ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 583 กระตือรือร้น(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 583 กระตือรือร้น(1)

ได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน หลัวซงผิงก็พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้ ช่วงบ่ายเธอกลับก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยตรงไปที่ห้องพัก”

“ค่ะ”

ฉินมู่หลานลุกขึ้นแล้วเตรียมตัวจะกลับ

เยวี่ยจงจีเห็นแบบนี้ ก็อดเปิดปากพูดเสียไม่ได้ “นักศึกษาฉิน ช่วงบ่ายนี้พวกเราไม่มีอะไรทำ เธอกับนักศึกษาเซี่ยพาพวกเราไปเดินเล่นหน่อยได้ไหม”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ปฏิเสธทันที

“ตอนบ่ายฉันยังมีธุระ ไปไม่ได้หรอก ถ้าพวกนายอยากไปเดินเล่น ก็ให้อาจารย์หลัวแนะนำคนอื่นให้ก็ได้” พูดจบ เธอก็หันหลังแล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลานไปแล้ว หล่อนก็ไม่อยากอยู่ต่อเหมือนกัน จึงไล่ตามออกไป

“มู่หลาน รอฉันด้วย ฉันจะไปกับเธอด้วย”

หลังจากฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยออกไปแล้ว ชิโยโกะก็อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้เปิดปากพูด การผ่าตัดในวันนี้ของฉินมู่หลานสร้างผลกระทบใหญ่หลวง เมื่ออยู่ต่อหน้าฉินมู่หลาน จึงไม่กล้าต่อปากต่อคำเหมือนครั้งก่อน

เมื่อเยวี่ยจงจีเห็นว่าฉินมู่หลานปฏิเสธพวกเขา สีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีนิดหน่อย

และหลี่หมิงฮุ่ยก็ยิ้มแล้วตบบ่าเยวี่ยจงจีก่อนจะพูดว่า “จงจีเอ๋ย สหายฉินคงมีธุระจริง ๆ นั่นแหละ เอาไว้ครั้งหน้าค่อยเจอหล่อน”

อันที่จริงเขาก็อยากจะออกเดทกับฉินมู่หลานเหมือนกัน เพราะเธอสวยดูดีมาก แถมทักษะทางการแพทย์ก็ดีขนาดนี้ ทำธุรกิจก็เก่ง ส่งออกเครื่องสำอางไปขายให้กับทางฮ่องกงของพวกเขา ไม่เคยเจอผู้หญิงที่สวยมีความสามารถขนาดนี้มาก่อนเลย

ทางด้านฉินมู่หลานหลังจากกลับถึงบ้าน ก็พบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่รออยู่ที่นั่น

“อาหลี่ ทำไมวันนี้คุณก็กลับมาตอนบ่ายเหมือนกันล่ะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลาน ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ช่วงบ่ายผมมีเวลาพักสองชั่วโมง ก็เลยกลับมา ผมไปสอบถามโรงเรียนประถมอันดับหนึ่งของเมืองนี้มาแล้ว เอาหนังสือลงทะเบียนมาแล้ว เดี๋ยวเข้าไปที่นั่นก็ชำระเงินเข้าลงเบียนได้เลย”

ได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นช่วงบ่ายเดี๋ยวฉันพาชิงชิงกับเฉินเฉินไปลงทะเบียนเองค่ะ”

“ได้สิ หรือว่าพวกเราจะไปกันตอนนี้เลย คงยังมีคนอยู่ในโรงเรียนอนุบาลอยู่”

คู่รักหนุ่มสาวทำทุกอย่างที่พูด พาเด็กทั้งสองไปที่โรงเรียนอนุบาลทันที

คุณปู่และคุณย่าฉินเฝ้ามองเด็กทั้งสองถูกพาตัวไป ก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ไม่รู้ว่าเจ้าหนูสองคนนั้นไปอยู่โรงเรียนอนุบาลแล้วจะปรับตัวกันได้ไหม จริง ๆ แล้วที่พวกเรามาที่นี่ ก็เพราะชิงชิงกับเฉินเฉินทั้งสองเป็นเด็กดีมาก ถวนถวนกับหยวนหยวนก็เหมือนกัน”

ผู้อาวุโสทั้งสองไม่ค่อยเต็มใจนัก ทางด้านฉินมู่หลานก็ไม่ค่อยเต็มใจเช่นกัน

“อาหลี่ อยู่ ๆ ฉันก็ค้นพบว่าไม่ใช่ลูกที่งอแงไม่อยากจากพ่อแม่ไป แต่จริง ๆ แล้วฉันต่างหากที่ไม่อยากให้พวกเขาไป”

การลงทะเบียนเป็นไปอย่างราบรื่นมาก จากนี้ไปชิงชิงและเฉินเฉินจะเป็นนักเรียนในชั้นเรียนที่เล็กที่สุดของโรงเรียนอนุบาลอันดับหนึ่งในมือง และที่นี่ก็เตรียมการเอาไว้เยอะมาก หลังจากจ่ายเงินเสร็จก็ได้รับของอะไรครบทุกอย่าง เด็กทั้งสองก็พร้อมที่จะไปสัมผัสชีวิตในโรงเรียนอนุบาลแล้ว

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินคำพูดของฉินมู่หลานก็พยักหน้าเห็นด้วย พลางกล่าวว่า “ใช่แล้ว พวกเราทนแยกจากพวกเขาไม่ได้จริง ๆ”

ตอนแรกชิงชิงและเฉินเฉินยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับสถานที่แปลกใหม่นี้ แต่หลังจากได้เห็นเพื่อนตัวน้อยมากมาย พวกเขาก็ค่อย ๆ เข้าไปร่วมวงด้วย

“เอาเถอะมู่หลาน พวกเรากลับกันก่อนเถอะ”

ฉินมู่หลานมองเวลา ก่อนจะพบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ต้องไปเรียนแล้ว

“อาหลี่ คุณรีบไปมหาวิทยาลัยเถอะ ฉันจะกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวตอนบ่ายฉันจะมารับลูก ๆ เอง”

“ได้”

ทั้งสองแยกกันตรงทางแยก เซี่ยเจ๋อหลี่ตรงไปที่มหาวิทยาลัยฝึกอบรม และฉินมู่หลานก็กลับไปบ้าน

คุณย่าฉินเห็นว่าฉินมู่หลานกลับมาแค่คนเดียว จึงรีบเอ่ยถาม “ชิงชิงกับเฉินเฉินล่ะ?”

“พวกเขาเข้าเรียนที่โรงเรียนอนุบาลแล้วค่ะ เดี๋ยวตอนบ่ายหนูค่อยออกไปรับพวกเขา”

“อะไรนะ…เริ่มเรียนเร็วขนาดนี้เลยเหรอ”

คุณย่าฉินรู้สึกเสียดาย ได้แต่รู้สึกจิตใจส่างเปล่า “ถ้าอย่างนั้นก็จะมีแค่ช่วงสุดสัปดาห์น่ะสิที่เด็กทั้งสองได้หยุดพัก”

“ใช่ค่ะ”

ฉินมู่หลานก็รู้สึกว่างเปล่าในใจเช่นกัน

ขณะที่คุณย่าฉินอยากจะถามอะไรเพิ่ม คุณปู่ฉินก็พูดว่า “พอแล้ว คุณจะมีปัญหาอะไรเยอะแยะ หยวนหยวนกับถวนถวนต้องนอนแล้ว ให้มู่หลานพาพวกเขาไปนอนเถอะ ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ คุณย่าฉินก็นึกถึงเจ้าสามและเจ้าสี่ขึ้นมา “จริงด้วย ถึงเวลานอนแล้ว”

ฉินมู่หลานเห็นถวนถวนและหยวนหยวนหาว จึงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “ค่ะ เดี๋ยวหนูพาพวกเขาไปนอน”

เป็นเพราะมีเรื่องบางอย่างคาใจ ฉินมู่หลานจึงนอนไม่ค่อยหลับ หลังจากถวนถวนและหยวนหยวนตื่นขึ้นมา เธอก็ลุกขึ้นทันที และพบว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว จึงรีบออกไปรับชิงชิงและเฉินเฉิน

“หม่าม้า…”

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ชิงชิงและเฉินเฉินเห็นฉินมู่หลาน ก็รีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม

ฉินมู่หลานจับเด็กทั้งสองเอาไว้ หลังจากนั้นก็เอ่ยถามว่า “วันนี้พวกลูกอยู่ที่โรงเรียนเป็นเด็กดีกันไหมจ๊ะ?”

“ดีมาก”

ทั้งสองทำสีหน้าภูมิใจแล้วพยักหน้า ก่อนจะกล่าวว่า “คุณครูชมพวกเราด้วย”

ในตอนนั้นเอง หลิวหยิง คุณครูประจำชั้นของเด็กทั้งสองก้เดินเข้ามาหา “สวัสดีค่ะ คุณแม่ชิงชิงเฉินเฉิน”

วันนี้เพิ่งมาลงทะเบียน การที่คุณครูหลิวหยิงออกมาพบหน้าผู้ปกครองจึงเป็นเรื่องปกติ ฉินมู่หลานจึงทักทายเธอเช่นกัน “สวัสดีค่ะ คุณครูหลิว วันนี้เด็ก ๆ ทำตัวดีไหมคะ?”

พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา สีหน้าของหลิวหยิงก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ชิงชิงกับเฉินเฉินเป็นเด็กดีมากเลยค่ะ ทำงานก็ดีมาก”

เมื่อเห็นคุณครูชมเด็กทั้งสอง ฉินมู่หลานก็รู้สึกดีใจ “วันนี้พวกเขาร้องไห้กันไหมคะ?”

“ไม่เลยค่ะ ทั้งสองคนไม่มีใครร้องไห้เลย พวกเขาฉลาดแล้วก็เป็นเด็กดีมากค่ะ”

นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่หลิวหยิงได้เจอเด็กที่ประพฤติตัวดีขนาดนี้ แถมยังเป็นฝาแฝดมังกรหงส์ด้วย หล่อนจึงชอบมาก

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็โล่งใจ ขอเพียงแค่เด็กทั้งสองปรับตัวได้ก็ดี “ชิงชิง เฉินเฉิน บอกลาคุณครูสิลูก”

“ลาก่อนครับ/ค่ะ คุณครู”

ชิงชิงและเฉินเฉินโบกมือพร้อมเสียงเจิ้อยแจ้ว บอกลาหลิวหยิง

เมื่อเห็นเด็กน่ารักขนาดนี้ แถมยังพูดกับตัวเอง หลิวหยิงจึงรู้สึกเหมือนใจจะละลาย “ชิงชิง เฉินเฉิน ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะ”

หลังจากฉินมู่หลานกลับบ้านพร้อมกับลูกทั้งสองคน ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็กลับมาแล้วเหมือนกัน เมื่อพวกหล่อนทราบว่าเด็กทั้งสองเข้าเรียนโรงเรียนอนุบาลแล้ว ทั้งสองก็กอดชิงชิงและเฉินเฉินพลางถามด้วยความกังวล

“โรงเรียนอนุบาลสนุกไหม? เพื่อนคนอื่นดีหรือเปล่า?”

“สนุกมากครับ/ค่ะ พวกเพื่อนก็ดี”

เมื่อเห็นเด็กทั้งสองไม่ขัดแย้ง แถมท่าทางยังดูชอบโรงเรียนอนุบาล ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือจึงรู้สึกโล่งใจ

เมื่อฉินมู่หลานเห็นว่าเหยาจิ้งจือไม่เศร้าเท่าก่อนหน้านี้แล้ว จึงรู้สึกโล่งใจ แล้วเอ่ยถาม “พี่สะใภ้ล่ะคะ หล่อนไปรับเสี่ยวอวี่ที่โรงเรียนเหรอคะ?”

เหยาจิ้งจือพยักหน้า แล้วกล่าว “ใช่แล้ว ไปรับเสี่ยวอวี่แล้วเดี๋ยวก็กลับมา”

เพิ่งพูดประโยคนี้จบ หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็กลับมาพร้อมกับเสี่ยวอวี่ “มู่หลาน วันนี้เธอกลับเร็วจัง”

“วันนี้หล่อนกลับมาตั้งแต่ช่วงเที่ยงแล้ว พาชิงชิงกับเฉินเฉินไปเข้าโรงเรียนอนุบาลมาแล้วด้วย”

เมื่อหลี่เสวี่ยเยี่ยนทราบว่าเด็กทั้งสองไปเข้าโรงเรียนแล้ว ก็เอ่ยถามคำถามอย่างเดียวกันด้วยความเป็นห่วง เสี่ยวอวี่กับชิงชิงเฉินเฉินอายุค่อนข้างห่างกัน จึงเล่นด้วยกันไม่ได้ แต่เด็กทั้งสองก็ชอบเล่นกับเสี่ยวอวี่มาก หลังจากนั้นไม่นานก็เรียกเขาว่า ‘พี่เสี่ยวอวี่’ จากนั้นก็วิ่งตามหลังเสี่ยวอวี่ไปเล่นด้วยกัน

เฝ้ามองพวกเด็ก ๆ เล่นกัน เหยาจิ้งจือก็หันไปมองหลี่เสวี่ยเยี่ยนแล้วกล่าวว่า “เสวี่ยเยี่ยน พวกเราไม่เป็นไรแล้ว เธอกับเจ๋อเหว่ยพาเสี่ยวอวี่กลับไปกินข้าวเย็นเถอะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะหันมองแม่สามีแล้วเอ่ยถามไม่ได้ “แม่คะ พ่อกับแม่ไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหมคะ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท