ตอนที่ 1,428 อยู่นอกเหนือความเข้าใจ
นี่คือสิ่งที่ทุกคนคิดไม่ถึง
ฮั่วเฟยฮัวพูดอะไรไม่ออก
เซียวปิงพูดอะไรไม่ออก
บุรุษหนุ่มแขนด้วนพูดอะไรไม่ออก
อากวงส่งเสียงไม่ออก
ติงซานฉือค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาชำเลืองมอง เมื่อพบเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นใด เขาก็รีบปิดตาแกล้งตายต่อไปทันที
แม้แต่เทพเจ้าระดับสูงจากเผ่าเทพตะวันก็พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน
นี่หมายความว่าอย่างไร?
คุกเข่าขอความเมตตาอย่างนั้นหรือ?
เมื่อสักครู่นี้ ชายชรายังพูดจาอวดดี ไม่มีท่าทีว่าจะเกรงกลัวผู้ใด
คิดไม่ถึงเลยว่า…
“ยอมแพ้แล้วหรือ?”
เสียงของเทพเจ้าระดับสูงหัวเราะเยาะดังกังวานทั่วแผ่นฟ้า “แต่ถึงยอมแพ้เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี ผู้ที่คิดต่อต้านเทพเจ้า…”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
อีกเสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมาว่า
“ตาเฒ่าบัดซบ เจ้าจะคุกเข่าทำไม?”
เสียงที่ก้องกังวานอยู่ในหูของทุกคนบอกชัดถึงความประหลาดใจและเดือดดาลใจ “เจ้าทำให้ข้าขายหน้านัก…”
เสียงนี้ฟังดูเหมือนไม่ดัง แต่กลับสามารถกลบเสียงของเทพเจ้าระดับสูงได้ทั้งหมด
ทุกคนตกตะลึง
ทันใดนั้น…
ครืน!
ท้องฟ้าสั่นสะเทือนด้วยมวลพลังมหาศาล
ม่านพลังทองคำที่ปิดล้อมทุกด้านก็สลายลงไป
ทางฝั่งทิศตะวันตก รถม้าทองคำคันใหญ่พุ่งผ่านท้องฟ้าเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง วงล้อทองคำหมุนวนด้วยความรวดเร็วตามการฉุดลากของสัตว์อสูรหน้าตาประหลาด
เมื่อรถม้าเคลื่อนที่มาข้างหน้า มันก็ทำให้ก้อนเมฆแหวกเป็นทางตามหลัง…
นี่คือการปรากฏตัวเสมือนเครื่องบินรบ
ผู้ที่อยู่ในรถม้าเป็นผู้ใด?
ทันใดนั้น ไม่ใช่แค่พวกของฮั่วเฟยฮัวเท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่ฝ่ายของเผ่าเทพตะวันก็ตกตะลึงเช่นกัน
หวังจงเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว
หลังจากนั้น…
พลั่ก!
ชายชราถูกเตะก้นเข้าอย่างแรง
หวังจงรีบโขกศีรษะกับพื้นดินและพูดละล่ำละลักว่า “ฮื่อ… นายน้อย นายน้อยกลับมาแล้วใช่หรือไม่?”
เขารู้ได้โดยทันที
นี่คือเสียงของหลินเป่ยเฉิน
พวกของฮั่วเฟยฮัวรู้สึกเหมือนมีมวลบุปผาบานสะพรั่งอยู่เบื้องหน้า และเด็กหนุ่มผู้มีหน้าตาหล่อเหลาในชุดเสื้อคลุมสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้
ชุดขาวราวกับหิมะ เส้นผมสีดำปลิวไสว
ลักษณะองอาจผ่าเผย
หากไม่ใช่หลินเป่ยเฉินแล้วจะเป็นผู้ใดได้อีก?
เขามาแล้ว เขามาแล้ว
หัวใจของฮั่วเฟยฮัวเต้นรัวเร็ว
หนึ่งในผู้นำสูงสุดของกลุ่มสัมพันธมิตร มนุษย์ผู้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าเทพเจ้าแห่งแผ่นดินตงเต้า ในที่สุดเขาก็มาแล้ว
แต่ว่า… ขนาดอาจารย์ของเขายังต้องพ่ายแพ้ แล้วหลินเป่ยเฉินจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้หรือไม่?
“จี๊ด”
อากวงสลัดหลุดออกจากความตกตะลึง รีบกระโดดเข้าไปกอดขาหลินเป่ยเฉินแนบแน่น พร้อมกันนั้นก็เอาหัวของมันถูไถต้นขาของเขาราวกับต้องการจะบอกว่า “นายท่าน ข้าน้อยคิดถึงนายท่านเหลือเกิน”
ครืด ครืด
หลังจากนั้น เจ้าหนูยักษ์ก็นำกระดานชนวนออกมาขีดเขียนเป็นข้อความว่า ‘นายท่านมาช่วยชีวิตพวกเราแล้วสินะขอรับ’
บัดนี้ มันสามารถเขียนตัวอักษรได้อย่างคล่องแคล่วและสวยงาม
“พี่ใหญ่ ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?”
เซียวปิงตื่นเต้นไม่แพ้กัน ไม่ทราบเลยว่าน่องไก่หลุดออกจากปากไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขารีบวิ่งเข้ามาประชิดตัวพี่ชายร่วมสาบาน กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจไม่ต่างจากเด็กอนุบาลได้เจอบิดามารดา ก่อนที่เด็กหนุ่มร่างอ้วนจะยกมือชี้รอยช้ำบนใบหน้าของตนเอง “พี่ใหญ่ ข้าถูกรังแก ท่านต้องช่วยแก้แค้นให้ข้า”
หลินเป่ยเฉินพูดอะไรไม่ออก
แต่ในหัวใจรู้สึกอบอุ่น
มารดาของเขาตายแล้ว บิดาและพี่สาวหายสาบสูญ… แต่หลินเป่ยเฉินยังคงมีมิตรสหายเหล่านี้
หลินเป่ยเฉินยิ้มออกมา
รถม้าทองคำเคลื่อนผ่านกลุ่มก้อนเมฆมาลอยตัวอยู่เหนือยอดเขา
ผู้คนนับสิบปรากฏตัวออกมาจากห้องโดยสารรถม้า
นอกจากบุรุษแปลกหน้าเพียงคนเดียวแล้ว ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ล้วนเป็นสตรี ชุดเสื้อคลุมที่พวกนางสวมใส่คือเครื่องแบบของสำนักคฤหาสน์กำยาน และสารถีสาวสองคนผู้ควบคุมรถม้านั้นก็มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาให้ชวนมองแตกต่างกัน คนหนึ่งมีลักษณะเย้ายวนใจ อีกคนมีลักษณะดื้อรั้น…
ล้วนแต่เป็นใบหน้าที่คุ้นเคย
“นั่นมัน… ผู้อาวุโสเหยียนกับศิษย์สำนักคฤหาสน์กำยานไม่ใช่หรือ?”
ฮั่วเฟยฮัวร่างกายสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น
กลุ่มของเหยียนหรู่อี้เป็นเพียงพวกเดียวเท่านั้นที่สามารถหลบหนีออกไปได้สำเร็จในวันที่เกิดการบุกถล่มสำนักคฤหาสน์กำยาน
ฮั่วเฟยฮัวเป็นห่วงพวกนางทุกคืนทุกวัน
เมื่อเห็นว่าพวกนางยังคงมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย หยดน้ำตาใส ๆ ก็ไหลออกมาจากหางตา
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังออกมาจากดวงตะวันทองคำบนท้องฟ้า “เจ้าคือเซียนกระบี่หลินเป่ยเฉินสินะ? มาเลย วันนี้แหละ ข้าจะกวาดล้างกลุ่มสัมพันธมิตรให้หมดสิ้น… หอกแสงตะวัน จงตายซะ”
พลัน หอกทองคำเล่มหนึ่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
เป็นหอกที่มีขนาดใหญ่
เป็นหอกที่มีความรวดเร็ว
พลังกดดันที่ปลดปล่อยออกมาจากหอกทองคำนั้นมีความหนักหน่วงมหาศาล
ฮั่วเฟยฮัวและบุรุษหนุ่มแขนด้วนอดรู้สึกหมดหวังขึ้นมาไม่ได้
พลังกดดันจากหอกแสงตะวันนั้น ส่งผลกระทบถึงจิตใจของพวกเขา
ทำให้พวกเขารู้สึกไม่อยากฝืนชะตากรรม
“เป็นเพียงเทพเจ้าเศษสวะ กล้ามาอวดดีต่อหน้าข้าได้อย่างไร”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะตอบกลับไปพลางยกมือขึ้น
และหอกทองคำที่ทรงพลังนั้นก็เข้ามาอยู่ในมือของเขาไม่ต่างจากไม้จิ้มฟัน ไม่มีวี่แววของพลังทำลายล้างแม้แต่น้อย
“เป็นไปได้อย่างไร?”
เทพเจ้าระดับสูงแห่งเผ่าเทพตะวันตกตะลึง
เพราะเขารู้สึกว่าแสงตะวันซึ่งเชื่อมต่อกับพลังศักดิ์สิทธิ์ของตนเองนั้น บัดนี้ได้สูญเสียการควบคุมโดยสมบูรณ์แล้ว
“ข้าจะบอกให้รู้ไว้ แม้แต่เผ่าเทพตะวันของพวกเจ้า ข้าก็ทำลายมาเองกับมือ เห็นพวกเจ้าหายหน้าหายตาไปจากดินแดนทวยเทพ ที่แท้ก็หลบหนีลงมาอยู่บนโลกมนุษย์กันหมดนี่เอง… ขี้ขลาดตาขาวเช่นนี้ ยังกล้าเรียกตนเองว่าเทพเจ้าได้อย่างไร? ในเมื่อไม่ยอมลงนรกดี ๆ ข้าก็คงต้องเป็นคนส่งเจ้าลงไปเอง…”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะ ก่อนขว้างหอกทองคำกลับไป
หอกทองคำพุ่งทะลวงดวงตะวันสีทองบนท้องฟ้า
เงาร่างของเทพเจ้าระดับสูงที่อยู่ในดวงตะวันนั้นมีหอกทองคำกำลังปักทะลุกลางหัวใจ
หลังจากนั้น หูของเขาถึงค่อยได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศเข้ามา
นี่คือการโจมตีที่อาวุธมาถึงก่อนเสียง
“เจ้า…”
เทพเจ้าระดับสูงค่อย ๆ เงยหน้ามอง ในดวงตามีแต่ความพิศวงสงสัย “นี่เจ้า… เจ้าเป็นใครกันแน่?”
มนุษย์ธรรมดาไม่ควรมีพลังมหาศาลเช่นนี้
หลินเป่ยเฉินขี้เกียจเกินกว่าจะตอบคำถาม
ผู้คนของเผ่าเทพตะวันเช่นนี้ ยามอยู่บนดินแดนทวยเทพ ยังไม่มีสิทธิ์มาเงยหน้ามองเขาด้วยซ้ำ
ตู้ม!
หอกทองคำระเบิดแสงเจิดจ้า
แล้วร่างของเทพเจ้าระดับสูงที่อยู่ในดวงตะวันทองคำบนท้องฟ้าก็ระเบิดกระจายกลายเป็นม่านหมอกเลือด
ทุกคนปากอ้าตาค้างด้วยความตกตะลึง
บรรยากาศปกคลุมด้วยความเงียบไม่ต่างจากสุสานยามเที่ยงคืน
ม่านหมอกเลือดถูกสายลมโชยพัดไม่ต่างจากดอกไม้ไฟสว่างไสว ดูสวยงามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
พานชิวและเทพเจ้าระดับสามัญอีกห้าคนที่รีบรุดมาช่วยเหลือบัดนี้ต่างก็ยืนตัวแข็งทื่อกันหมดสิ้น
เทพเจ้าระดับสูงผู้เป็นหัวหน้าของพวกเขานั้นถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย
แล้วพวกเขา… จะหนีรอดได้อย่างไร?
ความหวาดกลัวกลืนกินจิตใจ
ทำให้พวกเขาไม่กล้าลงมือ แต่ก็ไม่กล้าหลบหนี
เด็กหนุ่มผู้นี้คือใคร?
เหตุไฉนจึงได้มีพลังแข็งแกร่ง?
ความสามารถระดับนี้ไม่ควรมีอยู่ในโลกมนุษย์
แต่ดูเหมือนสมาชิกของกลุ่มสัมพันธมิตรจะรู้จักเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นอย่างดี
พานชิวรู้ชะตากรรมโดยทันทีว่าวิหารเทพตะวันมีปัญหาแล้ว
เพียงเด็กหนุ่มผู้นี้ลงมือกระบวนท่าเดียว เขาก็สามารถสังหารใต้เท้าพานเจิ้น… ผู้เป็นเทพเจ้าระดับสูงประจำเผ่าเทพตะวันได้อย่างไร้หนทางต่อกร
บนรถม้าทองคำ
เหยียนหรู่อี้ หูเหม่ยเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึงกับสิ่งที่พบเห็น
การสังหารหมู่พวกอมนุษย์ผมขาวเกราะเหล็กขั้นเซียนของหลินเป่ยเฉินก่อนหน้านี้ นับว่าน่าเหลือเชื่อแล้ว
แต่การสังหารเทพเจ้าระดับสูงต่อหน้าต่อตาเช่นนี้… นับเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจของพวกนางจริง ๆ