คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 750 มีแค้นก็แก้แค้น

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 750 มีแค้นก็แก้แค้น

คืนนั้นตระกูลหลิวแขวนโคมไฟสีขาวสองดวง จากที่เพื่อนบ้านสอบถามดู นายหญิงใหญ่หลิวคลอดก่อนกำหนดและคลอดบุตรยาก บุตรที่คลอดออกมาเสียชีวิต ตัวนางเองก็ไม่ไหวแล้ว

ไม่มีใครรู้สึกแปลกอะไร อย่างไรเสียในยุคนี้ก็มีสตรีจำนวนมากเสียชีวิตจากการคลอดบุตร จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนรู้สึกว่าสิ่งที่น่าทอดถอนใจก็คือนายหญิงใหญ่หลิวที่เย่อหยิ่งขนาดนั้นกลับมาตายเพราะคลอดบุตรยาก ก็ไม่รู้ว่าเต็มใจหรือไม่

เต็มใจหรือไม่นั้นนายหญิงใหญ่หลิวเองก็ยังไม่รู้ ทันทีที่นางเสียชีวิตก็ถูกยมทูตพาไปแล้ว ส่วนตู้เจวียนและบุตรชายก็ไปหาศัตรูอีกคนคือนักพรตยินซาน

นักพรตยินซานมือขาดหนึ่งข้าง ซ้ำยังถูกยันต์ห้าสายฟ้าของตัวเองระเบิดใส่ และศีรษะก็ได้รับความเสียหายจากเข็มเงินของฉินหลิวซี ท่าทางสะลึมสะลือ เมื่อถูกคนพบเห็นก็ทำได้เพียงส่งเขาไปที่หน้าประตูโรงหมอ

คนในโรงหมอก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะช่วยเขา พันแผลไว้อย่างลวกๆ จากนั้นนักพรตยินซานก็จากไปเอง หารังของขอทานแล้วนั่งลง เมื่อเห็นผี ก็มีวิชามากมายในหัวที่จะใช้จับผีไล่วิญญาณ แต่กลับใช้งานไม่ได้ ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงนั้นทำให้เขาโมโหและหมดแรง และที่มากกว่านั้นคือความหวาดกลัว

เมื่อคนหวาดกลัวก็จะทำเรื่องบ้าคลั่ง บรรดาขอทานถูกรบกวนจนนอนไม่ได้จึงเตะต่อยทุบตีเขา ทำให้ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้วย่ำแย่ลงไปอีก

ยังไม่จบเพียงเท่านี้

ตู้เจวียนและบุตรชายล่อลวงให้เขาถือเศษกระเบื้องแหลมคมมาผ่าท้องตัวเอง ไส้ไหลออกมากองอยู่บนพื้น ทำเอาบรรดาขอทานกรีดร้องด้วยความตกใจ

พวกเขาสองคนแม่ลูกต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเขากับนายหญิงใหญ่หลิว คนหนึ่งให้กำเนิดสัตว์ประหลาดสองหน้า อีกคนหนึ่งผ่าท้องตัวเอง จัดการทั้งคู่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อเห็นว่านักพรตยินซานสิ้นลมแล้ว สองแม่ลูกจึงได้จากไป ยังเหลืออีกหนึ่ง

หมู่บ้านตระกูลจู

จูต้าจุ่ย ชายผู้ซื่อสัตย์แต่งงานใหม่อีกครั้ง และคราวนี้ได้แต่งงานกับสาวงามที่งานบ้านงานเรือนดีมากซึ่งมาจากหมู่บ้านถัดไป ส่วนคนก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าหนีตามผู้ชายไปแล้ว แม่สามีตระกูลจูยังบอกอีกว่าบุตรที่อยู่ในท้องของสตรีผู้นั้นก็เป็นของคนเถื่อน

คำพูดเช่นนี้กลับมีคนในหมู่บ้านตระกูลจูเชื่อเสียได้ เพราะลูกสะใภ้ของตระกูลจูรูปร่างหน้าตางดงาม ไม่ต้องพูดถึงว่างดงามแค่ไหน ดวงตาทั้งสองข้างเย้ายวนใจเป็นอย่างมาก สตรีในหมู่บ้านตระกูลจูต่างก็จงเกลียดจงชัง ทำไมน่ะหรือ ทุกครั้งที่สตรีผู้นั้นเดินออกมา สายตาของบุรุษในหมู่บ้านล้วนจับจ้องไปที่นาง

ก็ไม่รู้ว่าสาวงามเช่นนี้ไปลงเอยกับจูต้าจุ่ยคนที่ไม่ชอบพูดจาได้อย่างไร หากได้ไปเป็นอนุในตระกูลที่ร่ำรวย ก็คงจะได้เพลิดเพลินกับความมั่งคั่งไม่ใช่หรือ

คนอื่นไม่รู้แต่ตู้เจวียนรู้ว่านางต้องการอะไร สิ่งที่ต้องการในตอนนั้นคือเขาเป็นคนซื่อสัตย์ ดีกับตัวเอง ไม่เหมือนกับบุรุษที่พูดจาหวานหยดย้อยแต่ไร้ซึ่งความจริงเหล่านั้น ทว่าใครจะไปรู้ว่าจริงๆ แล้วผู้ชายที่ซื่อสัตย์เช่นนี้จะเป็นคนหน้าซื่อใจคด หลังจากแต่งงาน เพียงเพราะว่าตัวเองพูดคุยกับบุรุษ จึงทำให้ถูกเขาซักไซ้และทุบตี ซ้ำแม่สามีใจดำผู้นั้นก็ยังคอยใส่ไฟอยู่ข้างๆ จึงยิ่งลงหมัดแรงกว่าเดิม

หึๆ พวกเขาก็แค่รังแกเพราะตัวเองเป็นคนที่ไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีตระกูลเดิมให้พึ่งพาอาศัยแล้ว

เพื่อหลีกเลี่ยงการสงสัยและถูกสามีทุบตี ตู้เจวียนจึงออกไปข้างนอกน้อยลง และไม่นานก็ตั้งครรภ์ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะโหดเหี้ยมอำมหิตถึงขั้นขายพวกนางสองแม่ลูกเพื่อเงินหนึ่งร้อยตำลึง

ตู้เจวียนสมน้ำหน้าตัวเอง

คนเก่าถูกขายไปแล้ว ตอนนี้กลับสวมชุดแดงแต่งภรรยาใหม่งั้นหรือ

ถามนางหรือยังว่าเห็นด้วยหรือไม่

งานเลี้ยงครึกครื้นเป็นอย่างมาก แขวนโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ไว้สูง ห้องโถงด้านในและลานด้านนอกเต็มไปด้วยผู้คน

จูต้าจุ่ยกับแม่สามีจูดื่มเหล้าคำนับแขกอย่างมีความสุข จนกระทั่งมาถึงโต๊ะท่านลุงของฝ่ายชาย เห็นสตรีผู้หนึ่งนั่งหันหลังให้กับพวกเขา ยิ้มแย้มพลางเอ่ย “ตายจริง ฮูหยินน้อยตระกูลไหนกัน นั่งผิดที่แล้วกระมัง”

ตู้เจวียนกอดบุตรชาย ค่อยๆ หันศีรษะมา อ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือดแดงก่ำ “อ้อ ข้านั่งผิดที่หรือ”

จูต้าจุ่ยกับแม่ย่าจู “…”

กรี๊ดดด

ทั้งสองคนระเบิดเสียงกรีดร้องดังลั่น จอกสุราตกลงบนพื้น ร้องตะโกนว่า “ตู้เจวียน เจ้าอย่าเข้ามานะ”

หมู่บ้านตระกูลจูวุ่นวายขึ้นมาทันที

ไม่กี่วันต่อมาก็มีข่าวเรื่องของจูต้าจุ่ย ชายผู้ซื่อสัตย์ในหมู่บ้านตระกูลจูผู้นั้นแต่งงานใหม่ ข่าวได้แพร่กระจายไปกว่าสิบลี้ ได้ยินมาว่าเขากับท่านแม่ของเขาสมคบคิดกันขายลูกสะใภ้รูปงามคนก่อนหน้า สตรีนามว่าตู้เจวียนถูกย่ำยีจนตาย หนึ่งศพสองชีวิต จากนั้นก็กลับมาแก้แค้นตอนที่เขาแต่งงานใหม่อีกครั้ง

ถามว่าแก้แค้นอย่างไร ตายหรือไม่

นับว่าไม่ตาย

ได้ยินมาว่าแม่สามีจูผู้นั้นถูกผีตู้เจวียนและลูกชายหลอกหลอนจนตกใจกลัวคุกเข่าลงกับพื้น จากนั้นก็เปิดเผยสิ่งที่พวกเขากระทำชั่วไว้ต่อหน้าแขกทุกคนที่มาร่วมงาน ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากเอ่ยจบ แม่สามีจูก็เกิดบ้าคลั่งขึ้นมา หยิบมีดมาฟันที่สืบพันธุ์ของจูต้าจุ่ย

แขกทุกคนตกใจจนมึนงงไปหมด ตอนแรกคิดว่าจู่ๆ พวกเขาก็เสียสติ จนกระทั่งเด็กๆ พากันร้องไห้บอกว่ามีผี โคมไฟทั้งหมดดับลงอย่างกะทันหัน พวกเขาจึงได้เห็นเงาผีอย่างคลุมเครือ ก่อนจะตกใจพากันวิ่งหนีเตลิดไปไม่เห็นแม้แต่เงา

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นระหว่างงานแต่ง เจ้าสาวก็ได้หอบสินสอดทองหมั้นกลับตระกูลเดิมในทันที ไม่คืนแม้แต่ของขวัญหมั้นหมาย อย่างไรเสียเจ้าสาวก็ไม่ใช่เด็กกำพร้าเหมือนตู้เจวียน ในตระกูลมีพี่ชายสามคน ตระกูลจูอยากจะไปโวยวาย ก็ต้องดูว่ากล้าพอหรือไม่

และจูต้าจุ่ยก็ไม่กล้าไปหาเรื่องตระกูลของเจ้าสาว คนที่ไม่มีที่สืบพันธุ์อย่างเขาต้องถูกคนในหมู่บ้านนินทา ภายใต้ความหงุดหงิดโมโห นิสัยที่แท้จริงของเขาจึงเปิดเผยออกมา เหวี่ยงหมัดใส่คนเป็นแม่ หลังจากงานเลี้ยงแต่งงาน ตระกูลจูก็มักจะได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ นั่นล้วนเป็นจูต้าจุ่ยที่กำลังทุบตีแม่ของเขา และร่างกายบอบบางของแม่สามีจูก็ถูกทุบตีจนเสียชีวิตภายในครึ่งปีต่อมา จูต้าจุ่ยฆ่ามารดาซึ่งขัดต่อจริยธรรมของความเป็นคน จึงถูกส่งตัวเข้าคุกและตัดศีรษะในเวลาต่อมา

ในขณะนั้นตู้เจวียนอุ้มลูกชายมองดูความวุ่นวายของตระกูลจู จากนั้นก็ลอยจากไปอย่างไร้ความรู้สึก

บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ

ราวกับว่าฉินหลิวซีรอนางมานานแล้ว เมื่อเห็นว่านางเพิ่มบาปชีวิต จึงเอ่ยว่า “ข้าได้ให้คนไปหากระดูกของพวกเจ้าสองแม่ลูกแล้ว หลังจากรวบรวมแล้วข้าจะช่วยทำพิธีส่งพวกเจ้า เจ้ายินดีไปเกิดใหม่หรือไม่”

ตู้เจวียนคำนับฉินหลิวซีอย่างซาบซึ้ง “รบกวนท่านอาจารย์แล้ว”

ในเวลานั้นนักพรตเต๋าศิษย์อาจารย์ทั้งสองที่ได้รับคำสั่งให้ไปหากระดูกคนตายได้ไปถึงยอดเขาที่ฉินหลิวซีเอ่ยถึง ซึ่งเป็นภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านที่อยู่ภายใต้นามของนายหญิงใหญ่หลิว

ซานหยวนกัดขนมงากรอบ มองไปยังอาจารย์ผู้เฒ่าของตัวเอง เอ่ย “ท่านอาจารย์ พวกเราคงไม่ได้ถูกนางหลอกหรอกกระมัง นี่ยังไม่ทันได้ไปพำนักอยู่อย่างเป็นทางการก็ถูกนางสั่งให้มาหากระดูกของแม่ลูกคู่นั้นที่นี่แล้ว”

หลังจากที่ฉินหลิวซีกลับมาจากตระกูลหลิวในวันนั้น ก็ให้พวกเขาออกนอกเมืองไปหากระดูกของแม่ลูกคู่นั้นที่ถูกนายหญิงใหญ่หลิวฆ่าตาย

นักพรตเฒ่าจ้องเขา “จะหลอกเจ้าทำไม หากเจ้ามีเงินติดตัวก็จะหลอกเอาเงินเจ้า แต่เจ้าไม่มี หากเจ้าหน้าตาดูดีอยู่บ้าง ก็จะหลอกเชยชมความงามของเจ้า แต่นางรูปงามกว่าเจ้าเสียอีก หากเอ่ยถึงสถานะของเจ้า นางก็…”

เขาหุบปากภายลงเมื่อเห็นลูกศิษย์มองมา ก่อนจะเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “สรุปแล้ว ดูจากความสามารถของนาง คาดว่าอารามคงไม่เลวเลย เมื่อเจ้าไปถึงที่นั่น ก็ตั้งใจเรียนรู้สักหน่อย เมื่อได้เรียนรู้ความสามารถแล้วก็จะกลายเป็นของติดตัว เดินออกไปข้างนอก ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่อดตาย เอาตัวรอดได้”

ซานหยวนหัวเราะอย่างเย็นชา “ในที่สุดท่านก็ยอมรับแล้วหรือว่าตอนนั้นท่านหลอกข้าให้ขึ้นเขาไปเข้าลัทธิเต๋า มิเช่นนั้นเหตุใดข้าจึงไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย”

นักพรตเฒ่า “…”

เขากระแอมเบาๆ สายตามองไปข้างหน้า “เจอแล้ว”

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท