ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 578 ส่งสัญญาณ(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 578 ส่งสัญญาณ(2)

แต่เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานก็ยังไม่ได้ไป

นายท่านเหยาและคุณนายเหยามาหาแต่เช้า ผู้อาวุโสทั้งสองนำของขวัญมาให้เด็กทั้งสี่คน ทุกคนต่างได้กันคนละอัน

และเหยาจิ้งจือก็ดีใจมากที่เห็นพ่อแม่มาหา เพียงแต่เมื่อคิดว่าหลานชายคนโตและหลานสาวใกล้จะเข้าโรงเรียนแล้ว จึงบอกเรื่องนี้กับผู้อาวุโสทั้งสอง

นายท่านเหยาและคุณนายเหยารู้สึกแปลกใจมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ขณะที่ต้องการจะพูดอะไร เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ขัดขึ้นก่อน “พวกเขาเข้าโรงเรียนอนุบาลเร็ว ก็จะยิ่งปรับตัวเข้าสังคมได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หลังจากนั้นก็เข้าเรียนในโรงเรียนได้ดีขึ้นครับ”

เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่กล่าวอย่างนี้ และสีหน้าก็ดูตั้งมั่น ผู้อาวุโสทั้งสองจึงทราบว่าดีว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขามีธุระที่ต้องมาหาในวันนี้ จึงไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก แต่กลับหันมองเหยาจิ้งจือด้วยสีหน้าจริงจังแล้วกล่าวว่า “จิ้งจือ พวกเรามีเรื่องอยากจะบอกลูก ลูกทำใจดี ๆ ก่อนนะ”

ตอนแรกเหยาจิ้งจือว่าจะออกไปข้างนอก แต่หลังจากได้ยินผู้อาวโสทั้งสองพูดแบบนี้ หัวใจก็เต้นรัว พลางรีบเอ่ยถาม “ทำไมคะ หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?”

นายท่านเหยาเห็นว่าทุกคนในบ้านอยู่กันพร้อมหน้า จึงกล่าวตามตรง “ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่า เซี่ยเจ๋อน่า…เสียแล้ว”

“อะ…อะไรนะ…”

ตอนแรกเหยาจิ้งจือนิ่งไป เพราะหล่อนไม่ถือว่ามีลูกสาวเช่นนี้อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเจ๋อน่าก็กลายเป้นเจ้าหญิงนิทราไปแล้วด้วย แต่เมื่อได้ยินข่าวนี้ก็ยังรู้สึกหน่วงอยู่ในหัวใจนิดหน่อย

“เจ๋อเหว่ยกับเสวี่ยเยี่ยนไปโรงพยาบาลแล้ว พวกเราสองคนมาที่นี่เพื่อบอกให้ลูกทราบ”

เซี่ยเหินปิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ตกใจเช่นกัน เขาสติหลุดไปสักพักและยังไม่สามารถดึงกลับมาได้

แต่เซี่ยเจ๋อหลี่เป็นผู้ทำลายความเงียบ “ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้พวกเรารีบไปที่นั่นกันเถอะครับ ถือว่า…ไปส่งหล่อนเป็นครั้งสุดท้าย”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหยาจิ้งจือและเซี่ยเหวินปิงก็ได้สติกลับมา “ใช่ พวกเราไปที่นั่นกัน”

นายท่านเหยาก็คิดเช่นเดียวกัน พวกเขาไปโรงพยาบาลเพื่อไปพบกันเป็นครั้งสุดท้าย นั่นถือเป็นความใจดีสุด ๆ แล้ว “ได้ พวกเราออกเดินทางกันเถอะ”

ฉินมู่หลานทราบว่าหลี่เสวี่ยนเยี่ยนไปโรงพยาบาลแล้ว เธอจึงครุ่นคิด สุดท้ายจึงตัดสินใจไปด้วยกัน คนในครอบครัวเสียชีวิต หากเธอหายหน้าหายตาไป คงดูไม่ค่อยดีนัก

ซูหว่านอี๋ก็คิดเหมือนกัน จึงหันไปมองฉินเคอวั่งแล้วกล่าวว่า “เคอวั่ง เดี๋ยวฝากลูกไปบอกปิงหรุ่ยหน่อยนะ ว่าวันนี้พี่สาวลูกขอลา”

ฉินมู่หลานและคนอื่นตามนายท่านเหยาและคุณนายเหยาไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปพบเซี่ยเจ๋อน่าเป้นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นนายท่านเหยาก็ตัดสินใจว่าจะให้เผาที่นี่เลย

เกาหยวนก็อยู่ที่นี่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะเบื่อ แต่ในที่สุดก็อยู่ที่ปักกิ่งโดยที่ไม่ได้คอยดูแลอีกฝ่ายเลย ตอนกลางวันส่วนใหญ่ก็จะออกไปข้างนอก แต่ตอนนี้เซี่ยเจ๋อน่าก็เสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้เขายังเสียรายได้ที่หามาได้ทั้งเดือนไปอีก ตอนนี้จึงไม่รู้จะทำอย่างไรดี

แต่หลายปีที่ผ่านมานี้เขาก็ไม่ได้อยู่เล่น ๆ เขาได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง ทราบด้วยว่าครอบครัวของเซี่ยเหวินปิงและเหยาจิ้งจือเจริญมากแค่ไหน เขาจึงต้องทนอยู่ต่อ ถึงแม้ว่าเซี่ยเจ๋อน่าจะเสียชีวิตแล้วก็ตาม เขาก็จะอยู่ต่อเหมือนกัน

เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาก็รีบหันมองเหยาจิ้งจือ

แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่เกาหยวนจะทันได้พูดอะไร นายท่านเหยาก็หันมองเขาด้วยท่าทางเย็นชา ก่อนจะเอ่ยว่า “ต่อไปนายก็จัดการต่อแล้วกัน”

“อะไรนะ?”

เกาหยวนโดนขัดจังหวะ มองนายท่านเหยาด้วยความฉงน

นายท่านเหยาจึงค่อย ๆ กล่าวอย่างใจเย็น “เซี่ยเจ๋อน่าเป็นคนตระกูลเกาของนาย ตอนนี้หล่อนเสียแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเอาไปฝังรวมกับหลุมศพตระกูลเกาของนาย เพราะฉะนั้นนายก็พาเถ้ากระดูกของเซี่ยเจ๋อน่ากลับไปด้วยเถอะ”

“พวก…พวกคุณ…”

ในที่สุดเกาหยวนก็ได้เข้าใจ ไม่แปลกใจหลังจากที่ร่างของเซี่ยเจ๋อน่าโดนเผา พวกเขาไม่ได้พูดเรื่องจะฝังร่างหล่อนเลย ที่แท้ชายชราก็มีความคิดแบบนี้นี่เอง

“ผมไม่กลับไปครับ เซี่ยเจ๋อน่าก็ควรจะถูกฝังที่นี่ด้วย”

นายท่านเหยาเหลือบมองเกาหยวนแล้วเอ่ย “เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนาย”

แต่ถึงอย่างนั้นเกาหยวนก็ยังยืนกรานว่าไม่มีความตั้งใจจะกลับไปซานตง

นายท่านเหยาเห็นแบบนี้ จึงหันไปมองเหยาจิ้งจือและฉินมู่หลานแล้วกล่าวว่า “พวกลูกกลับไปกันก่อนเถอะ เดี๋ยวพ่อจัดการส่วนที่เหลือต่อเอง”

“ค่ะ”

ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ต่างพยักหน้า แต่เหยาจิ้งจือยังทำหน้าลังเลนิดหน่อย

นายท่านเหยาขมวดคิ้วแล้วมองลูกสาว พลางเอ่ยถาม “หรือว่า…ลูกมีความคิดอื่นอีก?”

เหยาจิ้งจือได้ยินแบบนี้ สุดท้ายก็ส่ายหัวแล้วกล่าว “ไม่ค่ะ แบบที่พ่อว่าก็ได้ค่ะ”

หลังจากนั้นก็ตามฉินมู่หลานและคนอื่นกลับบ้าน

เมื่อเห็นคนเดินจากไป เกาหยวนก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที “พวกคุณกลับมากันเลยนะ”

แต่ไม่มีใครตอบเขาเลย มีเพียงแค่นายท่านเหยาเท่านั้นที่จ้องมองเขาด้วยท่าทางเย็นชา

หลังจากฉินมู่หลานและคนอื่นกลับถึงบ้าน เหยาจิ้งจือและเซี่ยเหวินปิงก็ดูมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก เซี่ยเจ๋อเหว่ยและหลี่เสวี่ยเยี่ยนก็มาด้วย แน่นอนว่าพวกเขาก็สังเกตสีหน้าของทั้งสองได้ อยากจะกล่าวปลอบใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี

สุดท้ายเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้น “พ่อครับ แม่ครับ หล่อนไม่อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นทุกคนก็ไม่ต้องคิดมาก ยังไงพวกเราก็คิดว่าหล่อนไม่ได้อยู่มาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ”

“ฉัน…”

เหยาจิ้งจือก็เข้าใจความจริงข้อนี้ แต่ในใจก้ยังรู้สึกแย่อยู่ดี “อาหลี่ พวกแกหลายคนคุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอตัวกลับไปพักผ่อนกับพ่อแกก่อน”

หลังจากทั้งสองไปแล้ว หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็อดพูดไม่ได้ “ดูเหมือนพ่อกับแม่จะยังเศร้าอยู่”

ฉินมู่หลานก็มองออกอยู่แล้ว แต่ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว พ่อและแม่สามีก็ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ให้ได้

และนายท่านเหยาก็ส่งข่าวมาบอก ว่าเกาหยวนพาเถ้ากระดูกของเซี่ยเจ๋อน่ากลับไปแล้ว ถึงไม่รู้ว่าเขาจะทำอย่างไร แต่เรื่องมันก็จบลงแบบนี้

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท