บทที่ 1425 ท่านผู้เฒ่าหวังจง

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,425 ท่านผู้เฒ่าหวังจง

เป็นเซียวปิง

เด็กหนุ่มนักกินผู้ติดตามหลินเป่ยเฉิน

ในงานประลองกระบี่ที่เมืองไป๋หยุน เด็กหนุ่มร่างอ้วนผู้นี้เคยแสดงความแข็งแกร่งออกมาให้ทุกคนได้ประจักษ์กันอย่างกว้างขวาง

เขาสร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนจำนวนมาก

แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงมนุษย์ผู้หนึ่ง

แล้วเขาจะสามารถกระโดดขึ้นไปต้านทานฝ่ามือเทพเจ้าได้อย่างไร?

เซียวปิงรู้หรือไม่ว่าตนเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้ใด?

คำถามมากมายปรากฏขึ้นในหัวของฮั่วเฟยฮัวและนั่นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่การต่อสู้บนท้องฟ้าจบลง

เสียงระเบิดดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว

แสงสีทองคำสาดกระจายไปรอบทิศทาง

ฝ่ามือยักษ์แตกสลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย

สวนทางกับร่างกายของเซียวปิงที่พุ่งทะลวงฝ่ามือเทพเจ้าขึ้นไปได้อย่างแข็งแกร่ง มวลอากาศปั่นป่วน แต่เด็กหนุ่มกลับไม่สะทกสะท้านสักนิดเดียว

“แข็งแกร่งเหลือเกิน”

ฮั่วเฟยฮัวอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

เซียวปิงเองก็ได้รับพลังจากเทพเจ้าเช่นกันหรือ?

ตู้ม!

คลื่นแรงระเบิดแผ่ออกมาอย่างรุนแรง

ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยเศษพลังสีทองคำกระจัดกระจาย

เสื้อผ้าบนลำตัวของเด็กหนุ่มร่างอ้วนฉีกขาดแทบหมดสิ้น หลงเหลือเพียงกางเกงชั้นในสีแดงที่ปิดจุดสงวนอยู่บนท้องฟ้า เศษผ้าโปรยปรายลงมาราวกับสายฝน

“มนุษย์ผู้ต่ำต้อย เจ้ากล้าดีอย่างไรคิดขัดขืนเทพเจ้า คงอยากตายแล้วสินะ”

เสียงของหัวหน้านักบวชแห่งวิหารเทพตะวันดังกังวานรอบทิศทางด้วยความโกรธแค้น

ทันใดนั้น เศษพลังทองคำที่กระจายอยู่ในอากาศก็รวมตัวกันกลายเป็นหอกทองคำเล่มหนึ่ง เช่นเดียวกับร่างของบุรุษหนุ่มรูปงามผู้มีผมสีทองคำก็ปรากฏกายขึ้น

บุรุษหนุ่มผมทองคำถือหอกทองคำเล่มนั้นอยู่ในมือ

เส้นผมสีทองคำปลิวไสวในอากาศ

วูบ!

เขาขว้างหอกทองคำพุ่งตรงมาที่เซียวปิงซึ่งกำลังทิ้งตัวกลับลงสู่พื้นดิน

เมื่อเห็นเช่นนี้ ฮั่วเฟยฮัวก็อดรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาไม่ได้

แน่นอนว่าเซียวปิงเพียงลำพังไม่สามารถเป็นคู่ต่อกรของเทพเจ้าเด็ดขาด

หัวหน้านักบวชแห่งวิหารเทพตะวันผู้นี้แตกต่างจากคนอื่น ๆ ก็ตรงที่เขาเป็นเทพเจ้าตัวจริงเสียงจริงจากดินแดนทวยเทพ

นับตั้งแต่ที่บนท้องฟ้าปรากฏหลุมดำประหลาด เทพเจ้าและอสูรจำนวนมากก็เดินทางมาสู่โลกมนุษย์อย่างไม่กลัวเกรงสิ่งใด เพราะฉะนั้น พลังของพวกมันจึงเหนือล้ำกว่าผู้คนธรรมดาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า

ฮั่วเฟยฮัวหันมามองที่บุรุษหนุ่มแขนด้วนผู้ยืนอยู่ข้างกายโดยไม่รู้ตัว

แต่เขากลับไม่คิดลงมือช่วยเหลือ

จังหวะที่หอกทองคำกำลังจะแทงทะลุใส่กางเกงชั้นในสีแดงสดของเด็กหนุ่มร่างอ้วนผิวขาวนั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิดขึ้น

ลำแสงรูปทรงกำปั้นพุ่งทะยานเข้ามาจากที่ห่างไกลปะทะเข้ากับหอกทองคำเล่มนั้น

เคร้ง!

เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้น

หอกทองคำแหลกสลายเป็นผุยผงในพริบตา

ในเวลาเดียวกันนี้ ลำแสงสีเงินได้ปรากฏขึ้นด้านหลังหัวหน้านักบวชแห่งวิหารเทพตะวัน

นี่คือการลอบโจมตีที่เงียบงันแต่ทรงประสิทธิภาพ

ครืน!

ลำแสงและเปลวไฟลุกโชนขึ้นในอากาศ

ท้องฟ้าระเบิดเสียงคำราม สายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมานับครั้งไม่ถ้วน เปลวไฟลุกโชนเผาไหม้ร่างกายของหัวหน้านักบวชนั้น

“อ๊าก…”

หัวหน้านักบวชแห่งวิหารเทพตะวันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ยิ่งเขาร้องโหยหวนมากเท่าไหร่ สายฟ้าก็ยิ่งฟาดเปรี้ยงลงมามากเท่านั้น

ฮั่วเฟยฮัวเบิกตาโต

ด้านหลังรัศมีสายฟ้าและเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่ในอากาศ นางมองเห็นเงาร่างที่อ้วนพีของหนูยักษ์ขนเงินตัวหนึ่ง

มันคือหนูอสูรที่มีร่างกายขนาดเกือบเท่ากับผู้คน ตลอดตั้งแต่หัวจรดเท้าปกคลุมด้วยขนสีเงินยาวสลวย มันระเบิดพลังออกมาจากร่างกายอย่างแรงกล้า เป็นผู้ควบคุมสายฟ้าและเปลวไฟอย่างชำนาญ

นี่คืออากวง

สัตว์เลี้ยงแสนรักของเซียนกระบี่หลินเป่ยเฉิน

อดีตราชันย์หนูอสูรหางกุด ผู้ชมชอบการสูบบุหรี่ ดื่มสุราและต่อยตีทะเลาะวิวาท

นี่ก็เป็นพลังที่ได้รับจากเทพเจ้าเช่นกันใช่หรือไม่?

เหตุไฉนผู้คนรอบตัวของหลินเป่ยเฉินอยู่ดี ๆ จึงได้มีความแข็งแกร่งขนาดนี้

จังหวะนั้น…

ครืน!

พื้นดินเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง

เซียวปิงทิ้งตัวกลับลงมายืนอยู่บนพื้นดิน ร่างของเขากระแทกลงไปอย่างรุนแรง ทำให้เกิดหลุมรูปทรงมนุษย์ ก่อนที่ตัวเขาจะดีดกายลอยขึ้นไปในอากาศและร่วมวงต่อสู้ด้วยความดุเดือดอีกครั้ง

หนึ่งมนุษย์ หนึ่งหนูยักษ์ต่อสู้กับหัวหน้านักบวชแห่งวิหารเทพตะวัน

ในระยะเวลาเพียงพริบตาเดียว การต่อสู้ก็ผ่านพ้นไปหลายสิบกระบวนท่า

มองไม่ออกว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ

โครม!

อากวงกระเด็นกลับออกมากระแทกยอดเขาเสียงดังสนั่น

ตัวของมันจมหายเข้าไปในเนื้อหิน ไม่ต่างจากหยดน้ำที่ไหลลงสู่ทะเลทราย

แต่หลังจากนั้น หัวของมันก็ยื่นออกมาจากอีกส่วนหนึ่งของหน้าผาหินพร้อมกับส่งเสียงหอบหายใจ “จี๊ด จี๊ด…”

วูบ!

เจ้าหนูยักษ์ปรากฏตัวออกมาจากในเนื้อหินอีกครั้ง

ป๊อก!

เสียงฝาจุกขวดถูกเปิดออก

และอากวงก็ยกขวดแก้วหน้าตาประหลาดขึ้นดื่มรวดเดียวหมด กลิ่นสุราลอยออกมาจากขวดแก้วนั้นหอมหวน

หลังจากนั้น มันก็มีสีหน้าดุร้าย แผดเสียงคำรามในลำคอ ความกล้าหาญกลับคืนมาจากฤทธิ์สุรา

การต่อสู้บนท้องฟ้าดำเนินต่อไป

“เจ้าพวกนี้ดีแต่ใช้กำลัง ไม่เคยใช้สมองกันเลยจริง ๆ แต่พวกท่านก็คงปฏิเสธความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ได้แล้วกระมัง?”

ทันใดนั้น เสียงของใครบางคนดังขึ้นด้านหลังฮั่วเฟยฮัวอย่างไม่มีสัญญาณเตือน

ฮั่วเฟยฮัวหัวใจกระตุกวูบ มีคนเข้ามายืนประชิดนางถึงขนาดนี้ แต่นางกลับไม่รู้ตัวเลย

เมื่อฮั่วเฟยฮัวหันไปมอง นางก็พบเข้ากับชายชราผู้มีเคราแพะสามแฉก สวมใส่ชุดเสื้อคลุมสีเขียว ยืนเอามือไขว้หลังเงยหน้าขึ้นสี่สิบห้าองศา ลักษณะมีสง่าราศีเป็นอย่างยิ่ง

“ย่อมปฏิเสธไม่ได้แล้ว”

ฮั่วเฟยฮัวรู้สึกพิศวงที่ไม่เห็นบุรุษหนุ่มแขนด้วนข้างกายจะตอบรับคำใด แต่นั่นก็ทำให้นางทราบแล้วว่าชายชราผู้นี้เป็นมิตรไม่ใช่ศัตรู เพราะฉะนั้น หญิงสาวจึงรับคำออกไปโดยไม่รู้ตัว

ชายชราเคราแพะมีดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ “เด็กหนุ่มและหนูอสูรคู่นี้สามารถต่อกรกับเทพเจ้าได้อย่างสูสี แต่จะมีผู้ใดรู้บ้างว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เรื่องขนาดไหน หากไม่ใช่เพราะว่าได้ผู้ชี้แนะที่ดี ผู้คนก็คงไม่มีทางได้ค้นพบพยัคฆ์มังกรซ่อนเร้นเช่นนี้แน่ ๆ”

ฮั่วเฟยฮัวพลันนึกถึงชื่อของหลินเป่ยเฉินขึ้นมาในทันใด

นางพยักหน้าตอบรับกลับไปว่า “ถูกแล้ว เซียนกระบี่หลินเป่ยเฉินสมควรได้รับการสรรเสริญยิ่งนัก”

ชายชราเคราแพะหยุดชะงัก กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกเล็กน้อย “แต่ท่านคงยังไม่ทราบ… ยังคงมีบุคคลอีกผู้หนึ่งที่หลินเป่ยเฉินให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างสูง และถึงกับยกย่องให้คนผู้นั้นเป็นท่านผู้เฒ่าประจำตัว”

ฮั่วเฟยฮัวตกตะลึงไปทันทีเมื่อได้ยินคำนี้

นางสงสัยมาตลอดว่าใครกันนะที่เป็นคนฝึกฝนหลินเป่ยเฉินให้แข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์

ใช่ชายชราที่ยืนอยู่เบื้องหน้านางผู้นี้หรือไม่?

เขาก็เป็นเซียนกระบี่เหมือนกันหรือ?

หัวใจหญิงสาวกระตุกวูบ ฮั่วเฟยฮัวนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงถามว่า “ท่านผู้เฒ่าคงกำลังหมายถึงอาจารย์ของหลินเป่ยเฉิน เซียนกระบี่ติงเล่ยแห่งเมืองไป๋หยุนใช่หรือไม่?”

ชายชรายิ้มเล็กน้อย ยกมือลูบเคราแพะของตนเอง ก่อนตอบว่า “ข้ากำลังพูดถึงตนเองต่างหาก ครั้งหนึ่งหลินเป่ยเฉินเคยมาร้องขอเป็นลูกศิษย์ของข้าเชียวนะ… ฮ่า ๆๆ เพียงแต่ว่าหลินเป่ยเฉินโง่เขลามากเกินไป ไม่คู่ควรที่จะเป็นทายาทของเราผู้เฒ่าหรอก”

ฮั่วเฟยฮัวสูดหายใจลึก

หมายความว่าอย่างไรกัน?

ชายชราผู้ยืนอยู่เบื้องหน้านางคนนี้เป็นเทพเจ้าจริง ๆ หรือ?

หญิงสาวผู้เป็นเจ้าสำนักคฤหาสน์กำยานรู้สึกเคารพเลื่อมใสขึ้นมาในฉับพลัน ก่อนพูดว่า “ไม่ทราบผู้ต่ำต้อยขอเรียนถามนามอันสูงส่งของผู้อาวุโสได้หรือไม่?”

“หึหึ ชื่อของข้านั้นจำง่ายมาก”

ชายชราเคราแพะพูดแผ่วเบา “จงเรียกข้าว่าท่านผู้เฒ่าหวังจง”

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

Status: Ongoing

หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท