หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่33 ใจดีเกินเหตุ

บทที่33 ใจดีเกินเหตุ

บทที่33 ใจดีเกินเหตุ

ในเวลานั้นเอง นัยน์ตาของชายชราผมขาวก็ปรากฏประกายสว่างไสวขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความงงงวย

“เหตุใดเจ้าถึงช่วยข้า?”

หลานเยาเยามองเขาอย่างหมดเรี่ยวแรงและเอ่ยเสียงเบา

“อย่างไรเสีย หลังจากข้าช่วยท่านแล้ว ท่านก็เป็นหนี้ข้าห้าร้อยนี่… โอ้ะ ไม่ไม่ไม่ เป็นหนึ่งพันตำลึงต่างหาก ตอนนี้ไม่มีเงินไม่เป็นไร รอจนกระทั่งบาดแผลของท่านหายดี ท่านจะไปขายแรงใช้แรงหรือเป็นวัวเป็นม้าก็ช่าง แต่เงินนั้นจะต้องคืนข้า”

แม้ว่านางจะรู้ว่าแตงที่ฝืนเด็ดจากต้นมักไม่หวาน แต่หากนางไม่ฝืนเด็ด เห็นทีแม้กระทั่งแตงยังไม่มีให้กินด้วยซ้ำ

เรื่องที่ควรฝืนย่อมต้องฝืน!

ชายชราผมขาวที่เดิมกำลังอยู่ในห่วงอารมณ์อันหนักหน่วง พอได้ยินนางเอ่ยเช่นนี้เข้า ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้!

ช่างเป็นแม่นางน้อยที่มีอารมณ์ขันอย่างยิ่ง

ในตอนนั้นเอง!

“ตึก ตึก ตึก……”

มีเสียงรอยเท้าเบาๆค่อยดังใกล้เข้ามา

นัยน์ตาของชายชราผมขาวเข้มขึ้น คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน นัยน์ตาของหลานเยาเยาก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาด้วยเช่นกัน นางรีบเทยาน้ำลงไปที่อีกด้านหนึ่งของโซ่เหล็กทันที

มองดูฟางหนาๆบนพื้น นางรีบเดินเข้าไปในมุมห้องแล้วซ่อนตัวเองเข้าไปในนั้นทันที แม้ว่ามันออกจะดูประหลาดไปสักเล็กน้อยก็ตาม

แต่ว่า!

หากไม่มองดูอย่างละเอียดย่อมไม่มีทางสังเกตเห็นได้แน่นอน

หลังจากนั้นไม่นาน!

รอยเท้าอันหนักหน่วงหยุดลงที่ด้านหน้าของประตูคุก

“ตาแก่อมตะ กินข้าวได้แล้ว กินข้าว เอ๋? ประตูนี้เปิดได้อย่างไร?” ชายท่าทางหยาบกระด้างผู้หนึ่งเอ่ยถามตัวเองด้วยความสับสน

หลานเยาเยาคิดไปว่าเขาน่าสงสัยขึ้นมาแล้ว ในขณะที่นางกำลังตัดสินใจว่าจะออกไปจัดการกับเขาดีหรือไม่ ทันในนั้นชายผู้นั้นก็เอ่ยขึ้นมาอย่างคนนึกอะไรขึ้นได้

“โอ้ เกือบลืมไป วันนี้ท่านแม่ทัพมาที่นี่ ต้องเป็นท่านแม่ทัพที่ลืมล็อกประตูแน่”

พูดจบ เขาก็เดินเข้ามาและโยนอาหารที่ยกมาลงตรงเท้าของชายชราผมขาว มองเห็นอาหารหกกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่บนพื้น จึงค่อยหัวเราะเย้ยหยันแล้วกล่าว

“เฮ้อ ข้าว่านะเจ้าเฒ่าอมตะ เห็นทีเจ้าจะโชคเสียจริง สุนัขที่เข้าเลี้ยงเอาไว้สองตัวนั่นวันนี้ไม่อยากอาหาร วันนี้ก็เลยมีเหลือมาให้เข้ามากมาย ฮ่าฮ่าฮ่า”

ชายผู้นั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และหลังจากหยุดหัวเราะลง เขาก็ถ่มน้ำลายใส่ชายชราผมขาว

“เจ้าเคยเป็นยอดคน เป็นที่รักใคร่บูชาจากผู้คนมากมาย อยากรุ่งโรจน์ก็รุ่งโรจน์ได้อย่างไม่สิ้นสุด

แต่ตอนนี้เล่า?

ถูกคุมขังในคุกมืดที่ไม่เคยเห็นดวงอาทิตย์ เป็นเสมือนโคลนดินก้อนหนึ่งที่เน่าเปื่อยกลายเป็นฝุ่นไม่มีใครจำเจ้าได้เลยสักนิด

แต่ข้า ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเข้าจับเข้าคุก มาวันนี้คิดอยากทรมานเจ้าแค่ไหนก็สามารถทำได้เท่าที่ข้าต้องการ ฮ่าฮ่าฮ่า…

ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า! อาหารวันนี้เพิ่มเนื้อพิเศษบางอย่างเข้าไป สุนัขสองตัวนั่นไม่กล้ากินมัน จึงได้แต่รบกวนเจ้าแล้ว”

ด้วยความฉลาดของตาเฒ่าอมตะผู้นี้ ไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่ามันคือเนื้ออะไร

“โง่เง่า!”

ชายชราผมขาวมองที่ชิ้นส่วนของเนื้อสัตว์ที่เท้าของเขา นัยน์ตาสะท้อนความโกรธที่กำลังรวมตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่เขากลับไม่ได้ลงมืออะไรขึ้นมา เนื่องจากยาน้ำนั้นยังคงละลายโซ่เหล็กอยู่

ดังนั้น !

เขาจึงทำได้แค่เปลี่ยนความเกลียดชังและความโกรธเหล่านั้นให้กลายเป็นความอดทน และมองคนผู้นั้นด้วยสายตาเย็นชา

“ทำไม โกรธหรือ? ยังมีบางสิ่งที่ทำให้เจ้าโกรธยิ่งกว่าเดิมได้อีกนะ! เฒ่าอมตะ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเนื้อนี้มันถูกตัดมาจากผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้า?

โฉงหมิงเอ๋ย! ทั้งด้านซ้ายและขวาของเจ้า คือผู้ที่ภักดีต่อเจ้า ซ้ำยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าอีกด้วย เนื้อของเขาถูกข้าตัดขาดด้วยตนเอง…”

ชายชราผมขาวตาแดงก่ำ และจ้องมองชายผู้นั้นด้วยสายตาฆ่าฟัน

ชายผู้นั้นชอบใช้สิ่งเหล่านี้มากระตุ้นยั่วยุเขา เมื่อมองเห็นเขาโกรธ ในใจของเขามีความสุขมาก

“เจ้าไร้มโนธรรมอย่างที่สุดเช่นนี้ ต่อให้พระเจ้าไม่จัดการเจ้า เฒ่าชราเช่นข้าจะเป็นคนจัดการเจ้าเอง” น้ำเสียงชราราวกับว่าไม่อ่อนแอดั่งเช่นก่อนหน้าอีกต่อไป ซ้ำยังแฝงไปด้วยพลังอำนาจที่เหนือกว่า

ในเวลานี้ชายชราผมขาวโกรธจัดจนกระทั่งเห็นเป็นเส้นเลือดสีฟ้าปรากฏขึ้นมา เขาแทบจะทนไม่ไหวที่จะจัดการชายผู้นี้ให้สลายกลายเป็นจุณ!

ทันใดนั้น ชายผู้นั้นก็ตกตะลึงกับท่าทีเป็นผู้นำที่แผ่ออกมาจากชายชราจนก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะได้สติกลับมาและปฏิกิริยาของเขาหลังจากนั้นก็คือความโกรธ

เกือบสิบปีแล้ว แต่ครั้งใดที่เขาโกรธขึ้นมาตนก็ยังหวาดกลัว

บัดซบ!

วันนี้เขาจะต้องสั่งสอนเฒ่าชราผู้นี้ให้ดี และต้องทรมานจนกว่าตนเองจะโล่งใจขึ้น

ดังนั้น เขาจึงรีบเดินไปที่ด้านของชั้นวางอุปกรณ์ทรมานนักโทษ และหยิบเครื่องมือทรมานขึ้นมา ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปหาชายชราผมขาวทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่า…ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสการอยู่ไม่สู้ตายอีกครั้ง”

แต่ผู้ใดจะทราบ…

ในทันใดที่คำพูดของร่วงหล่น ชายชราผมขาวก็กระชากมือของตนขึ้นมา ทำให้โซ่ที่ละลายจนเกือบหมดแล้วถูกแตกออก ดวงตาอันเกลียดชังของเขามองไปที่ชายคนนั้นอย่างดุเดือด มือของเขากำหมัดแน่น

“เจ้า เจ้า เจ้า·····”

ชายผู้นั้นตกใจจนล้มลงไปนั่งเป็นอัมพาตอยู่บนพื้นชั่วครู่ ดวงตามองไปที่ชายชราผมขาวด้วยสีหน้าไม่เชื่อ ม่านตาขยายด้วยความหวาดกลัว

“หึ! ถึงเวลาชดใช้เลือดด้วยเลือดแล้ว”

นับตั้งแต่ตนถูกจับกุมมา ผู้รับใช้ของเขาล้วนถูกคนพวกนี้ค่อยๆสังหารไปทีละคนๆ ซ้ำยังเป็นการถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมทุกคนล้วนตายอย่างน่าสังเวช ถ้าไม่ใช่เพราะใช้ชีวิตเข้าแลก เขาจะมีชีวิตอยู่รอดได้อย่างไร?

“ร่างกายของเข้าพังทลายมาตั้งนานแล้ว แม้กระทั่งเดินถนนยังไม่มั่นคงเสียด้วยซ้ำ เจ้านึกว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้งั้นหรือ?”

ชายผู้นั้นหวาดกลัวถึงขีดสุด จึงได้แต่เอ่ยปลอบตัวเองขึ้นมา เขาต้องการอาศัยช่วงที่ชายชราประมาท ค่อยรับหนีออกไป จากนั้นจึงค่อยเข้าไปในวัดเพื่อขอกำลังความช่วยเหลือจากทหาร

น่าเสียดาย······

“ขอโทษด้วย หนทางหลังจากนี้ของเจ้าจบลงแล้ว!”

เสียงดังไพเราะและชัดเจนดังขึ้นจากด้านหลัง จากนั้นจึงกลายเป็นเสียง “กริ๊ก”ที่ดังขึ้น ประตูคุกถูกล็อกแล้วเรียบร้อย

ชายผู้นั้นหันกลับมาด้วยความกลัว และเห็นเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 15 หรือ 16 ปี กำลังเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูห้องขัง และกำลังมองดูเขาราวกับเห็นศพร่างหนึ่ง

ในใจหวาดกลัวอย่างยิ่ง!

มีคนเพิ่มขึ้นมาอีกคนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ซ้ำเขายังถึงกับไม่รู้สึกได้เลยแม้แต่น้อย ช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง

“ต้องการความช่วยเหลือไหม?”

เมื่อมองไปที่ท่าทางโกรธแค้นของชายชราผมขาว หลานเยาเยาก็รู้ทันทีว่าเขาต้องการที่จะแก้แค้นคนที่อยู่ด้านหน้านี้ให้ตกตายเป็นร้อยครั้งด้วยมือของตนเอง

“ข้าคนเดียวก็พอ!”

“โอเค ลงมือเถอะ!” หากไม่ไหวจริงๆ เธอค่อยลงมือก็พอแล้ว

แต่ใครจะทราบ …

“อย่า อย่าฆ่าข้า ใต้เท้าข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดท่านให้โอกาสกับข้าอีกครั้ง ข้าจะกลับตัวเป็นคนใหม่ อ๊า….”

ชายผู้นั้นหวาดกลัวจนถอยหลังกลับ เขารู้ดีในใจ ว่าต่อให้วรยุทธ์ของชายชราผมขาวผู้นี้จะถูกทิ้งร้างไม่ได้ใช้มาเนิ่นนาน แต่การฆ่าเขานั้นเป็นเรื่องง่ายดายอย่างยิ่ง แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ทันได้พูดจบ คอของเขาก็ถูกตัดลงเสียก่อน

“จุ๊ๆ ท่านช่างมีเมตตา!”

หลานเยาเยาไม่ค่อยเข้าใจอยู่บ้าง สำหรับเศษสวะที่ใช้วิธีลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ การตายแบบนี้ถือว่าเมตตามากเกินไปจริงๆ

“ข้าไม่ชอบฟังเสียงสะอึกสะอื้น”

ความจริงแล้วเป็นเพราะเขาไม่ได้เดินมานานเป็นเวลาหลายปี รวมทั้งมือทั้งสองของเขาถูกพันธนาการด้วยโซ่เหล็กมาตลอด ทำให้ตนเองไม่สามารถควบคุมพลังได้ในคราเดียว….

ดังนั้น คนผู้นั้นเลยตาย!

“เอาเถอะ! พวกเราไปกันเถอะ”

สีหน้าของหลานเยาเยาเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แต่ในใจกลับแตกตื่น

เธอรู้เพียงว่าชายชราผมขาวผู้นี้ไม่ธรรมดา ซ้ำยังต้องเป็นศัตรูของหลานเฉินมู๋อย่างแน่นอน แต่กลับนึกไม่ถึงว่าวรยุทธ์ของเขาจะสูงส่งล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาได้เพียงนี้

นั่นเป็นเพราะตอนที่เธอจับชีพจรของเขา ร่างกายของเขานั้นแทบจะพังลงมาอยู่แล้ว ซ้ำยังอ่อนแรงอย่างยิ่ง ถึงแม้จะมีกำลังภายใน แต่เมื่อดูสภาพของเขาในปัจจุบันแล้วเดิมไม่น่าจะใช้กำลังภายในออกมาได้

เพราะเห็นดังนั้นนางถึงได้เอ่ยปากถามว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่!

ไม่คาดคิดเลยว่าพลังยุทธ์ของคนผู้นี้ พริบตาเดียวก็ฆ่าคนไปแล้ว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท