บทที่ 896 ที่อยู่ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“ดาบ​ที่​แทบ​ยัง​เอา​ตัวเอง​ไม่รอด​เล่ม​หนึ่ง​ กับ​บุรุษ​เผ่าพันธุ์​ประหลาด​ที่​ต้องการ​ช่วย​บุตรี​ตัวเอง​คน​หนึ่ง​…” ลู่​เซิ่งสนใจ​เล็กน้อย​ “ก็ได้​ พา​ข้า​ไปดู​หน่อย​ บุตรี​เจ้าอยู่​ที่ไหน​”

ศีรษะ​ของ​บุรุษ​ที่​โขก​กับ​พื้น​อย่าง​แรง​นั้น​พลัน​สั่น​ไหว​ รีบ​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ลิงโลด​

“อยู่​ไม่ไกล​ขอรับ​! ทาง​นั้น​! ผู้อาวุโส​ โปรด​ตาม​ข้า​มา!”

เขา​ลุกขึ้น​ แล้ว​วิ่ง​กระ​โผ​ลก​กระ​เผ​ลก​ไปยัง​ผิว​อุกกาบาต​ทางทิศใต้​

ลู่​เซิ่งตามหลัง​ไปติดๆ​ เดิน​ออกมา​ได้​ไม่ไกล​เท่าไร​ ก็​เห็น​หลุม​ที่​ถูก​ขุด​ไว้​

ใน​หลุม​มีกลิ่นอาย​ชีวิต​อ่อนแอ​สาย​หนึ่ง​ กำลัง​อ่อนแรง​ลง​ คล้าย​กับ​เปลวไฟ​อ่อน​จาก​เทียน​ที่​พร้อม​จะดับ​ได้​ทุกเมื่อ​

เมื่อ​ติดตาม​บุรุษ​เดิน​เข้าไป​ใน​หลุม​ เขา​ก็​เห็น​เงาร่าง​ที่​คุ้นเคย​นอน​หายใจ​รวยริน​อยู่​ตรง​ปลายทาง​

“เจ้าคือ​…เฮย​จิน​นี่​!?”

ลู่​เซิ่งเบิก​ตาโต​

ผู้​ที่นอน​อยู่​ใน​หลุม​ คือ​ที่พึ่ง​แรก​ของ​เขา​นอกจาก​สือจื้อ​ซิง เขา​สวามิภักดิ์​ตอน​อยู่​ใน​โลก​แห่ง​ความเจ็บปวด​ ท่านหญิง​เฮย​จิน​

ผม​ยา​วสี​ดำ​สนิท​ของ​นาง​ยาว​สยาย​เต็ม​พื้น​ ผม​ดำ​ลึกลับ​พิสดาร​เหมือนกับ​ทำได้​ทุกอย่าง​ เวลานี้​ไร้​ความ​อัศจรรย์​ใดๆ​ เหมือน​ผม​คนธรรมดา​

ตัว​เฮย​จิน​หลับตา​แน่น​อย่าง​เจ็บปวด​ ริมฝีปาก​แห้ง​แตก​ สีหน้า​ซีดเซียว​ สวม​เกราะ​อ่อน​สีทอง​ชำรุด​ ถือ​หอก​สั้น​ที่​หัก​แล้ว​เล่ม​หนึ่ง​ไว้​ใน​มือ​ ดู​เหมือนก่อน​หมดสติ​ไปนาง​คง​เจอ​การต่อสู้​ที่​ยากลำบาก​ทีเดียว​

เมื่อ​เห็น​คน​แล้ว​จดจำ​อีก​ฝ่าย​ได้​ คลื่น​อารมณ์​ของ​ลู่​เซิ่งปรากฏ​ขึ้น​แค่​ชั่วพริบตาเดียว​ แล้วก็​ไม่ได้​เผย​ให้​เห็น​อะไร​อีก​

บุรุษ​ที่อยู่​ด้าน​หลังเขา​ก็​ไม่พบ​มัน​แม้แต่น้อย​

ลู่​เซิ่งดีดนิ้ว​อย่าง​ไม่ลังเล​ ลม​ไร้​รูปร่าง​หอบ​หนึ่ง​พุ่ง​ออก​มาจาก​ปลายนิ้ว​ พัด​ไปถึงด้านหน้า​ตัว​ของ​เฮย​จิน​ พลัง​เทพ​นอกรีต​ที่​บรรจุ​อยู่​ใน​สายลม​สร้าง​หนวด​เล็ก​ๆ นับไม่ถ้วน​พร้อมกับ​ชอนไช​เข้า​ผิวหนัง​ของ​นาง​

พลัง​เทพ​นอกรีต​แข็งแกร่ง​ บวก​กับ​ความเข้าใจ​ที่​ลู่​เซิ่งมีต่อ​โลก​มาร​สวรรค์​ การ​ขจัด​พลัง​ประหลาด​ใน​ร่าง​เฮย​จิน​ไม่ใช่เรื่อง​ยากเย็น​อะไร​เลย​

กลิ่นอาย​แห่ง​ความเจ็บปวด​ที่​เขา​เคย​ขยาด​ สำหรับ​เขา​ในเวลานี้​ เป็น​แค่​พลังงาน​ทั่วไป​อย่างหนึ่ง​ที่​สามารถ​ขจัด​และ​กลืน​กิน​ได้​ตลอดเวลา​เท่านั้น​

ไม่นาน​นัก​ กลิ่นอาย​สีเทา​เจือจาง​ส่วนหนึ่ง​ก็​ถูก​ขับ​ออกจาก​ผิว​ของ​เฮย​จิน​

“นาง​เป็น​บุตรี​ของ​เจ้าจริงๆ​ หรือ​” หลัง​คง​สภาพ​ของ​เฮย​จิน​ไว้​ ไม่ให้​เลวร้าย​ลง​กว่า​เดิม​แล้ว​ ลู่​เซิ่งก็​มอง​บุรุษ​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​

“ขอรับ​…” ดวงตา​อีก​ฝ่าย​ฉายแวว​ซับซ้อน​ แฝงไปด้วย​ความ​เศร้าโศก​ ความภาคภูมิใจ​และ​ความเจ็บปวด​เลือนราง​

“นานมาแล้ว​ ข้า​ได้​ส่งนาง​ไปฝึกฝน​ที่​ดินแดน​แห่ง​การฝึกฝน​ที่​ดี​ที่สุด​ของ​พวกเรา​ นาง​มีพรสวรรค์​ยอดเยี่ยม​ ไม่นาน​ก็​เติบโต​ขึ้น​ แล้ว​นาย​ท่าน​ก็​รับ​เป็น​ลูกศิษย์​…” เมื่อ​บุรุษ​เห็น​สถานการณ์​เรียบร้อย​แล้วก็​โล่งใจ​

“ใน​ตอนนั้น​ แม้นาง​จะแข็งแกร่ง​ และ​มีตำแหน่ง​สูงขึ้น​เรื่อยๆ​ แต่ว่า​นาง​แตกต่าง​จาก​ลูกหลาน​ที่​ออก​ไป นาง​มักจะ​กลับมา​เยี่ยม​คนธรรมดา​อย่าง​พวกเรา​ที่​บ้าน​ บางที​ท่าน​อาจจะ​แปลกใจ​อยู่​บ้าง​ว่า​ทำไม​ข้า​ถึงอยู่​ใน​สภาพ​สุญญากาศ​ได้​ นี่​เป็น​เพราะ​บุตรี​ข้า​เคย​ให้​ข้า​กิน​โอสถ​อัศจรรย์​มากมาย​ ถ้าทุกอย่าง​ราบรื่น​ไปได้​ตลอด​ก็​คง​ดี​ น่าเสียดาย​…ที่​โลก​ใบ​นี้​ไม่ได้​มีคำ​ว่า​ถ้ามากมาย​ขนาด​นั้น​…ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​เกิด​สงคราม​ใหญ่​ขึ้น​ โลก​ของ​พวกเรา​พินาศ​ คน​นับไม่ถ้วน​บาดเจ็บ​ล้มตาย​ ผู้ปกครอง​โลก​คิด​จะพา​วีรชน​น้อย​นิด​จากไป​ เดิม​บุตรี​ข้า​ก็​มีสิทธิ์​เช่นกัน​…” บุรุษ​กุม​หน้า​ “แต่​นาง​ยืนกราน​จะพา​ข้า​กับ​มารดา​นาง​ไปด้วย​…”

“ดังนั้น​พวก​เจ้าก็​เลย​ถูก​ทิ้ง​ไว้​หรือ​” ลู่​เซิ่งทราบ​ว่า​คน​อย่าง​เฮย​จิน​เป็น​คนดู​เย็นชา​แต่​มีน้ำใจ​ยิ่ง​

เพียงแต่​นึกไม่ถึง​ว่า​โชคชะตา​จะเล่นตลก​ ท่านหญิง​เฮย​จิน​ที่​ครั้งนั้น​มีพลัง​แข็งแกร่ง​สุดขีด​ ตอนนี้​กลับ​ตกต่ำ​ถึงขั้น​นี้​

“ขะ…​ขอรับ​…บุตรี​ของ​ข้า​ นาง​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ก่อนหน้านี้​ทรวงอก​กับ​ท้อง​มีรู​ใหญ่​เท่า​กำปั้น​ ถูก​ลำแสง​สอง​สาย​เจาะทะลุ​ ข้า​รักษา​ให้​นาง​อย่าง​ยาก​ลำ​บา​ก.​..ตอนนี้​…ตอนนี้​ดีขึ้น​กว่า​ก่อนหน้านี้​มาก​แล้ว​…” บุรุษ​ยิ้ม​โล่งใจ​อย่าง​ไม่น่าดู​นัก​

ลู่​เซิ่งงุนงง​ก่อน​จะพิจารณา​เฮย​จิน​และ​บุรุษ​อี​กรอบ​

เขา​จึงค้นพบ​ว่า​ บุรุษ​ไม่ใช่คนธรรมดา​!

หาก​แต่​เป็น​…

บุรุษ​พูด​อะไร​สัก​อย่าง​อีก​สอง​สามคำ​ แล้ว​เร่งฝีเท้า​เข้าไป​ ชัก​มีดสั้น​เล่ม​หนึ่ง​ออกมา​เฉือน​เนื้อ​เล็ก​ๆ จาก​แขน​ตัวเอง​อย่าง​เชี่ยวชาญ​คุ้นเคย​ พร้อมกับ​ป้อน​เข้า​ปาก​เฮย​จิน​เบา​ๆ

เฮย​จิน​เคี้ยว​อย่าง​เชื่องช้า​โดยสัญชาตญาณ​…

“บุตรี​ข้า​น่ารัก​ยิ่ง​…งดงาม​ยิ่ง​…นาง​ยัง​สาว​และ​ยัง​เด็ก​นัก​ ยังมี​อนาคต​อีก​ไกล​ นาง​จะตาย​ไม่ได้​…”

บุรุษ​พึมพำ​

“คน​อย่าง​ข้า​ ก่อนหน้านี้​ดีแต่​พนันขันต่อ​จน​เป็น​ภาระ​นาง​ ไม่มีประโยชน์​สัก​อย่าง​เดียว​ ตอนนี้​ช่วย​นาง​ได้​…ช่างประเสริฐ​จริงๆ​”

เขา​ใช้มีด​เฉือน​เนื้อ​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ทีละ​ส่วน​ๆ แล้ว​ส่งเข้า​ปาก​เฮย​จิน​ด้วย​สายตา​อ่อนโยน​โศกเศร้า​

ลู่​เซิ่งที่อยู่​ตรง​ปาก​หลุม​ค่อยๆ​ นั่งลง​ พลาง​ลูบ​ฝุ่น​บน​พื้น​

เขา​แยกแยะ​จาก​รังสี​เล็ก​ๆ ที่​เหลืออยู่​บน​ปาก​หลุม​ออ​กว่า​ เฮย​จิน​อยู่​ตรงนี้​มาอย่าง​น้อย​สามเดือน​กว่า​แล้ว​…

“ใน​สามเดือน​ที่ผ่านมา​ เขา​ป้อน​อาหาร​ให้​บุตรี​ตัวเอง​แบบนี้​ทุกวัน​” เสียง​ของ​ดาบ​หัก​ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​

ไม่ทราบ​ว่า​ดาบ​เล่ม​นี้​ขยับ​มาตั้งแต่​เมื่อไร​ จิต​ไร้​รูปร่าง​สาย​หนึ่ง​วนเวียน​อยู่​แถว​ปาก​หลุม​ เหมือนกับ​มองดู​สอง​พ่อ​ลูก​ใน​หลุม​

ลู่​เซิ่งมอง​ภาพ​ตรงหน้า​อย่าง​เงียบงัน​

“ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​มีแบบนี้​ด้วย​หรือ​” เขา​ถามเสียง​เบา​

“ใคร​ทราบ​เล่า​ ตอนแรก​ข้า​ไม่รู้​ว่า​การกระทำ​แบบนี้​มีประโยชน์​หรือไม่​ แต่​ภายหลัง​พบ​ว่า​บุตรี​ของ​เขา​อยู่รอด​มาได้​อย่าง​ปาฏิหาริย์​ ส่วน​กลิ่นอาย​ของ​เขา​ก็​อ่อน​ลง​เรื่อยๆ​…ไม่สิ…ไม่ใช่อ่อน​ลง​ แต่​เหมือน​ลดลง​มากกว่า​…” ดาบ​หัก​เอ่ย​เสียง​แผ่ว​ “เหมือนกับ​การ​ลดลง​ทาง​คุณสมบัติ​ หรือ​หาย​ไปทาง​ความรู้สึก​”

“เหมือน​เขา​จะใช้วิธี​เฉพาะ​ของ​ตัวเอง​ช่วยเหลือ​บุตรี​เพียง​คนเดียว​” ดาบ​หนัก​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​สะทก​สะท้อน​

ลู่​เซิ่งนิ่ง​ขรึม​ไป

บางที​แม้แต่​เฮย​จิน​ก็​อาจ​นึกไม่ถึง​ว่า​ ผู้​ที่​ช่วยเหลือ​นาง​ก่อน​ตาย​ จะเป็น​บิดา​ที่​ไม่มีอะไร​พิเศษ​เลย​ของ​ตน​

สิ่งที่​น่าประหลาด​ก็​คือ​ หลัง​บุรุษ​เฉือน​เนื้อ​ก้อน​หนึ่ง​ ก็​จะมีเนื้อ​ก้อน​ใหม่​งอก​ออกมา​อย่าง​รวดเร็ว​ เพียงแต่​การ​มีตัวตน​ของ​ตัวเอง​เหมือน​จะอ่อน​ลง​กว่า​เดิม​เล็กน้อย​

พอ​เฮย​จิน​กิน​เนื้อ​เสร็จ​ สภาพ​ก็​เหมือน​จะดีขึ้น​บ้าง​

อย่าง​น้อย​จาก​มุมมอง​ของ​ลู่​เซิ่ง กลิ่นอาย​ที่​อ่อนแอ​ใน​ตัวนาง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​เล็กน้อย​

เขา​ครุ่นคิด​ ก่อน​จะเดิน​เข้าไป​ยกมือ​ตวัด​เบา​ๆ

อนุภาค​พลังงาน​ไร้​รูปร่าง​กลายเป็น​สายลม​ ยกตัว​เฮย​จิน​กับ​บุรุษ​ผู้​นั้น​ขึ้น​ช้าๆ

“ข้า​ไม่ได้​อยู่​ที่นี่​ พวก​เจ้ายินดี​จะตาม​ข้า​ไปไหม​”

ตอนแรก​เขา​ไม่อยาก​จะพา​ดาบ​หัก​ไปด้วย​ แต่​คำพูด​ที่​ดาบ​หัก​ออกหน้า​อธิบาย​ ทำให้​เขา​เปลี่ยน​ความประทับใจ​ที่​มีต่อตัว​มัน​ จึงถือโอกาส​พา​ไปด้วยกัน​ทั้งหมด​

“ยินดี​ขอรับ​! ขอบคุณ​ผู้อาวุโส​มาก​!” บุรุษ​รีบ​คุกเข่า​กราบกราน​ลู่​เซิ่ง ก่อน​จะถูกลู่​เซิ่งยกมือ​ห้าม​ไว้​ไม่ให้​เขา​คุกเข่า​

อย่างไร​ครั้งกระโน้น​เฮย​จิน​ก็​เคย​ช่วย​เขา​ไม่น้อย​ ตอนนี้​บิดา​นาง​มาก้ม​กราบ​เขา​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ไม่เหมาะสม​

“ไปเถอะ​” ลู่​เซิ่งควบคุม​กระแสลม​ พา​สอง​คน​หนึ่ง​ดาบ​ผละออก​ไป

เพียงแต่​เพิ่งจะ​ขยับตัว​ ลู่​เซิ่งก็​พบ​ความผิดปกติ​ เขา​ยก​สอง​คน​หนึ่ง​ดาบ​ขึ้น​แท้ๆ​ แต่​สิ่งที่​เขา​สัมผัส​ได้​ กลับ​มีเพียง​หนึ่ง​คน​หนึ่ง​ดาบ​เท่านั้น​

ร่าง​ของ​บุรุษ​ผู้​นั้น​ปล่อย​จุด​แสงสีขาว​นับไม่ถ้วน​ออกมา​ตั้งแต่​เมื่อไร​ก็​ไม่ทราบ​

เขา​กอด​เฮย​จิน​ไว้​แน่น​ด้วย​ใบหน้า​อ่อนโยน​ ร่างกาย​กลับ​กลายเป็น​จุด​แสงและ​กระจัดกระจาย​ไปรอบ​ๆ อย่าง​ต่อเนื่อง​

“พ่อ​รัก​ลูก​…จริงๆ​ นะ​…เชื่อ​พ่อ​เถอะ​…” เขา​พึมพำ​ขณะ​โอบกอด​บุตรี​ไว้​แน่น​ ในที่สุด​ก็​กลายเป็น​จุด​แสงสลาย​หาย​ไป

ลู่​เซิ่งกับ​ดาบ​หัก​ต่าง​เงียบงัน​

ไม่ว่า​พวกเขา​จะสัมผัส​อย่างไร​ ก็​ไม่พบ​กลิ่นอาย​และ​จิตวิญญาณ​ที่​หลง​เหลืออยู่​ของ​บุรุษ​อีก​ เหมือนกับ​เขา​ไม่มีร่องรอย​มาตั้งแต่แรก​

รอยเท้า​ที่​บุรุษ​ทิ้ง​ไว้​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ รอย​เลือด​ที่​กระจาย​ตัว​ เหงื่อ​ที่​หลงเหลือ​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​อันตรธาน​ไปอย่าง​ไร้​สุ้มเสียง​

นอกจาก​เฮย​จิน​ที่​สภาพ​ค่อยๆ​ ฟื้นฟู​ตามลำดับ​ บน​โลก​ก็​เหมือนกับ​ไม่เคย​มีบุรุษ​คน​เมื่อ​ครู่​มาก่อน​

“นั่น​คือ​ภาพ​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​จางหาย​ไปหรือ​” ลู่​เซิ่งถามอย่าง​แผ่วเบา​

“ขอรับ​…” ดาบ​หัก​ตอบ​ “ข้า​อยู่​มาตั้ง​นาน​ นี่​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ที่​เห็น​ความ​ประหลาด​ลี้ลับ​หาย​ไป…”

“ของ​ข้า​ครั้งแรก​” ลู่​เซิ่งเพ่ง​พินิจ​สถานที่​ที่​บุรุษ​สลาย​ไป จากนั้น​ร่าง​ก็​แยกตัว​เป็น​สายลม​ไร้​รูปร่าง​หอบ​หนึ่ง​ ห่อหุ้ม​หนึ่ง​คน​หนึ่ง​ดาบ​กระโดด​ข้าม​มิติ​ออก​ไป

นคร​ตราชั่ง​

ลู่​เซิ่งถือ​ดาบ​คู่​ สัตว์ประหลาด​เงาดำ​สามหน้าที่​มีแขน​หลาย​สิบ​คู่​รวมตัว​ขึ้น​ด้านหลัง​เลือนราง​

เขา​ยืน​อยู่​ใน​โถงแสดง​ยุทธ์​ ณ ชั้น​สูงสุด​ของ​นครหลวง​ เผชิญหน้า​กับ​เจ้านคร​จันทรา​ม่วง​ผู้​ถือ​หอก​ยา​วสี​ทองขาว​ไว้​ใน​มือ​

บน​ผนัง​สีขาว​รอบ​โถงแสดง​ยุทธ์​ ฝังจุด​สีทอง​เล็ก​ไว้​เป็น​จำนวนมาก​ มองดู​หยาบ​แต่กลับ​ให้​ความรู้สึก​กลมกลืน​เนียน​ละเอียด​ยิ่ง​

“ท่าน​สามารถ​ใช้ความสามารถ​สุดกำลัง​ได้​เลย​ ที่นี่​เป็น​เปลือก​ของ​อัคร​รูป​สลัก​กลืน​เมฆาที่​ข้า​ซื้อ​มาจาก​เผ่า​สัตว์​โบราณ​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​มัน​มาก​พอ​จะรองรับ​การฝึกฝน​ด้วย​พลัง​ทั้งหมด​ของ​ผู้ปกครอง​” จันทรา​ม่วง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เพื่อ​โถงแสดง​ยุทธ์​แห่ง​นี้​ ตอนนั้น​ข้า​ได้​จ่าย​การสั่งสม​ทั้งหมด​สอง​หมื่น​ปี ถึงซื้อ​สิ่งนี้​มาจาก​เผ่า​สัตว์​โบราณ​ได้​”

“ท่าน​แน่ใจ​นะ​ว่า​มัน​จะทนทาน​การต่อสู้​ของ​พวกเรา​ได้​จริงๆ​” ลู่​เซิ่งกังขา​

“ไม่มีปัญหา​อย่าง​แน่นอน​ หาก​ท่าน​ไม่เชื่อ​จะลอง​ใช้พลัง​ดูก่อน​ก็ได้​” จันทรา​ม่วง​พยักหน้า​

เมื่อ​ลู่​เซิ่งกลับมา​ก็​จัดหา​ที่พัก​ให้​เฮย​จิน​ แล้ว​ส่งนาง​ไปรักษา​ทันที​ ต่อมา​ก็​ถูก​จันทรา​ม่วง​พา​มาช่วย​นาง​ประเมิน​อาวุธ​ใหม่​

ใน​ฐานะ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​กาย​อมตะ​ไม่มีวัน​ตาย​ เรียก​ได้​ว่า​ลู่​เซิ่งเป็น​คู่มือ​ที่​เหมาะ​ที่สุด​ ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ว่า​หาก​ใช้พลัง​มาก​ไปจะทำให้​ได้รับบาดเจ็บ​ สามารถ​ลงมือ​อย่าง​สุดกำลัง​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​

แต่​แม้เปลือกนอก​จะบอ​กว่า​ประเมิน​อาวุธ​ ทว่า​ลู่​เซิ่งเข้าใจ​เจตนา​ของ​จันทรา​ม่วง​

ตลอดเวลา​ที่ผ่านมา​ นางชม​ดู​เขา​ทำลาย​สามสำนัก​อย่าง​เหี้ยมหาญ​เกรี้ยวกราด​ บางที​การต่อสู้​ครั้งนี้​ อาจ​มีความคิด​เทียบ​ตนเอง​กับ​สามสำนัก​อยู่​

นาง​น่าจะ​อยาก​ลอง​ประเมิน​ดู​ว่า​ ถ้าตน​หัก​หลังกับ​ลู่​เซิ่งจริงๆ​ จะได้รับ​ผลลัพธ์​แบบ​ไหน​

ลู่​เซิ่งสะบัด​ดาบ​คู่​ใน​มือ​ ครั้น​เข้าใจ​ความต้องการ​ของ​อีก​ฝ่าย​ชัดเจน​ เขา​ก็​ไม่เกรงใจ​อีกแล้ว​เช่นกัน​

“ใน​เมื่อ​เป็น​แบบนี้​ ท่าน​ระวังตัว​ด้วย​…” เขา​สืบเท้า​ออก​ด้านหน้า​ก้าว​หนึ่ง​ ร่าง​พลัน​กลายเป็น​สายลม​ หาย​ไปจาก​ที่​เดิม​

ยาม​ที่​ปรากฏตัว​ออกมา​อีกครั้ง​ ก็​มาโผล่​ที่​ทางซ้าย​ของ​จันทรา​ม่วง​แล้ว​ฟัน​ใส่คอ​นาง​ดุจ​สาย​ฟ้าแลบ​

เขา​ไม่ได้​ออม​มือ​ เติม​พลัง​เกือบ​ทั้งหมด​ใส่ใน​การ​ฟัน​ครั้งนี้​โดย​ไม่ออม​พลัง​ใดๆ​ ทั้งสิ้น​

หอก​ยาว​ใน​มือ​จันทรา​ม่วง​สั่น​ไหว​ รอบตัว​เหมือนกับ​มีบุปผา​หอก​สีทอง​หลาย​กลุ่ม​กระจาย​ตัว​ราว​กับระเบิด​

บุปผา​หอก​ทั้งหมด​เก้า​กลุ่ม​เบ่งบาน​อย่าง​เชื่องช้า​ สมจริง​ราวกับ​มีชีวิต​

ดาบ​และ​หอก​ปะทะ​กัน​ดุจ​สาย​ฟ้าแลบ​

เค​ร้ง!​

ร่าง​ลู่​เซิ่งเหมือนกับ​ติดเชื้อ​ บุปผา​หมอก​สีทอง​จำนวน​เหลือ​คณานับ​ระเบิด​ออกมา​อย่าง​หนาแน่น​ดัง​เปรี๊ยะ​ๆ

เขา​แค่น​เสียง​พร้อมกับ​ถอยห่าง​ไปทิ้งตัว​ลง​บน​ที่ว่าง​ออกมา​สิบ​กว่า​หมี่​

ทาง​จันทรา​ม่วง​ร่าง​สั่นสะท้าน​ บุปผา​หอก​สีทอง​คุ้มกัน​ร่าง​สลาย​ไปสามดอก​ อีก​หก​ดอก​ที่​เหลือ​พลัน​หยุดนิ่ง​ ด้วย​ถูก​พลัง​ยิ่งใหญ่​ที่​น่ากลัว​สาย​นั้น​กระแทก​จน​สั่นสะท้าน​แล​ชาหนึบ​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท