เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย – บทที่ 575 มาจับปลาหนีชิวกัน~ พวกเรามาจับปลาหนีชิวกันเถอะ~

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

บทที่ 575 มาจับปลาหนีชิวกัน~ พวกเรามาจับปลาหนีชิวกันเถอะ~

จี้จือฮวนลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก็เห็นอาชิงน้อยนอนอยู่ข้าง ๆ พุงน้อย ๆ เปิดอยู่ มือเล็กก็เกามันไปด้วย

นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมให้เขา

ในกระโจมยังคงจุดเทียนอยู่ อาอินยังคงเล่นปืนไม้อยู่ที่โต๊ะ จี้จือฮวนตอนนี้สามารถนอนหลับได้เป็นเวลานาน ฟ้าผ่าก็ยังไม่ตื่น

เมื่อเห็นว่าบนเตียงมีการเคลื่อนไหว อาอินก็เงยหน้าขึ้น วางปืนไม้ในมือลงก่อนจะวิ่งไปหาจี้จือฮวน “ท่านแม่ จะดื่มน้ำหรือไม่เจ้าคะ?”

จี้จือฮวนจึงพูดขึ้นมา “ไม่เป็นไร แต่เหตุใดเจ้าถึงยังไม่นอนอีกเล่า?”

อาอินดวงตาเป็นประกาย “ข้าอยากเล่นปืนไม้ก็เลยนอนไม่หลับ กลางคืนก็อยากกอดมันนอนด้วยเจ้าค่ะ”

“เด็กไม่ยอมนอนตัวจะเตี้ย ภายหน้าจะกลายเป็นแม่ทัพที่เตี้ยม่อต้อเอาได้”

อาอินได้ยินดังนั้นก็สูดลมหายใจเย็นเยียบเข้าปอด “เช่นนั้นข้าจะรีบนอน ข้าจะต้องตัวสูงกว่าท่านพ่อให้ได้! ภายหน้าจะได้เป็นจอมทัพอันดับหนึ่งในใต้หล้า!”

“เช่นนั้นท่านจอมทัพจะนอนหรือยัง?”

อาอินรีบถอดรองเท้าออกแล้วดันตัวขึ้นไปบนเตียง กอดแขนของนางเอาไว้ “ท่านแม่ พวกท่านพ่อไปตั้งหลายวันแล้ว ข้าคิดถึงพวกเขาจังเลยเจ้าค่ะ”

ตอนนี้ในค่ายทหารมีเพียงเผ่าหมาป่า และทหารเกราะเหล็กบางส่วนที่คอยคุ้มกันพวกเขาเท่านั้น

อยู่ที่นี่ก็ปลอดภัยดีอยู่หรอก ทว่าข่าวจากแนวหน้ากลับไม่มีมาเลย

ในช่วงแรก ๆ ยังมีหมูเหยี่ยวล่าเหยื่อคอยเอาจดหมายมาส่ง แต่ตอนนี้กลับไม่มีข่าวคราวอะไรเลย

จี้จือฮวนจึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย

นางห่มผ้าให้ลูกทั้งสองคนเสร็จแล้ว จึงตัดสินใจออกไปสูดอากาศข้างนอก

ตอนนี้ทุกคนในค่ายทหารต่างก็รู้ว่าพระชายากำลังตั้งครรภ์อยู่ จึงไม่มีใครกล้ารบกวนนาง เพราะกลัวว่านายน้อยในอนาคตจะเป็นอะไรขึ้นมา

ทันทีที่จี้จือฮวนเปิดม่านออก ทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าอยู่ด้านนอกก็ทำความเคารพทันที “พระชายามีอะไรจะสั่งหรือขอรับ?”

“ยังไม่มีข่าวส่งมาจากแนวหน้าอีกหรือ?”

“ยังไม่มีเลยขอรับ”

จี้จือฮวนมีสีหน้าผิดหวัง

ขณะที่นางกำลังจะกลับเข้าไป ก็ได้ยินเสียงแตรดังมาจากหอสังเกตการณ์

หลังจากจี้จือฮวนได้สติ หัวใจของนางก็เต้นรัว

“พวกท่านอ๋องกลับมาแล้ว! ข้าเห็นธงทหารด้วย! ยังมีคบเพลิงที่ทอดยาวเป็นสายนั่นอีก!”

ราวกับมังกรไฟตัวหนึ่งก็มิปาน และกำลังมุ่งหน้ามาทางค่ายทหาร

จี้จือฮวนสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกไปนอกค่ายทันที เหล่าทหารกองหนุนต่างก็หลีกทางให้นาง

อาอินที่อยู่บนเตียงก็พลิกตัวลุกขึ้น ก่อนจะผลักอาชิงที่กำลังหลับเหมือนหมูให้ตื่นขึ้นมา “รีบลุกขึ้นเร็วเข้า ท่านพ่อกลับมาแล้ว!”

อาชิงกรนใส่นางอีกหนึ่งที ก่อนจะไปที่ปลายเตียงเพื่อหาเสื้อผ้ามาใส่ ทันทีที่สวมรองเท้าเสร็จก็ได้ยินเสียงม้าดังมาจากด้านนอก

เสียงม้าเหล่านั้นทำให้คนทั้งค่ายทหารต่างตื่นตระหนก

เซียวเย่เจ๋อยังไม่ทันสวมรองเท้าให้เรียบร้อย ก็เห็นจี้จือฮวนสวมเสื้อคลุมยืนอยู่ที่หน้าค่ายแล้ว จึงเอ่ยด้วยความร้อนใจขึ้นมา “โอ๊ย สวรรค์ เจ้าระวังตัวหน่อยสิ ม้าวิ่งมาฝุ่นเยอะจะตายไป เจ้าสูดเข้าไปมาก ๆ จะทำอย่างไร!?”

จี้จือฮวนตอนนี้ไหนเลยจะมีเวลามาสนใจเรื่องอื่นอีก

นางแค่อยากแน่ใจว่าเผยยวนยังปลอดภัยดี

แต่เมื่อนางเห็นชายที่นั่งอยู่บนหลังม้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และใบหน้าของเขายังเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม

บอกตามตรง น้อยครั้งนักที่จี้จือฮวนจะยิ้มให้ใคร ทว่าเมื่อนางยิ้มกลับทำให้หัวใจของคนอุ่นซ่านขึ้นมา!

เผยยวนเองก็เห็นร่างที่เพรียวบางนั่นแล้ว รูปร่างนั่นผอมบางราวกับว่าหากมีลมพัดมาก็สามารถปลิวได้ จ้านอิ่งก็ก้าวเดินอย่างดีอกดีใจ เผยยวนจึงดึงบังเหียนให้แน่นขึ้นเมื่อเข้าใกล้นาง

เขารีบถึงขนาดไม่ทันให้คนส่งข่าวมาบอกก่อน

จี้จือฮวนก้าวเร็ว ๆ เข้าไปหาเขาทันที เผยยวนพลันกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน

“พี่น้องทั้งหลาย! พวกเราชนะแล้ว!”

เพียงแค่ประโยคนี้ประโยคเดียว เหล่าทหารกองหนุนก็กอดกันแน่นด้วยความดีใจ

แม้แต่เซียวเย่เจ๋อก็มีความสุขจนทำอะไรไม่ถูก เขาอุ้มอาชิงที่กำลังงุนงงขึ้นมา และหอมที่แก้มอาชิงแรง ๆ ไปหนึ่งที

อาชิง “!!!”

ครั้งนี้คนที่เผยยวนพากลับมาด้วยไม่ได้มีแค่กองทัพเจิ้นเป่ยเท่านั้น ยังมีมัวเอ๋อร์เก๋อซางจากถู่เจียด้วย และยังมีจดหมายที่มู่หรงจาวเขียนถึงจี้จือฮวนด้วยตัวเองอีกหนึ่งฉบับ

นอกจากนี้ยังมีโครงกระดูกของทหารจำนวนมาก และพี่น้องผู้โชคร้ายที่ต้องมาเสียชีวิตในการรบครั้งนี้

ส่วนทหารที่ได้รับบาดเจ็บยังคงอยู่ที่นั่นอยู่ โดยมีพวกเย่จิ่งฝูคอยดูแล และยังมีทหารอีกจำนวนมากอยู่เฝ้าที่ชายแดน เพื่อรอให้ราชสำนักส่งกองกำลังมาจัดการต่อ

เวลานี้เผยยวนก็ร้อนใจอยากคุยกับภรรยาเต็มที หลังจากแนะนำมัวเอ๋อร์เก๋อซางให้ทุกคนรู้จักแล้ว ก็รีบพาภรรยาเข้าไปในกระโจม

เซียวอวิ่นจึงเดินเข้ามาและพูดว่า “เจ้าชินก็ดีแล้ว เจ้าเด็กนี่ก็มีนิสัยเช่นนี้แหละ!”

มัวเอ๋อร์เก๋อซางหัวเราะเสียงดัง “ท่านข่านของพวกเราเคยบอกว่า เนี่ยเจิ้งอ๋องเป็นพวกกลัวภรรยา เหมือนกับอดีตท่านข่านของพวกเรา! วีรบุรุษภายนอกต้องดุดัน ถึงจะสามารถปกป้องลูกและภรรยาได้! แต่ภายในบ้านต้องอ่อนโยนและใส่ใจ!”

หลังจากได้ยินคำพูดนี้จากชายร่างสูงใหญ่ เซียวอวิ่นก็งุนงงอย่างมาก

ทว่าเอี๋ยนเฟินฟางที่ยืนอยู่ในกองปืนไฟกลับเอ่ยด้วยความเขินอายขึ้นมา “ช่างเป็นผู้ชายที่ดีจริง ๆ~”

ส่วนพวกมู่เหยากวงกับอวี้จื่อหนิงต่างก็ถอยหลังโดยพร้อมเพรียงกัน

จี้จือฮวนถูกเผยยวนอุ้มเข้าไปในกระโจม เด็กทั้งสองกำลังจะตามเข้าไป แต่ก็ถูกจับตัวออกไปเสียก่อน ตอนกลางคืนต้องให้พวกเขาพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม!

อยู่ข้างนอกยังไม่รู้สึกอะไร แต่ทันทีที่เผยยวนเข้ามา แค่ขยับตัวเพียงเล็กน้อยโคลนและทรายที่ติดตามตัวเขาก็ร่วงกราวลงมา!

ใบหน้าของเผยยวนยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะมีคราบเลือดผสมกับดินโคลนจนจับตัวเป็นก้อนแล้ว

“ตัวข้าสกปรก เจ้าขึ้นไปรอบนเตียงก่อน”

จี้จือฮวนนั่งพิงหมอนใบนุ่ม “ให้คนตักน้ำมาให้อาบก่อนเถอะ”

เผยยวนอึดอัดมากจริง ๆ เวลาทำศึกต้องสู้อย่างสุดกำลัง ตอนกลางคืนก็ต้องนอนเบียดกับคนมากมาย ลมพัดแดดเผาผิวหยาบกร้านขึ้นไม่น้อย

ไม่นานทหารชั้นผู้น้อยก็ตักน้ำเข้ามาให้ เผยยวนจึงถอดเสื้อคลุมและชุดเกราะของตัวเองออก ทำให้แม้แต่พรมบนพื้นก็เต็มไปด้วยดินทราย

เขาอยากออกไปข้างนอกและกระโดดลงไปในแม่น้ำเพื่อล้างตัวพร้อมกับพวกทหาร แต่เขารู้ว่าเดี๋ยวต้องถูกจี้จือฮวนดุอย่างแน่นอน ไม่สู้อาบน้ำต่อหน้านางจะดีกว่า นางจะได้สบายใจด้วย

บาดแผลตามร่างกายก็เพิ่มขึ้นมาไม่น้อย แต่เย่จิ่งฝูก็พันแผลให้เขาแล้ว ทว่าตอนนี้เนื้อตัวของเผยยวนสกปรกจนหมัดแทบจะกระโดดออกมาได้อยู่แล้ว จึงอยากจะลงไปแช่ตัวในอ่างไม้เสียเดี๋ยวนี้

จี้จือฮวนลุกขึ้น ก่อนจะพูดกับเขา “ข้าทำให้ดีกว่า”

หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ขอเพียงจุดสำคัญของร่างกายไม่เป็นอะไรก็ดีมากแล้ว

กล่องยาน้อยที่อยู่ข้าง ๆ เปิดออก ด้านในมีของที่ช่วยบำรุงสุขภาพอีกหนึ่งกอง

เดิมทีจี้จือฮวนตั้งใจจะถูตรงที่เขาไม่ถนัดให้ แต่สุดท้ายกลับพบว่าผมของเขาเวลานี้พันกันไปหมด!

นางทนไม่ไหวจึงแกะมวยผมของเขาออก และสามารถหวีเอาดินออกมาจากผมได้เป็นก้อน ๆ เขาเป็นถึงแม่ทัพยังเป็นขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทหารชั้นผู้น้อยเหล่านั้นเลย

เสียงกระโดดลงน้ำตูมตามดังมาจากด้านนอก ราวกับเกี๊ยวหล่นลงไปในหม้ออย่างไรอย่างนั้น แม้แต่คนจุกจิกอย่างไป๋จิ่นก็ยังทนไม่ไหว จึงไปถอดเสื้อผ้าของเว่ยเจ๋อเซิงออก

“ไม่ต้องหรอกขอรับ อีกเดี๋ยวรอไม่มีคนแล้วข้าค่อยอาบดีกว่า”

“ไม่เป็นไร ทุกคนก็มีเหมือนกัน ทำไม ของเจ้าเล็กกว่าคนอื่นหรืออย่างไร?”

“…ข้ามีความมั่นใจในตัวเองมาก”

“เช่นนั้นก็ถอดสิ!”

ช่างระคายหูจริง ๆ

จี้จือฮวนเริ่มพับแขนเสื้อขึ้นแล้ว โคลนสีดำที่ติดตามตัวของเผยยวน เพียงถูด้วยผ้าขนหนูก็หลุดออกแล้ว

“แช่สักพักแล้วค่อยขึ้นมา นอนลงสิ ข้าจะถูให้สะอาดเอง”

“ขอบใจ”

จี้จือฮวนไม่อยากจะคิดว่าปลาในแม่น้ำพรุ่งนี้ยังจะกินได้อยู่หรือไม่!

เกรงว่าคงจะกลายเป็นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยดินโคลนไปแล้ว

“โอ๊ย กลิ่นของเจ้าทำให้ข้าจะขาดใจตายอยู่แล้ว”

ส่วนทหารหญิงจะมีคนต้มน้ำและตักไปใส่ในกระโจมไว้ให้พวกนางแช่อยู่แล้ว แต่คืนนี้ทหารชายมีความสุขมากจริง ๆ พวกเขาจะอาบน้ำให้ฉ่ำปอด! นอนหลับให้เต็มอิ่ม พรุ่งนี้ก็จะตื่นสาย ๆ!!

แต่เมื่อเห็นน้ำในแม่น้ำมีสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ใบหน้าจ้านอิ่งก็เข้มขึ้น!

.

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

Status: Ongoing
หน่วยสืบราชการลับ—จี้จือฮวนเกิดใหม่เป็นตัวประกอบในนิยายที่ได้แต่งกับเทพสงครามเป็นแม่เลี้ยงของ 3 วายร้ายแต่กลับต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ในเมื่อปฏิเสธชะตาไม่ได้ขอแค่ไม่ตายก็จะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!จี้จือฮวน–หน่วยสืบสวนราชการลับระดับ S ในโลกล้ำยุค จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่เคยอ่าน(แต่ไม่จบ) ซึ่งตายตั้งแต่ยังไม่พ้นสามบทแรก! เธอคนนี้แต่งงานกับเผยยวนได้รับสมญานาม ‘เทพสงครามแห่งความตาย’ และเป็นแม่เลี้ยงของเด็กแสบสามคนจี้จือฮวนปฏิเสธชะตากรรมนองเลือด ขอแค่มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ต่อไปก็พอแต่เรื่องกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวประกอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ดันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเลี้ยงทั้งสามกลายเป็นตัวมากเล่ห์ จอมมารร้าย ซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบอันเศร้าสลดเมื่อทั้งสามโตขึ้น…นั่นก็คือความตายอย่างน่าอนาถในเมื่อเลือกไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เธอจะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!.โชคดีสวรรค์ยังมีตา เธอมีทักษะทุกอย่าง ทั้งงานฝีมือ ทักษะการเพาะปลูกและทำนาที่สามารถหาเงินเพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งกว่านั้น เธอมีของดีที่สุด คือมิติพิเศษที่ช่วยให่เธอหยิบยืมอะไรก็ได้จากโลกอนาคตติดตัวมาด้วย!.เอาล่ะ! ในฐานะอดีตสายลับระดับสุดยอด ใครหน้าไหนก็หยามกันไม่ได้! ต่อให้เป็นสวรรค์ก็เถอะ หากคิดจะฆ่าเธอทิ้ง เธอจะชิงสังหารสวรรค์ก่อน!..ต่อมาลูกชายคนโตที่ตั้งแต่เด็กสุดแสนจะเงียบขรึมกลับได้ขึ้นเป็นกษัตริย์! นักรบจอมพลังซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองก็กลายเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้า แม้แต่ลูกชายคนเล็กก็กลายเป็นแพทย์หนุ่มผู้เชี่ยวชาญสารพัดพิษ ร่างกายของเขาทนทานต่อพิษทั้งปวงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้..จี้จือฮวนรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ในฐานะสาวงามที่ถูกราชสำนักและประชาชนผลักไสอย่างไร้ความปรานี เธอจึงจำต้องทำให้ตัวเองเป็นสตรีที่น่าเกรงขาม เป็นที่หวาดกลัวต่อราชสำนักและประชาชนเมื่อทุกคนนึกถึง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท