ตอนที่ 1539 ขัดแย้งภายใน
ไป๋จิ่นถงถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าสายลับที่นางพยายามหาทางส่งไปอยู่ข้างกายไทเฮาต้าเยี่ยนจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ขณะที่รถม้ากำลังจะเลี้ยวเข้าไปในซอยหนานช่าง เงาของร่างๆ หนึ่งที่กำลังสั่นเทาพุ่งตัวไปยังรถม้าของไป๋จิ่นถงทันทีที่เห็นว่านั่นคือรถม้าของตระกูลชุย
ทว่า ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็ถูกองครักษ์ขวางไว้เสียก่อน
เมิ่งเจาหรงตกใจจนตัวสั่นเทา ใบหน้าภายใต้หมวกขาวซีด
เมื่อนางเห็นว่ารถม้ากำลังจะเคลื่อนผ่านหน้านางไปนางจึงเบิกตาโพลง จากนั้นรีบวิ่งตามไปด้านหน้าโดยไม่สนใจดาบคมที่ขวางอยู่ตรงหน้า “กงสิง! กงสิง กงสิง นี่ข้าเอง! กงสิง…ข้าคือเมิ่งเจาหรง!”
ตระกูลเมิ่งถูกยึดทรัพย์แล้ว ฮูหยินเมิ่งต้องจ่ายอย่างหนักเพื่อให้นางหลบหนีออกมา มารดาของนางกำชับให้นางใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนตัวไปตลอดชีวิต ให้ลืมไปเสียว่านางคือบุตรสาวของเสนาบดีเมิ่ง ขอเพียงมีชีวิตอยู่ต่อไปก็พอ หากนางติดตามมารดาไปด้วยนางคงต้องเข้าไปอยู่ที่หอนางโลม ชีวิตนี้คงจบสิ้นแล้ว
คืนที่ส่งเมิ่งเจาหรงหลบหนีออกมา ฮูหยินเมิ่งสั่งให้สาวใช้ข้างกายของเมิ่งเจาหรงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดของเมิ่งเจาหรง จากนั้นบีบคอนางจนตาย เมื่อเห็นสตรีคนอื่นของตระกูลเมิ่งปลิดชีพลงจนหมด ฮูหยินเมิ่งจึงปลิดชีพลงเช่นกัน
เมื่อเมิ่งเจาหรงที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวรู้ข่าวการฆ่าตัวตายของมารดาก็ใจแหลกสลายในทันที นางไม่รู้จะไปที่ใดดี นางนึกออกเพียงแค่ชุยเฟิ่งเหนียนที่เคยช่วยเหลือนางทุกอย่างเท่านั้น นางอยากได้รับการคุ้มครองจากเขา
เมื่อไป๋จิ่นถงซึ่งนั่งอยู่ในรถได้ยินเสียงเรียกอันเบาหวิวอย่างไม่กล้าตะโกนออกมาดังๆ เพราะกลัวผู้อื่นได้ยินของเมิ่งเจาหรงจึงลืมตาขึ้น ทว่า นางไม่ได้สั่งให้รถม้าหยุดลง ทำเพียงใช้มือข้างหนึ่งแหวกม่านรถม้าออกเล็กน้อยเท่านั้น นางมองเห็นเมิ่งเจาหรงเหมือนมีท่าทีอยากวิ่งตามมา ทว่า กลัวองครักษ์ของนาง ไป๋จิ่นถงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน นางกำเตาอุ่นมือลายดอกเหมยไว้ในมือข้างหนึ่ง
ไป๋จิ่นถงไม่ใช่คนโหดร้าย ทว่า นางไม่สามารถใช้ความเมตตาในทางที่ผิดได้
เมื่อเห็นรถม้าวิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ เมิ่งเจาหรงอยากวิ่งตามต่อก็ได้ยินเสียงตะคอกขององครักษ์ตระกูลชุย “แม่นาง หากเจ้ายังตามตอแยไม่เลิกเช่นนี้ข้าคงต้องส่งตัวเจ้าให้นางการนะ”
เมื่อได้ยินคำว่าทางการเมิ่งเจาหรงจึงรีบหันหลังวิ่งหนีไปด้วยความตกใจราวกับเห็นผี
ไป๋จิ่นถงนั่งรถม้าไปจนถึงจวนชุย เมื่อเดินออกมาจากรถม้าก็เห็นตานจือและสาวใช้ข้างกายกำลังยืนรอต้อนรับเขาอยู่ด้วยรอยยิ้ม
“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ…” น้ำเสียงของตานจือไพเราะและอ่อนโยนมาก นางยื่นเตาอุ่นมือในมือให้สาวใช้ข้างกาย จากนั้นรับร่มไปจากมือของสาวใช้และเดินถือร่มตรงไปต้อนรับไป๋จิ่นถงที่กำลังลงจากรถม้า
โคมไฟหน้าจวนชุยคือโคมไฟที่เพิ่งเปลี่ยนสำหรับฉลองปีใหม่ แสงสีแดงของโคมไฟส่องสว่างหน้าจวนชุยจนบรรยากาศของจวนชุยเต็มไปด้วยสิริมงคล ตานจือมวยผมทรงที่ทำเป็นประจำเมื่ออยู่ในจวน นางสวมชุดกระโปรงยาวสีแดงขลิบทอง แม้เครื่องแต่งกายของนางจะดูธรรมดา ทว่า กระดุมที่ติดอยู่บริเวณเสื้อทำมาจากไข่มุกเนื้องามเม็ดใหญ่เข้ากันกับต่างหูที่นางใส่อยู่ มองผ่านๆ ช่างดูเหมือนฮูหยินของบรรดาขุนนางใหญ่ราชสำนักยิ่งนัก
“วันนี้ข้าบอกว่าจะกลับมาช้าไม่ใช่หรือ ทำเจ้าลำบากแล้ว…” ไป๋จิ่นถงรับร่มไปจากตานจือ นางใช้เสื้อคลุมตัวใหญ่ของตัวเองคลุมร่างของตานจือ แสดงท่าทีราวกับนายท่านที่รักอนุของตัวเองเสียเต็มประดา
“เป็นเรื่องที่ข้าสมควรทำเจ้าค่ะ” ใบหูของตานจือแดงก่ำ นางกล่าวออกมาเบาๆ อย่างเขินอาย
ไป๋จิ่นถงพาตานจือกลับไปยังห้องนอน ตอนที่ตานจือกำลังปรนนิบัติไป๋จิ่นถงอาบน้ำมีข่าวรายงานว่าไทเฮาออกเดินทางไปยังตำหนักพักผ่อนแล้ว เมื่อเชื้อพระวงศ์ตระกูลมู่หรงรู้ข่าวจึงพากันไปส่งไทเฮาถึงที่ด้วยตัวเอง
ไป๋จิ่นถงฟังคนของนางรายงานข่าวนี้อยู่ในถังน้ำอุ่น
ไทเฮาน่าจะถูกส่งไปอยู่ที่ตำหนักพักผ่อนตั้งแต่ตอนที่ผู้สำเร็จราชการจับได้ว่านางร่วมมือกับเสนาบดีเมิ่งวางยาและกักบริเวณจักรพรรดิต้าเยี่ยนแล้ว ทว่า เชื้อพระวงศ์ออกมาขอร้องผู้สำเร็จราชการแทนไทเฮาว่าขอให้นางอยู่ฉลองปีใหม่ในวังหลวงก่อน
ตอนนี้ขึ้นปีใหม่แล้ว ไทเฮาจึงต้องถูกส่งตัวไปยังตำหนักพักผ่อนแล้ว ทว่า เชื้อพระวงศ์ตระกูลมู่หรงกลับพากันไปส่งไทเฮาถึงตำหนักพักผ่อนทั้งๆ ที่รู้ว่าไทเฮาทำผิดร้ายแรงถึงขั้นวางยาจักรพรรดิต้าเยี่ยนอย่างนั้นหรือ ไม่รู้ว่าไทเฮาบอกกับคนเหล่านั้นเช่นไร เชื้อพระวงศ์จำนวนหนึ่งจึงไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิต้าเยี่ยนในวังหลวง อีกส่วนกลับไปส่งไทเฮาถึงตำหนักพักผ่อน
“ไทเฮาต้าเยี่ยนเป็นคนเก่งกาจคนหนึ่ง นางสามารถมีที่ยืนในตระกูลมู่หรงได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไทเฮาถูกส่งตัวไปตำหนักพักผ่อนเพราะวางยาจักรพรรดิต้าเยี่ยน ทว่า พวกเขายังกล้าไปขวางขบวนเสด็จของไทเฮาอีก” ไป๋จิ่นถงพาดแขนไว้บนขอบถัง “ไม่รู้ว่าคนของเราจะหาทางสืบได้หรือไม่ว่าไทเฮากล่าวสิ่งใดกับเชื้อพระวงศ์เหล่านั้นกันแน่”
“ข้าจะสั่งให้คนลองสืบดูขอรับ”
“ระวังตัวด้วย ตอนนี้ตระกูลชุยถูกจับตามองอย่างหนัก อย่าทำให้ตระกูลชุยถูกเปิดโปงเด็ดขาด”
ตอนนี้จวนชุยถูกจับตามองอย่างหนักถึงแม้ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนซึ่งเป็นพี่เขยของนางจะไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงก็ตาม
ขนาดข่าวเรื่องที่ไทเฮาจะถูกส่งตัวไปยังตำหนักพักผ่อนในวันนี้ยังได้มาจากการที่คนของนางปลอมตัวเป็นบ่าวของสหายที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้แอบมารายงานนางโดยอ้างว่านำป้ายหยกที่นางทำหล่นไว้มาคืนเลย
การที่ไทเฮาถูกองครักษ์คุมตัวไปยังตำหนักพักผ่อนท่ามกลางหิมะที่ตกหนักเช่นนี้คือเรื่องใหญ่ของคนในตระกูลมู่หรง เชื้อพระวงศ์ของตระกูลมู่หรงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจักรพรรดิต้าเยี่ยนจึงปฏิบัติต่อมารดาแท้ๆ ของตัวเองอย่างโหดร้ายเช่นนี้หลังจากขึ้นเป็นจักรพรรดิ วันนี้หิมะตกหนักมาก เหตุใดจึงไม่รอให้หิมะหยุดตกก่อนแล้วค่อยส่งมารดาของตัวเองออกจากวังพรุ่งนี้แทนกัน
ดังนั้นผู้ใหญ่ของตระกูลมู่หรงจึงจับกลุ่มกันไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิต้าเยี่ยนในวังหลวงโดยถือว่าตัวเองอาวุโสกว่า พวกเขาถือโอกาสตอนที่มู่หรงเหยี่ยนไม่อยู่ใช้ความอาวุโสกดดันไม่ให้มู่หรงลี่ส่งไทเฮาไปยังตำหนักพักผ่อน
แม้ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนจะเป็นคนตระกูลมู่หรงเหมือนกัน ทว่า ชายหนุ่มไม่ได้ใจอ่อนเหมือนมู่หรงอวี้ มู่หรงเหยี่ยนไม่ปล่อยให้มู่หรงลี่จัดการกับเชื้อพระวงศ์ด้วยตัวเอง เขาแป็นคนออกหน้าทำเรื่องพวกนี้แทนหลานชายทั้งหมด
เชื้อพระวงศ์ที่ก่อเรื่องตอนมู่หรงลี่ขึ้นครองราชย์ถูกเซียวหรงเหยี่ยนใช้ฐานะของผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนขับไล่กลับไปอยู่เมืองลี่อี้ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของต้าเยี่ยนหมดแล้ว คนที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของเซียวหรงเหยี่ยนถูกกำจัดจนหมดสิ้นอย่างไม่ไว้หน้าผู้ใด ดังนั้นเชื้อพระวงศ์เหล่านี้จึงหวาดกลัวเซียวหรงเหยี่ยนมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าเซียวหรงเหยี่ยนพวกเขาเก็บเขี้ยวเล็บของตัวเองไว้เป็นอย่างดีราวกับเสือที่ไร้กรงเล็บ
ตอนที่เซียวหรงเหยี่ยนอยู่เชื้อพระวงศ์เหล่านี้อยู่อย่างสงบเสงี่ยมมาโดยตลอด เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวสิ่งใดพวกเขาก็ทำตามนั้นราวกับคนซื่อสัตย์
ในสายตาของเซียวหรงเหยี่ยนจึงคิดว่าคนเหล่านี้เริ่มว่าง่ายขึ้นแล้ว ที่สำคัญแต่ไรมาแม้ตระกูลมู่หรงจะขัดแย้งกันเองภายในบ้าง ทว่า เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูพวกเขาล้วนสามัคคีกันมาโดยตลอด ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ต้าเยี่ยนเผชิญปัญหาจนแคว้นเกือบดับสูญ เชื้อพระวงศ์เหล่านี้บริจาคทรัพย์สินและของมีค่าของตัวเองออกมาทั้งหมดโดยไม่เก็บซ่อนไว้จริงๆ