ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 1482 แค่ต้องการให้ทุกคนมีชีวิตที่ดี

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1482 แค่ต้องการให้ทุกคนมีชีวิตที่ดี

กู้เสี่ยวอี้คุกเข่าลงอย่างเชื่อฟังโดยไม่มีการต่อต้านแม้แต่น้อย

“หลายปีมานี้ข้ามักจะบอกอะไรเจ้าบ้าง” กู้เสี่ยวหวานกอดอกยืนตรงและจ้องมองกู้เสี่ยวอี้ไม่วางตา นางทั้งโกรธ ทั้งกังวล ทั้งปวดใจ สับสนปนเปจนแทบทำให้เสียสติ

“ก่อนทำอะไรให้คิดว่าตัวเองทำได้ไหม แล้วค่อยคิดถึงครอบครัว”

“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการทำความดี แต่เจ้าเคยคิดถึงผลที่ตามมาบ้างหรือไม่?” กู้เสี่ยวหวานจ้องมองน้องสาวด้วยความโกรธ ความกังวลและความทุกข์ฉายชัดในดวงตาของนาง

“ถ้ามีคนตกน้ำและเจ้าต้องการช่วยเขา ถ้าเจ้ารู้วิธีว่ายน้ำมันก็ไม่ได้มีปัญหา แต่ถ้าเจ้าไม่รู้วิธีว่ายน้ำก็เพียงอาศัยหัวใจที่เมตตาของเจ้า หากเจ้าจะช่วยชีวิตผู้คน แต่เจ้าไม่รู้แม้วิธีว่ายน้ำ นั่นมันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเจ้า!” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยออกมาอย่างเกรี้ยวกราด นางโกรธจะทรุดลง น้ำตาไหลอาบใบหน้า ถ้าในเวลานั้นเสี่ยวอี้ถูกม้าเหยียบจริง ๆ กู้เสี่ยวหวานไม่อยากจะคิดถึงผลที่จะตามมาเลย

“ท่านพี่” กู้เสี่ยวอี้เห็นท่าทางเศร้าของกู้เสี่ยวหวานก็เริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “ท่านพี่ อย่าเศร้าไปเลย เสี่ยวอี้รู้ว่าเสี่ยวอี้ผิด”

“รู้ว่าผิดหรือ” กู้เสี่ยวหวานเช็ดน้ำตา “ถ้าชายคนนั้นช่วยเจ้าไว้ไม่ทัน ตอนนี้เจ้าคงนอนจมกองเลือดอยู่บนถนนไปแล้ว เจ้าอยากช่วยคน แต่เคยคิดถึงผลที่ตามมาบ้างหรือไม่ เจ้าตัวเล็กแบบนี้จะหยุดม้าตัวสูงนั่นได้อย่างไร เจ้าเคยคิดไหม ถ้าเจ้าตาย พี่สาวคนนี้ของเจ้าจะเป็นอย่างไร ท่านอาของเจ้าจะเป็นอย่างไร พี่ชายทั้งสองคนของเจ้าจะเป็นอย่างไร ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เจ้าอยากจะให้พวกเราตามเจ้าไปหรือไม่” กู้เสี่ยวหวานอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว

พวกนางเป็นพี่น้องกัน แต่สำหรับนาง เด็ก ๆ ทุกคนเปรียบเหมือนลูกของตนเอง นี่คือลูก ๆ ที่นางเลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออกเหมือนลูกสาว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเสี่ยวอี้จริง ๆ นางจะทำอย่างไร

นี่เป็นครั้งแรกที่กู้เสี่ยวหวานไม่สามารถควบคุมอะไรได้ดังปรารถนา ความสิ้นหวังในใจทำให้นางรู้สึกว่าทุกสิ่งว่างเปล่า

กู้เสี่ยวอี้ไม่คาดคิดว่าตนเองจะทำให้พี่สาวเศร้าขนาดนี้ ดังนั้นนางจึงรู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน

นางจ้องมองกู้เสี่ยวหวานด้วยสายตาเหม่อลอย แม้แต่น้ำตาก็ไม่มีให้ไหลและลืมที่จะโทษตัวเอง รู้เพียงว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนาง หญิงที่อยู่ตรงหน้านางคงจะทนต่อไปไม่ไหว

กู้เสี่ยวหวานคือท่านพี่ของนาง และนางก็นับถือกู้เสี่ยวหวานเหมือนแม่

กู้เสี่ยวอี้ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับท่านแม่ นางรู้เพียงว่าตั้งแต่นางจำความได้ ท่านพี่ของนางก็เป็นคนดูแล หาข้าวหาปลาให้นางกิน ค่อยเล่นเป็นเพื่อนนาง นอนเคียงข้างกันในตอนกลางคืน ท่านพี่ของนางทำทุกอย่างเหมือนที่แม่ทุกคนทำ

นางเป็นทั้งพี่สาวและแม่ของนาง

กู้เสี่ยวอี้ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวหรือพี่ชาย นางจะทำอย่างไร

จะทำอย่างไร…

กู้เสี่ยวอี้ตัวสั่นด้วยความกลัว ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นก้าวไปข้างหน้าและโผเข้ากอดกู้เสี่ยวหวานแน่น “ท่านพี่ ข้ารู้ว่าข้าผิด ข้ารู้ว่าข้าผิด ข้าจะไม่มีวันทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้อีกแล้ว ข้าจะไม่ทำอีก ท่านพี่อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้เลยนะ”

ปีนั้นท่านพี่นอนนิ่งอยู่บนพื้น ไม่ส่งเสียง ไม่ลืมตา และไม่ขยับเขยื้อน ความรู้สึกในตอนนั้น นางอยากตามพี่สาวไปแทบใจจะขาด

ท่านพี่เองก็คงจะรู้สึกเช่นนี้

ไม่…นางไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้น

นางอยากให้ท่านพี่สบายดี อยากให้ท่านพี่มีความสุขตลอดไป

“เสี่ยวอี้…” กู้เสี่ยวหวานกอดน้องสาวแน่น และน้ำตาอุ่นร้อนหยดลงบนคอของกู้เสี่ยวอี้ ทำให้นางรู้สึกถึงความหนักอึ้งและความสิ้นหวัง

“ท่านพี่ คราวหน้าข้าจะไม่ประมาทอีกแล้ว ข้าจะไม่ทำอีก ท่านต้องเชื่อใจข้า ข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว” กู้เสี่ยวอี้ยืนยันอีกครั้งอย่างหนักแน่น

ตอนนั้นนางยังพูดคุยหัวเราะกับท่านอาอย่างไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิด แต่เมื่อได้ยินคำพูดของพี่สาว มันก็ได้ทำให้นางรู้สึกตัว

“เสี่ยวอี้ การช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าทำถูกแล้ว แต่ข้าไม่เห็นด้วยกับการที่เจ้าเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง ไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่สามารถช่วยเขาได้ แต่เจ้ากำลังเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก เจ้าลองคิดดูว่าคุ้มหรือไม่ เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าชีวิตตัวเองก็มีค่า และจะทำให้ครอบครัวและคนที่รักเจ้าเสียใจไปด้วย”

กู้เสี่ยวหวานกอดกู้เสี่ยวอี้และพูดอย่างจริงจัง “ก่อนที่จะช่วยใครลองคิดดูก่อนว่าจะช่วยได้ไหม ถ้าทำได้ ข้าจะไม่ว่าอะไรเจ้าสักคำ แต่ถ้าทำไม่ได้ ข้าแค่อยากจะบอกว่าชีวิตของเจ้าก็สำคัญ หากเจ้าสูญเสียชีวิตไปก็จะไม่เหลืออะไรเลย”

“ข้ากลัวแทบตาย ข้าหวังเพียงให้พวกเจ้าแต่ละคนมีชีวิตที่ดี ไม่เช่นนั้นชีวิตของข้าในโลกนี้ก็คงไม่มีความหมายจริง ๆ” กู้เสี่ยวหวานสะอื้นและพูดว่า “เจ้าเข้าใจไหม เจ้า หนิงอัน หนิงผิง คือชีวิตของข้า ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะมีชีวิตที่ดี แม้ว่าจะแลกด้วยชีวิตของข้า ข้าก็ยอม”

“ท่านพี่” กู้เสี่ยวอี้ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “ท่านพี่ ในอนาคตข้าจะไม่ประมาทอีกและข้าจะไม่ทำให้ท่านพี่กังวลอีกต่อไป เสี่ยวอี้จะเชื่อฟังและไม่ทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ มันจะไม่เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน”

กู้เสี่ยวอี้หวาดกลัวจริง ๆ เมื่อมองเห็นท่าทางเสียใจของท่านพี่ นางนึกไม่ออกว่าท่านพี่จะเป็นอย่างไรหากมีอะไรเกิดขึ้นกับนาง

นางจะทำให้ท่านพี่ของนางเสียใจไม่ได้… ทำไม่ได้

เมื่อเห็นว่าทั้งสองได้ทำข้อตกลงกัน ถานอวี้ซูก็รีบเข้าไปปลอบทั้งสองคน “เอาล่ะ ท่านพี่ เสี่ยวอี้ หยุดร้องไห้แล้วเช็ดน้ำตาเสีย ท่านพี่ เสี่ยวอี้รู้ตัวว่าผิด ครั้งหน้านางจะไม่ทำอีกแล้ว ท่านอย่าร้องไห้เลย เสี่ยวอี้ เจ้าก็อย่าร้องไห้ คราวหน้าอย่าทำอะไรที่เป็นอันตรายกับตัวเองอีก”

กู้เสี่ยวหวานเช็ดน้ำตา และกู้เสี่ยวอี้ก็พยักหน้า “ข้ารู้ ข้าจะไม่ทำอีก”

หลังจากสั่งให้อาจั่วนำน้ำมาให้ สองพี่น้องก็ล้างหน้าจนสะอาด จากนั้นอาจั่วก็นำรังนกและขนมมาให้พวกนาง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท