รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 1033 เหตุการณ์ไม่ราบรื่นเท่าใด มีอุปสรรคอยู่มากมาย!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 1033 เหตุการณ์ไม่ราบรื่นเท่าใด มีอุปสรรคอยู่มากมาย!

ฉานเฟิงเจ็บใจ ไม่ให้เจ็บใจได้อย่างไร เขาเพิ่งแข็งแกร่งขึ้น ยังไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำกลับต้องหยุดชะงักอยู่ที่นี่หรือ เขาไม่เจ็บใจสิแปลก!

น่าเสียดาย ต่อให้เจ็บใจเพียงใดก็เปล่าประโยชน์ อสูรบ่วงกรรมเกินกว่าที่เขาจะจัดการได้จริง ๆ สู้กันไปได้ครู่เดียวเขาก็ถูกอสูรบ่วงกรรมฉีกเป็นชิ้น ๆ

แม้แต่วิญญาณเขาก็ตายลงอย่างสิ้นเชิง ไม่มีโอกาสกำเนิดใหม่ได้อีก

“ทำตัวเองแท้ ๆ”

หน้าตาบรรพจารย์ฝูราบเรียบ ไม่ได้สงสารฉานเฟิงแม้แต่น้อย ห้วงธรณีดูดกลืนชีวิตผู้ฝึกตนไปตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ทำลายครอบครัวสุขสันต์ไปนับคณา ที่เขามายังห้วงธรณีคราวนี้ก็เพราะมีใจคิดสยบความอลหม่านในห้วงธรณี

“เอาล่ะ ตามนี้แหละ ขอให้ชีวิตที่เหลืออยู่ของข้าเจิดจ้ารุ่งโรจน์…”

ดวงตาเขาทอประกาย ความคิดใหม่ผุดออกมา ไม่คิดแต่อยากตายอีกต่อไป เขาต้องการถือโอกาสที่ ‘ผล’ ยังไม่จุติทำความดีเยอะ ๆ ก่อนตายขอกำจัดภัยร้ายในใต้หล้านี้ให้ได้มากที่สุด

“แดนพิฆาตในใต้หล้านี้มีมากเกินไป เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอย่างร้ายแรง ทุกที่ที่ข้าเดินทางไปหลังจากนี้จะเป็นแดนพิฆาตทั้งหมด”

“ขอให้ใต้หล้านี้ไม่มีแดนพิฆาตอีก สิ่งมีชีวิตทั้งหมดสามารถฝึกฝนอย่างปลอดภัยได้ตลอดชีวิต”

จากนั้น เขาไปจากที่นี่ เริ่มการเดินทางจากเทวโลกชั้นแรก อยากไปเยือนแดนพิฆาตให้ได้มากที่สุด

ขณะเดียวกัน จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงนำยันต์สองแผ่นกลับมาถึงแดนบูชายัญอันธการอย่างรวดเร็ว

แดนบูชายัญอันธการในยามนี้น่าพรั่นพรึงอย่างแท้จริง ทั้งที่ยังไม่เข้าใกล้ ยังห่างกันไกลมาก เพิ่งจะถึงสมรภูมิมืดมิดเท่านั้นก็มีสสารมืดมิดน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านอยู่รอบ ๆ

สสารมืดมิดเหล่านี้แทบมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า น่ากลัวอย่างยิ่งยวด หากสิ่งมีชีวิตตนใดถูกสสารมืดมิดระดับนี้ปกคลุม เพียงครู่เดียวก็จะแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตมืดมิดอย่างรวดเร็ว

เขายังดี แม้ว่าด้วยพลังของเขาเองไม่อาจต้านทานสสารมืดมิดเช่นนี้ได้ ทว่าในตัวเขามีกระดานหมากล้อมที่คุณชายประทานให้คอยพิทักษ์ กฎระเบียบพิเศษห้อมล้อมอยู่รอบกระดานหมากล้อม ปกป้องวิญญาณของเขาไว้เป็นอย่างดี ต่อให้มีสสารมืดมิดเข้าร่างมากเพียงใด วิญญาณก็ไม่มีทางได้รับผลกระทบ ไม่มีวันแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตมืดมิด ดำดิ่งลงไปในความมืดมิด

ไม่นานนัก เขาก็ข้ามผ่านสสารมืดมิดเหล่านั้นเข้าไปถึงแดนบูชายัญอันธการ

ภายในแดนบูชายัญอันธการสยดสยองยิ่งกว่า สสารมืดมิดเข้มข้นอบอวลไปทั่ว จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงรู้สึกว่าต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตล้ำขีดขั้นสิบขึ้นไปเข้ามาถึงแดนบูชายัญอันธการก็ต้องจมดิ่งอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นสิ่งมีชีวิตมืดมิดตกลงไปในความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด

“หือ เจ้ายังไม่ตายอีกหรือ”

สิ่งมีชีวิตมืดมิดเห็นจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงแล้วพลันอึ้งไปนิดหน่อย

มันรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว บรรดาสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ถูกผู้เบิกทางและศิษย์พี่หญิงส่งออกไปตายอยู่ข้างนอกทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น ถูกล้างบางจนสิ้น

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงถูกส่งออกไปเช่นกัน แต่กลับมีชีวิตกลับมาได้ นับว่าเกินความคาดหมายอย่างแท้จริง มันคิดไม่ถึงเลย

“ข้าค่อนข้างรอบคอบ ประกอบกับข้าไม่ค่อยมีพลัง ไม่กล้าทำการอย่างเอิกเกริก ได้แต่ลอบปฏิบัติการลับ ๆ จึงไม่ถูกคนพวกนั้นหมายหัว ทำให้โชคดีรอดมาได้”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงตอบ

นี่เป็นคำอธิบายที่เขาคิดไว้แต่แรก จึงตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ

สิ่งมีชีวิตมืดมิดตนนั้นไม่ได้เคลือบแคลง ถึงอย่างไรพลังจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก็ไม่เท่าไหร่จริง ๆ ระมัดระวังตัวไว้ถือเป็นเรื่องปกติ

“ความรอบคอบของเจ้าช่วยเจ้าไว้แท้ ๆ!”

สิ่งมีชีวิตมืดมิดตนนั้นเอ่ยอย่างสะท้อนใจ “ผู้ใดเล่าจะคิดว่าด้านนอกนั่นมีกำลังรบน่าประหวั่นพรั่นพรึงระดับนั้นอยู่ด้วย สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ถูกส่งออกไปควรต้องกวาดล้างศัตรูได้หมด แต่กลับถูกฆ่าล้างเสียสิ้น ไม่เหลือผู้ใดกลับมา!”

พูดจบ มันก็เลิกสะท้อนใจและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ทว่าภายหน้าไม่ต้องกลัวจะมีเรื่องเช่นนี้อีกแล้ว จ้าวแห่งความมืดมิดทั้งสองท่านใกล้ออกโรงได้อย่างแท้จริงแล้ว!”

“หลังจ้าวแห่งความมืดมิดทั้งสองออกสู่โลกหล้าจริง ๆ ทุกอย่างจะสงบลง ไม่ว่ากองกำลังใดที่ขวางทางพวกเราย่อมถูกจ้าวแห่งความมืดมิดทั้งสองกำจัดแน่!”

มันเอ่ยเสียงภาคภูมิ มั่นใจในจ้าวแห่งความมืดมิดทั้งสองเป็นอย่างมาก

เพราะมันรู้ภูมิหลังของจ้าวแห่งความืดมิดทั้งสอง หนึ่งคือผู้เบิกทาง ตัวตนผู้ชี้ทางพลังวิถีในอาณาจักรทั้งปวง ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง

อีกท่านเก่งกาจยิ่งกว่า เป็นศิษย์พี่หญิงของผู้เบิกทาง พลังนั้นไม่ต้องกล่าวถึง

ในสถานการณ์เช่นนี้ หลังจ้าวแห่งความมืดมิดทั้งสองออกโรงจริง ๆ ผู้ใดเล่าจะยับยั้งไหว

ย่อมไม่มี!

“ใช่แล้ว!”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ย “ถึงคราวนั้น ทุกอย่างจะตกสู่ความมืดมิด ใต้หล้านี้หมดสิ้นแสงสว่าง!”

“เจ้ากลับมาได้พอดี ไปกันเถิด ไปหาจ้าวแห่งความมืดมิดทั้งสอง บัดนี้ทุกคนกำลังรวมตัวบำเพ็ญเพียรรอบจ้าวแห่งความมืดมิด!”

สิ่งมีชีวิตมืดมิดตนนั้นเอ่ยยิ้ม ๆ

บัดนี้จ้าวแห่งความืดมิดทั้งสองสั่นสะเทือนทุกขณะ ในอดีต แรงสั่นสะเทือนเช่นนี้สร้างความเสียหายต่อพวกเขาอย่างมาก

ทว่ายามนี้ แรงสั่นสะเทือนเช่นนี้ไม่เพียงแต่ไม่เป็นผลร้ายต่อพวกเขา ตรงกันข้าม ยังเป็นประโยชน์ต่อพวกเขามหาศาล ช่วยให้พลังของพวกเขาพุ่งพรวด

จ้าวแห่งความมืดมิดทั้งสองประกาศแล้วว่าให้พวกมันรวมตัวฝึกฝนที่นั่น เพื่อยกระดับความแข็งแกร่ง

“ได้!”

จักรพรรดิหมากล้อมพยักหน้า มาอยู่ที่ศพทั้งสองพร้อมสิ่งมีชีวิตมืดมิดตนนั้น

อนิจจา เขาไม่อาจเข้าใกล้ได้เลย สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่ล้อมรอบอยู่ที่นี่เยอะเกินไป เรียงรายยั้วเยี้ยจนเขาไม่อาจเข้าใกล้ได้เลย

เช่นนี้ไม่ไหว หากเข้าใกล้ไม่ได้ แล้วเขาจะติดยันต์ให้ศพทั้งสองได้อย่างไร

ฝ่าเข้าไปหรือ

ไม่เข้าท่าเท่าไหร่!

สิ่งมีชีวิตที่มารวมตัวที่นี่ต่างแข็งแกร่งดุดัน ไม่แน่ว่าเขาจะฝ่าเข้าไปได้

นอกจากนี้ ศพทั้งสองร่างน่าพรั่นพรึงทรงพลังตั้งขนาดไหน หากแหวกหญ้าให้งูตื่นก่อน ศพทั้งสองอาจเลือกหนีไปหรืออาจไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ได้เลย

การฝ่าเข้าไปเป็นวิธีที่แย่ที่สุด จะใช้เมื่อจวนตัวจริง ๆ

เขาขบคิดครู่หนึ่ง ไม่นานนักก็มีแผนการในใจ

“ทุกท่านหลบหน่อย ข้ามีเรื่องสำคัญต้องรายงานจ้าวแห่งความมืดมิดทั้งสอง!”

เขาตะโกนเสียงดัง หวังจะเข้าใกล้ด้วยวิธีนี้

น่าเสียดาย ฐานะของเขาในแดนบูชายัญอันธการต่ำต้อยเกินไป แทบปราศจากความสำคัญ ไม่มีสิ่งมีชีวิตมืดมิดตนใดหลีกทางให้เขา

ถึงอย่างไรก็เป็นเพราะพลังของเขาไม่เท่าไหร่ สิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้ไม่คิดว่าเขาจะมีเรื่องสำคัญจริง ๆ นึกกันไปว่าเขาเพียงแต่ต้องการยึดครองตำแหน่งหน้าสุดเท่านั้น แต่ละคนจึงนิ่งไม่ไหวติง ไม่ต้องการผละจากที่นั่งของตน

ถึงอย่างไร ยิ่งใกล้ชิดสองศพนั้นผลประโยชน์ที่ได้รับก็ยิ่งมาก ไม่มีผู้ใดเต็มใจไปที่อื่น

‘ไร้ตัวตนเกินไป แม้แต่สองศพนั่นยังไม่สนใจข้า!’

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ยในใจ

สองศพนั้นได้ยินคำกล่าวของเขาแล้วแน่นอน ทว่ากลับไม่มีท่าทีอันใด คงคิดเช่นกันกระมังว่าเขาคงไม่มีเรื่องสำคัญ

“ข้าได้พบคุณชายหลี่ผู้นั้น!”

เวลานั้นเอง เขาตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง “จ้าวแห่งความมืดมิดทั้งสอง ข้ามีเรื่องสำคัญรายงานจริง ๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณชายหลี่ผู้นั้น!”

เขารู้สึกว่าหากเขากล่าวถึงคุณชาย จะต้องดึงดูดความสนใจจากสองศพนั้นได้แน่

ตามคาด หลังเขาเอ่ยเช่นนี้ สองศพนั้นก็มีท่าทีตอบสนอง!

ศพทั้งสองสั่นสะเทือนรุนแรงยิ่งขึ้น เสียงหนึ่งดังออกจากศพสตรี

“เจ้า เข้ามารายงานที่นี่”

เสียงดังออกจากศพสตรี สิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านั้นเคลื่อนไหวทันที รีบหลีกทางให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว

“หยุดก่อน!”

ขณะที่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไปได้ครึ่งทาง ศพสตรีก็หยุดเขาไว้มิให้เข้าไปอีก

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงรู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างทาบทับตัวเขา พลันรู้ทันทีว่าศพสตรีกำลังตรวจสอบเขาอยู่

เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ น่าจะผ่านการตรจสอบจากศพสตรีไปได้ คุณชายเป็นผู้ประทานกระดานหมากล้อมให้เขาเอง แม้ว่าเขาในยามนี้จะยังไม่อาจสำแดงพลังกระดานหมากล้อมออกมาได้ทั้งหมด แต่อย่างไรนี่ก็เป็นฝีมือคุณชาย เขาคิดว่าไม่น่าถูกจับได้

“เจ้าเข้ามาได้”

ศพสตรีเอ่ยปากอีกครั้งให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเข้ามา

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงโล่งอก เขารู้ว่าผ่านการตรวจสอบแล้ว ศพสตรีไม่พบพิรุธอันใด

ทว่าศพสตรีรอบคอบเป็นพิเศษ ขณะที่เขายังไปไม่ถึง ศพสตรีสั่งให้เขาหยุดอีกครั้ง

“หยุด เปิดเผยวิญญาณของเจ้า ให้ข้าดูผ่านความทรงจำในวิญญาณของเจ้าก็พอ”

ศพสตรีกล่าว

มันระวังตัวอย่างแท้จริง

ทว่ามันก็จำต้องระวัง

เพราะก่อนหน้านี้ศพของผู้เบิกทางยืมร่างศิษย์คนโตมุ่งหน้าไปจัดการหลี่จิ่วเต้า สุดท้ายกลับพ่ายแพ้อย่างอนาถา ถูกหลี่จิ่วเต้าสังหารได้ง่ายดาย

เป็นผลให้พวกมันทั้งสองตระหนักถึงความน่ากลัวของหลี่จิ่วเต้า

แม้มันจะไม่พบปัญหาจากตัวจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง ทว่าก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ ถึงอย่างไรแล้ว หลี่จิ่วเต้าเก่งปานใดมันก็ไม่อาจล่วงรู้

หากจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงถูกหลี่จิ่วเต้าส่งมา แล้วมันไม่พบพิรุธยอมให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเข้าใกล้ได้แย่แน่

ใช่ว่าเรื่องนี้จะเป็นไปไม่ได้ ผู้ใดใช้ให้หลี่จิ่วเต้ามีวิชาลึกล้ำเกินหยั่งเช่นนั้นเล่า!

เพราะเหตุนี้ มันจึงสั่งให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงหยุดอีกครั้ง ไม่ให้โอกาสเขาเข้าใกล้ ตั้งใจตรวจดูจากความทรงจำวิญญาณของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงโดยตรง

‘บัดซบ เหตุใดถึงรอบคอบปานนี้!’

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงสบถในใจ เดิมเขาคิดว่าใช้ข้ออ้างนี้ให้เขาได้เข้าใกล้ก็พอ

หากเข้าใกล้ได้ เขาจะแปะยันต์ทั้งสองแผ่นบนศพทั้งสองได้

ทว่าบัดนี้ดูแล้ว แผนของเขาเหมือนจะล้มเหลว ศพสตรีระแวดระวังจนน่าแปลกใจ หลังตรวจสอบแล้วยังรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้

หากเป็นเข่นนี้ ต่อให้เขาฝืนบุกเข้าไปก็ไม่ไหว

อย่าล้อเล่นหน่อยเลย สองศพนี้น่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงเพียงใด ซ้ำศพสตรียังระแวงในตัวเขา หากเขาชวนให้เอะใจแม้แต่น้อย น่ากลัวว่าสองศพนี้จักโจมตีเขาทันทีอย่างหนักหน่วง

ถึงเวลานั้น ต่อให้เขามีกระดานหมากล้อมและยันต์ทั้งสองคุ้มครองให้ปลอดภัย ก็ต้องถูกเปิดโปงอยู่ดี

ชั่วขณะนั้น เขาว้าวุ่นใจ คิดหาทางผ่านด่านนี้ให้ได้

ทว่าภายนอกเขาทำทีเคร่งขรึม ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด

“ได้เลย!”

ซ้ำเขายังตอบรับอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ศพสตรีเคลือบแคลง

“ดี เปิดเผยความทรงจำวิญญาณของเจ้า ให้ข้าได้เห็นว่าเจ้าไปพบหลี่จิ่วเต้าแล้วทำอะไรบ้าง…”

ศพสตรีกล่าว ให้ความสำคัญกับหลี่จิ่วเต้าเป็นพิเศษ

บัดนี้มันตระหนักได้แล้วว่าหลี่จิ่วเต้าอาจเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สุดของพวกมัน พวกมันสามารถส่งความมืดมิดจุติอย่างสมบูรณ์หรือไม่ก็อยู่ที่พวกมันจัดการหลี่จิ่วเต้าได้หรือไม่

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท