หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 12 เข้าจวนอ๋องเย่

บทที่ 12 เข้าจวนอ๋องเย่

บทที่ 12 เข้าจวนอ๋องเย่

“อืม! ข้าทราบแล้ว”

หลานเยาเยานำยาพิษออกมาหนึ่งขวด เปิดฝา แล้วนำยาพิษหยดลงบนเข็มเงิน เช่นนี้ถึงจะออกจากห้องได้อย่างวางใจ

ขอให้ความรู้สึกที่สัมผัสถึงแรงสังหารก่อนหน้านี้ เป็นเพียงการเข้าใจผิดด้วยเถิด

ในไม่ช้า

หลานเยาเยาถอดหมวกผ้าคลุมออก ถือกระเป๋าพยาบาลเดินตามท่านหานมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของอ๋องเย่ เห็นท่านหานทำทีจะหันหลังเดินกลับ นางจึงรีบถามว่า :

“ท่านไม่เข้าไปกับข้าหรอกหรือ?”

“แคก แคก อ๋องเย่ไม่ชอบคนพลุกพล่าน เจ้าวางใจเถอะ อ๋องเย่เข้ากับคนง่าย” กล่าวเช่นนี้หมายความว่าให้นางเข้าไปคนเดียว

เข้ากับคนง่าย?

อย่ามาหลอกซะให้ยาก!

แต่เมื่อท่านหานพูดจบ ก็เดินจากไปทันที

“……”

หลานเยาเยาสูดหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง แล้วจึงเคาะประตู

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก……”

“อ๋องเย่ ข้านำกระเป๋าพยาบาลมาให้ท่านแล้ว”

แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือความเงียบ หลานเยาเยากลอกตาหนึ่งครั้งด้วยความเบื่อหน่าย มีคนอยู่ข้างในแท้ๆ แต่กลับไม่ยอมขานตอบ แย่จริงๆ

สูงส่งสักแค่ไหนกันเชียว?

ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่มุกเย่หมิง นางไม่มีทางยอมอ่อนน้อมให้เช่นนี้แน่

เช่นนั้น!

นางจึงแลบลิ้นปลิ้นตาอยู่ที่ประตู “แบร่ แบร่ แบร่” เพื่อแสดงความดูถูก

“แอ๊ด……”

ทันใดนั้นเอง ประตูก็เปิดออก สัมผัสได้ถึงลมเย็นยะเยือกที่พัดออกมา เมื่อมองเข้าไปข้างใน ก็มีบุรุษสวมหน้ากากสีเงินปรากฏตัวขึ้นต่อหน้านาง ดวงตาที่ดูลึกซึ้งคู่นั้นกำลังจ้องมองนางอยู่ ร่างกายของนางสัมผัสได้ถึงลมหายใจของคนแปลกหน้า

“แคก แคก……”

หลานเยาเยาสำลักน้ำลายจนเกือบจะกัดลิ้นตัวเอง

แต่ว่า!

ดวงตาของนางกลับเป็นประกายขึ้นทันที

ท่วงท่าที่ดูสง่างาม รูปร่างที่ชวนให้หลงใหล ผิวกายที่ขาวเกลี้ยงเกลา ไม่รู้ว่ารูปลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากนั้นจะเป็นอย่างไร

“อ๋องเย่ นี่กระเป๋าพยาบาลของท่าน” หลานเยาเยาพยายามเก็บอาการ แล้วส่งมอบกระเป๋าพยาบาลให้ด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน

เย่แจ๋หยิ่งหรี่ตาลง ในแววตาสะท้อนให้เห็นถึงความอันตราย อากาศหนาวโดยรอบเริ่มทวีขึ้น ยังไม่ทันรู้ตัว ก็มีมือเข้ามาโอบอยู่ที่เอวเสียแล้ว

“อ๋องเย่?”

เมื่อเห็นว่าอ๋องเย่ไม่พูดอะไร หลานเยาเยายิ่งถามด้วยความระมัดระวัง ถึงแม้บนใบหน้าจะฉาบด้วยรอยยิ้ม

แต่ว่า……

บนหน้าผากกลับเต็มไปด้วยเหงื่อ

เป็นเวลานานพอสมควร กว่าที่อ๋องเย่จะตอบกลับมาคำหนึ่งว่า “อืม” หลังจากนั้นก็หายตัวไปจากด้านหน้าของหลานเยาเยา และไปปรากฏตัวอยู่บนเก้าอี้ภายในห้อง ยกแก้วชาขึ้นจิบหนึ่งคำ

“เข้ามาสิ!”

ว้าว!

เป็นอะไรที่เห็นได้ยากยิ่ง!

ตอนนี้หลานเยาเยารู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย จากก่อนหน้าที่สัมผัสได้ถึงความรู้สึก ที่มุ่งจะสังหารอย่างรุนแรง

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด อ๋องเย่เอง ก็เลิกล้มความคิดที่จะฆ่านางเช่นกัน

เพิ่งพบกันครั้งแรก คงไม่ทำให้เขาขุ่นเคืองหรอกนะ?

หรือว่าเขาเป็นพวกกระหายเลือด เห็นใครก็อยากจะฆ่า?

ดูเหมือนว่าที่นี่ ไม่เหมาะที่จะอยู่นานๆ เมื่อได้มุกเย่หมิงแล้วก็ควรไปทันที อ๋องเย่ท่านนี้ ดูช่างอันตรายนัก

เมื่อหลานเยาเยาตัดสินใจได้เข่นนี้แล้ว จึงเดินเข้าไปด้วยท่าทีที่สงบ เมื่อไปถึงเบื้องหน้าของอ๋องเย่ ก็วางกระเป๋าพยาบาลลงบนโต๊ะ หลังจากนั้นจึงลบรหัสลายนิ้วมือของตนเองทิ้ง และใส่รหัสลายนิ้วมือของอ๋องเย่เข้าไปแทน

“อ๋องเย่ โปรดนำนิ้วมือของท่านวางลงด้านบนนี้ด้วย!”

หลานเยาเยาชี้ไปตรงจุดที่ใช้บันทึกรหัส เห็นอ๋องเย่จ้องมองกระเป๋าพยาบาลตาเขม๋ง สายตาเหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง

ในที่สุดก็วางนิ้วชี้ลง

“ติ๊ง บันทึกลายนิ้วมือสำเร็จแล้ว!”

หลานเยาเยายิ้มมุมปากเล็กน้อย และพูดอย่างยินดีว่า

“ท่านอ๋อง เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มีแต่ท่านที่ใช้งานมันได้” หลังจากนั้น นางก็ยืนรอมุกเย่หมิงจากอ๋องเย่ แล้วนางก็จะไป

แต่ว่า……

อ๋องเย่มัวแต่ง่วนอยู่กับกระเป๋าพยาบาล จนลืมเรื่องมุกเย่หมิงไปซะสนิท

ไม่นาน

หลานเยาเยาก็อดรนทนไม่ไหว จึงคิดที่จะส่งเสียงเตือน

ในตอนนั้นเอง!

“ฉึบ……”

มีมีดเล่มหนึ่งทะลุหน้าต่างเข้ามา พุ่งไปที่หน้าของนางอย่างรวดเร็ว หลานเยาเยาหรี่ตาลงเล็กน้อย เอี้ยวตัวหลบและใช้มือปัดอาวุธทิ้ง แล้วนางจึงซัดเข็มเงินกลับไปตามทางที่อาวุธลอยมา

ได้ยินเพียงเสียงฮัดฮัด หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก

หลานเยาเยาดึงอาวุธที่ปักอยู่ที่เสาหินออกมา แล้วรีบเดินมาหาอ๋องเย่: “ท่านอ๋อง มีนักฆ่า รีบหนีเร็ว”

“อืม!”

เย่แจ๋หยิ่งหยิบกระเป๋าพยาบาล และลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน ทำราวกับว่าไม่เห็นเหตุการณ์ที่มีอาวุธพุ่งเข้ามา

หลังจากนั้นก็เดินไป

“อ๋องเย่ คือว่า……”

อ๋องเย่ซึ่งเดินไปถึงประตูแล้ว หยุดเดินและหันกลับมามองนางด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดด้วยริมฝีปากบางๆของเขาว่า : “มีเรื่องอะไร?”

เอ่อ……

ยังจะถามอีกว่ามีเรื่องอะไร?

ก็มุกเย่หมิงไงล่ะ ยังไมีได้มอบมุกเย่หมิงให้นางไม่รู้หรือ?

ในใจของหลานเยาเยากำลังกัดฟันด้วยความโมโห แต่ต้องแสร้งทำทีท่าไร้เดียงสา แล้วหันไปพูดเตือนแบบยิ้มๆ

“มุกเย่หมิงของข้าล่ะ?”

“อยู่ที่จวน!” พอพูดจบ เขาก็เดินไป

จวนอ๋องเย่?

หมายความว่านางจะต้องตามอ๋องเย่เข้าจวน เพื่อไปเอามุกเย่หมิงอย่างนั้นหรือ?

ถึงตอนนี้ก็รู้แล้วว่า ถ้าอยากได้มุกเย่หมิง มีทางเดียวคือนางต้องตามอ๋องเย่เข้าจวนโดยไม่มีข้อแม้

เพื่อมุกเย่หมิงแล้ว ต่อให้ต้องบุกเข้าถ้ำเสือก็ยอม อ๋องเย่ผู้คนเคารพนับถือ ถูกยกย่องให้เป็นถึงเทพเจ้าแห่งสงคราม คงไม่ฆ่าคนปิดปากเพื่อมุกเย่หมิงเม็ดเดียวหรอกกระมัง?

ดังนั้นหลานเยาเยาจึงกัดฟันตามเขาไป

เพิ่งก้าวออกจากประตูร้านประมูลเสินตู ก็เห็นอ๋องเย่ขึ้นนั่งอยู่บนรถม้าที่สวยงามเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งคนขับบรถม้าก็กำลังลงแส้เพื่อบังคับม้าออกไป

เห็นดังนั้น!

หลานเยาเยารีบวิ่งด้วยความเร็วสูงไปยังรถม้าที่กำลังจะออก และกระโดดขึ้นไปนั่งข้างๆคนขับรถม้า

คนขับรถม้าหนุ่มหันไปมองนางอย่างระแวดระวัง มือข้างหนึ่งกุมบังเหียน ส่วนมืออีกข้างลูบกริชที่เหน็บอยู่ที่เอว

“พี่ชาย ข้าจะไปเอามุกเย่หมิงที่จวนอ๋องเย่ ขอติดรถไปด้วยนะ ท่านอ๋องของท่านก็อนุญาตแล้ว”

เป็นเพราะอ๋องเย่ไม่ชอบพูดมาก อีกทั้งนางเองก็ไม่ได้เข้าไปนั่งในรถม้า เดาว่าอ๋องเย่คงขี้เกียจที่จะเปิดปากไล่นาง

ดังนั้น!

คนขับรถม้าหันมามองนางอย่างพิจารณาสองสามครั้ง แล้วจึงบังคับรถม้าออกไป

ไม่นานก็มาถึงจวนอ๋องเย่อันสง่างาม มีกำแพงสูงล้อมรอบ ประตูเป็นสีแดงสด มีทหารยามที่ดูท่าทางเคร่งขรึม ช่างแสดงถึงเกียรติของจวนอ๋องเย่อย่างแท้จริง

เมื่อตามอ๋องเย่เข้าไปในจวน หลานเยาเยาก็ถูกดึงดูดความสนใจด้วยสิ่งที่อยู่ภายใน ไม่ว่าจะเป็นศาลา ดอกไม้ใบหญ้า พืชนานาพรรณ ทุกอย่างล้วนจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบและดูสง่างาม

ทันใดนั้นเอง!

หลานเยาเยา ผู้ที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการชมสิ่งต่างๆรอบตัว ก็ต้องเผชิญกับปัญหาเข้าให้แล้ว

อ๋องเย่ที่แสนจะดูเหี่ยวเฉาผู้นั้นหายไปไหนแล้ว เหล่าองครักษ์ที่เดินไปมาก็หายไปกันหมด มีเพียงเสียงลมพัดใบไม้แห้ง และเสียงของนกที่ฟังดูโดดเดี่ยวอ้างว้างดังมาเป็นระยะ

“คนล่ะ?”

ไปไหนกันหมดแล้ว?

เขาคงไม่ได้คิดจะฆ่าคนเพื่อปิดปากจริงๆหรอกใช่ไหม?

หลายเยาเยามองไปทั่วทุกด้าน แม้แต่เงาของคนสักคนก็ไม่เห็น

เมื่อเดินหาอยู่สักพักหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าเดินถึงตรงไหนแล้ว ทันใดนั้นจึงหยุดเดิน แล้วเงี่ยหูฟัง

“แคก แคก……”

มีเสียงไอดังมาเป็นระยะๆจากที่ไกลๆ ดูเหมือนจะเป็นเสียงของผู้หญิง เป็นเสียงที่ฟังดูอ่อนแรง และน่าจะทรมานมาก

หลังจากนั้นบรรยากาศโดยรอบก็เริ่มแปลกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท