ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน – บทที่ 290 ทำแบบนี้จะโดนตีนะ!

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

บทที่ 290 ทำแบบนี้จะโดนตีนะ!

ทันทีที่หลิงเยว่ก้าวเข้าไปในห้องกลั่นโอสถ นางได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นข้างหู ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงร้องทรมานของวิญญาณเหล่านั้น หัวใจของนางพลันกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้

และเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของพวกเขา หลิงเยว่จะใช้วิชาช่วยรักษาทุกครั้ง เมื่อแสงสีเขียวเล็ก ๆ ปรากฏขึ้น เสียงร้องโหยหวนจึงค่อย ๆ เบาลงและเงียบลงในที่สุด…

เจ้าสำนักต้วนจึงพบว่าผู้ที่สามารถปลอบประโลมเหล่าวิญญาณได้คือหลิงเยว่นั่นเอง ถ้าไม่มีความสามารถแบบนี้ นางจะทำให้วิญญาณสิบแปดดวงอาศัยอยู่ในร่างกายโดยไม่เสียสติได้อย่างไร?

เจ้าสำนักต้วนไม่อยากคิดมากไปกว่านี้ ใครบ้างจะไม่มีความลับติดตัวเลย?

ถ้าสืบสวนมากเกินไปก็คงไม่ดี

นี่เป็นความคิดของเจ้าสำนักแห่งยอดเขาหลอมศาสตรา คนอื่น ๆ รู้แค่ว่าถ้าครั้งนี้สามารถหลอมศาสตราวุธขึ้นมาเพื่อสังหารเหล่าปีศาจได้ ถ้าเช่นนั้นในวันหน้า…

เหล่านักหลอมศาสตราวุธยิ่งมีไฟในการหลอมมากขึ้น อย่างน้อยหนึ่งถึงสองปีหรืออย่างมากก็สิบปี พวกเขาน่าจะสามารถหลอมขึ้นมาได้สำเร็จแล้ว

ภายในนั้นวันเวลาผ่านไปอย่างเงียบสงบ ส่วนภายนอกถูกข่าวที่มาอย่างต่อเนื่องทำให้ตกใจจนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

เดิมทีคิดว่าพายุฝนกำลังจะมา แต่ผลปรากฏว่า… ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ของพุทธวิหารก็ถูกส่งคืนไปแล้ว!

แม้แต่โอสถและของต่าง ๆ ที่ถูกขโมยไปถูกส่งคืนกลับมาอย่างครบถ้วน!

เหล่าสำนักทั้งหลายที่ถูกโจรปล้นต่างได้ของทุกอย่างกลับมาในสภาพสมบูรณ์! แต่ก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนขโมยไป…

“ท่านอิงหลง แม้แต่ท่านก็ไม่รู้สึกเลยหรือว่าใครเป็นคนขโมยไปแล้วเอากลับมาคืน?”

เมื่อถูกถามโดยคนในสำนักจ้านเจี้ยน อิงหลงจึงตอบด้วยใบหน้าเย็นชา “ไม่ทราบ”

“ท่านกิเลนไฟ พวกท่านจับกลุ่มโจรไม่ได้เลยหรือ?”

กิเลนไฟพยักหน้าอย่างจริงจัง เมื่อเทียบกับการยอมรับว่าความสามารถของตนเองไม่ค่อยดีนัก ชื่อเสียงของโจรนั้นชัดเจนว่าแย่กว่า ดังนั้น…

“จริงสิ ข้าจะเก็บตัวบำเพ็ญเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะมีเรื่องหรือไม่มีเรื่องก็อย่ามารบกวนข้า” ชิงหลงทิ้งคำพูดไว้เช่นนี้ก่อนจะจากไป

เสวียนอู่ไม่ได้ทิ้งคำพูดใดไว้เลย แต่กลายเป็นแสงสายหนึ่งแล้วหายไปทันที กิเลนไฟและอิงหลงสบตากัน คนหนึ่งไปทางซ้าย อีกคนไปทางขวา

พวกเขาแบ่งงานกันอย่างชัดเจน ทิศทางที่สัตว์เทพโบราณทั้งสี่จากไปนั้นสอดคล้องกับทิศตะวันออก ใต้ ตะวันตก และเหนือพอดี

นี่…

เหล่าผู้อาวุโสที่ส่งสัตว์เทพพิทักษ์ประจำสำนักของตนเองไปต่างรู้สึกงุนงงมาก โดยไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ สีหน้าเขาก็กลายเป็นจริงจังและเคร่งขรึมขึ้นมาทันที สัตว์เทพโบราณที่รู้จักแต่นอนทั้งวันกลับจากไปอย่างกะทันหันและยังมีจุดหมายในการจากไปอีกด้วย นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังทำเรื่องใหญ่บางอย่างอยู่

และเรื่องใหญ่นี้ต้องเกี่ยวข้องกับเขตแดนปีศาจอย่างแน่นอน!

ต้องรีบกำจัดสนามรบโบราณเฉียนซีให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเตรียมรับมือกับเขตแดนปีศาจที่กำลังจะเปิดออก!

รางวัลคะแนนสำหรับการล่าปีศาจและสัตว์ประหลาดในสนามรบโบราณได้รับการแก้ไขแล้ว มีทั้งอาวุธกึ่งเทพ ศาสตราวุธปราบมารชั้นยอด โอสถชั้นยอด วัสดุชั้นยอด เตากลั่นโอสถชั้นยอด เตาหลอมอาวุธ และสมุนไพรวิญญาณหายาก…

รางวัลเหล่านี้เพียงพอที่จะทำให้โลกผู้บำเพ็ญเซียนเดือดพล่าน ผู้บำเพ็ญจำนวนมากวิ่งไปที่สนามรบโบราณเฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง กลัวว่าถ้าช้าไปสักก้าว ปีศาจจะถูกคนที่มาก่อนพวกเขากำจัดจนหมดสิ้น

พื้นที่อาหารวิญญาณพิเศษได้รับการขยายอีกครั้ง แม้ว่าจะมีหม้อไฟเผ็ดและของทอดให้บริการตนเองปรากฏขึ้น แต่มันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ…

เซี่ยซิ่นรุ่ยมองไปยังฝูงชนด้วยความชินชา ฮวนฮวนที่ถูกบังคับให้มาช่วยร้องไห้ไปด้วยจัดการกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ใหญ่กว่านางหลายพันเท่าไปด้วย นางทำบาปอะไรไว้ในชาติที่แล้ว ถึงต้องถูกพี่ชายและอาจารย์ใช้งานเยี่ยงทาสแบบนี้!

“นี่! กินถั่วเคลือบน้ำตาลสักเม็ดก็ไม่เหนื่อยแล้ว”

หลิงเยว่โยนถั่วเคลือบน้ำตาลก้อนใหญ่ให้ฮวนฮวน หู่พั่วที่นั่งยอง ๆ อยู่ข้างเท้าของนางเพื่อล้างสมุนไพรวิญญาณก็ได้รับเช่นกัน

ทั้งสองกินถั่วเคลือบน้ำตาลไปพร้อมกับความโกรธแค้นที่แฝงอยู่ในดวงตา

“ไม่ทำแล้ว!”

หัวหน้าตะขาบมรกตโยนมีดทำครัวทิ้งแล้วเดินจากไปด้วยความโกรธเคือง

“ถ้าเจ้าจะไป ก็ให้ลูกหลานของเจ้าออกมาช่วยก่อน”

หัวหน้าตะขาบมรกตแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ที่นี่มีมนุษย์มากมาย หากมีคนใจร้ายรวมตัวกันจับลูกหลานของเขาขึ้นมาเล่า?

เขาไม่มีทางมอบให้หรอก!

หัวหน้าตะขาบมรกตหัวเราะเย็นชา เมื่อเทียบกับการเป็นเครื่องมือประมวลผลวัตถุดิบที่ไร้ความรู้สึก เขายินดีที่จะไปสังหารอย่างโหดเหี้ยมในสนามรบมากกว่า! แม้ว่าหลังจากไปถึงสนามรบแล้วจะไม่สามารถยัดของอร่อยเข้าปากได้ตลอดเวลา แต่เขาก็ทนกับที่ตรงนี้มามากพอแล้ว!

โม่จวินเจ๋อกำลังจะโจมตีครั้งสุดท้ายใส่อสูรที่อยู่ตรงหน้าเขา กระบี่ถูกยกขึ้น แต่ผลปรากฏว่า… ถูกหัวหน้าตะขาบมรกตที่โผล่ออกมาอย่างกะทันหันแย่งไปเสียอย่างนั้น!

โม่จวินเจ๋อ “…”

มีสัตว์อสูรเต็มไปหมด ทำไมต้องมาแย่งของเขาด้วย?

หัวหน้าตะขาบมรกตเก็บศพสัตว์อสูรอย่างคล่องแคล่ว แล้วไปแย่งเหยื่อของลู่เป่ยเหยียนต่อ

เพื่อน ๆ ทั้งหมดต่างเสียแรงเปล่าแล้ว!

“หัวหน้าตะขาบมรกต เจ้าทำอะไรเนี่ย!”

ตะขาบมรกตตัวที่สองกำลังจะกินสัตว์อสูรตัวเล็กที่ส่งมาถึงปาก!

“ตาบอดเหรอ? แน่นอนว่ากำลังเก็บของอร่อยอยู่!”

คนที่ถูกแย่งชิงอยากจะลมจับ คาดว่าเขาคงโดนหลิงเยว่ทรมานเลยมาระบายที่นี่เป็นแน่!

หัวหน้าตะขาบมรกตที่ตั้งตนเป็นศัตรูของทุกคนโดนรุมทำร้าย…

คนที่เดินทางไปครึ่งชั่วโมงก่อน ถูกตีจนกลับมาด้วยร่างเดิม บนร่างของหัวหน้าตะขาบมรกตเต็มไปด้วยแผลไฟไหม้และแผลจากกระบี่ แม้แต่ดวงตาที่สวยที่สุดยังบวมปูด

“รัก… ษา… หน่อย…” หัวหน้าตะขาบมรกตพูดจาติดขัด

หลิงเยว่ทนไม่ไหวหัวเราะบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะดังเกือบจะกลบเสียงคนที่กำลังวุ่นวายด้วยซ้ำ!

วันเวลาผ่านไปด้วยความวุ่นวายกับการทำอาหารและต่อสู้กับสัตว์อสูร วันหนึ่งเมฆดำปกคลุมท้องฟ้าอย่างกะทันหัน สายฟ้าฟาดทะลุชั้นเมฆและม่านพลังป้องกัน…

เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องกลบเสียงคนและเสียงคำรามของสัตว์อสูร

“พวกเขากำลัง… หลอมศาสตราวุธระดับเทพอยู่หรือ?”

มีเพียงศาสตราวุธระดับเทพเท่านั้นที่ต้องผ่านทัณฑ์สวรรค์!

หลิงเยว่รอมาหนึ่งปีแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาสักที นางไม่พูดอะไรอีก โยนทัพพีทิ้งแล้วรีบไปที่ห้องกลั่นโอสถ พร้อมกับผู้ร่วมเดินทางจำนวนมาก

มีผู้คนจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกันอยู่ที่ด้านนอกม่านพลัง

หลิงเยว่ยังไม่ทันได้เข้าไปก็ถูกพลังสายหนึ่งดึงเข้าไปในม่านพลังทันที

ผีผาสีดำสนิทลอยอยู่กลางอากาศ มันรอคอยทัณฑ์สวรรค์อย่างเงียบ ๆ หากสามารถผ่านการชำระล้างของสายฟ้าได้สำเร็จ…

มันจะกลายเป็นศาสตราวุธปราบปีศาจชิ้นแรกของโลกผู้บำเพ็ญเซียน!

“งดงามยิ่งนัก”

หลิงเยว่มองตาค้าง ถึงแม้จะดำสนิท แต่ยังคงดึงดูดสายตาได้ขนาดนี้ หากตอนนั้นฟูเหรินผีผาได้ดีดผีผาเครื่องนี้แล้ว ราชินีปีศาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้อย่างไร!

“ข้าก็สวยนะ!”

ดอกไม้สีดำเล็ก ๆ ในตันเถียนกำลังจะออกมาก่อเรื่อง แต่ถูกหลิงเยว่กดไว้ มันเป็นแค่ของปลอมเท่านั้นเหมือนพวกสินค้าคุณภาพต่ำ!

แต่ดอกไม้สีดำเล็กก็เตือนสติหลิงเยว่ เมื่อพิณปราบปีศาจผ่านการชำระล้างได้สำเร็จ นางจะขอยืมมาดูพร้อมกับให้ศาสตราวุธประจำกายของตนทำการคัดลอกไว้ชิ้นหนึ่ง บางทีในอนาคตอาจจะได้ใช้!

นอกจากนี้ อีกสิบเจ็ดชิ้นก็ไม่อาจปล่อยผ่าน หลิงเยว่รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก นางอยากจะวิ่งเข้าไปช่วยพิณปราบปีศาจให้ผ่านการชำระล้างเสียเดี๋ยวนี้

ทัณฑ์สวรรค์ก่อตัวอยู่นาน จนกระทั่งทุกคนแทบจะหมดความอดทน เมฆสีดำถึงได้ปรากฏสายฟ้าสีดำล้วนเส้นหนาจนน่าตกใจ

“???”

ดูท่าทางแล้วเหมือนจะไม่อยากให้ศาสตราวุธปราบปีศาจผ่านการชำระล้างได้สำเร็จเลยสักนิด!

แม้แต่ทัณฑ์สวรรค์ของกระบี่เหมันต์เร้นลับยังไม่น่ากลัวขนาดนี้เลย!

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

Status: Ongoing
‘หลิงเยว่’ ผู้ฝึกตนสำนักฝ่ายนอกแสนอ่อนหัด ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก ทว่ายังโชคดีได้ระบบนี้มาช่วยชีวิต มอบหมายภารกิจให้นางสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารให้เกิดประโยชน์ แม้เส้นทางการเป็นยอดเซียนจะหริบหรี่ ทว่าโชคชะตาของยอดแม่ครัวได้เปิดทางให้ ‘หลิงเยว่’ ได้พบหนทางที่จะช่วยให้ตนรอดจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้‘ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ตะหลิว เอ้ย! มานะตน หากนางไม่ยอมแพ้ ย่อมต้องมีหนทางสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท