บทที่ 904 ข่มขวัญ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“เหตุใด​ท่าน​ไม่ดื่ม​น้ำ​ร่วม​สาบาน​เล่า​ นับแต่นี้ไป​ พวกเรา​ล้วน​เป็น​พี่น้อง​!” ลู่​เซิ่งถามด้วย​สีหน้า​จริงจัง​

ร่าง​เงาสวมหน้ากาก​นั้น​ค่อยๆ​ ลุกขึ้น​ เอื้อมมือ​ปลด​หน้ากาก​ลง​ เผย​ใบหน้า​บุรุษ​รูปงาม​ขาวผ่อง​

“แค่​ผ่าน​มาทาง​นี้​โดยบังเอิญ​ นึกไม่ถึง​ว่า​จะพบ​เจอ​และ​ได้ยิน​วาจา​ที่​น่าสนใจ​เช่นนี้​” นัยน์ตา​จ้องมอง​ลู่​เซิ่งฉายแวว​สงสัย​

“ขอ​ถามชื่อ​แซ่ของ​ท่าน​ได้​หรือไม่​” เขา​เอ่ย​เสียง​เบา​ดุจ​น้ำพุ​ใสกระจ่าง​ ไม่ได้​กึกก้อง​สะท้อน​แม้อยู่​ใน​ถ้ำ

“ข้า​ลู่​เซิ่ง ท่าน​เล่า​” ลางสังหรณ์​จาก​จิตวิญญาณ​ของ​ลู่​เซิ่งบ่งบอก​ว่า​คน​ตรงหน้า​นี้​มีพลัง​น่ากลัว​ถึงที่สุด​

ใน​ฐานะ​ผู้​เข้มแข็ง​ระดับ​อนธการ​ เขา​สัมผัส​ได้​อย่าง​แม่นยำ​ ว่า​นี่​เป็น​ร่าง​ของ​คน​ที่​แข็งแกร่ง​อย่าง​แน่นอน​

“ข้า​ชื่อ​หงอ​วิ๋น[​1]” บุรุษ​ตอบ​ยิ้ม​ๆ “เดิมที​จะเดินทาง​ไปเยี่ยม​สหาย​ ผ่าน​มาที่นี่​ นึกไม่ถึง​ว่า​จะได้ยิน​วาจา​แข็งกล้า​ชนิด​ที่​พลิก​ความรู้​เดิม​ของ​ท่าน​ เปิดหูเปิดตา​แล้ว​ สหาย​ลู่​มีความรู้​กว้างขวาง​ ชนิด​ที่​ข้า​ไม่เคย​ได้​พบ​ได้​เจอ​มาก่อน​”

“หงอ​วิ๋น​หรือ​” ชื่อ​นี้​ตั้ง​ได้​ส่งเดช​เหลือเกิน​ ไม่ว่า​จับ​ใคร​มาสัก​คน​ก็​น่าจะ​มีชื่อ​นี้​ทั้งสิ้น​

ไม่ว่า​จะเหยี่ยว​แดง​หลาย​ตัว​จากรัง​แถว​นี้​ นก​รุ้ง​แดง​ที่อยู่​ใน​ป่าสน​ห่าง​ออก​ไป หรือว่า​ครอบครัว​พญา​กระรอก​ที่อยู่​เหนือ​ยอดไม้​ใหญ่​ที่​ซห่าง​ออก​ไปยิ่งกว่า​ ที่​ลู่​เซิ่งรู้​ก็​ชื่อ​หงอ​วิ๋น​ไปสี่ห้า​ตัว​แล้ว​

“น้อง​ลู่​ช่างรอบรู้​ พรสวรรค์​ไม่ธรรมดา​ หาก​สนใจ​ก็​มาเยี่ยมเยือน​อาราม​เมฆาเพลิง​ของ​ข้า​ได้​ละ​” หงอ​วิ๋น​เชื้อเชิญ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ข้า​หงอ​วิ๋น​ไม่มีอะไร​มอบให้​นอกจาก​สุรา​น้ำเต้า​เลิศ​รส​ ให้​สหาย​ได้​ดื่ม​อย่าง​สำราญ​!”

“สหาย​หงอ​วิ๋น​อารมณ์ดี​จริงๆ​ เจอ​ใคร​ก็​เรียก​พี่​ขาน​น้อง​ได้​หมด​ หาก​เป็น​แบบนี้​ต่อไป​ พี่น้อง​ท่า​นค​งมทั่ว​ใต้​หล้า​กระมัง​” ลู่​เซิ่งกลับ​รู้สึก​ว่า​คน​ตรงหน้า​เปิดเผย​เกินไป​ ไม่กลัว​คนอื่น​เขา​วางแผน​ร้าย​หรือ​อย่างไร​

เขา​พอ​จะมีความเข้าใจ​ต่อ​โลก​ใบ​นี้​บ้าง​แล้ว​ แม้ไม่ได้​มาก​ด้วย​อันตราย​ แต่​ก็​ไม่ใช่สถานที่​ที่​ดี​อะไร​นัก​ สามารถ​เรียก​ได้​ว่า​ปลาใหญ่กินปลาเล็ก​ ฉะนั้น​ต้อง​มีสภาพแวดล้อม​แบบ​ไหน​ถึงมีคน​นิสัย​อย่างนี้​ได้กัน​

ลู่​เซิ่งหรี่ตา​ นิสัย​แบบนี้​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​ไร้เดียงสา​เกินไป​ ก็​คง​ได้รับ​การปกป้อง​อย่างยิ่งยวด​ ถึงได้​ไม่ทราบ​อันตราย​ใดๆ​ เลย​สักนิด​

หรือไม่​ก็​เป็น​เพราะ​ตน​แข็งแกร่ง​เกินไป​ จึงไม่สนใจ​อันตราย​ที่อยู่​รอบกาย​

ลู่​เซิ่งสังหรณ์ใจ​ว่า​คงจะ​เป็น​อย่าง​ที่สอง​

“เหตุใด​ถึงมอง​ข้า​เช่นนี้​เล่า​” หงอ​วิ๋น​เห็น​สายตา​ที่​จ้องมอง​มาอย่าง​ไม่คิด​ปิดบัง​ของ​ลู่​เซิ่ง ก็​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​

“เพียงแค่​นึก​สนใจ​เล็กน้อย​” ลู่​เซิ่งตอบ​ราบเรียบ​

“อย่างนั้น​หรือ​ สนใจ​งั้น​หรอก​หรือ​…” หงอ​วิ๋น​ถอนใจ​ “ใน​ตอนนั้น​ข้า​เอง​จำได้​ว่า​เกิด​จิต​แรก​ขึ้น​ ก็​เพราะ​ความสนใจ​เช่นกัน​”

ลู่​เซิ่งฉงน​เล็กน้อย​ กำลังจะ​เอ่ย​ถามต่อ​

โครม​!

ทันใดนั้น​ก็​มีแรง​สั่นสะเทือน​มาจาก​นอก​ถ้ำ เหมือน​มีสัตว์​ยักษ์​บาง​ชนิด​พุ่ง​ใส่ถ้ำด้านนอก​อย่าง​รุนแรง​

“แย่​แล้ว​ๆๆ!” นก​ปีศาจหลาย​ตัว​พุ่ง​เข้ามา​ใน​ถ้ำด้วย​สีหน้า​หวาดผวา​ “องค์​ราชา​! ด้านนอก​มีปีศาจสาว​กำลัง​ร้อง​โวยวาย​ขอรับ​! ท่าน​รีบ​ไปดูเถอะ​!”

“ปีศาจสตรี​หรือ​ พวก​เกา​หนี​เล่า​” ลู่​เซิ่งงุนงง​

“พวก​ใต้เท้า​เกา​หนี​กำลัง​ถูก​ปีศาจสาว​หยอกล้อ​จน​หัวหมุน​ ทำ​อย่างไร​ก็​จับ​อีก​ฝ่าย​ไม่ได้​เลย​ขอรับ​!” ปีศาจน้อย​ผู้​ที่​พูด​ชัดถ้อยชัดคำ​ตัว​หนึ่ง​รีบ​อธิบาย​

“หือ​? คง​ต้อง​ไปดู​แล้ว​สินะ​” ลู่​เซิ่งลุกขึ้น​ ด้วย​ร่าง​อัน​ใหญ่โต​พอ​ลุก​ใน​ถ้ำ ก็​เกิด​การสั่น​ไหว​ทันที​

เสียง​ฝีเท้า​หนักอึ้ง​ดัง​ตึงตัง​เป็นจังหวะ​ ลู่​เซิ่งเดิน​ออกจาก​ถ้ำ หงอ​วิ๋น​ก็ตาม​ออกมา​ด้วย​เช่นกัน​

ยาม​นี้​บน​ที่ราบ​นอก​ถ้ำเนินเขา​ขาว​ มีหญิงสาว​เลอโฉม​สวม​กระโปรง​ขาว​ บน​คอ​มีขน​กระต่าย​ปุกปุย​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​

พื้น​รอบ​ตัวนาง​มีหลุม​ยักษ์​หลาย​หลุม​ นก​ยักษ์​หลาย​ตัว​ที่​สวม​เกราะ​หนัง​แนบเนื้อ​สีดำ​ถูก​คว่ำ​สลบ​อยู่​บน​พื้น​

มีตัว​หนึ่ง​ที่​บน​ร่าง​มีรู​ใหญ่​ เลือด​ไหล​นอง​เต็ม​พื้น​เหมือน​ลำธาร​

นก​ยักษ์​ที่อยู่​รอบ​ๆ ห้อมล้อม​หญิงสาว​นาง​นี้​เอาไว้​ เหมือน​พร้อม​กรู​กัน​เข้าไป​รุม​นาง​ให้​ตก​ตาย​ได้​ทุกเมื่อ​

ภาพ​ที่​ลู่​เซิ่งเห็น​เป็น​เช่นนี้​

“อ้าว​? ในที่สุด​ตัวการ​ก็​ออกมา​แล้ว​หรือ​” หญิงสาว​เห็น​ลู่​เซิ่งก็​สัมผัส​ได้​ถึงบุคลิก​ที่​แตกต่าง​ไป ตา​พลัน​เป็นประกาย​ เมื่อ​รู้​ว่า​เจอ​ตัวการ​แล้ว​

“ผู้ใด​” ลู่​เซิ่งกวาดตา​มอง​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​นก​ยักษ์​ที่อยู่​โดยรอบ​ก็​พอ​จะรู้​คร่าวๆ​ แล้ว​ว่า​สตรี​ผู้​นี้​อยู่​ใน​ระดับ​ไหน​

‘ระดับ​ทารก​กำเนิด​เป็น​อย่าง​น้อย​!’ เขา​แยกแยะ​ระดับ​นี้​ได้​แค่​ใน​ชั่ว​อึดใจ​

ระดับ​ทารก​กำเนิด​แตกต่าง​จาก​ผู้บำเพ็ญเพียร​ทั่วไป​ มีเพียง​ถึงขอบเขต​นี้​เท่านั้น​ถึงจะสามารถ​เปลี่ยน​ปราณ​ปีศาจใน​ตัว​ให้​กลายเป็น​พลังงาน​ที่​แตกต่าง​ไปจาก​เดิม​อย่าง​สิ้นเชิง​ได้​ ซึ่งนั่น​คือ​ปราณ​ทารก​

ปราณ​ทารก​แข็งแกร่ง​กว่า​พลัง​ปีศาจใน​ระดับ​แก่น​ทองคำ​ไม่ต่ำกว่า​หนึ่ง​เท่า​

ลู่​เซิ่งขบ​คิดในใจ​ ปัจจุบัน​เขา​อยู่​ใน​ระดับ​สูงสุด​ของ​ระดับ​สร้าง​รากฐาน​ อย่าง​น้อย​ต้อง​ก้าว​ข้าม​ระดับ​แก่น​ทองคำ​ทั้งหมด​ก่อน​ถึงจะไปสู่ระดับ​ทารก​กำเนิด​ สู้น่ะ​ย่อม​สู้ได้​แน่​ แต่​ถ้าเกิด​ว่า​อีก​ฝ่าย​หนี​ไปได้​ล่ะ​ก็​…

เดิมที​นึก​ว่า​เนินเขา​ขาว​เป็น​เพียง​ขุม​กำลัง​เร่ร่อน​ นึกไม่ถึง​ว่า​จะมีเบื้องหลัง​อยู่​บ้าง​

เขา​กลับ​ไม่รู้​เลย​ว่า​ ถ้าหัวหน้า​เผ่า​ชิงย่วน​แห่ง​เนินเขา​ขาว​ไม่บังเอิญ​ต้อง​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​สำคัญ​พอดี​ ต่อให้​ที่นี่​จะถูก​มนุษย์​ทำลาย​ไปหลาย​สิบ​ปี ก็​ไม่มีใคร​มาแก้แค้น​ให้​พวก​นาง​หรอก​

“ข้า​จิ่วจิ่ว​ ตั้งชื่อ​นี้​เพราะ​อยู่​ใน​อันดับ​ที่​เก้า​สิบ​เก้า​ของ​ตระกูล​” เมื่อ​หญิงสาว​เห็น​ลู่​เซิ่ง ก็​ฉีก​ยิ้ม​แจ่มใส

“อย่างนั้น​แม่นาง​จิ่วจิ่วม​ที่นี่​เพราะ​เรื่อง​อะไร​หรือ​” ลู่​เซิ่งถามตรงๆ​

“ข้า​มาหา​ชิงย่วน”​ จิ่วจิ่ว​เก็บ​รอยยิ้ม​ เผย​สีหน้า​จริงจัง​

“ชิงย่วน​หรือ​” ลู่​เซิ่งงุนงง​

“ถูกต้อง​ ประมุข​ตระกูล​ข้า​กำลัง​จัด​งานเลี้ยง​ใหญ่​ การร้อง​บรรเลง​เต้นรำ​ต้อง​ใช้การ​จัดลำดับ​แถว​ที่​ตระเตรียม​ไว้​ก่อนหน้านี้​ ชิงย่วน​เป็นหนึ่ง​ใน​นัก​เต้น​นี้​” จิ่ว​จิว​บอกกล่าว​ตามตรง​

ไม่รู้​ว่า​นิ้วนาง​คีบ​ควง​ป้าย​คำสั่ง​สี่เหลี่ยมจัตุรัส​ทอง​อ่อน​ตั้งแต่​เมื่อไร​

ป้าย​คำสั่ง​นี้​หนา​หนัก​ยิ่ง​ แต่​นาง​กลับ​ควง​มัน​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ เหมือน​ผีเสื้อ​โบยบิน​ผ่าน​บุปผา​

“นัก​เต้น​หรือ​” ลู่​เซิ่งคร่ำเคร่ง​ ก่อนหน้านี้​ชิงหย่วน​เป็น​ราชา​ปีศาจระดับ​แก่น​ทองคำ​ชัด​ๆ ตอนนี้​กลับเป็น​แค่​นัก​เต้น​ใน​งานเลี้ยง​ของ​อีก​ฝ่าย​เท่านั้น​

“เป็นอัน​ใด​ ชิงย่วน​เล่า​ เรียก​นาง​มาเถอะ​” จิ่ว​จิว​เอ่ย​อย่าง​จริงจัง​

ลู่​เซิ่งขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ขณะที่​กำลังจะ​เอ่ย​ตอบ​

ทันใดนั้น​หงอ​วิ๋น​ที่อยู่​ด้าน​หลังเขา​ก็​ก้าว​ขึ้น​มา

“ข้าน้อย​หงอ​วิ๋น​แห่ง​อาราม​เมฆาเพลิง​ งานเลี้ยง​นั่น​เป็น​งานเลี้ยง​ใน​อาราม​อาทิตย์​จันทรา​ใช่หรือไม่​” เขา​เอ่ย​ถามหนึ่ง​ประโยค​ แต่กลับ​เบี่ยงเบน​ความสนใจ​ของ​จิ่ว​จิว​มาอยู่​บน​ตัว​เขา​ทันที​

“อาราม​เมฆาเพลิง​หรือ​” จิ่ว​จิว​สีหน้า​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ความคิด​ที่​กำลังจะ​ลงมือ​พลัน​หยุดชะงัก​ไว้​

นาง​จ้องมอง​หงอ​วิ๋น​อย่าง​ระแวดระวัง​

พรึ่บ​

นาง​หยุด​ป้าย​คำสั่ง​ใน​มือ​ลง​อย่าง​ฉับพลัน​ ก่อน​จะเก็บ​ไว้​ใน​แขน​เสื้อ​ สายตา​ที่​นาง​จ้องมอง​ลู่​เซิ่งในเวลานี้​ได้​เปลี่ยนไป​แล้ว​

“ใน​เมื่อ​ท่าน​เซียน​จาก​อาราม​เมฆาเพลิง​อยู่​นี่​ เช่นนั้น​ ครั้งนี้​เป็น​ข้า​ที่​เสียมารยาท​แล้ว​…”

หลังจาก​อีก​ฝ่าย​เก็บ​ป้าย​คำสั่ง​ไป ความรู้สึก​คุกคาม​ภายในใจ​ของ​ลู่​เซิ่งก็​หาย​ไปด้วย​เช่นกัน​

“อย่างนั้น​…จิ่วจิ่ว​ขอตัว​ก่อน​ จิ่วจิ่ว​บอก​เจ้านาย​ได้​หรือไม่​ว่า​ท่าน​เซียน​อยู่​ที่ใด​” นาง​ให้​ความเคารพ​บุรุษ​ที่​ชื่อ​หงอ​วิ๋น​เป็นพิเศษ​อย่าง​เหนือ​ความคาดหมาย​

“มีอัน​ใด​ไม่ได้​เล่า​ ข้า​กับ​ราชา​ปีศาจเฉาหัวใน​อาราม​เจ้าเป็น​สหาย​สนิท​กัน​ ช่วย​ทักทาย​เขา​แทน​ข้า​ด้วย​” หงอ​วิ๋น​ยิ้ม​อย่าง​เป็นมิตร​ เอ่ย​เสียง​อ่อนโยน​กับ​จิ่วจิ่ว​

“ข้าน้อย​ทราบ​แล้ว​” จิ่วจิ่ว​พยักหน้า​รับ​จริงจัง​ เหลือบมอง​ลู่​เซิ่งอีกครั้ง​ ก่อน​จะหมุนตัว​ทะยาน​ขึ้น​ฟ้า บิน​ออก​ไป พริบตาเดียว​ก็​กลายเป็น​หมอก​ขาว​หาย​ลับ​ไปกับ​ขอบฟ้า​

ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ ลู่​เซิ่งไม่ได้​ลงมือ​เลย​แม้แต่น้อย​

เขา​ใน​ตอนนี้​อยู่​ใน​ระดับ​สร้าง​รากฐาน​สูงสุด​ คิด​จะต่อสู้​กับ​หญิงสาว​คน​เมื่อ​ครู่​ให้​ชนะ​นั้น​ง่ายดาย​นัก​ แต่​หาก​คิด​จะฆ่าปิดปาก​ก็​ยัง​ยาก​นัก​ ตอนนี้​เขา​อยู่​ใน​ช่วง​สร้าง​พื้นฐาน​ จึงไม่มีเวลา​ไปเรียน​อิทธิฤทธิ์​อาคม​ใดๆ​ เลย​

นอกจากนี้​ ถ้าลงมือ​จริงๆ​ ป้าย​คำสั่ง​ใน​มือ​อีก​ฝ่าย​ก็​เป็น​สิ่งที่​คุกคาม​เขา​มาก​ที่สุด​

“อาราม​อาทิตย์​จันทรา​จัด​งานเลี้ยง​อีกแล้ว​…” หงอ​วิ๋น​เหม่อมอง​หมอก​ขาว​ที่​ห่าง​ออก​ไป เอ่ย​พึมพำ​ไม่รู้​ว่า​พูด​อะไร​

ลู่​เซิ่งรอจนจิ่วจิ่​วจา​ก​ไป จึงประสานมือ​คำนับ​หงอ​วิ๋น​

“ครั้งนี้​ขอบคุณ​สหาย​หงอ​วิ๋น​ที่​ช่วยเหลือ​”

เขา​นึกไม่ถึง​เหมือนกัน​ว่าการ​ทำลาย​เผ่า​จิ้งจอก​เนินเขา​ขาว​ จะดึงดูด​คู่ต่อสู้​ระดับ​นี้​มา

ตอนนี้​เขา​ไม่คิด​ที่จะ​ดึงดูด​ปัญหา​มาเร็ว​แบบนี้​

ยัง​ดี​ที่​หงอ​วิ๋น​มีความเป็นมา​ลึกลับ​ขู่​ให้​อีก​ฝ่าย​ถอย​ไปได้​ ไม่อย่างนั้น​ต่อให้​เขา​ลงมือ​เอง​ ก็​ยังคง​ยุ่งยาก​มาก​อยู่ดี​

“ข้า​จดจำ​น้ำใจ​ครั้งนี้​ไว้​แล้ว​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​จริงจัง​ “หาก​มีโอกาส​ข้า​ทดแทน​แน่นอน​ ถ้าท่าน​เจอ​ปัญหา​ สามารถ​ใช้สิ่งนี้​อัญเชิญ​ข้า​ได้​”

เขา​ยื่น​เส้น​ขน​สีฟ้าใน​อดีต​ของ​ตัวเอง​ไปให้​

ของ​สิ่งนี้​ถูก​เขา​หลอม​ให้​กลายเป็น​ของ​วิเศษ​ประเภท​อักขระ​ข้อความ​ สำหรับ​ใช้ครั้ง​เดียว​ทิ้ง​

เขา​เคย​ทดลอง​มาก่อน​ ไม่ว่า​จะอยู่​ห่าง​กัน​เท่าไร​ ขอ​แค่​บีบ​เส้น​ขน​ให้​สลาย​ เขา​ก็​จะสัมผัส​ได้​ทันที​

หงอ​วิ๋น​รับ​เส้น​ขน​ไว้​ ก่อน​จะอด​ยิ้ม​ไม่ได้​

ช่วยเหลือ​หรือ​ เขา​คือ​ตัวตน​แข็งแกร่ง​ที่อยู่​ใน​ระดับ​จอม​อริยะ​ ผู้สำเร็จ​เมฆาสีชาด​ก้อน​แรก​ ทั้ง​ยัง​เคย​ฟังธรรม​ใน​อาราม​เมฆาม่วง​มาก่อน​ จะใช้น้ำใจ​ของ​ผู้เยาว์​ตัวเล็ก​จ้อย​ได้​อย่างไร​

ยิ่งไปกว่านั้น​ ถ้าหาก​เขา​เจอ​ปัญหา​เข้า​จริงๆ​ ปีศาจนก​ตัว​น้อย​นี้​จะช่วยเหลือ​อะไร​ได้​หรือ​

แต่​นี่​เป็น​ความหวังดี​ของ​อีก​ฝ่าย​ เขา​จึงเก็บ​มัน​ไว้​อย่าง​เห็นคุณค่า​ เขา​มองออก​ว่า​นี่​เป็น​เส้น​ขน​เส้น​แรก​ที่​อีก​ฝ่าย​เก็บ​ไว้​หลัง​ขน​ร่วง​ สำหรับ​ปีศาจนก​มากมาย​มัน​มีความหมาย​สำคัญ​ยิ่งนัก​ แต่​อีก​ฝ่าย​กลับ​มอบให้​ตน​อย่าง​ไม่ลังเล​

นี่​ถือว่า​เขา​เป็น​สหาย​แล้ว​สินะ​

ตัว​เขา​นั้น​ไม่ชอบ​อะไร​อย่าง​อื่น​นอกจาก​สหาย​กับ​สุรา​

ใน​เมื่อ​เป็น​ความประสงค์​ของ​สหาย​ เช่นนั้น​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​เก็บ​ไว้​

“ได้​ๆๆ สักวันหนึ่ง​ ถ้าเจอ​ปัญหา​ จะขอให้​ท่าน​ช่วย​แน่นอน​” หงอ​วิ๋น​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

แม้เขา​จะรู้ดี​ว่า​ไม่มีวันนั้น​ก็ตาม​

ลู่​เซิ่งพยักหน้า​

“ใน​เมื่อ​ท่าน​รับ​น้ำใจ​ของ​ข้า​แล้ว​ เช่นนั้น​ ก็​เป็น​คนดี​ให้​ถึงที่สุด​เสีย​เลย​สิ ท่าน​ช่วย​ข้า​ปกป้อง​ที่นี่​หน่อย​ ข้า​จำเป็นต้อง​เตรียมการ​บางอย่าง​เพิ่มเติม​”

ถ้าเขา​เดา​ไม่ผิด​ เป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ที่​หงอ​วิ๋น​ตรงหน้า​นี้​คือ​หงอ​วิ๋น​ผู้​น่าเวทนา​ใน​ความทรงจำ​ของ​เขา​ ซึ่งเขา​เคย​อ่าน​ประวัติ​มาก่อน​บน​โลก​ใบ​เดิม​…

“หือ​” หงอ​วิ๋น​งุนงง​ เขา​เพียงแค่​ผ่าน​ทาง​มาเท่านั้น​ ไม่ได้คิด​จะรั้ง​อยู่​เพื่อ​ช่วยเหลือ​จริงๆ​ เสียหน่อย​

“ท่าน​เป็น​สหาย​มิใช่หรือ​” ตอนนี้​ลู่​เซิ่งไม่มีกำลัง​รบ​ที่​ใช้ข่มขวัญ​ได้​คอย​ช่วยเหลือ​ อุตส่าห์​ได้​คนดี​ๆ มาเป็น​พวก​ ย่อม​ต้อง​ใช้ประโยชน์​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​

ยิ่งไปกว่านั้น​ใน​โลก​อัน​กว้างใหญ่​ใบ​นี้​ คาด​ว่า​คง​มีแต่​บรรพชน​หงอ​วิ๋น​ที่​ผูกมิตร​ไปทั่ว​ใต้​หล้า​ผู้​นี้​เท่านั้น​ ถึงจะเข้าใกล้​ได้​แบบนี้​ แถมเข้ามา​แอบ​ฟังแนวคิด​พิลึก​ของ​เขา​อีก​

พวก​ผู้ยิ่งใหญ่​ระดับ​นี้​ ต่าง​มีบุคลิก​ใหญ่โต​ทั้งสิ้น​ ด้วย​ระดับ​ของ​เขา​ใน​ปัจจุบัน​ ต่อให้​มีใจคิด​ไปมาหาสู่​ ก็​ยัง​ขาด​ความสามารถ​อีก​มาก​โข​

‘ถ้าโลก​ใบ​นี้​เป็น​สถานที่​ที่​เรา​คิด​ไว้​จริงๆ​ ล่ะ​ก็​…อย่างนั้น​ก็​น่าสนใจ​แล้ว​…’ ดวงตา​ลู่​เซิ่งฉาย​ประกาย​เย็นเยียบ​

……………………………………….

[1] หงอ​วิ๋น​ ภาษาจีน​หมายถึง​เมฆาสีชาด​

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท