้งหมด
ทว่านักพรตอู๋เหลียงก็ยังได้รับแรงกระเทือน ร่างกายแหลกเหลวกลายเป็นหมอกเลือด!
“ไปตายซะ!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้าเอ่ยเสียงเย็น คิดจะอ้อมผ่านหนังสือโบราณเข้าไปฆ่านักพรตอู๋เหลียง
“เจ้ากำลังรนหาที่!”
เวลานั้น เซี่ยเหยียนไล่ตามเข้ามาอย่างเดือดดาล ระเบิดพลังจากของวิเศษทุกชิ้นโจมตีสังหารสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้า
“ต้องมีผู้ที่ถูกข้าปลิดชีพในคราเดียวแน่!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ห้าเอ่ยด้วยรอยยิ้มมุ่งร้าย ไม่ได้มัวพัวพัน รีบไปยังสมรภูมิอื่นเช่นกัน
เซี่ยเหยียนก็ไม่ลังเล รีบไล่ตามเข้าไป!
วิธีการของสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าสร้างผลกระทบต่อสมรภูมิอื่นอย่างยิ่งยวดโดยไม่ต้องสงสัย เป็นผลให้สถานการณ์ในสมรภูมิอื่นเลวร้ายลงอย่างยิ่งยวด
พวกมันแข็งแกร่งเกินไป เมื่อมาถึงสมรภูมิอื่นเป็นตัวตนที่บดขยี้อีกฝ่ายได้อย่างสิ้นเชิง แทบไม่อาจรับมือได้เลย
ด้านสถานการณ์ของต้นหลิวและก้อนหินก็ไม่สู้ดีนัก ถูกทำร้ายจนเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้าย ใกล้แตกสลายเต็มที!
“น่าแค้นใจนัก!”
ลั่วสุ่ยรับรู้ถึงสถานการณ์ด้านต้นหลิวและก้อนหิน จึงคิดจะถอนตัวจากการต่อสู้ที่นี่ไปช่วยต้นหลิวและก้อนหิน ทว่าสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หนึ่งน่าพรั่นพรึงเกินไป รั้งนางไว้ได้สนิทจนนางไม่อาจถอนตัว
“พี่หลิว พี่หิน!”
“สมควรตายนัก!”
พวกต้าเต๋อและอ้ายฉานก็รับรู้สถานการณ์ด้านต้นหลิวและก้อนหินเช่นกัน พวกเขาต่างถอนตัวออกจากการต่อสู้ทันทีเพื่อไปเป็นกำลังเสริมให้ต้นหลิวและก้อนหิน
ทว่าสิ่งมีชีวิตมืดมิดมีกันเยอะเกินไป พวกเขาถูกสิ่งมีชีวิตมืดมิดตนอื่นสกัดกลางทาง ไม่อาจเข้าไปถึง!
หลิงอินและเซี่ยเหยียนก็อยากไปช่วยต้นหลิวและก้อนหิน ทว่าพวกนางไม่อาจละทิ้งการไล่ตามสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้า หาไม่แล้วสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าต้องฉวยโอกาสนี้สังหารผู้อื่นแน่
“อ๊ากกก! แค้นใจเหลือเกินที่ข้าปราศจากพลังกล้าแกร่ง มิฉะนั้นข้าต้องฉีกพวกเจ้าเป็นชิ้น ๆ แน่!”
มัจฉาสัตมายารับรู้ถึงสถานการณ์ด้านต้นหลิวและก้อนหินเช่นกัน ส่งเสียงคำรามกราดเกรี้ยว ต้นหลิวและก้อนหินเคยดูแลมันดีขนาดนั้น
มันกวัดแกว่งกระบี่หยกในมือ นี่คือกระบี่ที่จำแลงจากปิ่นหยกที่ลั่วสุ่ยมอบให้มัน ทรงพลังยิ่งยวด ผ่าร่างของสิ่งมีชีวิตมืดมิดตนหนึ่งซึ่งกำลังต่อสู้กับเขาเป็นสองท่อนทันที!
จากนั้น มันไปจากอาณาจักรนี้ มุ่งไปช่วยต้นหลิวและก้อนหิน!
เสียงดังตู้ม มันถูกกระแทกจนกระเด็น ร่างกายระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หกบุกมาหามันแล้ว!
“ฆ่า!”
มันสร้างร่างใหม่ออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่เคยถอดใจ สายตาแน่วแน่เหลือคณา บุกต่อไปข้างหน้า
“ไม่รู้สึกประมาณตน ลำพังเจ้าคิดว่าจะช่วยพวกมันได้หรือ เจ้าเอาตัวยังไม่รอดเลย!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หกยิ้มเย็น ชี้นิ้วหนึ่งออกไป ร่างของมัจฉาสัตมายาระเบิดอีกครั้ง กลายเป็นหมอกเลือด
“เจ้าอ่อนแอเกินไป ต่อให้มีโทสะเต็มกระบุงแล้วจะทำอันใดได้”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หกเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “พวกเจ้าบังอาจเปิดศึกกับพวกเรา น่าขันยิ่งนัก ผู้ใดมอบความกล้านี้ให้พวกเจ้า ไม่รู้ความแล้วยังไม่รู้จักประมาณตนอีก!”
มัจฉาสัตมายาไม่ทันได้สร้างร่างขึ้นใหม่ สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หกก็ชี้นิ้วออกไปอีกครั้ง แทงทะลุวิญญาณมัจฉาสัตมายาทันที
ทว่ามันไม่ได้ลงมือปลิดชีพ มันไม่ต้องการฆ่ามัจฉาสัตมายา แต่มาเพื่อจุดประกายเปลวเพลิงมืดมิดเท่านั้น ไม่ได้มาเพื่อคร่าชีวิต!
เสียงดังฟึ่บ มันชี้นิ้วออกไปอีกครา ลำแสงสีดำพุ่งไปถึงมัจฉาสัตมายา หลอมรวมวิญญาณที่แยกออกจากกันของมัจฉาสัตมายาเข้าด้วยกันอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน พลังมืดมิดในลำแสงสีดำเข้าแทรกซึมวิญญาณของมัจฉาสัตมายา หมายจะลากมัจฉาสัตมายาเข้าไปในความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด
มัจฉาสัตมายารู้สึกเหมือนตกลงไปในบ่อโคลน ไม่ว่าออกแรงปานใดก็ไม่อาจสลัดบ่อโคลนขึ้นมาได้
นอกจากนี้ ยิ่งมันดีดดิ้นแรงเพียงใดก็ยิ่งถลำลึกไปมากเท่านั้น สุดท้ายร่างทั้งร่างของมันจมลงในบ่อโคลน เหลือเพียงศีรษะที่อยู่ข้างนอก
อารมณ์ด้านลบต่าง ๆ นานาอัดแน่นเต็มหัว มีทั้งเสียงตำหนิ เสียงต่อว่า เสียงหยามเหยียดที่ดังอยู่ในหัวของมัน
มันทนไม่ไหวแล้ว จมลงไปในบ่อโคลนอีกครึ่งศีรษะ คิดจะยอมแพ้เพียงเท่านี้
“แต่คุณชายยังฝากความหวังไว้กับข้า!”
ชั่วยามวิกฤต ขณะที่มันกำลังจะจมลงไปในบ่อโคลนอย่างสิ้นเชิงพลันนึกถึงคุณชาย นึกถึงวาจาที่ลั่วสุ่ยได้กล่าวกับมัน
คุณชายให้ความสำคัญกับมันที่สุด ตั้งความหวังไว้กับมันมากที่สุด!
“ข้าต้องไม่ทำให้คุณชายผิดหวัง!”
มันส่งเสียงคำรามเดือดดาล แม้ว่าบ่อโคลนท่วมพ้นตามันขึ้นมาแล้ว ความมืดมิดแทบกลืนกินมันเข้าไปทั้งตัว มันก็ไม่เคยถอดใจ ยังคิดกระเสือกกระสนขึ้นจากบ่อโคลน คลานกลับออกมาจากความมืดมิด!
“ใกล้จะได้เห็นเปลวเพลิงมืดมิดอันเจิดจ้าแล้ว…”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หกคลี่ยิ้ม ความมืดมิดในใจมัจฉาสัตมายาจะเบ่งบานอย่างเต็มที่!
ความมืดมิด!
ความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด!
วิญญาณของมัจฉาสัตมายากลายเป็นสีดำอย่างสิ้นเชิง รู้สึกหมดสิ้นเรี่ยวแรงและเริ่มมีเปลวเพลิงสีดำปรากฏ
“ไม่! ข้าจะยอมแพ้ไม่ได้!”
แม้จะเป็นเช่นนั้น วิญญาณของมัจฉาสัตมายายังคงส่งเสียงร่ำร้อง นี่คือเสียงร่ำร้องสุดท้ายของมัน
ฟึ่บ!
เวลานั้นเอง แสงสว่างลำหนึ่งพาดผ่านความมืดมิด จากนั้น ประกายแสงปรากฏออกมานับไม่ถ้วน เจิดจ้าไร้ใดเปรียบ ขับไล่ความมืดมิดทั้งหมดออกไป!
นั่นมันอะไร?
มัจฉาสัตมายามองเป็นภาพร่างคุณชายราง ๆ ความสว่างไสวไร้ใดเปรียบนั้นสาดส่องออกจากร่างคุณชาย!
“คุณชายจริง ๆ!”
มันเบิกตากว้างฉับพลัน มองเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจน คุณชายกำลังมองมันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม!
ชั่วขณะนั้น วิญญาณที่ดำสนิทของมันคืนสภาพอีกครั้ง กลับมาเต็มไปด้วยสีสันทอประกายสว่างไสว!
“เป็นไปได้อย่างไร!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หกสีหน้าเปลี่ยนอย่างมหันต์ คิดไม่ถึงเลยว่ามัจฉาสัตมายาผู้ดำดิ่งสู่ความมืดมิดจนใกล้จะมีเปลวเพลิงมืดมิดลุกโชติยังก้าวพ้นจากความมืดมิดได้อีก!
ฟึ่บ!
บนผืนนภา ม่านแสงมหาศาลอาบไล้บนตัวมัจฉาสัตมายา วิญญาณของมัจฉาสัตมายาขยายใหญ่จนมโหฬาร พลังปราณที่เปล่งออกมานั้นสยดสยองถึงขีดสุด!
มันย่างออกไปหนึ่งก้าว กายเนื้อใหม่ปรากฏทันใด มันยื่นมือข้างหนึ่งออกไปจับสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หก
“ไม่!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หกรู้สึกผวาเหลือคณา ระเบิดพลังเต็มพิกัดเพื่อหยุดยั้งมือข้างนี้ของมัจฉาสัตมายา ทว่าทั้งหมดนี้หาได้เป็นผลไม่!
มือข้างนั้นของมัจฉาสัตมายาขยายใหญ่ยามต้องลม จับตัวมันไว้ในพริบตา!
มัจฉาสัตมายาออกแรงเบา ๆ สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หกก็ถูกมันบดขยี้เป็นผุยผงในทันใด สาดกระจายลงจากมือของมัน
มันเป่าลมทีหนึ่ง ผุยผงสีดำเหล่านี้ก็หายไปในพริบตา สิ่งมีชีวิตมืดมิดตายลงอย่างสิ้นเชิง!
“พลังอันไร้เทียมทาน! คุณชาย…เมตตาข้าแล้ว!”
ดวงตามัจฉาสัตมายาวาวโรจน์ เจิดจ้าและแยงตา มันรู้สึกได้ว่าในกายแฝงไว้ด้วยพลังไร้เทียมทาน สามารถกวาดล้างศัตรูได้ทั้งปวง!
ในอดีตมันเคยล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่อาจถล่มศัตรูตนใดได้เลย ทว่าวันนี้ มันได้ครอบครองพลังไร้เทียมทานอย่างแท้จริง สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หกยังถูกมันสังหารได้ง่ายดาย
ขอให้ใต้หล้านี้สันติสุข!
พลังจากภาพวาดนั้นของหลี่จิ่วเต้ามาถึงที่นี่ และเลือกมัจฉาสัตมายา!
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้ายังคงย้ายสมรภูมิไปเรื่อย ๆ มัจฉาสัตมายาเล็งเป้าตำแหน่งของสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าได้ในทันที
“เทียวไปเทียวมาไม่เหนื่อยบ้างหรือ”
มัจฉาสัตมายาเอ่ยเสียงแผ่ว เสียงนั้นดังอยู่ข้างหูสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าทันที สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าตระหนกจนวิญญาณแทบออกจากร่าง เกือบล้มหัวคะมำ!
“ไป!”
“หนีเร็ว!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย หันหลังหนีไปทันที
พวกมันสัมผัสถึงภัยคุกคามยิ่งใหญ่ เป็นภยันตรายถึงชีวิต พลังอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงเล็งมาที่พวกมัน สามารถสังหารพวกมันได้ในเสี้ยวลมหายใจ!
“ไปที่ชอบ ที่ชอบเสีย”
มัจฉาสัตมายาตวาด ทันใดนั้นพลังไร้ขีดจำกัดก็กระแทกบนตัวสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้า แล้วร่างของสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สี่และที่ห้าก็ระเบิดแหลกลาญ ร่องรอยทุกอย่างอันตรธาน ตายลงอย่างสมบูรณ์!
“ว้าว เก่งกาจจริง!”
“เสี่ยวชีดวงนำพาแล้วหรือ”
เซี่ยเหยียนและหลิงอินต่างตาโตเมื่อได้เห็นภาพนี้
มัจฉาสัตมายาผู้เสียท่าถูกศัตรูเล่นงานอยู่เสมอในอดีตในที่สุดก็ดวงนำพาแล้วในเวลานี้ มีด้านที่ไร้เทียมทานจนเห็นแจ้งกันเสียที!
“จบแล้ว ข้า…สู้ไม่ไหวแล้ว!”
ชางเหยาทอดมองออกไปในอวกาศ ได้เห็นภาพนี้เช่นกัน นางพึมพำว่า “ดูท่าหลังจากนี้ เขาจะเป็นฝ่ายมีสิทธิ์มีเสียงแล้ว!”
“เสี่ยวชี ใช้ได้นี่นา! ข้ารู้สึกว่าเจ้ามีศักยภาพเหลือล้นตั้งแต่แรก ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!”
เมิ่งจีก็เห็นภาพนี้ด้วย ใบหน้าเผยรอยยิ้มสดใส ดีใจแทนเสี่ยวชี
ลั่วสุ่ยผู้กำลังต่อสู้ดุเดือดกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หนึ่งก็รับรู้ถึงภาพนี้ในใจ
“เจ้าดูเถิด ข้าก็ว่า คุณชายให้ความสำคัญกับเจ้าที่สุด!”
รอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้าของนาง งดงามเฉิดฉันเป็นที่สุด คราวนี้นางไม่เหลือความกังวลใดอีก คุณชายเลือกมัจฉาสัตมายา มอบพลังไร้เทียมทานแก่มัน ช่วยให้มัจฉาสัตมายาไร้พ่ายยามอยู่ที่นี่!
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หนึ่งสีหน้าเปลี่ยนไปมหันต์ คิดหนีไปจากที่นี่
“ไปไหน ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ยอมให้ข้าไปไม่ใช่หรือ ตอนนี้เจ้าเองก็อย่าได้ไปไหนเลย!”
ลั่วสุ่ยระเบิดพลัง สำแดงทุกวิชาป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่หนึ่งไปจากที่นี่!
“บังอาจทำร้ายพี่หลิวและพี่หินของข้า พวกเจ้าคู่ควรที่ไหน!”
สายตามัจฉาสัตมายาทอประกายดุดัน เสียงเยียบเย็นของมันดังขึ้นข้างหูสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สามซึ่งกำลังทำร้ายต้นหลิว และสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สองซึ่งกำลังทำร้ายก้อนหินฉับพลัน
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่สองและที่สามพลันอกสั่นขวัญแขวน!