ตอนที่ 797 เจ้าโง่ชายแท้ซื่อบื้อ!
สรุปแล้วไท่ซานคืออะไรกันแน่ เป็นเขาสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ที่เมือไท่อันในโลกมนุษย์แห่งนั้นใช่หรือไม่
หรือเป็นความเดียวดายสูงสุดที่ตั้งอยู่ใจกลางของนรก หรือไม่ก็เป็นฝุ่นผงประวัติศาสตร์ที่เคยมีอยู่แต่เวลานี้กลับสลายหายไปตั้งนานแล้วหรือเปล่า
แต่ในชั่วขณะนี้ สิ่งที่ดึงออกมาจากจิตวิญญาณของโจวเจ๋อเป็นสายลมสีฟ้า มันไม่รุนแรง กลับอ่อนโยนมากด้วยซ้ำ และแฝงไปด้วยความสง่างามเฉิดฉายเบาบาง แม้ว่าจะถูกถอนรากถอนโคนไปแล้วก็ตาม แต่กลับมีเพียงกลิ่นอายที่อบอวลไปด้วยความอิสระเรียบง่าย
นางหรี่ตาลงเล็กน้อย นางทำสำเร็จแล้ว สัญลักษณ์ระหว่างคิ้วผุดลอยออกมาจากหน้าผาก เดิมทีนางอยากจะกระตุ้นค่ายกลแห่งนี้ให้หนักอีกหน่อย และปิดผนึกทั้งสองสิ่งนั้นให้สมบูรณ์ แต่นางลังเล เพราะเมื่อนางเห็นสายลมสีฟ้านี้ นางก็เปลี่ยนใจ
นางเคยเป็นคนที่สูงส่งที่สุดในโลกใบนี้ ประชาชนและเทพปีศาจนับไม่ถ้วนล้วนมอบยิ้มอย่างจริงใจที่สุดให้นาง นางอยากได้ดวงดาว ก็จะมีปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ปีนขึ้นไปเด็ดบนท้องฟ้ามาให้นางจริงๆ พร้อมกันนั้นปรมาจารย์หลอมอาวุธที่เก่งกาจที่สุดในโลกก็จะหลอมดวงดาวให้กลายเป็นลูกปัดอันวิจิตรงดงามให้นางได้สวมมันบนข้อเท้าเนียนใส
นางปรารถนาสิ่งใดก็ล้วนถูกเติมเต็ม หากบอกว่าร่างสูงตระหง่านตรงหน้านางได้รับอำนาจสูงสุดในโลกนี้ เช่นนั้นนางก็ได้รับความโปรดปรานทั้งหมดในโลกนี้
ลูกสาวเปราะบางเย่อหยิ่ง นางเพลิดเพลินกับความเปราะบางเย่อหยิ่งประเภทนี้ นางชอบควบคุมทุกสิ่งอย่าง นางชอบความรู้สึกที่ได้รับการดูแลและเอาใจใส่จากคนทั้งโลก แม้ว่าภายหลังโลกได้เปลี่ยนแปลงไปมากมาย นางก็ไม่เต็มใจยินยอมเปลี่ยนแปลงเช่นเดิม นางปรารถนาสิ่งใดก็ต้องได้สิ่งนั้นมาครอง นางไล่ตามสิ่งใดสิ่งนั้นก็ต้องมาอยู่ข้างกายนาง
ตอนนี้นางถูกใจสายลมสีฟ้า นางอยากครอบครองมัน อยากให้มันกลายเป็นผ้าคลุมไหล่หรือผ้าพันคอผืนใหม่สำหรับร่างกายใหม่ของตัวเอง
นางอยากให้เขามองเห็นนางในแบบที่งดงามที่สุดเมื่อลืมตาขึ้น นางอยากให้เขารู้ว่านางยังเป็นนางคนเดิมในตอนนั้นที่นั่งอยู่บนเนินเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยดอกไม้ มองดูเขานำกองทัพกลับมาพร้อมธงโบกสะบัด แสงแดดส่องกระทบบนชุดเกราะของเขา มันสว่างและพร่างพราวสะดุดตามาก
ฉะนั้น นางจึงแยกส่วนสัญลักษณ์นี้ออกไป สายลมสีฟ้าเป็นของนาง และเงาดำนั้นก็เป็นของเขาโดยธรรมชาติ
นี่นับว่าเป็นของขวัญที่นางเตรียมไว้เมื่อทั้งสองได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เขาน่าจะชอบมัน ส่วนเงาดำนั้นเขาสามารถกลืนกินไปได้ นอกจากนี้เดิมทีมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่แยกออกไปจากตัวเขา เขาน่าจะเกลียดมันมาก
เพราะเหตุนี้ค่ายกลจึงตกอยู่ในสภาวะหยุดชะงัก ส่วนของขวัญจะต้องมอบให้หลังจากที่นางควบคุมร่างนี้โดยสมบูรณ์เสียก่อน นางไม่ยอมให้ทุกอย่างเกิดความสั่นคลอนใดๆ จนก่อให้เกิดความบกพร่องในการกลับมาพบกันของเขาและนางแม้แต่น้อย!
เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ขณะที่นางเตรียมลงมือ จู่ๆ จิตสำนึกในร่างส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของนางทันที
สถานการณ์เช่นนี้ไม่อาจปล่อยให้เกิดขึ้นอีกได้
เจ้าสมควรตายได้แล้ว
นางนั่งขัดสมาธิแล้ววางฝ่ามือไว้บนตาซ้ายของตัวเองอีกครั้ง ผนึกที่ทำไว้ก่อนหน้านี้คลายออก เหลือเพียงแค่จุดสุดท้ายเท่านั้นแล้ว เมื่อกลืนจิตสำนึกของเจ้าของร่างเดิมนี้จนสิ้นนางก็จะกลับมาพร้อมกับร่างนี้!
…
อิงอิงรู้สึกว่ารอบตัวเธอเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ตอนนี้ความทรงจำของเธอดูเหมือนจะถูกกัดกินและผนึกเอาไว้ มีสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงกลัวแฝงอยู่ตนหนึ่ง กำลังเฝ้าจับตาดูเธอและล่วงรู้ทุกสิ่งอย่างปรุโปร่ง จากนั้นก็จะทำลายมันทั้งหมด
ความรู้สึกที่ถูกคนอ่านความคิดเช่นนี้มันอึดอัดมาก เสมือนการตรวจร่างกายครั้งสุดท้าย ตรวจสอบเจอสิ่งที่แปลกปลอมในร่างกายได้ทั้งหมด จากนั้นถูกส่งไปที่ ‘ห้องอาบน้ำ’ ในค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ ทว่าสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดไม่ใช่จุดจบสุดท้าย แต่เป็นความกดดันอย่างนี้ การรอคอยอย่างนี้ ความพังทลายที่อาจจะมาถึงในวินาทีถัดไปอย่างนี้ในเวลานี้ต่างหาก
อิงอิงหนาวมาก จิตสำนึกของเธอถูกสลับไปมาในความทรงจำของเธออย่างต่อเนื่อง ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังถือรีโมตคอนโทรลและกดเปิดดูทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
อิงอิงรู้ว่าทั้งหมดนี้ใกล้จะจบลงแล้ว เธออยากหวนคิดถึงทุกช่วงเวลาของความสัมพันธ์ของเธอและเถ้าแก่ในความทรงจำก่อนที่มันจะจบลง ถือเป็นการอำลาครั้งสุดท้าย
เพียงแต่สิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวตนนั้นดูเหมือนจะไม่เต็มใจให้ทำอย่างนี้ พูดให้ถูกคือ สิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวไม่สนใจไยดีสิ่งนี้ แต่นางก็ไม่ได้เพิกเฉยไปเสียทั้งหมด จริงๆ แล้วนางกำลังค้นหา และกำลังมองดูเช่นกัน เพียงแต่จุดสนใจของนางและอิงอิงต่างกัน
ถนนสีดำ ไฟกิ่งถนนที่พัง ถนนขรุขระ ควันหลงของการต่อสู้เพิ่งจะสลายไป อิงอิงพบว่าตัวเองถูกมัดอยู่บนเสาไฟฟ้า เธอไม่ได้ตกใจหรือตื่นตระหนก
อีกแล้ว
เป็นมันอีกแล้ว
ฉากนี้อีกแล้ว
น่าตายนัก เธออยากดูเถ้าแก่ เธอไม่อยากหวนนึกถึงความทรงจำฉากนี้อีก!
เถ้าแก่
เถ้าแก่
ข้าต้องการเถ้าแก่!
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ล้วนอยู่เหนือการควบคุมของอิงอิง ต่อให้เป็นความทรงจำของเธอเองก็ตาม
ด้านหน้าของเธอนั้น โจวเจ๋อยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับถือยาบำรุงซือตันในมือ มันเป็นยาบำรุงซือตันของเธอ แต่คนตรงหน้านี้ไม่ใช่เถ้าแก่!
เถ้าแก่ของเธอเป็นชายหนุ่มรูปหล่อและสง่างามแสนขี้เกียจที่โปรดปรานการนอนอาบแดดจิบกาแฟคนนั้นต่างหาก ไม่ใช่คนสายตาเย็นชาที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้!
ถัดจากโจวเจ๋อ แผ่นหลังร่างนั้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนนางจะชอบเขามาก และชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาจริงๆ แม้จะเป็นความทรงจำ แม้จะเป็นฉากในความทรงจำ นางไม่ยอมพลาดมันแม้แต่นิด นางอยู่ที่นี่ นางรออยู่ที่นี่ นางเฝ้ามองเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มองดูอดีตของเขา ในช่วงสองปีที่ผ่านมานางไม่ได้อยู่ข้างกายเขา นางจึงอยากจะรู้ทุกสิ่งย้อนหลัง สำหรับในอนาคตนั้น เขาจะมีนางอยู่เคียงข้าง นั่นคืออนาคตที่ทั้งสองคนจะร่วมกันสร้าง
อิงอิงอยากถามอีกสักประโยคหนึ่ง ทำไมเจ้าถึงมีแค่แผ่นหลัง
อันที่จริง คำถามนี้ ทนายอันที่ยังนอนสลบเหมือดอยู่ตรงมุมแท่นบูชาก็เคยสงสัยเช่นกัน โชคดีที่ทนายอันฉลาดพอที่จะไม่พูดความเป็นไปได้นี้ออกมาในโลกแห่งความฝันนี้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาคงไม่ได้แค่หมดสติแน่นอน
ยาบำรุงซือตันถูกยื่นกลับไปกลับมาระหว่างริมฝีปากของอิงอิงและโจวเจ๋อไม่หยุด แผ่นหลังนั้นยังยืนอยู่ข้างกายโจวเจ๋อ ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความคิดถึงระคนตื้นตันใจอยู่ในนั้นเล็กน้อย “ท่านไม่อยากทำลายร่างของข้าในอนาคต จึงไม่ได้กินยาบำรุงซือตันลงไปใช่หรือไม่”
เมื่อได้ยินเช่นนี้อิงอิงกลอกตาทันที สตรีนางนี้ไร้ยางอายสิ้นดี!
หากตอนนี้เธอเลือกได้ หากตอนนี้เธอสามารถเคลื่อนไหวในความทรงจำของตัวเองได้ เธออยากจะอ้าปากกลืนยาบำรุงซือตันในคำเดียวให้รู้แล้วรู้รอด ใครให้เจ้ามาแสดงความรักกันอยู่ตรงนี้ เสียเวลา!
สิ่งที่น่ากลัวและทรมานยิ่งกว่าความตายคือก่อนตายถูกคนอื่นสวีทหวานกันต่อหน้า!
การลังเลทุกครั้ง การกลับไปกลับมาของยาบำรุงซือตันทุกครั้ง ดูเหมือนว่าจะทิ่มโดนเนื้ออ่อนของแผ่นหลังนั้นอยู่ตลอดเวลา การหายใจและอารมณ์ของนางถูกการยื่นยาบำรุงซือตันกลับไปกลับมาอย่างต่อเนื่องนี้กระตุ้นไม่หยุด
จนในที่สุดก็มาพร้อมกับคำพูดประโยคนั้นที่ไม่มีใครเข้าใจ “นี่เป็นร่างที่ข้าทิ้งไว้ให้นาง”
ฉากนี้จบลงแล้ว อิงอิงรู้สึกว่าเธอใกล้จะถึงจุดจบเข้ามาทุกทีแล้ว
แต่ทว่า เมื่อภาพตรงหน้ามืดลงและมีแสงสว่างปรากฏขึ้นอีกครั้ง อิงอิงแทบจะบ้าแล้ว!
ถนนยามค่ำคืนริมแม่น้ำ
อ๊ากกกกกก
ฉากนี้อีกแล้ว!
อิงอิงนั่งอยู่บนพื้นและเงยหน้าขึ้น เธอมองเห็นโจวเจ๋อยืนอยู่ด้านหน้าเธอ เขาคว้ามือซ้ายของเธอไว้แน่น จากนั้นใช้เล็บมือของเขาข่วนเบาๆ ที่ฝ่ามือของเธอจนเกิดบาดแผลขึ้นมา
แผ่นหลังอันงดงามนั้นปรากฏตัวข้างกายเขาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าฉากนี้ถึงจะเป็นฉากที่นางต้องการและอยากเห็นมันมากที่สุดเช่นกัน
เขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของนาง เขาเลือกร่างกายให้นางเสร็จเรียบร้อย เขาเบิกทางให้กับนาง และทำการเปลี่ยนแปลงร่างผีดิบนี้เพื่อนาง
แผ่นหลังนั้นตื่นเต้นระริกระรี้มาก เพราะสามารถเห็นได้ว่าไหล่ของนางกำลังสั่นเทิ้ม นางเป็นคนสงวนกิริยาท่าที และนางก็เป็นคนเย่อหยิ่งเช่นกัน แม้ว่าปัจจุบันนี้จะไม่ใช่สมัยโบราณอีกต่อไปแล้ว แต่สายเลือดของนาง อดีตของนางก็ยังทำให้นางเชิดหน้าจนเอาไม่ลงด้วยซ้ำ!
เพียงแต่ว่าที่นี่นางกลับไม่ได้ซ่อนเร้นและปกปิดมันเลยแม้แต่น้อย เพราะนี่เป็นเพียงภาพความทรงจำเท่านั้น เขามองไม่เห็น เขามองไม่เห็นการลืมตัวเสียกิริยาของนาง สำหรับเรื่องที่ยังมี ‘พยาน’ อยู่ที่นี่อีกคน กลับไม่สลักสำคัญอะไร หลังจากได้ลิ้มรสความทรงจำเหล่านี้เกี่ยวกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย ‘พยาน’ คนนี้ก็จะต้องตายไปโดยสมบูรณ์ นางยังคงสำรวมเช่นเดิมและยิ่งผยองอย่างเคย ไม่มีใครเคยเห็นท่าทางเสียกิริยาของนางในตอนนี้มาก่อน คนที่เคยเห็นก็ตายไปแล้วทั้งสิ้น
นางมองดูเขาในเวลานี้ หน้าผากของเขาราบเรียบมาก ดวงตาของเขาล้ำลึกเสียจนไม่มีใครสามารถมองได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
เขาไม่เปลี่ยนไปเลย อ้อ ไม่สิ เขาเปลี่ยนไปแล้ว
หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่ทำเรื่องพวกนี้ และเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะทำเรื่องเหล่านี้ นางและเขาในตอนนี้ถึงจะนับว่ามาเพื่อเคียงคู่กันอย่างแท้จริง ถึงจะนับว่าใกล้ชิดกันและกันอย่างแท้จริง หลังจากความเจริญรุ่งเรืองสิ้นสุดลง สิ่งที่เหลืออยู่ถึงจะเป็นความจริง ผิวน้ำค่อยๆ จมดิ่งลงและเหลือเพียงหินโผล่พ้นเท่านั้น
ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ท่านทำเพื่อข้า นางเอ่ยกล่าวถ้อยคำนี้ในใจ
แต่ทว่า ในตอนนี้เอง ภาพนี้ดูเหมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ไม่มีใครล่วงรู้แน่ชัดว่ามันเกิดขึ้นตรงไหน แต่ดูเหมือนว่ามีบางอย่างแตกต่างออกไป
อิงอิงจำได้ว่าก่อนหน้านี้ที่เธอเพิ่งเริ่มโดนสตรีนางนี้ยึดร่างก็เคยเห็นเหตุการณ์นี้มาก่อน โจวเจ๋อที่อยู่ด้านหน้าเคยพูดว่า นี่เป็นร่างที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า จริงๆ แล้ว อิงอิงจำได้ว่าตอนนั้นคนผู้นี้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ดูโกรธมาก โกรธเอามากๆ โกรธสุดๆ แค่นั้น!
จากนั้น หลังจากข่วนฝ่ามือของเธอ เขาก็ทะยานขึ้นไปหาพระพุทธเจ้าบนท้องฟ้าเพื่อท้าทาย เธอจำได้ว่าครั้งนั้นเธอไม่พอใจเขามากเหลือเกิน เขาอยากเล่นต่อก็ได้ แต่อย่าทรมานร่างกายเถ้าแก่ของเธอจนบุบสลาย!
ต่อมาเมื่อเถ้าแก่กลับถึงโรงแรมในช่วงค่ำร่างกายก็รู้สึกอ่อนแอ
แต่ทว่าในครั้งนี้ เขาในภาพความทรงจำเอ่ยปากพูดอีกครั้ง “นี่เป็นร่างที่ข้าเลือกให้เจ้า ข้าเปลี่ยนแปลงมันเพื่อเจ้าเรียบร้อยแล้ว”
ดูเหมือนว่าการปรากฏตัวของนางและการเข้ามาของนางทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ความรู้สึกนึกคิดบางอย่างในตอนแรกดูเหมือนถูกสะท้อนเข้ามา นี่เป็นคำบอกรักที่น่าฟังที่สุดในโลกสำหรับผู้หญิงคนนี้ ฟังสิ เขาคิดและทำเพื่อนาง ดูสิ เขากำลังเตรียมพร้อมอนาคตของเราอยู่ เขารู้ว่าข้ายังอยู่ เขารู้ว่าข้าจะตามหาเขา เขารู้ เขาก็กำลังรอข้าอยู่เช่นกัน เขารอข้ามาโดยตลอด
ตอนนี้
ข้ามาแล้ว
ข้ามาแล้ว
แต่ทว่า ในขณะนี้เอง โจวเจ๋อในภาพความทรงจำจู่ๆ ก็พูดขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค ประโยคนี้ทำให้แผ่นหลังอันงดงามชะงักกะทันหัน ราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวัน
“ใคร…ใช้…ให้…สุนัข…เฝ้า…บ้าน…ของ…ข้า…ชอบ…เจ้า……เล่า…”
ฉับพลันนั้น ดวงตาของอิงอิงเบิกกว้าง แผ่นหลังของหญิงสาวผู้นั้นกลับแข็งทื่ออย่างสิ้นเชิง ทันใดนั้นจู่ๆ หญิงสาวทั้งสองก็เข้าใจสิ่งหนึ่งทันที นั่นก็คือ
‘นี่เป็นร่างที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า’
‘นี่เป็นร่างที่ข้าเลือกให้เจ้า ข้าเปลี่ยนแปลงมันเพื่อเจ้าเรียบร้อยแล้ว’
คำว่าเจ้าในสองประโยคนี้
ไม่ใช่นาง
แต่เป็น
เขา…