บทที่ 898 สะกดรอย (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“เป็น​เช่น​ที่ว่า​จริงๆ​” จ้าว​ลั่ว​อิง​พยักหน้า​ รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​น่า​ลุ่มหลง​กว่า​เดิม​ “ความจริง​ที่​ข้าน้อย​มาใน​ครั้งนี้​ ก็​เพื่อ​ขอร้อง​เจ้าสำนัก​ลู่​ว่า​ถ้าหาก​มีเรื่อง​อะไร​ต้อง​ให้​ใช้ตรา​แห่ง​แก่น​ปฐม ขอให้​ใช้ตระกูล​จ้าว​ของ​ข้า​ ตรา​แห่ง​แก่น​ปฐมเป็น​ของขวัญ​ที่​ดี​ที่สุด​ที่​ราก​แห่ง​ความว่างเปล่า​มอบให้​แก่​สหาย​ ทุก​ตรา​หมายถึง​น้ำใจ​อัน​เลอ​ค่า​ หาก​ครอบครอง​ได้​ ก็​หมายความว่า​ตัว​ท่าน​ได้​ช่วยเหลือ​ราก​แห่ง​ความว่างเปล่า​ส่วนหนึ่ง​ และ​ถ้าหาก​เรา​ทำให้​ตรา​แห่ง​แก่น​ปฐมสำเร็จ​ได้​ ก็​จะได้​รับรางวัล​ยิ่งใหญ่​จาก​ศูนย์​หลัก​ ดังนั้น​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ได้ประโยชน์​ทั้งสองฝ่าย​”

จ้าว​ลั่ว​อิง​อธิบาย​สาเหตุ​อย่าง​เปิดเผย​

“ขอ​เสียมารยาท​ถามสัก​คำ​ ขุม​กำลัง​ของ​ราก​แห่ง​ความเจ็บปวด​ใน​โลก​ใบ​อื่น​เป็น​อย่างไร​” ลู่​เซิ่งนิ่ง​คิด​เล็กน้อย​ก่อน​จะเอ่ย​ถามต่อ​ จ้าว​ลั่ว​อิง​ยิ้ม​มีเลศนัย​

“นี่​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​อยู่​เขต​ไห​น.​..เขต​ธาร​มารดา​แตก​ต่างกัน​ จำนวน​ของ​โลก​ที่​พวกเรา​เข้าไป​อาศัย​ก็​จะต่างกัน​ไปด้วย​”

“ธาร​มารดา​…” ลู่​เซิ่งพลัน​หวน​นึกถึง​กระแส​ธาร​ยิ่งใหญ่​ที่​เชื่อม​ต่อไป​ยัง​จักรวาล​และ​โลก​ต่างๆ​ ได้​ใน​กระแส​วังวน​มิติ​เวลา​ขึ้น​มา ที่แท้​เรียก​ว่า​ธาร​มารดา​หรอก​หรือ​

“ธาร​มารดา​มีทั้งหมด​สามสาย​ ที่​พวกเรา​อยู่​คือ​ธาร​มารดา​แห่ง​รุ้ง​ใน​ตำนาน​ ขุม​กำลัง​ของ​ราก​แห่ง​ความว่างเปล่า​ดำรงอยู่​แทบ​ทุกที่​ เชื่อมโยง​กับ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ ขอ​แค่​เป็น​พื้นที่​ที่​มีชีวิต​ ก็​จะต้อง​มีขุม​กำลัง​ของ​ราก​แห่ง​ความว่างเปล่า​ใน​ระดับ​หนึ่ง​แน่​” จ้าว​ลั่ว​อิง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

วาจา​ผีสาง​นี้​ฟังดูเหมือน​หลอกลวง​คน​ แน่นอน​ว่า​ลู่​เซิ่งไม่ซื่อบื้อ​เชื่อ​มัน​จริงๆ​ ปัจจัย​แรก​ของ​ลัทธิ​ใด​ก็​ต้อง​โม้ว่า​ตัวเอง​ทำได้​ทุกอย่าง​หรือไม่​ก็​สูงส่งเอื้อม​ไม่ถึงอยู่แล้ว​

“อย่างนั้น​ ถ้าข้า​คิด​จะใช้ตรา​แห่ง​แก่น​ปฐมเพื่อ​หา​ที่อยู่​ของ​ครอบครัว​ข้า​” เขา​ถามตรงๆ​ “พวก​เจ้าทำได้​หรือไม่​”

“ครอบครัว​…เป็น​เรือ​เหาะ​จาก​ดาว​ปร​ภพ​ที่​ถูก​มารดา​แห่ง​ความเจ็บปวด​โจมตี​จน​หลุด​เข้าไป​ใน​กระแส​วังวน​มิติ​เวลา​ โดน​ม้วน​เข้าสู่​กระแส​ปั่นป่วน​แล้ว​กระจัดกระจาย​ไปใช่หรือไม่​” จ้าว​ลั่ว​อิง​ตอบ​อย่าง​รวดเร็ว​ แสดงให้เห็น​ว่า​พวก​นาง​เคย​ตรวจสอบ​ลู่​เซิ่งมาก่อน​

“ถูกต้อง​”

“พวกเรา​คาด​ไว้​แต่แรก​แล้ว​ว่า​ ท่าน​อาจจะ​ขอ​คำขอ​นี้​ ดังนั้น​จึงส่งคน​ไปตรวจสอบ​สถานการณ์​ของ​โลก​ต่างๆ​ แล้ว​ ตอนนี้​ได้​ที่อยู่​มาบางส่วน​” จ้าว​ลั่ว​อิง​ยื่นมือ​ออกมา​แล้ว​เอา​นิ้ว​กด​ลง​ไป นิ้ว​เรียว​ยาว​เปล่งแสง​สีขาว​กลุ่ม​หนึ่ง​ขึ้น​

แสงสว่าง​ขยายตัว​ด้วย​ความเร็ว​สูง กลายเป็น​ม่าน​แสง ด้านบน​แสดง​ภาพ​ต้นไม้​แห้ง​สีดำ​กำลัง​หมุน​วน​ต้น​หนึ่ง​

“พวกเรา​สืบ​จน​เจอ​ของ​สิ่งนี้​ผ่าน​อิทธิฤทธิ์​ชนิด​ผลกรรม​ ต้นไม้​ยักษ์​ต้น​นี้​เป็น​วัตถุ​ที่​สะดุดตา​ที่สุด​ที่​ครอบครัว​ท่าน​สัมผัส​ล่าสุด​ แต่​มัน​อยู่​ใน​โลก​ใบ​ไหน​ พวกเรา​เอง​ก็​ไม่ทราบ​เช่นกัน​ อย่างไร​จักรวาล​หรือ​โลก​ก็​เกิด​และ​สลายตัว​ตลอดเวลา​ ความ​ใหญ่โต​ของ​ธาร​มารดา​อัศจรรย์​พันลึก​ มีสถานที่​มากมาย​ซึ่งต่อให้​เป็น​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​ลัทธิ​พวกเรา​ก็​ไม่กล้า​บุ่มบ่าม​เข้าไป​” น้ำเสียง​ของ​จ้าว​ลั่ว​อิง​จริงจัง​ขึ้น​

“ต้นไม้​ยักษ์​สีดำ​หรือ​” ลู่​เซิ่งจดจำ​ต้นไม้​ใหญ่​ต้น​นี้​อย่าง​ตั้งใจ​ “ยืนยัน​ระดับ​พลังงาน​ของ​จักรวาล​ที่​มัน​อยู่​ได้​หรือไม่​”

“ไม่แน่ใจ​ แต่​โลก​ทั้งหมด​ที่​พวกเรา​เจอ​ตั้งแต่​อดีต​จนถึง​ปัจจุบัน​ใน​ธาร​มารดา​ แบ่ง​ออก​เป็น​สอง​ประเภท​ ประเภท​แรก​คือ​โลก​ความ​อันตราย​ต่ำ​ อีก​ประเภท​คือ​โลก​อันตราย​สูง พวกเรา​ยืนยัน​ได้​ว่า​มัน​อยู่​ใน​โลก​ความ​อันตราย​ต่ำ​” จ้าว​ลั่ว​อิง​อธิบาย​

“เข้าใจ​แล้ว​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​

“ถ้ามีเบาะแส​พวกเรา​จะแจ้งท่าน​ทันที​” จ้าว​ลั่ว​อิง​โบกมือ​ลา​อย่าง​งามสง่า “อย่างนั้น​ก็​ยัน​ยัน​คำขอ​ของ​ท่าน​ได้​แล้ว​ ข้า​ขอตัว​ก่อน​”

“ไม่ส่งเล่า​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​

รอ​จน​จ้าว​ลั่ว​อิง​ผละ​ไป เขา​ก็​ยังคง​เพ่งมอง​ต้นไม้​ยักษ์​ต้น​นั้น​ที่​แสดง​ใน​ม่าน​แสงกลางอากาศ​อยู่​

ไม่นาน​นัก​ ห​ลี่​ซุ่น​ซีกับ​บัน​ไซก็​เดิน​เข้ามา​ใน​โถง

“หาก​ยึด​ตาม​เบาะแส​ที่​ของล้ำค่า​ของ​ข้า​อนุมาน​ออกมา​ได้​ ถ้าภาพ​ที่​พวกเขา​บอก​ไม่ผิด​จริงๆ​ อย่างนั้น​พวกเรา​สามารถ​ใช้มัน​ค้นหา​ได้​” บัน​ไซเอ่ย​จริงจัง​ ก่อนหน้านี้​พวกเขา​ฟังการ​สนทนา​ทาง​นี้​อยู่​ห้อง​ข้างๆ​ นี่​เป็นการ​แจ้งเจตนา​ของ​ลู่​เซิ่งเช่นกัน​

“อัตรา​สำเร็จ​ใน​การอนุมาน​คือ​เท่าไร​” ลู่​เซิ่งนิ่วหน้า​

“ไม่แน่ใจ​ขอรับ​ แต่​น่าจะ​กำหนด​ทิศ​ทางได้​คร่าวๆ​” บัน​ไซประเมิน​

“อย่างนั้น​ก็​ลองดู​ได้​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​

แม้จะไม่ทราบ​ว่า​ขุม​กำลัง​ของ​ตระกูล​จ้าว​มีมาก​ขนาด​ไหน​ แต่​ราก​แห่ง​ความว่างเปล่า​จะต้อง​เป็น​ขุม​กำลัง​ใหญ่โต​ที่​ปกคลุม​โลก​มาร​สวรรค์​ทั้งหมด​แน่​ หาก​พวกเขา​เข้าร่วม​การ​ค้นหา​ได้​ จะมีส่วนช่วย​ใน​การ​ค้นหา​ครอบครัว​ให้​เจอ​โดยเร็ว​อย่าง​แน่นอน​

พวก​ลู่​เซิ่งกับ​บัน​ไซปรึกษา​แผนการ​ต่อจากนี้​กัน​สักพัก​ จากนั้น​พวก​บัน​ไซก็​โดยสาร​เรือ​จาก​ท่า​ดวงดาว​ไปยัง​ดาว​หลัก​ของ​สำนัก​นที​คราม​ แล้ว​เริ่ม​อาศัย​ทรัพยากร​ทั้งหมด​ของ​สำนัก​นที​คราม​ ยกระดับ​ความสามารถ​ของล้ำค่า​ของ​บัน​ไซ

เพื่อ​เริ่ม​อนุมาน​ที่อยู่​ของ​ครอบครัว​ลู่​เซิ่ง

ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​ที่​บัน​ไซอนุมาน​ได้​ก่อนหน้านี้​ ก็​ได้มา​เพราะ​วิธี​นี้​เช่นกัน​ ตอนนี้​เมื่อ​ประสาน​กับ​ต้นไม้​ยักษ์​สีดำ​ ก็​ควรจะ​ได้​อะไร​ๆ มากกว่า​เดิม​

ลู่​เซิ่งยัง​ได้​ยื่น​เรื่อง​ขอ​สิทธิ์​บันทึก​ข้อมูล​จาก​ห้องสมุด​ใหญ่​ของ​นคร​ตราชั่ง​ให้​แก่​บัน​ไซด้วย​

ปัจจุบัน​ลู่​เซิ่งที่​เป็นหนึ่ง​ใน​ผู้​แข็งแกร่ง​ถึงขีดสุด​ท่ามกลาง​ขุม​กำลัง​โดยรอบ​ แน่นอน​ว่า​จันทรา​ม่วง​ยินดี​สนองความต้องการ​เพียง​เล็กน้อย​นี่​

ไม่เพียงแค่​จันทรา​ม่วง​เท่านั้น​ ลู่​เซิ่งยัง​ได้​ยื่นคำขอ​คล้ายๆ​ กัน​นี้​กับ​ผู้ปกครอง​จันทรา​แดง​เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​ บันทึก​ข้อมูล​ที่​สาวก​จันทรา​แดง​สะสมไว้​ ก็​เป็น​ของดี​ที่​ทำให้​อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​ ของขลัง​คำนวณ​พยากรณ์​ ของรักของหวง​ของ​บัน​ไซ มีข้อมูล​เพิ่มขึ้น​ได้​เช่นกัน​

ข้อมูล​ความรู้​เป็น​สารอาหาร​ที่​ดี​ที่สุด​ของ​อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​ ขอ​แค่​มีข้อมูล​มาก​พอ​ มัน​จะคำนวณ​ข้อมูล​ออกมา​ได้​มากมาย​และ​แม่นยำ​

การ​เก็บ​และ​บันทึก​ข้อมูล​ต่างๆ​ ใช้เวลา​ทั้งหมด​กว่า​หนึ่ง​เดือน​และ​ยัง​ต้อง​เพิ่ม​พวก​ชิ้นส่วน​ต่างๆ​ เพื่อ​ใช้เป็น​หน่วยความจำ​ อุปกรณ์​เชื่อมต่อ​ และ​แหล่งพลังงาน​สิ้นเปลือง​

พวก​บัน​ไซต้อง​ไปๆ มาๆ ระหว่าง​สำนัก​นที​คราม​และ​นคร​ตราชั่ง​ จ้างคน​มามากกว่า​หมื่น​ รวมถึง​จ่าย​แหล่งพลังงาน​เป็น​ผลึก​ปฐมพลัง​มากกว่า​ร้อย​ก้อน​ เพราะ​สาเหตุนี้​

สำหรับ​ลู่​เซิ่งซึ่งมีความจงรักภักดี​จาก​เผ่า​วิทูร​ธาร​ นี่​เป็น​ค่าใช้จ่าย​เล็กๆ น้อยๆ​ ที่​นับ​เป็น​จุดทศนิยม​ยัง​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​ แต่​สำหรับ​เขา​ที่​เพิ่ง​มาถึงนคร​ตราชั่ง​ใหม่​ๆ เขา​จะต้อง​เก็บ​เงิน​อย่าง​น้อยกว่า​หนึ่ง​ปีกว่า​ถึงจะคืนทุน​ได้​

พริบตาเดียว​ ก็​ผ่าน​มาถึงเดือน​ห้า​ หลัง​ลู่​เซิ่งทำลาย​สามสำนัก​ ก็​อยู่​ที่​นคร​ตราชั่ง​กว่า​สามเดือน​กว่า​ จึงเริ่ม​เตรียมตัว​ไปยัง​ดาว​หลัก​สำนัก​นที​คราม​

ณ ดาว​หลัก​ การ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​ ไม่เพียง​ต้องการ​ทรัพยากร​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ต้องการ​เวลา​มากมาย​อีกด้วย​

เป็น​เพราะ​ข่าวสาร​ที่​เพิ่ม​เข้าไป​ใน​คราว​เดียว​ รวมถึง​ข้อมูล​ที่​ใส่เข้าไป​มีมากเกินไป​ ทำให้​การคำนวณ​หนึ่ง​ครั้ง​ต้อง​ใช้เวลา​มากกว่า​เดิม​

ลู่​เซิ่งใช้เวลา​ส่วนหนึ่ง​ช่วย​เผ่า​วิทูร​ธาร​ชิงดาว​หลัก​ของ​พวก​นาง​กลับมา​ ส่วน​พันธมิตร​อะไร​สัก​อย่าง​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ หลัง​ทราบ​ว่า​เขา​สอด​มือ​ด้วยตัวเอง​ ขนาด​ลมหายใจ​ยัง​ไม่กล้า​ระบาย​ออกมา​ กลับกัน​ยัง​ส่งของขวัญ​มาแสดง​คำขอโทษ​ด้วย​

ลู่​เซิ่งรับ​ของขวัญ​ไว้​ เรื่อง​นี้​เป็นอัน​ได้​ข้อสรุป​ แม้เผ่า​วิทูร​ธาร​จะบาดเจ็บ​ล้มตาย​ไปมาก​ แต่​กองทัพ​ของ​พันธมิตร​ที่​ถูก​เขา​เชือด​ใน​วัน​เดียว​นั้น​นับ​หลาย​แสน​ อีก​ทั้ง​ยังมี​ยอด​ฝีมือ​แข็งแกร่ง​ระดับ​สุดยอด​สำหรับ​พันธมิตร​อีก​หลาย​คน​ด้วย​

หลังจาก​จัดการ​ปัญหา​ของ​เผ่า​วิทูร​ธาร​เรียบร้อย​ พวก​นาง​ก็​กลับคืน​บ้านเกิด​ กลายเป็น​ดวงดาว​กองหนุน​ที่​ช่วย​มอบ​ทรัพยากร​จำนวนมาก​ให้​แก่​ลู่​เซิ่ง

เมื่อ​เป็น​แบบนี้​ ด้าน​กองหนุน​ก็​มีหลักประกัน​แล้ว​

และ​ใน​ตอนนี้​เอง​ การคำนวณ​ของ​อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​ก็ได้​ผลลัพธ์​ในที่สุด​

สำนัก​นที​คราม​ ราช​วัง​ดาว​บน​ดาว​หลัก​

ลู่​เซิ่ง ห​ลี่​ซุ่น​ซี เฮย​จิน​ และ​ทัวห​ลัน​ปาเฮ่อ​ ยืน​อยู่​ใน​ห้องทดลอง​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ของ​ราช​วัง​ดาว​

ทั้ง​ห้อง​แยกตัว​โดด​เดียว​โดย​ใช้ค่าย​กล​มหึมา​เป็นตัว​แบ่ง​ เอาไว้​ใช้ประเมิน​ของขลัง​ล้ำค่า​และ​ระบบ​อักขระ​ต่างๆ​

ที่นี่​มีกลไก​แช่แข็ง​ใน​พริบตา​ที่​พร้อม​ลด​อุณหภูมิ​ถึงจุด​ต่ำสุด​ หาก​เกิด​ปัญหา​ใดๆ​ ขึ้น​ ก็​ใช้กลไก​ชนิด​นี้​หยุด​การทดลอง​ทุกอย่าง​ได้​ทันที​

“ผลลัพธ์​ที่​อนุมาน​ได้​เป็น​อย่างไรบ้าง​” ลู่​เซิ่งมอง​บัน​ไซควบคุม​อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​ เอ่ย​ถามตรงๆ​

“นาย​ท่าน​ ผลลัพธ์​ของ​การอนุมาน​ไม่ชัดเจน​นัก​ แต่​ได้​ทิศทาง​มาแล้ว​ เมื่อ​มีการ​สนับสนุน​จาก​สามคลังข้อมูล​ใหญ่​ บวก​กับ​แหล่ง​งาน​ที่​มาก​พอ​ ความแม่นยำ​ใน​การอนุมาน​ของ​อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​ก็​เพิ่มขึ้น​อย่าง​ใหญ่หลวง​ ได้​อนุมาน​ทิศทาง​กระแส​วังวน​มิติ​เวลา​คร่าวๆ​ ออกมา​แล้ว​” บัน​ไซรีบ​ตอบ​

“ถ้าข้า​เข้าใกล้​โลก​ที่​มีเบาะแส​อยู่​ อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​จะมีปฏิกิริยา​หรือไม่​” ลู่​เซิ่งถามพลาง​ขมวดคิ้ว​

“มีขอรับ​” บัน​ไซพยักหน้า​ “ความจริง​เบาะแส​ต้นไม้​ยักษ์​สีดำ​ผุ​เปื่อย​ต้น​นั้น​ที่​ราก​แห่ง​ความเจ็บปวด​ให้​ก่อนหน้านี้​ น่าจะ​ได้​มาจาก​การคำนวณ​ด้วย​ของขลัง​คำนวณ​ขนาด​มหึมา​คล้ายๆ​ กัน​ เพียงแต่​วิธี​การคำนวณ​ของ​พวกเขา​หยาบ​ไปมาก​เท่านั้น​”

“อย่างนั้น​ เวลา​ไม่คอยท่า​ เรื่อง​โยกย้าย​สำนัก​นที​คราม​ให้​ห​ลี่​ซุ่น​ซีกับ​เฮย​จิน​รับผิดชอบ​ ข้า​จะทิ้ง​ร่าง​แยก​ไว้​คอย​ช่วย​พวก​เจ้าและ​สยบ​พวก​คิด​ไม่ซื่อ​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​เสียงทุ้ม​ “ข้า​จะเริ่ม​การ​จุติ​รอบ​ใหม่​ ต้องหา​คน​ให้​เจอ​โดยเร็ว​ที่สุด​”

“รับทราบ​!” คนใน​ห้อง​วิจัย​พา​กัน​ขานรับ​

“บัน​ไซช่วย​ข้า​ติดตั้ง​ห้อง​จุติ​ที​ อย่า​ลืม​ยืนยัน​ทิศทาง​ของ​เบาะแส​ด้วย​”

“ทราบ​แล้ว​ขอรับ​!” บัน​ไซพยักหน้า​ “ข้า​เคยชิน​กับ​การ​ติดตั้ง​ห้อง​จุติ​แล้ว​ บวก​กับ​เงื่อนไข​ใน​ปัจจุบัน​ วัน​เดียว​ก็​เสร็จ​ ส่วน​ทิศทาง​เบาะแส​ อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​ได้​คำนวณ​ออกมา​แล้ว​ สามารถ​ระบุ​ใน​ค่าย​กล​จุติ​ได้​โดยตรง​เลย​ขอรับ​”

“อย่างนั้น​ก็​เริ่ม​กัน​เลย​”

บัน​ไซพยักหน้า​ เริ่ม​เรียก​ใช้ผลลัพธ์​การคำนวณ​ของ​อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​ทันที​

จากนั้น​ก็​สั่งให้​ผู้ใช้​อักขระ​ค่าย​กล​ส่วนหนึ่ง​ของ​สำนัก​นที​คราม​ที่อยู่​รอบ​ๆ เริ่ม​ไปติดตั้ง​ห้อง​จุติ​ใน​ห้องทดลอง​อีก​แห่ง​หนึ่ง​

อย่างไร​สำนัก​นที​คราม​ก็​เป็น​สำนัก​ใหญ่โต​ ต่อให้​จะผ่าน​การ​ล้างบาง​โลหิต​มา แต่​ก็​ยัง​เหลือ​ผู้ใช้​อักขระ​ค่าย​กล​ระดับสูง​มากกว่า​พัน​คน​ ผู้ใช้​อักขระ​ค่าย​กล​พวก​นี้​ติด​ตั้งค่าย​กล​จุติ​ได้​ง่ายดาย​ เป็น​ทรัพยากร​ด้าน​อักขระ​ค่าย​กล​ที่​ล้ำค่า​ถึงขีดสุด​

ภายใต้​การ​ร่วมมือ​ของ​ทุกคน​ ใช้เวลา​เพียง​ครึ่ง​วัน​ ค่าย​กล​จุติ​สมบูรณ์แบบ​กว่า​ก่อนหน้า​ก็​ติดตั้ง​สำเร็จ​

ลู่​เซิ่งแบ่ง​เทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​ออกมา​เพื่อ​ใช้เป็น​ร่าง​แยก​สำหรับ​ปกครอง​ดาว​หลัก​ ช่วยเหลือ​ห​ลี่​ซุ่น​ซีกับ​เฮย​จิน​ใน​การควบคุม​ทุกสิ่ง​

แม้เทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​จะเป็น​เพียง​พลัง​ที่​หล่อเลี้ยง​จาก​โลก​เทพ​นอกรีต​ แต่​คุณสมบัติ​ของ​มัน​ยัง​คงอยู่​ใน​ขอบเขต​อนธการ​

กอปร​กับ​คุณลักษณะ​ประหลาด​ของ​พลัง​เทพ​นอกรีต​ ต่อให้​อนธการ​ธรรมดา​ลงมือ​ ก็​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ด้วยซ้ำ​ เรื่อง​นี้​ได้รับ​การพิสูจน์​ใน​ศึก​ใหญ่​เมื่อ​ก่อนหน้า​แล้ว​

หลัง​เตรียม​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ ลู่​เซิ่งก็​ก้าว​เข้าไป​ใน​ค่าย​กล​จุติ​

ครั้งนี้​แตกต่าง​จาก​ก่อนหน้า​ เขา​จำเป็นต้อง​มุ่งหน้า​ไปตาม​ทิศทาง​ที่​แน่นอน​ใน​กระแส​วังวน​มิติ​เวลา​ หา​โลก​ที่​ครอบครัว​อยู่​ให้​เจอ​

“เตรียมตัว​เสร็จ​หรือยัง​ขอรับ​” บัน​ไซที่​ยืน​อยู่​นอก​ค่าย​กล​ส่งกระแสเสียง​ถาม

“เริ่ม​เลย​” ลู่​เซิ่งนั่ง​อยู่​กลาง​ทะเล​บุปผา​ผลึก​สีม่วง​ซ้อน​ตัว​กัน​เป็นชั้นๆ​ สอง​มือวาง​บน​เข่า​ สวม​เกราะ​สีแดงเข้ม​ประณีต​งดงาม​

ทะเล​บุปผา​ผลึก​สีม่วง​นี้​ คือ​ตัวแทน​อักขระ​ค่าย​กล​เชิงซ้อน​ของ​ค่าย​กล​จุติ​ใน​รอบ​นี้​

เทียบ​กับ​ความเรียบง่าย​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ของ​พวกเขา​ ผู้ใช้​อักขระ​ค่าย​กล​ของ​สำนัก​นที​คราม​เหล่านี้​สุรุ่ยสุร่าย​จน​ทำให้​คน​อ้า​ปาก​ตาค้าง​ พวกเขา​ประสาน​มัน​เข้ากับ​สุนทรียศาสตร์​ใน​ตอน​วาด​อักขระ​ ทั้ง​ยัง​เติม​วัตถุดิบ​อื่นๆ​ เข้าไป​ไม่น้อย​ เพื่อให้​เกิด​ภาพ​งามตา​ใน​ตอนนี้​

นี่​คล้าย​จะเป็น​ความเคยชิน​ของ​หยวน​ชิงลี่​ เจ้าสำนัก​รุ่น​ก่อน​

กลิ่นหอม​ผู้ดี​ฟุ้งอยู่​ใน​อากาศ​เบาบาง​ จากนั้น​ลู่​เซิ่งก็​สวม​เกราะ​ที่​เหมือนกับ​หัว​มังกร​สามเขา​ลง​บน​ศีรษะ​ช้าๆ

“เปิด​ใช้ลำดับ​ค่าย​กล​ที่สาม​”

“เริ่ม​ระบบ​สังเกตการณ์​ด้วย​ตา​”

“กระตุ้น​อักขระ​ไข​เอ่อร์​ลา​”

“กระตุ้น​อักขระ​เห​วิน​ตง​นี”​

“เปิด​ใช้วงจร​แห่ง​โชคชะตา​”

อักขระ​ค่าย​กล​รอบนอก​เริ่ม​เปล่งแสง​

ลู่​เซิ่งเห็น​บัน​ไซทำท่า​บอ​กว่า​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ให้​แก่​เขา​

เขา​จึงพยักหน้า​เล็กน้อย​ตอบกลับ​ ก่อน​จะหลับตา​ลง​

ทะเล​บุปผา​ค่าย​กล​เริ่ม​เรืองแสง​สีม่วง​ คล้าย​กับ​ลุกไหม้​ขึ้น​

“อิ้นเอ้อร์สือ​เจีย​ เริ่ม​ระบุ​ร่องรอย​แรก​” เสียง​สตรี​จักรกล​ดัง​ขึ้น​ใน​ค่าย​กล​

“เริ่ม​การ​เชื่อมต่อ​…พันธนาการ​!”

ฟ้าว!​

พริบตา​นั้น​มีแสงสีทอง​กลุ่ม​หนึ่ง​สว่าง​ขึ้น​ด้านหน้า​ลู่​เซิ่งที่อยู่​กลาง​ทะเล​บุปผา​ ก่อน​จะพุ่ง​ขึ้น​ด้านบน​ แล้ว​ระเบิด​ออก​

เปรี้ยง​!

แสงทอง​กลายเป็น​ลวดลาย​สีทอง​นับไม่ถ้วน​ ปกคลุม​ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​ลู่​เซิ่งเหมือน​ใยแมงมุม​

ตัว​ลู่​เซิ่งพลัน​แตกสลาย​ กลายเป็น​จุด​แสงสีทอง​นับไม่ถ้วน​ จากนั้น​เงาดำ​ที่​มีใบหน้า​สามใบ​และ​หางยาว​ก็​ปรากฏ​แวบ​ขึ้น​ด้านหลัง​

โฮก​!

เสียงคำราม​น่า​สะพรึง​กระเพื่อม​ออกมา​ กลิ่นอาย​เหี้ยมหาญ​ยิ่งใหญ่​ถึงขีดสุด​ของ​อนธ​การรั่วไหล​ออกมา​สายหนึ่ง​ จากนั้น​ก็​ทะลัก​เข้าไป​ใน​มิติ​อีก​มิติ​ด้วย​ความเร็ว​สูง พร้อมกับ​อันตรธาน​สาบสูญ​ไป

จุด​แสงค่อยๆ​ จางลง​

เหลือ​เพียง​ทะเล​บุปผา​ม่วง​ทั้งหมด​ ที่​ส่าย​ไปมาช้าๆ ราวกับ​ปะการัง​ก้น​ทะเล​ งดงาม​ละลานตา​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท