บทที่ 1030 ใครบอกปรบมือข้างเดียวไม่ดัง?
ซือจวิ้นกล่าวต่อว่า “ข้าไม่ได้รังแกเจ้าเพราะน้องชายของข้า ข้าแค่ทำตามหน้าที่”
พี่น้องตระกูลซือต่างสนิทสนมกัน ผู้ชายคนนี้เป็นเหตุผลที่น้องชายของซือจวิ้นเสียชีวิต ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องแก้แค้นให้จงได้ เดิมทีตระกูลซือค่อนข้างระมัดระวังตัวเพราะเกรงกลัวองค์หญิงรัชทายาท แต่คฤหาสน์ราชันลมปราณได้ติดต่อพวกเขามา ด้วยความร่วมมือของฝ่ายราชันลมปราณา ตระกูลซือก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีกแล้ว
สำหรับซูอันที่เอาชนะทายาทของราชันลมปราณได้นั้น ตระกูลซือไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก ตามรายงาน สิ่งเดียวที่พิเศษเกี่ยวกับชายคนนี้คือทักษะการเคลื่อนไหวของเขา การบ่มเพาะที่แท้จริงของเขานั้นอยู่ในระดับหกหรือเจ็ดเท่านั้น
ทายาทของราชันลมปราณแพ้เพราะประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป และเพราะผู้บ่มเพาะธาตุน้ำลึกลับได้ให้การช่วยเหลือซูอัน ตอนนี้พวกเขาอยู่ในพระราชวังแล้ว ผู้บ่มเพาะลึกลับคนใดจะกล้าเข้ามา เช่นนั้นคงไม่อาจหลุดรอดจากมือจักรพรรดิไปได้!
นอกจากนี้ เขาเป็นผู้บ่มเพาะระดับเจ็ด เขาจึงกล้าที่จะปะทะกับซูอันแบบตัวต่อตัวแบบนี้
เจ้าหน้าที่ที่ผ่านไปมาทั้งหมดต่างแสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยาม เจ้าพยายามจะหลอกใครว่าไม่ได้ล้างแค้นแทนน้องชาย? อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครโต้แย้งเพราะไม่มีหลักฐานว่าซือจวิ้นกำลังสะสางความแค้นส่วนตัวในตอนนี้ และไม่มีใครต้องการล่วงเกินตระกูลซือ
“อ่า… เจ้าแค่ทำตามหน้าที่” ซูอันพูดประโยคของซือจวิ้นซ้ำอย่างจงใจ..
ซือจวิ้นส่งเสียงขู่ “ไม่สำคัญว่าเจ้าจะคิดอย่างไร เจ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อฟังข้า ออกไปจากแถวเดี๋ยวนี้!”
ซือจวิ้นจงใจพูดเพื่อทำให้อีกฝ่ายโกรธเคือง หากซูอันไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขาสามารถเรียกทหารราชองครักษ์ได้ ตอนนี้เขาอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจเขาจึงมีวิธีการมากเกินพอที่จะจัดการกับซูอัน
ซูอันส่ายหัวและพูดว่า “โชคไม่ดีที่เจ้าทำผิดพลาดร้ายแรง”
“อะไร?” ซือจวิ้นขมวดคิ้ว สงสัยว่าตัวเองพลาดตรงไหน ถ้าพูดถึงกฎระเบียบเขารู้แจ้งแทงตลอดเหมือนมองฝ่ามือตัวเอง แม้แต่จักรพรรดิเองก็ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์เขาได้
ซูอันหัวเราะและเสริมว่า “ใครบอกว่าปรบมือข้างเดียวไม่ดัง?” ทันทีที่พูดจบ เขาก็ขยับไปด้านหน้าแล้วตบหน้าซือจวิ้นหนึ่งฉาด ปรากฏรอยฝ่ามือมือสีแดงบนใบหน้าเจ้าหน้าที่หนวดยาว
ซูอันถอยหลังออกมายืนที่เดิม “ได้ยินไหม? เมื่อครู่มีเสียงปรบมือไม่ใช่เหรอ?”
คนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นเหตุการณ์นี้! ความเร็วของซูอันนั้นเร็วอย่างยิ่ง เขาถึงกับกล้าโจมตีซือจวิ้น!
ซือจวิ้นเอามือจับใบหน้า สมองของเขาว่างเปล่าในทันที ข้าถูกตี? ไอ้บ้านี่ตีข้าเหรอ? ต่อหน้าผู้คนเยอะแยะขนาดนี้?
เขาโกรธจัด “ไอ้สารเลว รนหาที่ตาย!”
ท่านยั่วยุซือจวิ้นสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999… +999… +999…
—
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้โจมตีกลับ แต่สงบสติอารมณ์ลงและพูดว่า “เจ้ากล้าโจมตีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบมารยาทระหว่างปฏิบัติหน้าที่งั้นเหรอ? นี่เป็นโทษใหญ่หลวง! ทหาร! จับกุมชายคนนี้ไปโบยร้อยครั้ง! จากนั้นโยนมันเข้าคุกหลวงจนกว่าจะมีคำสั่งเพิ่มเติมจากฝ่าบาท!”
ซือจวิ้นคิดกับตัวเองว่า แม้แต่ทายาทของราชันลมปราณก็ไม่สามารถจัดการผู้ชายคนนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายเคลื่อนไหวเร็วเกินไป จนเขามองไม่เห็นอย่างชัดเจน เขาไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะซูอันได้ แต่ตอนนี้เขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในระหว่างปฏิบัติราชการ ดังนั้นในสถานการณ์แบบนี้ เขาสามารถสั่งการทหารได้
ทหารราชองครักษ์ที่อยู่รายรอบตกตะลึง พวกเขาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน
ในอดีต เจ้าหน้าที่ที่ไม่ผ่านการตรวจเครื่องแบบต่างยอมรับโทษอย่างหวาดกลัวโดยการออกจากแถวไปยืนด้านข้าง จะมีใครเคยตบหน้าเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร? นับตั้งแต่การก่อตั้งราชวงศ์โจว ไม่สิ แม้แต่ก่อนหน้านั้นเคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่?
นี่เป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่ตอบสนองทันที เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของซือจวิ้น พวกเขาควรจะจัดการกับเหตุการณ์นี้อย่างไร?
ซูอันใช้โอกาสนี้พูดคุยกับซือจวิ้น “เจ้าพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเจ้ามีหน้าที่ดูแลระเบียบของเจ้าหน้าที่ทุกคน ถ้าอย่างนั้นข้าขอถามเจ้าว่า ถ้ามีเจ้าหน้าที่คนไหนที่ใส่กางเกงไม่เรียบร้อยล่ะ”
ซือจวิ้นตอบโดยไม่รู้ตัวว่า “พวกเขาดูถูกกฎระเบียบของราชสำนัก โทษของการดูหมิ่นคือถอดออกจากตำแหน่งหรือถูกเนรเทศ” เขาอึ้งทันทีที่พูดจบ ทำไมข้าถึงตอบเขา ข้าควรจะจับผู้ชายคนนี้สิ
ซือจวิ้นกำลังจะกระตุ้นให้ทหารจับซูอันอีกครั้ง แต่ซูอันพูดขึ้นมาก่อน “โอ้? ข้ากำลังจะเตือนว่ากางเกงของเจ้าหลุด”
“ไร้สาระ! อย่าคิดว่าเจ้า…” ซือจวิ้นเยาะเย้ย น่าเสียดายที่เขารู้สึกหนาวระหว่างขาเมื่อพูดไปได้ครึ่งประโยค เมื่อมองลงไป จึงเห็นว่ากางเกงของเขาหล่นลงไปกองที่พื้นแล้ว เขายืนตัวแข็งทื่อ
ซูอันพูดกับทหารว่า “การแต่งตัวของบุคคลนี้ไม่เป็นระเบียบ ทำไมไม่จับกุมเขาล่ะ? ว่าอย่างไรนะ? ต้องเนรเทศใช่ไหม?”
ราชองครักษ์พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่มีบางอย่างผิดปกติใช่ไหม? พวกเขาไม่รู้ว่าอะไรถูกต้องกันแน่ในสถานการณ์นี้
ผู้ชมเหตุการณ์ต่างตกใจ ความวุ่นวายยิ่งทวีคูณขึ้นกว่าเดิม เจ้าหน้าที่ที่ผ่านไปมาทั้งหมดล้อมสถานที่ไว้ในขณะที่กำลังนินทา หลายคนถึงกับแสดงความคิดเห็น
“คนของตระกูลซือดูแลตัวเองได้ค่อนข้างดี ผิวขาวผุดผ่อง”
“แต่ตรงนั้นไม่มีขนเลย! ราวกับไม่ใช่ผู้ชาย”
“ว้าว กางเกงชั้นในของเขาสวยจัง…”
…
ซือจวิ้นมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคำรามด้วยความบ้าคลั่งเมื่อได้ยินเสียงสนทนาโดยรอบ เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากและทรุดตัวลง
การกระอักเลือดออกมาเต็มปากดูน่ากลัวก็จริง แต่ด้วยการบ่มเพาะของเขา มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย อย่างไรก็ตาม ความอัปยศที่เขาได้รับนั้นมากเกินไป การแสร้งทำเป็นหมดสติในสถานการณ์แบบนี้ก็ยังดีกว่า ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของซูอัน!
—
ท่านยั่วยุซือจวิ้นสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024… +1024… +1024…
—
ซูอันใช้โอกาสนี้เดินผ่านเข้าไปในพระราชวัง เขาคิดอย่างดูถูก เจ้าจะใช้กฎกับข้างั้นเหรอ? ล้มโต๊ะเสียเลยไอ้เวร!
เขามาถึงพระราชวังตะวันออกและเล่นเกมกับรัชทายาทห้าตาติดต่อกัน หลายครั้งที่รัชทายาทร้องด้วยความตื่นตระหนก สวีน้อยและเหอน้อยเหงื่อออกเย็น ๆ ท่านซูช่างกล้าหาญจริง ๆ ไม่เคยอ่อนข้อให้องค์รัชทายาทชนะแม้แต่ครั้งเดียว!
หลังจากนั้นไม่นาน การออกว่าราชการของจักรพรรดิในช่วงเช้าสิ้นสุดลง องค์หญิงรัชทายาทกลับมาด้วยท่าทีบูดบึ้ง “เปิดประชุม มีเรื่องใหญ่ต้องหารือ!”
หลังจากที่องค์หญิงรัชทายาทออกคำสั่งแล้ว นางก็ถอยเข้าไปในตำหนักด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ไม่นานหลังจากนั้น ขันทีและนางกำนัลของพระราชวังตะวันออกก็รีบออกไปเผยแพร่ข่าว
ซูอันเป็นคนเดียวที่ดูเหมือนจะสบายใจ ไม่นานนักตั้งแต่เขามาถึงพระราชวังตะวันออก เจ้าหน้าที่หลายคนไม่รู้จักเขา เขาไม่รู้จะติดต่อใครถ้าเขาได้รับคำสั่งให้กระจายข่าว ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรทำ… ไม่สิ เขามีงาน เขามาที่นี่เพื่อเล่นโกะกับเจ้าอ้วนห้าตาติดต่อกัน
ซูอันเล่นกับองค์รัชทายาทอย่างไม่ใส่ใจในขณะที่ถาม “องค์รัชทายาท เกิดอะไรขึ้นพะย่ะค่ะ?”
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร?… อ้า! เจ้าวางมันไว้ที่นั่นไม่ได้!” รัชทายาทเอามือกันจุดหนึ่งบนกระดานเกม หยุดซูอันไม่ให้วางหมากที่นั่น
ซูอันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ข้ากำลังทำอะไร? ทำไมข้าถึงมาถามผู้ชายคนนี้?
เขากำลังจะถามองค์หญิงรัชทายาท แต่ดูจากสีหน้าที่เย็นชาของนางในตอนนี้ เขากังวลว่าตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายจริง ๆ เขาจึงแหย่คนอ้วนและกล่าวว่า “องค์รัชทายาท ดูเหมือนจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นนะพะย่ะค่ะ จะไม่ไปดูหน่อยเหรอ?”
“ไม่เป็นไร เรามีหลิงหลงคอยดูแลอยู่แล้ว” รัชทายาทโบกมือด้วยความรำคาญ ความสนใจของเขากลับไปที่กระดานโกะ
ซูอันถอนหายใจ “องค์หญิงรัชทายาทยังคงเป็นสตรี พระนางมีช่วงเวลาที่อ่อนแอที่ต้องการดูแลเอาใจใส่”
รัชทายาทกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หลิงหลงสามารถดูแลทุกสิ่งได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อา… หยุดพูดเรื่องนั้นแล้วตั้งใจเล่นต่อเถอะ”
ซูอันพูดไม่ออก ข้าสามารถชนะได้อย่างง่ายดายแม้ว่าข้าจะฟุ้งซ่าน แต่เจ้าต้องการให้ข้าเล่นอย่างจริงจังจริง ๆ เหรอ? องค์หญิงรัชทายาททำบาปกรรมอะไรในชีวิตที่ผ่านมาจึงมาลงเอยกับคนโง่เง่าแบบนี้?