คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 746 จะหนีไปไหน

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 746 จะหนีไปไหน

ฮูหยินหลิวจับมือสาวใช้ที่พยุงนางแล้วเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ นางได้ยินว่าฉินหลิวซีบุกโจมตีเข้ามาในจวน ใช่แล้ว โจมตี

ฉินหลิวซีให้คนเฝ้าประตูเปิดประตู นางมีเรื่องต้องการพบนายหญิงใหญ่ แน่นอนว่าคนเฝ้าประตูไปรายงานก่อน แต่นางไม่มีความอดทนรอจึงเตะประตูจนเปิดออก บ่าวรับใช้และองครักษ์ต่างก็ตกตะลึง สัญชาตญาณบอกว่านางมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา จึงเข้าไปขวาง ปรากฏว่าถูกฉินหลิวซีโจมตีเข้ามา

ฮูหยินหลิวเห็นบรรดาบ่าวรับใช้หญิงบางคนในเรือนพากันกุมเอวพลางร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด กว่าจะมาถึงเรือนของลูกสะใภ้นั้นไม่ง่ายเลย ก้าวข้ามธรณีประตูมาก็เกือบจะล้ม ได้พบกับฉินหลิวซีพอดี

“ท่านอาจารย์ ท่านจะทำอะไรหรือ” ฮูหยินหลิวถามด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

ฉินหลิวซีนั้นเก่งกาจ แต่การที่นางบุกเข้ามาในจวนโดยไม่เห็นหัวใครเลย หากเผยแพร่ออกไป ตระกูลหลิวก็จะเสียหน้ากันหมด

ฉินหลิวซี “มาหาคน”

“มาหาคนท่านต้องอาละวาดใหญ่โตขนาดนี้เชียวหรือ” ฮูหยินหลิวรู้สึกโมโหอยู่บ้าง

ฉินหลิวซีแสยะยิ้ม “แน่นอนว่ามาหาลูกศิษย์น้อยของข้าที่ถูกลูกสะใภ้ท่านลักพาตัวไป”

อะไรนะ

ฮูหยินหลิวสีหน้ามืดครึ้ม

หูซื่อ หูซื่อตัวซวยผู้นี้กล้าลักพาตัวลูกศิษย์ของนางไปอย่างนั้นหรือ

จบแล้ว จบแล้ว คราวนี้จบเห่แล้วจริงๆ นางจะทำลายตระกูลหลิวทิ้งอย่างนั้นหรือ

“ฮูหยิน นายหญิงใหญ่จะคลอดแล้วเจ้าค่ะ รีบไปเชิญหมอตำแยเร็วเจ้าค่ะ” มีบ่าวรับใช้ร้องตะโกนออกมาจากข้างใน

ฮูหยินหลิวสั่นอีกครั้ง คลอดตอนไหนไม่คลอด เหตุใดจึงดันมาคลอดตอนนี้

ฉินหลิวซีแสยะยิ้ม เหลือบมองเข้าไปในห้อง ก่อนจะออกจากเรือนไป เดินตามการนำทางโดยหนึ่งก้าวเท่ากับสิบก้าว ในจวนนี้ไม่มีสิ่งกีดขวาง จนกระทั่งเดินออกมานอกจวน มาถึงถนนด้านหลังจวนหลิว แล้วเข้าไปในบ้านเล็กๆ อีกแห่งนึ่ง

หาเจ้าเจอแล้ว

ฉินหลิวซีหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง

นักพรตยินซานคิดไม่ถึงว่านายหญิงใหญ่หลิวไม่ใช่คนดีอะไร แต่การกระทำนั้นรวดเร็วมาก ไม่นานก็นำเด็กผู้หญิงคนนั้นมาส่งให้เขาแล้ว เขามองงูหยินซึ่งกำลังพันอยู่บนมือของเขา ยื่นนิ้วออกไปแตะศีรษะนาง เอ่ยว่า “ไปดูสิ”

งูหยินราวกับได้ยินคำพูดของเขา เลื้อยลงจากข้อมือของเขาทันที เลื้อยขึ้นไปตามขากางเกงของวั่งชวน เมื่อกำลังจะอ้าปากฉกมือนาง ทันใดนั้นก็มีแสงสีทองแสบตาสว่างขึ้นมา งูหยินส่งเสียงขู่อย่างเกรี้ยวกราด ยืดลำตัวตรง เลื้อยลงจากร่างของนาง ร่างงูที่เดิมทีสีแดงราวกับเลือด จู่ๆ สีก็จางหายไปเล็กน้อยในทันที ซีดลงไม่น้อย

นักพรตยินซานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จับงูหยินบนพื้นขึ้นมา มองไปยังวั่งชวน

เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ กลับมีเครื่องรางปราบปีศาจบนตัวหรือ

เขาเดินเข้าไป จับมือทั้งสองข้างของนางขึ้นมา เมื่อแขนเสื้อไหลลง เผยให้เห็นกำไลข้อมือเล็กๆ อันละเอียดอ่อนที่มือซ้าย มีเกล็ดแข็งสีแดงเพลิงอยู่บนนั้น ซ้ำบนเกล็ดยังแกะสลักอักขระอย่างละเอียด ดูเหมือนว่าจะมีแสงสีทองจางๆ ไหลเวียนอยู่

นักพรตยินซานถอนหายใจเบาๆ เครื่องรางนี้เหมาะสำหรับให้เด็กผู้หญิงคนนี้สวมใส่ แต่การที่สามารถทำเครื่องรางเช่นนี้ออกมาได้ หรือว่าอาจารย์ของนางจะมีที่มาที่ไม่ธรรมดา?

“ไม่ว่าอย่างไร ทำร้ายเสี่ยวเลี่ยนของข้า ก็ต้องชดใช้”

นักพรตยินซานยกริมฝีปาก จากนั้นก็ใช้เล็บจิ้มไปที่นิ้วชี้ของนาง เลือดไหลออกมา เขายกนิ้วขึ้น หยดเลือดเข้าไปในปากของงู

เพียงครู่หนึ่ง งูที่ดื่มเลือดก็ฟื้นคืนแสงสีแดง มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

นักพรตยินซานรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก “เป็นสตรีที่เป็นหยินบริสุทธิ์จริงๆ ด้วย เป็นเตาหล่อหลอมแต่กำเนิด ช่างเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ”

มีเพียงเลือดของสตรีที่เป็นหยินบริสุทธิ์เท่านั้นจึงจะสามารถช่วยให้เสี่ยวเลี่ยนฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ไม่แปลกใจเลยที่อาจารย์ของนางจะมอบเครื่องรางอันล้ำค่าและหาได้ยากนี้ให้แก่นางตั้งแต่อายุยังน้อย ร่างกายเช่นนี้ได้รับความนิยมจากสิ่งที่เป็นหยินอย่างดี กระทั่งเป็นสมบัติล้ำค่าในการช่วยฝึกบำเพ็ญสำหรับคนอย่างพวกเขา

เก็บได้สมบัติล้ำค่าแล้ว

นักพรตยินซานเข้าไปใกล้วั่งชวน กำลังจะยื่นมือออกไป ทันใดนั้นก็ขนลุกซู่

มีอันตราย

เขาคว้าตัววั่งชวน ส่วนอีกมือหนึ่งคว้าสัมภาระติดตัวของตัวเอง กระโดดออกไปทางหน้าต่างห้อง เขย่งปลายเท้าแล้วกระโดดปีนกำแพงออกไป

ฉินหลิวซีได้ยินการเคลื่อนไหว กระโดดขึ้นไปบนหลังคา เห็นนักพรตมารผู้นั้นอุ้มวั่งชวนกระโดดหนีเข้าไปในตรอกพอดี สบถอย่างเย็นชา ในขณะที่ไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว หยิบแผ่นค่ายอาคมขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากแขนเสื้อ ใช้เลือดจากปลายนิ้ววาดลงบนแผ่นค่ายอาคมเล็กน้อย “ทหารศักดิ์สิทธิ์ แม่ทัพนับหมื่น ปกป้องข้าอย่างเข้มงวด ก่อตัวค่ายอาคมปราบสิ่งชั่วร้าย นี่คือคำสั่ง!”

นางเงื้อมือขึ้น แผ่นค่ายอาคมถูกยิงออกไป ขวางอยู่ตรงหน้านักพรตยินซาน

“หนีสิ ข้าก็อยากจะรู้ว่าเจ้าจะหนีไปไหน!”

เห็นได้ชัดว่าเป็นตรอกที่กว้างพอสำหรับรองรับคนได้สามถึงห้าคนเดินเรียงกัน ทันทีที่ค่ายยันต์ตกลงมา บริเวณโดยรอบพลันเปลี่ยนไป กลายเป็นเขาวงกตแปดเหลี่ยม

สีหน้าของนักพรตยินซานจริงจังขึ้นมา คำนวณข้อนิ้วทำนายอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ว่าค่ายอาคมนี้คือค่ายอาคมอะไร ก็สีหน้าเคร่งขรึม

เขาประเมินเด็กที่โตได้เพียงครึ่งเดียวผู้นี้ต่ำเกินไป กลับมีเครื่องรางค่ายยันต์เช่นนี้เสียได้

ทันใดนั้นก็มีเสียงลมหนาวพัดมาที่ข้างหู นักพรตยินซานเอาวั่งชวนที่หมดสติมาบังไว้ข้างหน้าโดยไม่ต้องคิด มีดลมเล่มนั้นเปลี่ยนทิศทางในทันที

แต่ก่อนที่นักพรตยินซานจะฉีกยิ้ม ราวกับมีดลมเล่มนั้นมีตา หลบเลี่ยงจากด้านหน้าของเขา แล้วโจมตีจากทางด้านหลัง

นักพรตยินซานหมุนตัวไปหลบด้านหลังอีกครั้ง ใช้วั่งชวนเป็นโล่กำบังอยู่ข้างหน้า แต่เขาคิดผิดไป

ข้างหลัง มีฝ่ามือคนโจมตีมาอย่างแรง ทำให้เขาเจ็บหน้าอกเป็นอย่างมาก กระเด็นไปข้างหน้า ลำคอสำลัก กระอักเลือดออกมา

ฉินหลิวซีดึงวั่งชวนขึ้นมาในขณะที่กำลังจะถูกโยนทิ้งลงพื้น แบกไว้ข้างหลัง จากนั้นก็ดึงเข็มขัดที่เอวออกมาผูกนางไว้กับตัวเอง

นักพรตยินซานตอบสนองอย่างรวดเร็ว “เสี่ยวเลี่ยน ไป”

งูสีแดงเรืองแสงบนข้อมือของเขาหลุดออกไปทันที พุ่งไปยังฉินหลิวซี อ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวพิษที่บางราวกับเข็ม มีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ลอยมา

มันเร็วมาก ฉินหลิวซีหยิบกระบี่เหรียญทองแดงมาฟันลงไปในแนวนอน

ตัวกระบี่ฟาดไปที่หัวของงู หยุดความเร็วของมัน

กระบี่แรกพลาดไป ฉินหลิวซีหันกลับมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิด ในขณะที่หันกลับมา มืออีกข้างหนึ่งได้หยิบเข็มเงินอีกสองเล่มออกมาแล้วส่งออกไปพุ่งไปที่หัวใจของมัน

ฉึก

ได้ยินเสียงเข็มเจาะเข้าไปในเนื้อเบาๆ ร่างของงูหยินแข็งทื่อเล็กน้อย ร่วงลงบนพื้น ปล่อยพลังงานหยินจำนวนมากออกมา

ฉินหลิวซีขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่าร่างกายของวั่งชวนเคลื่อนไหวด้วยความไม่สบายตัว คาดว่าคงจะได้รับผลกระทบจากพลังงานหยินนี้

“เพียงแค่เข็มเดียว เจ้ากลับทำให้เสี่ยวเลี่ยนของข้าพลังงานหยินแตกกระจายเชียวหรือ”

นักพรตยินซานโกรธมาก ไม่ออมมืออีกต่อไป มือหยิบยันต์น้ำขึ้นมาแล้วพุ่งไปที่นาง “ใต้หล้าใต้พิภพ จักรวาลกว้างใหญ่ ห้าธาตุกระจายออกไป น้ำทางเหนือจงมา เพี้ยง”

ทันทีที่ยันต์ถูกปล่อยออกไป ก็กลายเป็นคลื่นน้ำพุ่งไปทางด้านฉินหลิวซี

หลังจากนั้นในทันที เขาก็หยิบขวดเล็กออกมาแล้วเปิดออก หยดบางสิ่งลงไปในน้ำ นั่นคือพิษของงูเลี่ยน เมื่อโดนพิษเข้า พิษงูที่เป็นหยินและเย็นจัดจะเข้าสู่ร่างกาย รู้สึกราวกับอยู่ในห้องน้ำแข็ง

ฉินหลิวซีได้โยนยันต์ป้องกันออกไปในขณะที่นักพรตยินซานโยนยันต์นั้นออกมาแล้ว จากนั้นก็เพิ่มยันต์ต่อสู้โจมตีกลับ “โจมตีกลับคืน”

ดูเหมือนว่าคลื่นน้ำจะถูกหยุดไว้กลางอากาศด้วยอะไรบางอย่าง ก่อนจะม้วนตัวเป็นคลื่นลูกใหญ่ สาดกลับคืนไปในทิศทางของนักพรตยินซาน

“ให้ตายเถิด!” นักพรตยินซานเขย่งปลายเท้า หมุนตัวแล้วลอยขึ้นไปกลางอากาศ ถอดหัวกะโหลกที่เอวแล้วโยนออกไป “ผีร้ายนับหมื่น จงออกมา”

กรี๊ด

วิญญาณร้ายบ้าคลั่งที่มีเพียงหัวจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากหัวกะโหลก อ้าปากกว้างไปทางฉินหลิวซี

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท