ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 582 พรสวรรค์(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 582 พรสวรรค์(2)

หลัวซงผิงและหลินไคจงก็ตกใจกับการกระทำของฉินมู่หลานเหมือนกัน ตอนนี้จึงเพิ่งกลับมาได้สติ แล้วพาทุกคนออกไปข้างนอก

เยวี่ยจงจีและคนอื่น ๆ เดินตามหลัง ก่อนจะมองฉินมู่หลานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม พวกเขานึกไม่ถึงเลย ว่าทักษะการแพทย์ของฉินมู่หลานจะสูงขนาดนี้แล้ว เธอไม่เหมือนเป็นนักศึกษาเลย ดีกว่าหมอหลายคนอีก

หลังจากทุกคนออกจากห้องผ่าตัด สุดท้ายก็ทนไม่ไหว แล้วค่อย ๆ หันไปมองฉินมู่หลานก่อนจะเอ่ยถาม “นักศึกษาฉิน เธอเคยผ่าตัดแบบนี้มาก่อนเหรอ เธอเริ่มเรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากแพทย์แผนตะวันตกแล้ว ยังเรียนแพทย์แผนจีนด้วยเหรอ แพทย์แผนจีนนี่ขลังมากเลยเหรอ ที่เธอเพิ่งทำไปเมื่อสักครู่ ช่วยปกป้องหัวใจของคนไข้ได้จริง ๆ นะเนี่ย”

ได้ยินเสียงพูดจอแจก้องดังอยู่ในหู ฉินมู่หลานแทบฟังไม่รู้เรื่องเลยว่าคนพวกนี้พูดอะไรกัน

หลินไคจงจึงส่งสัญญาณบอกให้ทุกคนเงียบลง “ทุกคนอย่าเพิ่งรีบร้อน พวกเรามาทำหน้าที่ในวันนี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยให้นักศึกษาฉินอธิบายเรื่องนี้ทีหลัง”

เมื่อได้ยินว่ายังต้องไปสังเกตการณ์ที่ห้องผ่าตัดหมายเลขหนึ่ง ทุกคนก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจำเป็นแล้ว

“อาจารย์หลิน พวกเราได้สังเกตการผ่าตัดไปหนึ่งรอบแล้ว การผ่าตัดอื่นไม่จำเป็นแล้วล่ะ แค่ให้นักศึกษาฉินเล่าเกี่ยวกับเรื่องการผ่าตัดเมื่อสักครู่นี้ให้ฟังก็พอแล้วครับ” โอเว่นจ้องมองฉินมู่หลานด้วยสายตาลึกซึ้ง จากนั้นก็เสนอความคิดเห็นของตัวเองออกมา

อาจารย์ยามาโมโตะและอีธานอีกสองคนก็รู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นความคิดที่ดี สิ่งที่พวกเขาสนใจมากที่สุดในตอนนี้ก็คือฉินมู่หลาน

หลินไคจงเห็นหลายคนกล่าวแบบนั้น จึงหันไปมองฉินมู่หลานด้วยสายตาสงสัย

ฉินมู่หลานไม่มีอะไรที่จะต้องไม่เห็นด้วย ก่อนจะพยักหน้าแล้วกล่าวตามตรง “ได้ค่ะ”

เอลล่าและชิโยโกะยืนอยู่ข้างหลัง เฝ้ามองฉินมู่หลานถูกรายล้อมไปด้วยดวงดาราประหนึ่งดวงจันทร์ สายตาก็ไม่สามารถซ่อนความริษยาได้เลย

“น่าชังนัก หล่อนทำสำเร็จจริงด้วย ฉินมู่หลานมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีจริง ๆ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเอลล่า ชิโยโกะก็เอ่ยขึ้นตาม “จริง หล่อนเป้นแค่นักศึกษาแต่กลับผ่าตัดได้แล้ว ต่อไปข้างหน้าต้องเก่งกาจกว่านี้แน่ พวกเรารวมหัวกันทุกคนยังเทียบหล่อนไม่ได้เลย”

ตอนแรกหล่อนคิดว่า การแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ กลุ่มนักศึกษาจีนจะด้อยมากที่สุดในบรรดาหมู่พวกเขา แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม สิ่งนี้จึงทำให้พวกเขารู้สึกเขินอายนิดหน่อย

ขณะทั้งสองพูดคุยกัน คนอื่นก็ขึ้นไปที่ห้องประชุมข้างบนกันหมดแล้ว พวกหล่อนเห็นแบบนี้จึงรีบตามไปให้ทัน

ขนกระทั่งมาถึงห้องประชุม ฉินมู่หลานก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเลย เล่ารายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับการผ่าตัดเมื่อสักครู่นี้ หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า “เข็มทองมีเอาไว้ปกป้องหัวใจจริง ๆ ค่ะ บางครั้งแพทย์แผนจีนก็สามารถสร้างสรรค์ความมหัศจรรย์ได้”

ผู้คนจากดินแดนแห่งซากุระและฮ่องกงต่างพากันเชื่อ ในส่วนของอาจารย์และนักเรียนจากอเมริกาและอังกฤษ ยังรู้สึกฉงนอยู่นิดหน่อย

และมุมมองของยามาโมโตะก็เห็นว่าปัญหานี้ดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

“นักศึกษาฉิน เห็นจากที่คุณผ่าตัดวันนี้ ก่อนหน้านี้คุณคงผ่าตัดมาไม่น้อยสินะ คุณเริ่มเข้าห้องผ่าตัดมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็หันมองยามาโมโตะอีกครั้ง ก่อนจะเล่าให้ฟังว่า “ฉันเรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็กค่ะ เริ่มเข้าห้องผ่าตัดเมื่อสองสามปีก่อน ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมฉันถึงเก่งขนาดนี้ ก็คงเป็นเพราะพรสวรรค์ค่ะ บางครั้งเราก็ต้องทำใจยอมรับ ว่าพรสวรรค์ก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ”

พูดถึงเรื่องพรสวรรค์คงฟังไม่ค่อยเข้าท่า เธอจึงอธิบายให้ฟังโดยตรง ก็คงไม่เป็นปัญหา

ยามาโมตะได้ยินแบบนี้ก็ถึงกับสำลัก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่สักพักหนึ่ง จริงอยู่ที่บางครั้งไม่ว่าคนเราจะตั้งใจทำงานหนักขนาดไหน แต่ก็อาจทำได้ไม่ดีเท่ากับคนที่มีพรสวรรค์ เธอกำลังจะบอกว่าคนเราเทียบกันไม่ได้

เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ของฉินมู่หลาน การประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ก็ดูกระอักกระอ่วน

แต่เยวี่ยจงจีหันมองฉินมู่หลานพร้อมรอยยิ้มก่อนจะพูดว่า “นักศึกษาฉิน เธอเก่งมากจริง ๆ ต่อไปถ้ามีโอกาส เธอช่วยสอนพวกเราด้วยนะ”

หลี่หมิงฮุ่ยก็พยักหน้าทั้งรอยยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว เธอต้องสอนพวกเราให้ละเอียดเลยนะ” ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่ฉินมู่หลานจะไม่สนใจเอลล่าและชิโยโกะ อยู่ภายใต้สายตาของพวกหล่อน เธอยังมีความมั่นใจได้ขนาดนี้ ถ้าหากเขามีทักษะทางการแพทย์แบบนี้ คงมั่นใจยิ่งกว่านี้เป็นหลายเท่าตัว

แต่ถึงอย่างนั้น หลี่หมิงฮุ่ยกลับรู้สึกว่าชื่อของฉินมู่หลานนั้นค่อนข้างคุ้นหู

“เดี๋ยวนะ…นักศึกษาฉิน ดูเหมือนว่าพวกเราจะเคยได้ยินชื่อเธอมาจากที่ไหนนะ”

หวังโหย่วเหรินได้ยินแบบนี้ ก็เหลือบมองหลี่หมิงฮุ่ยเป็นการเตือน แล้วใช้ภาษาจีนกวางตุ้งบอกกล่าว “หมิงฮุ่ย ระวังคำพูดของนายด้วย นักศึกษาฉินไม่ใช่ผู้หญิงที่พวกนายจะจับต้องได้หรอกนะ นายอย่ามาใช้วิธีการจีบแบบนี้”

เยวี่ยจงจีและหลี่หมิงฮุ่ยต่างเป็นนายน้อยตระกูลร่ำรวย หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงไม่พูดด้วยแบบนี้ แต่หลังจากได้เห็นฝีมือการผ่าตัดของฉินมู่หลานแล้ว จึงไมอยากให้ฉินมู่หลานขุ่นเคือง เพราะการได้มาพบปะเพื่อหมอที่ฝีมือเก่งกาจ บางครั้งก็มีความสำคัญมากจริง ๆ

เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ตัวเอง หลี่หมิงฮุ่ยจึงรีบเอ่ยปากอธิบาย “ไม่ใช่ครับอาจารย์ ผมเหมือนจะเคยได้ยินชื่อฉินมู่หลานมาก่อนจริง ๆ ครับ แต่ก็ยังนึกไม่ออกเลย”

เมื่อเห็นท่าทางของหลี่หมิงฮุ่ยดูจริงจัง หวังโหย่วเหรินจึงลังเลนิดหน่อย แม้แต่เยวี่ยจงจีก็ยังหันไปมองเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าฉินมู่หลานจะพูดภาษาจีนกวางตุ้งไม่ได้ แต่ก็สามารถฟังเข้าใจ จึงหันไปมองศิษย์อาจารย์ที่มาจากฮ่องกง เธอมั่นใจว่าไม่เคยพบหลี่หมิงฮุ่ยมาก่อน จึงไม่สนใจอีกต่อไป

และหลินไคจงเห็นว่าฉินมู่หลานกล่าวจบแล้ว จึงรีบหันมองทุกคนพร้อมรอยยิ้มแล้วบอกว่า “การเดินชมรอบเช้าก็มีเพียงเท่านี้ครับ ต่อไปพวกเราจะไปกินอาหารกันต่อ”

จนกระทั่งไปถึงโรงแรม ในที่สุดหลี่หมิงฮุ่ยก็นึกขึ้นได้

“ฉันรู้แล้ว” ขณะพูด เขาก็ยังหันไปมองเยวี่ยจงจีด้วย แล้วกล่าวว่า “จงจี ครอบครัวของพวกนายไม่ได้ซื้อกิจการเครื่องสำอางของเซิงซื่อกรุ๊ปหรอกเหรอ ที่เฉินเหวินเหวินเป็นพรีเซ็นเตอร์น่ะ ผู้ผลิตเครื่องสำอางคนนั้นชื่อว่าฉินมู่หลานไม่ใช่เหรอ”

ห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ในฮ่องกงเป็นของตระกูลหลี่ เพราะฉะนั้นหลี่หมิงฮุ่ยจึงทราบเรื่องแบรนด์สินค้าต่างๆ มากมาย และที่เขาสังเกตแบรนด์มู่เสวี่ยได้ ก็เพราะเป็นเครื่องสำอางจากแผ่นดินใหญ่ ที่หลังจากเข้าเซิงซื่อกรุ๊ปแล้ว คนก็มาแย่งกันซื้อเยอะแยะขนาดนั้น เขาจึงมีความประทับใจมาก ในที่สุดตอนนี้ก็นึกขึ้นได้แล้ว

เมื่อได้ยินแบบนี้ เยวี่ยจงจีก็คิ้วขมวดเล็กน้อย

“เป็นหล่อน”

เขาก็นึกออกแล้ว เพียงแต่ธุรกิจนั้นภรรยาคนที่สามของพ่อ ตู้เยว่เอ๋อร์ เป็นคนรับผิดชอบ ซึ่งคนในครอบครัวของเขาไม่ค่อยชอบตู้เยว่เอ่อร์นัก ผู้หญิงคนนั้นมีความสามารถมาก นอกจากนี้ยังฉลาดในเรื่องธุรกิจมากด้วย โชคดีที่หล่อนไม่มีลูก ดังนั้นพวกเขาก็โล่งใจอยู่ไม่น้อย

ตอนนี้ฉินมู่หลานกำลังรับประทานอาหารอยู่ จึงไม่ได้สนใจส่งที่พวกพูดมากนัก หลังจากทราบว่าไม่มีตารางงานในช่วงบ่าย จึงหันไปมองหลัวซงผิงแล้วกล่าวว่า “อาจารย์คะ ถ้าอย่างนั้นหลังกินข้าวเสร็จหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท