บทที่ 1028 กระบี่คลุมฟ้า ความหวังสุดท้าย!
ปรมาจารย์ท่านนั้นตระหนักได้ทันทีว่าผิดพลาดไป จึงรีบปิดปากสนิท
ยังดีที่เขาไม่ได้เอ่ยถึงชื่อผู้นั้น หาไม่แล้วอาจเกิดเรื่องใหญ่จริง ๆ
ชื่อของผู้นั้นไม่ควรกล่าวถึง หากกล่าวถึงบ่อย ๆ เข้าอาจเกิดการตอบสนองจริง ๆ!
แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าผู้นั้นตายไปแล้ว หายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ร่องรอยทุกอย่างถูกพวกเขาลบทิ้ง ทว่าผู้นั้นก็พิเศษเกินไป อยู่เหนือจินตนาการ พวกเขาจึงไม่กล้ากล่าวถึงมากนัก เพราะกลัวว่าผู้นั้นจะกลับมาอีก!
จากนั้นการโต้เถียงก็ปิดฉากลง
ทว่าการโต้เถียงระหว่างปรมาจารย์ทั้งสองท่านกลับเป็นที่จดจำขึ้นในของประมุขนิกาย จนบัดนี้ยังลืมไม่ลง
หลังจากนั้น เขาเคยถามหนึ่งในปรมาจารย์
ปกติแล้วปรมาจารย์ท่านนั้นดีกับเขามาก เห็นเขาเป็นลูกแท้ ๆ ทว่ายามเขาเอ่ยถามเรื่องของดินแดนเก่า ปรมาจารย์ท่านนั้นกลับสีหน้าเย็นเยียบในฉับพลัน ซ้ำยังเตือนเขาว่าอย่าได้ถามถึงเรื่องของดินแดนเก่ามากเกินไป!
เรื่องสยดสยองที่ปรมาจารย์ท่านนั้นกล่าวถึงอาจเกิดขึ้นจริง ๆ ก็ได้!
ความคิดถูกดึงกลับมายังปัจจุบัน เขาจ้องมองต้นหลิวในกระจกสัมฤทธิ์โบราณ เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่พักใหญ่
“น่าตายนัก!”
เขาคำรามเสียงต่ำ “ปรมาจารย์ทั้งหลายไม่อยู่ในนิกาย เพราะยังสู้ศึกอยู่ที่นั่น ไม่อาจกลับมาได้ในระยะสั้น ๆ แต่ดันเกิดเรื่องกับด้านท่านบรรพจารย์ในเวลานี้เสียได้!”
เขาผู้อยู่มานานนม น้อยครั้งนักจะรักษาความสงบไว้ไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยว่าร้อนรนอย่างตอนนี้เลย
ทว่าเขาในยามนี้ร้อนใจอย่างยิ่งยวด เพราะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
ร่างภาพฉายจากกระจกสัมฤทธิ์โบราณจัดการต้นหลิวไม่ได้ ซ้ำเหล่าปรมาจารย์ยังไม่อยู่ในนิกาย พวกเขาจำต้องจุติไปยังดินแดนเก่าด้วยตนเองเท่านั้น
ทว่าดินแดนเก่าไม่ได้เข้าไปง่าย ๆ ใช่ว่าอยากเข้าก็เข้า จำต้องวนไปเวียนมาหลายชั้น ยุ่งยากยิ่งนัก
บรรดาปรมาจารย์ผู้สร้างดินแดนเก่าตั้งด่านป้องกันหลายชั้นเพื่อให้ดินแดนเก่าติดต่อกับดินแดนใหม่น้อยที่สุด จำต้องส่งต่อไปทีละชั้นจึงจะไปถึงดินแดนเก่าได้ในท้ายที่สุด
แม้เขาจะเป็นประมุขนิกายแห่งนี้ ก็หาได้มีสิทธิพิเศษอันใด ไม่อาจตรงดิ่งเข้าไปในดินแดนเก่า ต้องวนเวียนผ่านไปหลายชั้นเช่นกัน
พลังที่ต้นหลิวสำแดงออกมาน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุด เป็นภัยต่อการคืนชีพของท่านบรรพจารย์แล้ว
มิหนำซ้ำพวกหลี่จิ่วเต้ายังเข้าไปถึงสุสานโบราณ ยิ่งเป็นผลให้สถานการณ์ฉุกเฉินเข้าไปใหญ่ ถึงอย่างไรพลังที่หลี่จิ่วเต้าแสดงให้เห็นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าต้นหลิวเท่าใดนัก เพียงกระบี่เดียวก็ทำลายประตูใหญ่ของสุสานโบราณราบคาบ
นี่ถ้ารอให้พวกเขาวนเวียนทีละชั้นจนกว่าจะไปถึงคงสายเกินไป การวนเวียนนั้นต้องใช้เวลา ซึ่งนับว่านานเกินไป
“บัด…ซบ ใช้กระบี่คลุมฟ้า!”
ประมุขนิกายหักใจ เตรียมใช้กระบี่คลุมฟ้าที่บรรดาปรมาจารย์ทิ้งไว้ให้
ประบี่คลุมฟ้าคือกระบี่วิเศษสูงสุดที่บรรดาปรมาจารย์ตีขึ้นด้วยตนเอง ก่อนเหล่าปรมาจารย์จากไป ตั้งใจทิ้งกระบี่คลุมฟ้าไว้เพื่อป้องกันการเกิดเรื่องกับนิกาย
กล่าวโดยไม่เกินจริง กระบี่คลุมฟ้าสยดสยองอย่างแท้จริง สามารถสังหารสิ่งมีชีวิตระดับคลุมฟ้าได้ง่ายดาย
ขอบเขตคลุมฟ้า
นี่คือขอบเขตเหนือล้ำขีดขั้นสิบห้า คลุมฟ้าได้ทุกผืน พินิตเต๋าได้ทุกวิถี พลังในตัวนั้นลึกล้ำเกินหยั่ง ไม่อาจจินตนาการได้
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังไม่มั่นใจนักว่ากระบี่คลุมฟ้าจะได้ผลหรือไม่
เพราะเขาไม่สามารถส่งกระบี่คลุมฟ้าเข้าไปในดินแดนเก่าได้จริง ๆ ต้องใช้กระจกสัมฤทธิ์โบราณส่องสะท้อนเช่นกัน แต่กระบี่สัมฤทธิ์โบราณไม่ใช่ยอดศาสตราแต่อย่างใด มันใช้ในการเพ่งพินิจสถานการณ์ในดินแดนเก่าเท่านั้น อีกทั้งพลังยังมีอยู่จำกัด ไม่อาจฉายสะท้อนพลังทั้งหมดของกระบี่คลุมฟ้าออกมาได้
เพราะเหตุนี้ เขาจึงไม่มั่นใจ ไม่รู้ว่ากระจกสัมฤทธิ์โบราณฉายสะท้อนพลังของกระบี่คลุมฟ้าออกมาได้เท่าใด และไม่รู้ว่าพลังที่ฉายออกมาจากกระบี่คลุมฟ้าพอให้ต่อกรกับพวกต้นหลิวได้หรือไม่
ทว่าบัดนี้เขาไม่เหลือวิธีอื่น จำต้องใช้กระบี่คลุมฟ้า มิฉะนั้น พวกเขาได้แต่ทนมองอยู่อย่างนี้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
ไม่นานนัก เขาก็นำกระบี่คลุมฟ้ามา
กระบี่คลุมฟ้าส่องแสงทั่วร่าง กฎระเบียบพิเศษไหลเวียน ลำพังแค่มองก็รู้สึกขวัญเสีย ตัวกระบี่กู่ร้องเบา ๆ ประดุจเสียงแห่งเต๋าสวรรค์ สะท้านถึงดวงวิญญาณ
“หวังว่าจะจัดการพวกเขาได้!”
ประมุขนิกายมีความหวังเต็มเปี่ยม การฉายสะท้อนกระบี่คลุมฟ้าคือความหวังสุดท้ายของเขาแล้ว หากแม้แต่กระบี่คลุมฟ้ายังสู้ไม่ได้ เขาก็ได้แต่ทนมองเฉย ๆ โดยหมดปัญญาทำสิ่งใดอีก
กระจกสัมฤทธิ์โบราณส่องแสงเจิดจ้า เริ่มฉายภาพกระบี่คลุมฟ้า
ผลลัพธ์กลับเกินความคาดหมายของประมุขนิกาย!
กระบี่คลุมฟ้าอัศจรรย์เกินไป สถานการณ์หลังฉายสะท้อนไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย!
การฉายสะท้อนนั้นไม่ได้ฉายจากกระจกสัมฤทธิ์โบราณ หากแต่ฉายจากตัวกระบี่คลุมฟ้าเอง อ้อมผ่านกระจกสัมฤทธิ์โบราณโดยไม่ได้ใช้พลังฉายสะท้อนจากมัน!
“สุดยอดจริง ๆ ลำพังตนเองก็ฉายสะท้อนลงไปในดินแดนเก่าได้แล้ว!”
ประมุขนิกายสะท้อนใจเหลือแสน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้กระบี่คลุมฟ้า
แม้จะรู้ว่ากระบี่คลุมฟ้ามหัศจรรย์ แต่ไม่เคยคิดเลยว่ากระบี่คลุมฟ้าจะน่าครั่นคร้ามได้ปานนี้ เกินความคาดหมายของเขาไปไกล!
ลมหายใจต่อมา เขาหัวเราะร่วน
หากส่องสะท้อนด้วยพลังกระจกสัมฤทธิ์โบราณ พลังของกระบี่คลุมฟ้าที่ฉายออกไปคงมีจำกัด
ทว่ากระบี่คลุมฟ้าฉายสะท้อนไปด้วยพลังของตน ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พลังที่ฉายไปนั้นเหนือกว่าการฉายจากกระจกสัมฤทธิ์โบราณแน่นอน!
หนนี้ เขามองเห็นความหวังแล้วจริง ๆ มองเห็นความหวังในการฆ่าพวกต้นหลิวแล้ว!
…
ด้านสุสานโบราณ
กระบี่คลุมฟ้าสะท้อนเข้ามาถึงก็ฟาดฟันใส่ต้นหลิวทันที แสงกระบี่นับล้านปะทุ ทุกลำล้วนน่ากลัวถึงขีดสุด แยกผืนฟ้าออกจากกันได้!
แม้แต่ต้นหลิวยามได้เห็นกระบี่คลุมฟ้าเล่มนี้ยังอดสะท้อนใจไม่ได้
หากไม่มีก้านหลิวชะล้างกับตัว มันก็ไม่นึกกังขาสักนิด ตัวมันไม่มีทางต่อกรกับกระบี่คลุมฟ้าเล่มนี้ได้แน่นอน ลำแสงกระบี่เพียงลำเดียวจากมันก็ฆ่ามันได้ง่ายดาย!
นี่หรือคือพลังจากฝ่ายศัตรูที่แท้จริงของคุณชาย
น่าสะพรึงกลัวอย่างที่คิด เกินกว่าที่มันจะจินตนาการออก เหนือขอบเขตความเข้าใจไปแล้ว
ทว่ามันเชื่อใจคุณชายมากกว่า ดาบใหญ่ที่ก่อร่างจากก้านหลิวชะล้างต่อสู้ดุเดือดกับกระบี่คลุมฟ้าที่ฉายสะท้อนเข้ามา!
…
โลกหน้าฉากไม่เหมือนข้างนอกจริง ๆ มิหนำซ้ำยังเป็นสุสานโบราณโอ่อ่าเช่นนี้ ภายในตระการตาน่าทึ่งเหลือแสน เติมเต็มความอยากผจญภัยในสุสานของหลี่จิ่วเต้าได้เป็นอย่างดี
ที่นี่มีสุสานรองเชื่อมต่ออยู่มากมาย หลังพวกหลี่จิ่วเต้าเข้ามา สุสานรองก็เริ่มกระสับกระส่าย
ตึง!
สุสานรองแห่งหนึ่งมีเสียงดังกัมปนาท โลงสีแดงชาดโลงหนึ่งพุ่งออกมา ฝาโลงถล่มใส่หลี่จิ่วเต้าประดุจผืนนภา
เสียงดังฟึ่บ ชายหนุ่มควบคุมกระบี่ฉุนจวินผ่าฝาโลงที่บุกเข้ามาเป็นสองส่วน
ศพเปื่อยพุ่งออกมาจากโลงศพ น้ำหนองไหลทั่วกาย เศษเนื้อฟอนเฟะห้อยต่องแต่ง อย่าให้เอ่ยเลยว่าชวนคลื่นเหียนเพียงใด
“สุสานโบราณนี้ประเสริฐยิ่ง เพียงแต่ศพในนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่…”
หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้วน้อย ๆ “พอเถอะ ข้ามาทำตามคำสัญญา ช่วยให้พวกเจ้ากลับสู่ที่ที่ควรอยู่ หลับสบายเป็นนิจนิรันดร์”
“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร น่าขัน!”
ศพเปื่อยแค่นหัวเราะ บุกเข้าไปหาหลี่จิ่วเต้าอย่างรวดเร็ว กลิ่นสาปจากศพเหม็นตลบจนพะอืดพะอม
กระบี่ฉุนจวินฟาดฟัน บั่นศพเปื่อยนั้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สังหารได้อย่างสมบูรณ์!
ก่อนศพเปื่อยตายยังเต็มไปด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ มันคิดว่ามันสามารถปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง ทว่าหลังกระบี่ฉุนจวินกระแทกถูกตัว มันก็รับรู้ถึงภยันตรายใหญ่หลวง บางทีมันอาจไม่ได้ออกมาอีกแล้ว
อย่างที่คิด มันไม่โผล่ออกมาอีก เพราะกระบี่ฉุนจวินบดขยี้พลังที่ช่วยให้มันปรากฏตัวได้อีกจนแหลกเหลวไปแล้ว
“ขออภัย ก้านหลิวชะล้างไม่ได้อยู่ในมือข้า ข้าจำต้องส่งพวกเจ้าไปที่ชอบที่ชอบทั้งอย่างนี้”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยเสียงสำนึกผิด “ทำเช่นนี้ก็ออกจะเจ็บอยู่หน่อย แต่ดูแล้วได้ผลไม่เลว ช่วยให้พวกเจ้าได้นอนหลับตลอดกาล ไม่ถูกรบกวนอีก”
ตึง! ตึง! ตึง!
โลงศพในแต่ละหลุมพุ่งออกมาไม่หยุด ศพภายในก็พากันบุกไปหาหลี่จิ่วเต้า
ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่ฉุนจวิน ศพในสุสานรองกลับไร้น้ำยาสิ้นดี แสงกระบี่ตวัดผ่านพลันมีศพจำนวนมากถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด อันตรธานอย่างสิ้นเชิง!
“พี่ใหญ่ เมื่อครู่ได้ยินท่านเอ่ยว่าหากท่านมีก้านหลิวชะล้างในมือพวกเราก็ไม่ต้องถูกกำจัดอย่างทุกข์ทรมานแล้วใช่หรือไม่”
ศพร่างหนึ่งคุกเข่าหน้าหลี่จิ่วเต้าดัง ‘ตุบ’ มันดูออกแล้วว่าพวกมันไม่ใช่คู่มือของหลี่จิ่วเต้า ไม่ว่าระเบิดพลังอย่างไรก็ไม่ไหว สุดท้ายยากจะหนีจุดจบที่ต้องสูญสลายไม่พ้น
ในเมื่อท้ายที่สุดก็ไม่อาจหนีจากการถูกกำจัด ไม่สู้เลือกวิธีไม่ทรมาน การถูกกระบี่ฉุนจวินบดขยี้แหลกเหลวเห็นแล้วคงทุกข์ทรมานยิ่ง!
“อืม ใช่แล้ว”
หลี่จิ่วเต้าพยักหน้า “มีก้านหลิวชะล้างในมือ ข้าสามารถใช้พลังชะล้าง มันจะมีประกายชะล้างมหาศาลจรดลงบนร่างพวกเจ้า จากนั้นพวกเจ้าก็จะไปสู่สัมปรายภพด้วยรอยยิ้ม ไม่เจ็บไม่ป่วย หลับสบายตลอดกาล”
“หากเป็นเช่นนั้น พี่ใหญ่ ข้ายินดีรอ ข้าอยากถูกก้านหลิวชะล้างชำระมากกว่า!”
ศพร่างนั้นรีบบอก
“ข้าก็ด้วย!”
“ขอให้พวกเรามีสิทธิ์เลือกเป็นครั้งสุดท้ายเถิด!”
ศพร่างอื่นพากันร่ำร้อง ไม่ต้องการถูกแรงมหาศาลของกระบี่ฉุนจวินบดขยี้จริง ๆ พวกมันก็อยากจากไปด้วยรอยยิ้ม ปราศจากความทรมาน
“เช่นนั้นก็ได้ เพียงแต่ยังพอมีวิธีอื่นอยู่ที่ช่วยให้พวกเจ้าจากไปโดยไม่ต้องทนทุกข์”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม “ต้าเต๋อ เจ้าลุยเลย เจ้าบำเพ็ญธรรม มีพลังชะล้างอยู่เช่นกัน ดูว่าพอส่งพวกเขาไปที่ชอบที่ชอบได้หรือไม่”
“ได้เลยคุณชาย!”
ต้าเต๋อตอบ
แล้วเขาก็หยิบมู่อวี๋ออกมาเคาะ ทั้งยังเริ่มท่องบทเทศนาเพื่อโปรดศพเหล่านี้
“อ๊ากกก อยากจะบ้า ข้าขอถูกกระบี่บดขยี้ดีกว่า!”
“เลิกท่องเสียที!”
ต้าเต๋อเพิ่งเริ่มท่องบทสวดเท่านั้น ศพเหล่านี้ก็ทนไม่ไหว สติแตกกระเจิง
บทสวดนี้ทรมานเกินไปแล้ว ราวกับมีแมลงวันอเนกอนันต์บินวนเวียน ‘หึ่ง ๆ’ อยู่ในหัวพวกมัน พวกมันทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ!
จากนั้นภาพอันตระการตาปรากฏ พวกมันพากันพุ่งไปหากระบี่ฉุนจวิน เป็นฝ่ายขอให้ถูกบดขยี้!
ถูกกระบี่ฉุนจวินขยี้แหลกเหลวยังดีกว่าต้องฟังต้าเต๋อสวดมนต์!
“ต้าเต๋อ ดูท่าธรรมะของเจ้าจะไม่เป็นที่ต้อนรับเท่าใด ทว่าได้ผลดีจนพูดไม่ออก ล้ำเลิศยิ่งนัก”
แม้แต่หลี่จิ่วเต้ายังอดหัวเราะไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงมุ่งหน้ากันไปถึงสุสานหลัก
สุสานหลักนั้นใหญ่โตกว้างขวาง ภายในมีโลงศพที่แตกต่างกันเรียงอยู่มากมาย แต่ละโลงล้วนดูไม่ธรรมดาอย่างยิ่งยวด
“อามิ…ข้าต้าเต๋อฝอ ข้าต้าเต๋อฝอเปี่ยมเมตตาที่สุด! ศพกระจอกก่อนหน้านี้ล้วนไม่ได้ความ ไม่รู้ว่าธรรมะนั้นวิเศษเพียงใด พวกเจ้าดูเป็น ‘พี่ใหญ่’ คงมากด้วยประสบการณ์ พอทราบความวิเศษของธรรมะอยู่กระมัง”
ต้าเต๋อคลี่ยิ้มพลางเอ่ย “พวกเจ้าอย่าได้ขอให้กระบี่ฉุนจวินบดขยี้เชียว อยู่ฟังข้าบริกรรมบทสวดส่งพวกเจ้าไปที่ชอบที่ชอบด้วยความสบายกายดีกว่า!”
แล้วเขาก็เริ่มสวดมนต์