บทที่ 1423 เฉียนเหมยผู้แข็งแกร่ง

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,423 เฉียนเหมยผู้แข็งแกร่ง

บุรุษหนุ่มแขนด้วนเร่งความเร็วของตนเองพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่รอรี

แต่ลำแสงสีทองคำนั้นสาดเข้ามารวดเร็วมากเกินไป

มันครอบคลุมพื้นที่ทางด้านหลังหลายสิบลี้

“จะหนีไม่ทันแล้ว”

ฮั่วเฟยฮัวรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าสถานการณ์เลวร้ายลง หัวใจของนางเริ่มเกิดความวิตกกังวล

แต่ทันใดนั้น…

พรึ่บ!

แขนเสื้อโบกสะบัด

ลำแสงกระบี่พุ่งออกไป

ฮั่วเฟยฮัวเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อเมื่อเห็นว่าลำแสงทองคำที่พุ่งไล่หลังมานั้นถูกผ่าแยกออกจากกันกลางอากาศ

และบุรุษหนุ่มแขนด้วนก็พานางหลบหนีต่อไปด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า นี่คือความเร็วที่ไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า เพียงพริบตาเดียว บุรุษหนุ่มแขนด้วนกับฮั่วเฟยฮัวก็หลบหนีออกไปได้ไกลแล้ว

“หืม? คิดว่าจะหนีข้าพ้นอย่างนั้นหรือ? ไม่มีทางเสียหรอก!”

เสียงที่ดังขึ้นจากในจวนผู้ว่าดังกังวานทั่วแผ่นฟ้าอีกครั้ง

ลำแสงทองคำที่ถูกผ่าแยกไปพลันพุ่งไล่ตามหลังพวกของฮั่วเฟยฮัวมาอย่างไม่ลดละ

ด้านในจวนผู้ว่า

สถานการณ์กำลังปั่นป่วน

“เร็วเข้า รีบตามจับพวกนางมาให้ได้”

ซื่อจวินผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าอมนุษย์ผมขาวเกราะเหล็กชักสีหน้าด้วยความโกรธแค้นพลางออกคำสั่งกับลูกสมุนของตนเองให้ไล่ตามจับตัวลูกศิษย์ทั้งสองของฮั่วเฟยฮัวที่หลบหนีไปกลับมาให้ได้

พวกมันค้นพบการหลบหนีของฮั่วเฟยฮัวเรียบร้อยแล้ว

ศิษย์สาวทั้งสองของนางพยายามอาศัยจังหวะนี้ดึงดูดความสนใจของพวกมันให้ได้นานมากที่สุด

แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามคาด

ในไม่ช้า พวกนางก็ถูกปิดล้อมอยู่กลางลานกว้าง

“จับตัวพวกนางไว้ ข้าจะฆ่าพวกนางด้วยตนเอง…” ซื่อจวินหัวเราะเยาะ ดวงตาเป็นประกายอำมหิต

หญิงสาวทั้งสองคนมีสีหน้าเกลียดชัง

แต่ไม่มีความหวาดกลัว

เมื่อมองเห็นบรรดาอมนุษย์ผมขาวเกราะเหล็กโอบล้อมเข้ามา ศิษย์สาวทั้งสองก็รู้ว่าวันนี้ตนเองคงไม่รอดอีกแล้ว แต่พวกนางก็ยังดีใจที่ท่านเจ้าสำนักถูกช่วยออกไปได้สำเร็จ แม้ว่าตนเองจะต้องเสียชีวิตก็ตาม

กลิ่นหอมตลบฟุ้งออกมาจากร่างกายของพวกนาง

สตรีทั้งสองหันมองหน้ากัน พวกนางสบตามองหน้ากันอย่างไม่เกรงกลัวความตาย ก่อนที่จะพยักหน้าโดยไม่พูดคำใดและระเบิดพลังลมปราณพุ่งเข้าไปหาซื่อจวิน

พวกนางยินดีตกตายไปพร้อมกัน

นี่คือพลังลมปราณเฮือกสุดท้ายในชีวิตของทั้งสอง

ซื่อจวินหัวเราะเยาะ

“ช่างโง่เขลาเหลือเกิน”

มันยืนอยู่กับที่ รอยยิ้มเหยียดหยามปรากฏบนใบหน้าพลางยกมือขึ้นดีดนิ้ว

เพล้ง! เพล้ง!

เสียงอะไรบางอย่างแตกหักดังขึ้น

ปรากฏว่ากระบี่ในมือของหญิงสาวทั้งสองระเบิดกระจายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยปลิวว่อนในอากาศ

หญิงสาวทั้งสองถูกเศษกระบี่ของตนเองปักตามร่างกายจำนวนมาก ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในเวลาเดียวกันนี้…

“ด้วยพลังแห่งตะวันและจันทรา ดวงดาราสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว!” พลัน เสียงคำรามดังขึ้นทั่วแผ่นฟ้า

แล้วร่างเพรียวบางในชุดสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าสตรีทั้งสองอย่างไม่มีสัญญาณเตือน

เศษกระบี่ที่กระจายอยู่รอบบริเวณลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง

ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!

นั่นคือเสียงเศษกระบี่ทะลุเนื้อหนัง

ตัวประหลาดขนขาวที่ยืนอารักขาซื่อจวินเป็นจำนวนทั้งสิ้นสิบสองตัว บัดนี้ศีรษะกระจายเป็นม่านหมอกเลือด ล้มลงสิ้นใจตายบนพื้นดินเกลื่อนกลาด

ซื่อจวินยืนตัวแข็งทื่อ ราวกับว่ามีคมเคียวมัจจุราชกำลังทาบอยู่บนลำคอของมัน

ขณะนี้

มันเห็นแล้วว่าร่างในชุดสีขาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าศิษย์ทั้งสองของฮั่วเฟยฮัวก็เป็นสตรีเช่นกัน

และเป็นสตรีที่มีหน้าตางดงาม

แม้นางจะสวมใส่เสื้อผ้าบุรุษ แต่เสน่ห์อันเย้ายวนใจของความเป็นสตรีก็ยังเปิดเผยออกมาผ่านเอวที่คอดกิ่วและขาที่เรียวยาว ลำคอระหง ผมสีดำยาวสลวย ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ ใบหน้าที่ไม่ว่าจะแสดงออกด้วยความโกรธแค้นหรือมีความสุขต่างก็มีความงดงามอย่างสมบูรณ์แบบ…

นี่คือความงดงามที่ทำให้ผู้คนแทบหัวใจวายตาย

แต่บัดนี้ ซื่อจวินไม่มีจิตใจคิดชื่นชมความงามอีกแล้ว

“หมัดหิรัญหลินเฉียนเหมย!”

มันอุทานชื่อนั้นออกมาราวกับกำลังฝันไป

นี่คือยอดฝีมือจากกลุ่มสัมพันธมิตร

เป็นอดีตผู้ติดตามคนสนิทของเซียนกระบี่หนุ่ม

มีข่าวลือว่าเด็กสาวผู้นี้ได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาจากหลินเป่ยเฉิน นางจึงมีพละกำลังมหาศาล ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถสร้างชื่อเสียงยิ่งใหญ่เกรียงไกร บัดนี้ หลินเฉียนเหมยเป็นหนึ่งในผู้มีพลังขั้นเซียนที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิเป่ยไห่

อย่างน้อย ซื่อจวินก็มั่นใจว่าตนเองคงไม่สามารถสู้กับนางได้แน่นอน

บัดซบ

ขณะนี้ มันรู้แล้วว่าตนเองหลงกลฝ่ายตรงข้ามเข้าอย่างจัง

การที่หัวหน้านักบวชแห่งวิหารเทพตะวันไล่ตามฮั่วเฟยฮัวไปนั้นคือแผนล่อเสือออกจากถ้ำ เพราะหมัดหิรัญหลินเฉียนเหมยใช้โอกาสนี้บุกเข้ามาช่วยเหลือผู้คนแล้ว

นี่คือแผนการของกลุ่มสัมพันธมิตร

เมื่อคิดได้ดังนี้ ซื่อจวินก็ก้าวถอยหลังออกมาทันที

“ตายซะเถอะ”

เสียงที่เย็นชาปานน้ำแข็งดังขึ้นจากด้านหลัง

ทันใดนั้น มือที่เรียวยาวขาวผ่องก็แทงทะลุหัวใจของซื่อจวิน

ฟู่!

โลหิตสาดกระจายออกจากหน้าอก

ซื่อจวินรู้สึกเพียงแต่ว่าพลังในร่างกายหายไปราวกับลูกโป่งที่ถูกปล่อยลม มันไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะหลบหนี เมื่อก้มมองหน้าอกตรงส่วนที่ควรจะเป็นหัวใจ มันกลับเห็นเพียงรูโบ๋ที่สามารถมองเห็นอวัยวะภายในอื่น ๆ ของร่างกายได้อย่างชัดเจน…

“เหตุไฉน… จึงได้… แข็งแกร่ง… ถึงเพียงนี้?”

มันร้องโหยหวนออกมาจากลำคอ

ต้องทราบก่อนว่าซื่อจวินมีพลังเทียบเท่ากับขั้นเซียนระดับเจ็ด

“จวินน้อย…”

เสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกดังขึ้นจากที่ไม่ใกล้ไม่ไกล

ซื่อจวินยิ้มออกมาอย่างมีความหวังและส่งเสียงตะโกนเรียก “ท่านพ่อ ช่วยลูกด้วย…”

พลัน ร่างกำยำใหญ่ยักษ์พุ่งตัวเข้ามาเป็นลำแสงสีทองคำ

ขนสีขาวที่ปกคลุมทั่วร่างกายดกหนายาวสลวยบอกชัดว่าตัวประหลาดตัวนี้มีสถานะเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสคนสำคัญของเผ่าอมนุษย์ผมขาวเกราะเหล็ก

ม่านพลังทองคำที่ห่อหุ้มร่างกายเป็นพลังเวทมนตร์ที่ได้รับการประทานพรจากเทพเจ้า

มีพลังทัดเทียมฟ้าดิน

“แย่แล้ว… พวกเรารีบหนีกันเถอะเจ้าค่ะ”

ศิษย์สาวของฮั่วเฟยฮัวมีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที นางรีบร้องเตือนผู้ที่มาช่วยเหลือตนเอง

หลังจากที่เผ่าตัวประหลาดขนขาวถวายตัวรับใช้วิหารเทพตะวัน ผู้อาวุโสของพวกมันก็ได้รับมอบพลังเวทมนตร์ ส่งผลให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นทวีคูณ

พวกนางไม่รู้จักตัวตนของเฉียนเหมย

รู้เพียงแต่ว่าหญิงสาวมาเพื่อช่วยเหลือพวกของตนเอง

แม้มีพลังแข็งแกร่งก็จริง

แต่หากเผชิญหน้ากับผู้ที่ได้รับมอบพลังจากเทพเจ้า นี่ก็คือสิ่งที่ไม่มีมนุษย์ผู้ใดจะสามารถรับมือได้อีกแล้ว

แต่ใบหน้าของเฉียนเหมยกลับแสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด นางพับแขนเสื้ออย่างกล้าหาญไม่กลัวตาย เผยให้เห็นท่อนแขนที่ขาวเนียนไร้ตำหนิ

พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!

เงาร่างบอบบางพุ่งเข้าไปหาร่างใหญ่ยักษ์ของตัวประหลาด

เพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น กำปั้นของหญิงสาวก็รัวเข้าใส่ม่านพลังที่ห่อหุ้มร่างกายของตัวประหลาดร่างใหญ่เป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน

นี่คือการโจมตีที่หนักหน่วงรุนแรง

เศษเลือด เศษเนื้อและเศษกระดูกล้วนกระจัดกระจาย

พลังพิเศษที่ได้รับการประทานพรมาจากเทพเจ้าไม่สามารถรับการโจมตีจากหมัดของเฉียนเหมยได้เลย

กำปั้นของนางเป็นลำแสงสีเงิน

ซื่อจวินที่เมื่อสักครู่นี้ยิ้มออกมาด้วยความดีใจพลันกลับมามีสีหน้าที่หมดหวังอีกครั้ง

ความคิดที่ไม่น่าเป็นไปได้ปรากฏขึ้นในหัวใจ ‘หรือว่าหมัดหิรัญหลินเฉียนเหมยจะได้รับการประทานพรจากเทพเจ้าเช่นกัน?’

มีแต่เพียงผู้ที่ได้รับการประทานพรจากเทพเจ้าด้วยกันเท่านั้นจึงจะสามารถทำลายพลังจากเทพเจ้าได้เช่นนี้

และรัศมีสีเงินที่เปล่งประกายออกมาจากกำปั้นของหญิงสาวก็ดูเหมือนมีพลังเวทมนตร์จริง ๆ

แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

คนของกลุ่มสัมพันธมิตรก็ได้รับการประทานพรจากเทพเจ้าเช่นกันหรือ?

ในลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ซื่อจวินตระหนักชัดว่าเผ่าพันธุ์ของมันเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่เข้าให้แล้ว

หรือว่าการที่พวกมันเลือกรับใช้วิหารเทพตะวันจะกลายเป็นการ ‘หนีเสือปะจระเข้’?

ซื่อจวินกลัวว่าความเลวร้ายเกินจินตนาการจะตามมาอีกหลังจากนี้

โผละ!

หมัดสีเงินระเบิดแสงเจิดจ้า

ร่างของซื่อจวินแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี

เฉียนเหมยสะบัดมือของตนเองและหันกลับมาจ้องมองสองศิษย์สาวของสำนักคฤหาสน์กำยานที่ยืนตกตะลึงอยู่ด้านหลัง ก่อนยิ้มแย้มอย่างสดใสและกล่าวว่า “ไม่ต้องกลัว ข้ามาช่วยพวกเจ้า… ครั้งนี้ไม่ได้แค่มาช่วยคนเท่านั้น แต่ข้ามาเพื่อล้างแค้นให้แก่พวกเจ้า ข้าจะทำให้พวกตัวประหลาดขนขาวเหล่านี้ต้องหลั่งเลือดกลายเป็นสายน้ำ และพวกเราจะประกาศให้วิหารเทพพงไพรได้รู้ว่ากลุ่มสัมพันธมิตรกำลังจะโต้กลับแล้ว!”

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

Status: Ongoing

หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท