สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 1210 ตอนพิเศษ (81.1)

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 1210 ตอนพิเศษ (81.1)

วัวแก่ทำเสียงฟึดฟัด กัดกินหญ้าอ่อนไม่ยอมไป

ชูอีหวดแส้ในมือ แส้ส่งเสียงดังแหวกผ่านอากาศ แต่กลับไม่ได้ตกลงบนตัววัวแก่

ลู่จื่ออวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ มองดู อดที่จะหัวเราะเยาะเขาไม่ได้ “มันมองการขู่ขวัญตบตาคนของท่านออก ไม่กลัวท่านแม้แต่น้อย”

“วัวตัวนี้ขี้เกียจจริง ๆ” ชูอีเอ่ยอย่างจนปัญญา “รอคราวหน้าเข้าเมือง ข้าจะไปซื้อรถม้าสักคัน”

“ดีเลย!” ลู่จื่ออวิ๋นมองเขาด้วยรอยยิ้ม “แต่ตอนนี้จะทำอย่างไรดี? มันไม่ยอมไป พวกเราจะปล่อยมันไว้เช่นนี้ไม่ได้”

“ท่านนั่งดี ๆ ข้าจะลงไปจูงมัน”

ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้ว

ลู่จื่ออวิ๋นชี้ไปทางแม่น้ำที่อยู่ไม่ไกล “ทิวทัศน์ที่นั่นไม่เลว พวกเราไปพักที่นั่นสักประเดี๋ยวเถอะ รอมันกินอิ่มดื่มน้ำและพักผ่อนพอแล้วคงยอมเดิน วัวตัวนี้แก่แล้ว มันย่อมขี้เกียจอย่างเลี่ยงไม่ได้”

“ดี” ชูอีเอ่ย “ข้าจะจูงมันไป”

ริมแม่น้ำเป็นผืนหญ้าเขียวขจี พวกเขาเลือกที่หนึ่งผูกเกวียนไว้ จากนั้นก็หาที่ที่มีร่มเงานั่งลงพักผ่อน

“ท่านจะไปที่ใด?”

“ข้าจะไปจับปลา”

ชูอีลงไปในแม่น้ำเพื่อจับปลา

จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมา

ลู่จื่ออวิ๋นตะโกนมาจากบนฝั่ง “ระวังเล่า”

ชูอีตกลงไปในน้ำเสียงดังตู้ม

ใต้น้ำ ในสมองของเขาพลันปรากฏเศษเสี้ยวบางอย่างขึ้นมา

‘ท่านพ่อ…’

‘สามี…’

ชูอีรู้สึกปวดหัวราวกับศีรษะจะแยกออกจากกัน

ในยามนี้เอง มีมือหนึ่งมาคว้าเขาขึ้นไป

ชูอีลืมตาขึ้น เห็นลู่จื่ออวิ๋นปรากฏตัวอยู่ในน้ำ

“ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” ลู่จื่ออวิ๋นมองเขาอย่างตื่นตระหนก

ชูอีเห็นลู่จื่ออวิ๋น จู่ ๆ ก็คว้านางมากอด

“เป็นอะไรไป?” ลู่จื่ออวิ๋นที่ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขนเอ่ยถาม “ไม่สบายที่ใดหรือไม่?”

“ข้า…”

ชูอีจดจำภาพที่แวบขึ้นมาเมื่อครู่ได้

มีคนเรียกเขาว่าท่านพ่อและยังมีคนเรียกเขาว่าสามี หรือว่าที่นางคาดเดาว่าเขามีภรรยาและลูกแล้วจะเป็นจริง เพียงแต่เพราะความจำเสื่อม เขาจึงจำไม่ได้?

หากเป็นเช่นนั้น แล้วยามนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขา? เขาจะหลงรักผู้อื่นได้อย่างไร?

“หัวท่านไปโขกเข้ากับที่ใดหรือไม่?” ลู่จื่ออวิ๋นโบกมือไปมาต่อหน้าเขา “เหตุใดดูทึ่มทื่อเพียงนี้? เพียงเพราะลงน้ำครั้งเดียว คงไม่ได้สมองเลอะเลือนไปแล้วกระมัง?”

“ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บ” ชูอีดึงลู่จื่ออวิ๋นขึ้นฝั่ง

ก่อนขึ้นฝั่งเขาจับปลาได้สองตัวด้วยสายตาอันเฉียบคมจึงโยนปลานั้นขึ้นฝั่งทันที

“ท่านพกตะบันไฟติดตัวตลอดเลยหรือ?”

“บางครั้งยามไปล่าสัตว์ เพื่อที่จะเฝ้าเหยื่อต้องหาของง่าย ๆ บนเขา ยามเดินทางตะบันไฟเป็นสิ่งจำเป็น”

“ดูเหมือนท่านจะชอบชีวิตเช่นนี้ ตอนนี้ท่านมีความสุขหรือไม่?”

“แน่นอน”

“เช่นนั้นท่าน… เคยคิดจะรื้อฟื้นความทรงจำให้กลับมาหรือไม่?”

มือของชูอีที่กำลังผ่าปลาหยุดชะงัก

เคยคิดหรือไม่?

เมื่อก่อนเคยคิด

เพียงแต่ยามใดที่พยายามนึกถึงก็ยิ่งนึกไม่ออก เมื่อครู่เขาถึงได้พบความทรงจำบางส่วนเข้าโดยบังเอิญ

“เมื่อครู่ข้าเห็นเศษเสี้ยวความทรงจำหนึ่ง” ชูอีเล่าพลางทำปลาไปด้วย “ดูเหมือนข้าจะเห็นคนเรียกข้าว่าท่านพ่อ อีกทั้งยังมีคนเรียกข้าว่าสามี”

ลู่จื่ออวิ๋นเลิกคิ้วแล้วจ้องมองชูอี “ดังนั้นท่านมีภรรยากับลูกแล้วหรือ?”

“ข้าไม่รู้” ชูอีหยุดมือที่กำลังผ่าปลา “ข้ารู้เพียงว่าควรบอกท่านตามตรง”

ลู่จื่ออวิ๋นร้องอ้อหนึ่งคำแล้วไม่ได้กล่าวอะไรอีก

ชูอีรออยู่นาน ลู่จื่ออวิ๋นกลับไม่มีความคิดจะพูดคุย เขาไม่รู้ว่าควรตอบกลับอย่างไร

“หากคิดเรื่องอื่นขึ้นได้อีก จำไว้ว่าต้องบอกข้า” ลู่จื่ออวิ๋นกล่าว

“ได้”

ในที่สุดวัวแก่ก็ส่งพวกเขากลับถึงหมู่บ้านก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

ชูอีมองลู่จื่ออวิ๋นเข้าไปในบ้านข้าง ๆ เขายืนอยู่ใต้ต้นไม้ข้างนอก มองไปที่ประตูเป็นนานสองนาน

ก่อนจะรู้สึกว่าสมองเขากระทบกระเทือนแล้ว

เขามักจะรู้สึกว่าเสียงสตรีที่เรียกเขาว่าสามีในชิ้นส่วนความทรงจำที่เพิ่งเห็น ฟังดูคล้ายกับเสียงของฮูหยินลู่เป็นอย่างมาก

วันรุ่งขึ้น ชูอีตื่นแต่เช้า เก็บกวาดลานบ้านจนเรียบร้อย ผ่าฟืนไว้แล้ว

ติงเซียงเดินเข้ามาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณหนู ท่านลองทายดูสิเจ้าคะว่าข้าเก็บอะไรมา?”

ลู่จื่ออวิ๋นสยายผม เงยหน้าขึ้นสัมผัสกับความสวยงามของรุ่งอรุณ นางกล่าวตอบ “ร่าเริงแต่เช้าเช่นนี้ เจ้าพบทองคำหรือ?”

“มีคนเอาฟืนมากองไว้หน้าประตู วันนี้บ่าวไม่ต้องผ่าฟืนแล้วเจ้าค่ะ” ติงเซียงเอ่ย “คุณหนู รอท่านเขยความทรงจำกลับมา เขาคงไม่ผ่าข้ากับไป๋จื่อใช้เป็นฟืนแทนกระมังเจ้าคะ?”

“ไม่หรอก” ลู่จื่ออวิ๋นกล่าว “นั่นเป็นความตั้งใจของเขา พวกเจ้าไม่ได้ขอให้เขาทำเช่นนั้นเสียหน่อย”

ไป๋จื่อยกแป้งทอดออกมา “วันนี้บ่าวทำแป้งทอด บ่าวจะส่งไปให้ท่าน… คุณชายชูอีสักหน่อยนะเจ้าคะ”

“เอ่ยถึงแป้งทอด…” ลู่จื่ออวิ๋นทัดปอยผมขึ้นข้างหูแล้วเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ก่อนหน้าข้าเคยทำของกินอย่างหนึ่งให้เขา หากเขากินเข้าไปจะนึกอะไรขึ้นมาได้บ้างหรือไม่?”

“เป็นไปได้นะเจ้าคะ”

“พวกเจ้าไปเตรียมวัตถุดิบให้ข้า”

“เจ้าค่ะ!”

นายบ่าวง่วนอยู่ในห้องครัวครึ่งค่อนวัน จู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากด้านนอก ฟังจากเสียงแล้วคงมีคนมาไม่น้อย

ติงเซียงกล่าว “บ่าวจะไปดูเจ้าค่ะ”

ไม่นานนางก็กลับมาบอก “ข้างบ้านมีแขกมา บอกว่ามาตามหาคุณชายชูอีเพื่อซื้อสัตว์ป่า วันนี้คุณชายชูอีจะพาพวกเขาไปล่าสัตว์บนเขาเจ้าค่ะ”

“เมื่อวานเขารับงานจากสกุลหลี่” ลู่จื่ออวิ๋นกล่าว “พอดีเลย อาหารที่ข้าทำให้เขานำขึ้นเขาไปเป็นเสบียงได้ ติงเซียง เจ้านำไปส่งให้เขาเถอะ!”

หลี่หยวนจงมองดูบ้านของชูอี เมื่อรู้ว่าชูอีกับลู่จื่ออวิ๋นไม่ใช่สามีภรรยากัน หากแต่เป็นเพียงเพื่อนบ้าน รอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็เบิกบานขึ้นมากทีเดียว

“ข้าบอกแล้วอย่างไร สองคนนี้ไม่คู่ควรกัน! ดังคาด ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด” หลี่หยวนจงพึมพำกับตนเอง

ป้าหลินใช้ไม้เท้าค้ำกายออกมา ในมือถือน้ำชากาหนึ่ง

หลี่หยวนจงเห็นแล้วจึงเตะผู้ติดตามข้าง ๆ “เจ้าไม่มีตาหรือไร ไยยังไม่เข้าไปช่วยอีก?”

ผู้ติดตามรับกาน้ำชาไปจากมือป้าหลิน “ท่านป้า เราทำเองก็ใช้ได้แล้ว ท่านรีบนั่งเถิด”

ป้าหลินกล่าวอย่างละอาย “หละหลวมแล้ว ที่บ้านไม่มีชา เพียงแต่ป๋อเหอ*[1] นำมาชงชาก็ไม่เลว ทุกท่านลองชิมดูเถิด”

“พวกเราก็ชอบดื่มชาป๋อเหอ” ผู้ติดตามกล่าว “ท่านป้า พวกเรามีคนมากมาย รบกวนแล้ว ท่านคงไม่หนวกหูกระมัง?”

“ไม่ได้ ๆ บ้านนี้ไม่ได้มีชีวิตชีวามานานแล้ว ข้าชอบความครึกครื้น” ป้าหลินกล่าว “เช่นนั้นพวกท่านทำงานไปเถิด ข้าขอตัว”

ชูอีออกมาพร้อมกับหน้าไม้ “นี่เป็นของที่ข้าทำเอง ในเมื่อท่านสั่งให้ข้าล่าสัตว์สามตัว ข้าจะลดราคาให้ท่านหน่อย เก้าสิบอีแปะต่อคัน”

“ท่านช่างเก่งเรื่องทำการค้าจริง ๆ พวกเราสั่งสัตว์สามตัวจากท่าน หนึ่งตัวหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึง ท่านยังต้องคิดเงินค่าหน้าไม้เพิ่มอีก” ผู้ติดตามเอ่ย “หน้าเลือดเสียจริง”

“เอ๊ะ เจ้าไม่อาจกล่าวเช่นนั้น” หลี่หยวนจงกล่าว “ซื้อหนึ่งอย่างก็เท่ากับหนึ่งอย่าง พี่ใหญ่ชูอีกล่าวเช่นนี้ไม่ผิด เพียงแต่พี่ใหญ่ชูอี ฮูหยินที่อยู่กับท่านเมื่อวานอยู่บ้านข้าง ๆ ใช่หรือไม่? ข้าอยากจะไปทักทายสักหน่อย”

ชูอี “…”

สีหน้าเช่นนี้ของหลี่หยวนจง ผู้ใดที่มีตาล้วนมองออก สีหน้าคาดหวังและเขินอายเช่นนั้นแสดงถึงความรักที่ผลิบานในใจ

ชูอีกำลังจะเอ่ยก็มีคนมาเคาะประตูก่อน

ผู้ติดตามรีบกล่าว “ข้าจะไปเปิด”

[1] ป๋อเหอ : หมายถึง มิ้นต์

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท