คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 745 รนหาที่ตายชัดๆ

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 745 รนหาที่ตายชัดๆ

การคาดเดาของหรงอันจวิ้นจู่นั้นถูกต้อง นายหญิงใหญ่หลิวต้องการทำเรื่องสกปรก แต่สิ่งที่นางคิดไม่ถึงก็คือ นางไม่ได้จะทำกับตัวเองทั้งหมด แต่กลับมุ่งแผนการร้ายไปที่ลูกศิษย์ของฉินหลิวซี

เมื่อได้ยินข่าวว่าเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างกายฉินหลิวซีนามว่าวั่งชวนถูกลักพาตัวไป หรงอันจวิ้นจู่ก็มึนงงเล็กน้อย

เหตุใดจึงได้บังเอิญเพียงนี้ พวกเขาบรรดาอาจารย์ศิษย์กำลังจะออกจากเมืองไป แต่กลับพบกับสถานการณ์รักษาความปลอดภัยที่ประตูเมือง องครักษ์ประตูเมืองต้องการตรวจสอบหาตัวฆาตกรกระทำผิด ทุกคนที่อยู่บนรถต้องลงมาเพื่อตรวจสอบ และในเวลานี้ก็มีม้าเกิดตกใจขึ้นมา เมื่อเห็นม้าบ้าคลั่งกำลังจะเหยียบเด็กน้อยที่พึ่งหัดวิ่ง ฉินหลิวซีก็กระโดดเข้าไปช่วยคน

แต่ในพริบตาเดียว เมื่อนางหันมาอีกครั้งก็เห็นคนขับรถและเถิงเจานอนอยู่บนพื้น

ฉินหลิวซีสีหน้าลุ่มลึกราวกันสายน้ำ รีบวิ่งกลับไป เมื่อตรวจสอบดู พบเข็มบางๆ ที่อาบยาสลบบนแขนของพวกเขา ส่วนวั่งชวนก็หายตัวไปแล้ว

เมื่อปลุกทั้งสองคนขึ้นมา เถิงเจาที่ลืมตามองนางพลันเบิกตาโตพลางเอ่ย “อาจารย์ วั่งชวนถูกลักพาตัวไปแล้วขอรับ”

ตอนนั้นเขารู้สึกเพียงว่าแขนถูกทิ่ม จากนั้นก็เวียนศีรษะ ล้มลงบนพื้น เห็นชายใบหน้าธรรมดาคนหนึ่งปิดปากวั่งชวนแล้วอาศัยจังหวะชุลมุนหนีไปกับตา

“อืม”

ดูเหมือนว่าอารมณ์ฉินหลิวซีจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย แต่เถิงเจากลับรู้สึกถึงความเยือกเย็นที่ลึกเข้าไปถึงกระดูก

ส่วนคนขับรถยิ่งขยับห่างออกไปไกล เขารู้สึกได้ถึงอันตราย

ฉินหลิวซีพยุงเถิงเจาขึ้นรถ เอ่ย “วันนี้ไปไม่ได้แล้ว ข้าจะให้เฮยซากลับมา เจ้าไปกับเขา แล้วก็ไม่ต้องกลับไปที่ตระกูลเว่ยหรือจวนจวิ้นจู่ หาโรงเตี๊ยมพักอยู่ ข้าจะไปพาวั่งชวนกลับมา”

มีคนไม่อยากให้นางไป ก็อย่าโทษที่นางอยู่ทำเรื่องวุ่นวาย

ฉินหลิวซีพับนกกระเรียนกระดาษแล้วปล่อยให้มันบินไปตามหาเฮยซาที่อยู่นอกเมือง หลังจากมาถึงที่นี่ เฮยซาไม่มีอะไรทำจึงไปที่ภูเขาลึกนอกเมืองเพื่อตามหาหมีตัวเมียของมัน นัดกันไว้ว่าเมื่อจะไปให้ส่งจดหมายไปหา เขาจะไปสมทบระหว่างทาง

มิเช่นนั้น หากวันนี้เขาอยู่ด้วย คนธรรมดาจะเอาตัววั่งชวนไปด้วยกลอุบายล่อเสือออกจากถ้ำแค่นี้ได้อย่างไร

คนที่อยู่เบื้องหลัง เพียงเพราะเห็นว่าเด็กอย่างพวกเขาที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ดีทำอะไรไม่ได้ แล้วก็มีเพียงแค่คนขับรถ เห็นว่าไม่เป็นอุปสรรค ดังนั้นจึงได้เดินหมากนี้

นางจะทำให้คนผู้นั้นรู้ว่า หมากที่พวกเขาเดินนั้นกระจอก!

เถิงเจาขมวดคิ้วพลางเอ่ย “ให้ข้าไปกับท่านเถิด”

“ไม่ต้อง เจ้าไปกับข้า ไม่แน่อาจจะเป็นตัวถ่วง ทำให้ข้าเสียสมาธิ” ฉินหลิวซียิ้ม

ศิษย์คนโตของนางทั้งฉลาดและมีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขายังเด็กอยู่ เข้าสู่ลัทธิเต๋าได้ไม่ถึงหนึ่งปี การต่อสู้อะไรเหล่านั้นยังห่างไกลจากความชำนาญอยู่มาก

คนที่ลักพาตัววั่งชวนไปใช้วิธีโจ่งแจ้ง เช่นนั้นคนเหล่านั้นต้องมีฝีมืออย่างแน่นอน นางไม่อยากต้องเสียสมาธิมาดูแลลูกศิษย์ตอนที่กำลังต่อสู้ เช่นนั้นไม่สนุกเอาเสียเลย

เถิงเจาได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย กำหมัดแน่น สิ่งที่เขาต้องเรียนรู้นั้นยังไม่มากพอ เวลาเกิดเรื่องยังต้องหลบอยู่หลังอาจารย์ให้นางปกป้อง

“ท่านอาจารย์รู้แล้วหรือว่าวั่งชวนถูกใครลักพาตัวไป”

ฉินหลิวซีหรี่ตาพลางเอ่ย “ข้าพอจะเดาออก คงจะเป็นนักพรตมารที่อยู่ข้างกายนายหญิงใหญ่หลิวผู้นั้น”

ไหนเลยจะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ ทันทีที่เขามา ก็เกิดเรื่องกับวั่งชวน?

เถิงเจาสีหน้ามืดครึ้ม

ฉินหลิวซีให้คนขับรถพาเถิงเจาไปตั้งหลัก ส่วนตัวเองก็รีบไปที่จวนหลิวอย่างรวดเร็ว คนขับรถรู้ว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นไม่ควรรอช้า กลับไปแจ้งเว่ยเหรินที่เป็นเจ้านาย ต่อมาหรงอันจวิ้นจู่จึงได้ทราบข่าวด้วย

“รู้ว่านางจะทำเรื่องสกปรก แต่กลับคิดไม่ถึงว่านางจะรนหาที่ตายเช่นนี้!” หรงอันจวิ้นจู่หัวเราะด้วยความโกรธ

หูซื่อตระกูลหลิวผู้นี้หมดทางรอดแล้วจริงๆ

เปลือกตาของนายหญิงใหญ่หลิวกระตุกไม่หยุด มักจะรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ควบคุมไม่ได้กำลังจะเกิดขึ้น ซ้ำยังนำพาปัญหาใหญ่มาสู่นาง

ความคิดนี้ทำให้นางยิ่งรู้สึกเป็นกังวล กระทั่งเมื่อสาวใช้ที่นวดขาให้นางลงมือหนักไปหน่อย นางก็ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด ออกแรงถีบอีกฝ่ายจนกระเด็น

สาวใช้น้อยคุกเข่าลงบนพื้นพลางร้องขอความเมตตา

“เอาตัวออกไปโบยยี่สิบที อัปมงคล” นายหญิงใหญ่หลิวจ้องมองนาง จากนั้นก็ลูบท้อง คิ้วขมวดแน่นยิ่งขึ้น ท้องของนางยิ่งปวดมากขึ้นเรื่อยๆ

สาวใช้น้อยตกใจกลัวเป็นอย่างมาก เสียงร้องขอความเมตตาดังกว่าเดิม แต่กลับถูกบ่าวรับใช้ปิดปากแล้วลากออกไป

ในเวลานี้นายหญิงใหญ่หลิวได้เอ่ยกับแม่นมคนสนิทข้างกายนาง “เก็บกวาดให้สะอาด เด็กคนนั้นมีหรงอันจวิ้นจู่คอยสนับสนุน ข้าขี้เกียจที่จะเห็นนางอาศัยหรงอันจวิ้นจู่มาเบ่งอำนาจ”

แม่นมคนสนิทกล่าวประจบประแจงว่า “ท่านวางใจเถิด ไม่ใช่คนของพวกเรา ใช้คนแปลกหน้า คนของพวกเราอย่างมากก็เพียงแค่ช่วยปิดบังเท่านั้นเจ้าค่ะ”

นายหญิงใหญ่หลิวยกมุมปาก เบะปากพลางเอ่ย “ก็ไม่รู้ว่านักพรตยินซานต้องการเด็กคนนั้นไปทำอะไร คงไม่ได้จะลวนลามเด็กหรอกกระมัง”

“คงไม่ใช่หรอกเจ้าค่ะ”

“ก็บอกได้ยาก เขารู้จักวิชาที่ชั่วร้ายเช่นนี้ ใครจะไปรู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง” ทันทีที่นายหญิงใหญ่หลิวกล่าวจบ ก็มีคนตะโกนร้องดังมาจากนอกประตู สีหน้ามืดครึ้มทันที “คนในลานนี้เริ่มไม่มีกฎเกณฑ์มากขึ้นเรื่อยๆ โวยวายอะไรกัน คิดจะก่อความวุ่นวายหรือ”

เมื่อแม่นมคนสนิทเห็นว่านางไม่พอใจ ในใจก็ด่าบรรดาสตรีข้างนอกเหล่านั้นอย่างดุเดือด ทั้งๆ ที่รู้ว่าช่วงนี้นายหญิงผู้นี้อารมณ์หงุดหงิด ยังไม่รู้จักสงบเสงี่ยม รังเกียจที่อายุยืนหรือ

นางเดินไปที่หน้าประตู ขณะที่กำลังจะเท้าเอวด่า ก็เห็นม่านที่อยู่ตรงหน้าถูกกระชากออกอย่างแรง มีคนเดินเข้ามา ทันทีที่เห็นนาง ก็วาดเท้าขึ้นเตะจนกระเด็นออกไป

นางไม่พอใจหญิงชราที่เต็มไปด้วยบาปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตผู้นี้มานานแล้ว

ปัก

แม่นมคนสนิทถูกเตะกระเด็นไปข้างหลัง ขาทั้งสองข้างคุกเข่าลงบนพื้นอย่างแรง เสียงดังฟังชัด ลำคอสำลัก อาเจียนเลือดออกมา

นายหญิงใหญ่หลิวตกตะลึงกับเหตุการณ์พลิกผันครั้งนี้ ลุกขึ้นยืนทันที “บังอาจ”

นางลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว รู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อย และท้องของนางราวกับถูกอะไรบางอย่างดึงไว้ ยิ่งปวดกว่าเดิม เมื่อเห็นชัดเจนว่าผู้ที่บังอาจคือใคร รูม่านตาของนางก็สั้นเล็กน้อย

เหตุใดจึงได้มาหาเร็วเช่นนี้

นายหญิงใหญ่หลิวรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่กลับด่าอย่างดุเดือด “นักพรตกระจอก เจ้ากล้าดีอย่างไรมาอวดดีที่นี่ คิดว่าตระกูลหลิวของข้าไม่มีคนอย่างนั้นหรือ”

“นักพรตมารผู้นั่นล่ะ”

“อะไรนะ” ดวงตาของนายหญิงใหญ่หลิวสั่นไหว

ฉินหลิวซีเดินตรงไปหานาง จ้องเข้าไปในดวงตาของนาง เอ่ย “ข้าถามเจ้าว่า นักพรตมารผู้นั้นอยู่ที่ไหน”

นายหญิงใหญ่หลิวรู้สึกหนาวสั่นเข้ากระดูกตั้งแต่ฝ่าเท้าไปจนทั่วแขนขา ด้านหลังและบนหน้าผากก็เต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ปากสั่นไม่หยุด ความหนาวเย็นนั้นแล่นไปทั่วร่างกาย จากนั้นก็มารวมอยู่ที่ท้องของนาง

“ข้า” นายหญิงใหญ่หลิวรู้สึกราวกับว่ามีน้ำแข็งแหลมคมทิ่มแทงท้องของนาง เจ็บปวดจนนางงอตัวกอดท้องอันใหญ่โตของนางไว้ และหว่างขาทั้งสองข้างก็มีบางอย่างไหลออกมา ติ๋งๆ

ฉินหลิวซีเห็นว่าบนพื้นมีทั้งน้ำและเลือด ยิ้มอย่างเย็นชา เอ่ยว่า “ผลกรรมของเจ้ากำลังมาแล้ว”

นายหญิงใหญ่หลิวเบิกตาโต ถอยหลังสองก้าว มือข้างหนึ่งเท้าที่วางแขนบนเตียงหลัวฮั่น

ส่วนฉินหลิวซีกลับดึงเส้นผมของนางมาหนึ่งเส้น หยิบผ้าคาดผมของวั่งชวนออกมาทำพิธี ตาทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งหลับ ข้างหนึ่งลืม มองดูสายกรรมที่หนาแน่น เมื่อเห็นเส้นหนึ่งในนั้นอย่างชัดเจน ก็หันหลังแล้วออกจากห้องไป เมื่อเห็นเงาวิญญาณสีดำกำลังจะหายไปจากเรือนนี้ จึงดึงร่องรอยพลังชั่วร้ายแล้วเสกไปที่นาง เงาดำได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพลังหยินอันชั่วร้าย วิญญาณแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากในทันที ลอยหายเข้าไปในห้อง

ค่ำคืนนั้นลมวสันต์มาเยือน

ค่ำคืนนั้นลมวสันต์มาเยือน

Status: Completed
หนังสือเล่มนี้เป็นนิยายรักน้ำเน่า นางร้ายของเรื่องบังเอิญมีชื่อเดียวกันกับ "อวี๋เซียง" ที่บังเอิญยิ่งกว่านั้น ยังขาพิการตั้งแต่ยังเด็กเหมือนอวี๋เซียงไม่ผิดเพี้ยน ไม่ต้องเสียเวลาคิดก็รู้ ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตวิญญาณหรือสุขภาพร่างกาย คนทั้งคู่มีโอกาสหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว!"นี่มันวันซวยของเธอ อวี๋เซียงหรืออย่างไร! ภพก่อนประสบเคราะห์กรรมตั้งมากมาย ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เกิดชาติใหม่ภพใหม่ สุดท้ายกลับต้องเกิดใหม่ในร่างที่ไม่สมบูรณ์ นั่นยังพอทำใจได้ แต่ทีทำให้เธอโมโหที่สุดก็คือ...เธอหลงเข้ามาอยู่ในนิยาย ทั้งยังได้รับบทเป็นตัวละครสมทบหญิงที่ซวยที่สุดในโลก!"

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท