บทที่ 1037 เลือดและความวุ่นวาย จักรพรรดินีถือหอกตรงเข้าไป!
เลือดและความวุ่นวายเกิดขึ้นในอาณาจักรแห่งหนึ่ง กองกระดูกสุมสูงเป็นภูเขา เลือดเนื้อหลั่งรินประหนึ่งธารน้ำนองไปทั่วทุกหนแห่งในอาณาจักรทั้งแปด
มีเด็กนั่งร้องไห้อยู่ท่ามกลางกองซากปรักหักพัง บ้านของเขาถูกทำลายสิ้น คนในตระกูลนอนจมกองเลือด ในดวงตาของเขาไร้ซึ่งประกายใด เหลือเพียงความสิ้นหวังอันไร้ที่สิ้นสุด
“เหตุใดกัน?”
เขาสะอื้นออกมา ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย
นั่นเป็นสตรีสวยสดประหนึ่งเซียนสวรรค์ ราวกับก้าวออกมาจากภาพวาด บนใบหน้ามีรอยยิ้มงดงามเสียยิ่งกว่าบุปผาแย้มบาน
ทว่านางนั้นโหดร้ายเสียยิ่งกว่าอสรพิษ ยามมาถึงตระกูลของเขา นางไม่เอ่ยวาจาใดสักคำ กระบี่เรืองรองในมือวาดสังหารคนในตระกูลทั้งหมดจนสิ้น
ตอนนี้สตรีผู้นั้นก็ยังคงไม่จากไป ก้าวย่ำลงบนกองโลหิตพร้อมเอ่ยรำพึงเสียงเบากับตนเอง “สมกับเป็นดินแดนที่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่สร้างขึ้นมา สมจริงยิ่งนัก หากไม่รู้ตั้งแต่แรก ผู้ใดจะคิดว่านี่เป็นเพียงโลกมายา?”
นางหันกลับไปมองแล้วยิ้มเล็กน้อย เผยให้เห็นฟันสีขาวแวววับ
“เจ้าเองก็ควรตามไปด้วย อยู่ต่อไปมีแต่เจ็บปวด”
นางวาดกระบี่ยาวในมือ ตัดศีรษะเด็กผู้นั้นแล้วหันหลังจากไป
อันใดคือความรู้สึกผิด? นางไม่มีเลย
ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตมายา
นามของนางคือเจิ้งเยี่ยน มาจากดินแดนใหม่ เป็นศิษย์ของนิกายฝู่ถู่
“ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมยิ่ง การฝึกฝนควรใช้เลือดและไฟ ไม่เช่นนั้นจะมีจุดบกพร่องแอบแฝงอยู่มากมาย”
นางย้อมอาณาจักรแล้วอาณาจักรเล่าด้วยโลหิต การต่อสู้นองเลือดอย่างต่อเนื่องทำให้นางพบปัญหามากมายที่ไม่เคยสังเกตมาก่อน
“อาณาจักรต่อไป…”
นางก้าวออกไปข้างหน้า ออกจากอาณาจักรนี้ทันทีมุ่งสู่อาณาจักรต่อไป
เพียงไม่ช้านางก็มาถึงอาณาจักรต่อไปด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า
“อาณาจักรแห่งนี้ดีกว่าก่อนหน้าอยู่บ้าง สมควรช่วยขัดเกลาข้าได้มากขึ้น”
นางยกกระบี่ขึ้นมาอีกครั้ง สะกดขอบเขตตนเองลงเหมือนกับอาณาจักรก่อนหน้า จากนั้นค่อยเริ่มการสังหาร
“นี่คือสาเหตุที่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ส่งพวกข้ามาเพื่อลับคมอย่างนั้นหรือ? ที่แห่งนี้ พวกข้าสามารถลงมือทุกอย่างได้ตามต้องการโดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใดทั้งสิ้น…”
นางรำพึงกับตนเอง “อนาคตดินแดนโลกเก่าแห่งนี้อาจเปิดให้สิ่งมีชีวิตโลกใหม่เข้ามา ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตโลกใหม่ทั้งหมดใช้เลือดและไฟมาลับคมตนเอง!”
นางรู้สึกว่านี่เป็นเหตุผลแท้จริงที่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่สร้างโลกเก่าขึ้นมาให้สมจริงอย่างยิ่ง เพื่อให้พวกเขาได้ลับคม ใช้เลือดเนื้อก่อรากฐานอันมั่นคง ทำให้ขอบเขตมีเสถียรภาพ
“น่าเสียดาย ยังไม่พบสิ่งมีชีวิตมายาที่แข็งแกร่งมากแต่อย่างใด หรือว่า…สิ่งมีชีวิตมายาที่แข็งแกร่งเหล่านั้นเร้นกายอยู่ในส่วนลึก”
นางถอนหายใจ รู้สึกเสียดายอยู่บ้าง หลังจากกวาดล้างอาณาจักรหนึ่งเสร็จสิ้นแล้ว นางก็ยังไม่พบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง สิ่งมีชีวิตขอบเขตล้ำขีดมีน้อยเป็นอย่างยิ่ง นางยังไม่พบเจอเลย พบเพียงแค่ร่างแปลงของสิ่งมีชีวิตขอบเขตล้ำขีดเท่านั้น
นั่นเป็นเพียงร่างแปลงบริสุทธิ์ที่มาเพื่อเผยแพร่เต๋า ไม่มีพลังอันใด อีกทั้งยังเป็นเพียงเปลือกกลวงเปล่า
“ไม่เป็นไร ด้านหน้ายังมีอาณาจักรที่ยังไม่ได้กวาดล้างอีกมากมาย รอจัดการอาณาจักรเหล่านั้นเสร็จค่อยไปหาสิ่งมีชีวิตมายาที่แข็งแกร่งเหล่านั้นก็ยังไม่สาย”
นางถอนหายใจ ก่อนจะมุ่งหน้าฝึกฝนและลับคมยังอาณาจักรต่อไป
…
อู่เลี่ยกับสิ่งมีชีวิตจากโลกใหม่ทั้งเจ็ดเองก็มาถึงแล้วเช่นเดียวกัน
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรก่อนหน้านี้ล้วนถูกพวกเขากวาดล้างจดหมดสิ้น ไม่มีกระทั่งเลือดให้หลั่งรินแล้ว
มีสตรีผู้หนึ่งในขอบเขตลอยชายกำลังร้องไห้ ไม่ง่ายเลยที่นางจะตั้งครรภ์ขึ้นมาได้ ท้องยังเพิ่งเริ่มป่องออกมา
“ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด! หากต้องการฆ่าข้า เช่นนั้นให้ข้านำเด็กออกมาก่อนได้หรือไม่?”
นางคุกเข่าอ้อนวอนด้านข้างร่างคู่บำเพ็ญเพียรที่สิ้นลมไปแล้ว
“ข้ากดขอบเขตตนเองลงให้เทียบเท่าขอบเขตเจ้าแล้ว ยกกระบี่ในมือเจ้าขึ้นมา สู้เพื่อเด็กในท้องเจ้าเสีย หากเจ้าสามารถชนะได้ข้าจะปล่อยเจ้าไป”
เด็กหนุ่มผู้สง่างามแย้มยิ้ม ท้องแล้วอย่างไร? เช่นนี้ยิ่งดี จะได้สู้สุดใจยิ่งขึ้น ระเบิดศักยภาพตนเองออกมา
หญิงสาวยกกระบี่ขึ้น พลังทั้งหมดที่ระเบิดออกมาเหนือล้ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สร้างแรงกดดันไม่น้อยให้กับเด็กหนุ่มผู้สง่างาม จนกระทั่งเขาเองยังอดตกตะลึงไม่ได้
นี่คือพลังอันยิ่งใหญ่ของผู้เป็นมารดาหรือ?
ดูท่า หลังจากนี้เขาต้องตามหามารดาเช่นนี้มาต่อสู้ให้มากเข้า
สุดท้ายหญิงสาวก็ยังคงพ่ายแพ้ถูกเด็กหนุ่มผู้สง่างามตัดศีรษะลง
เด็กหนุ่มผู้สง่างามคนนี้มีนามว่า — วังหง มาจากโลกใหม่ นิกายฝู่ถู่เช่นเดียวกัน
อันที่จริงทั้งแปดต่างมีภูมิหลังเหมือนกัน ล้วนเป็นศิษย์นิกายฝู่ถู่
…
บนจักรวาลดวงดาราอันกว้างใหญ่ มีสตรีงามผู้หนึ่งสะพายหอกไว้ด้านหนัง ท่าทางห้าวหาญประหนึ่งวีรชน ดวงตาคมกริบ เที่ยวท่องไปตามดวงดารา
นางงดงามอย่างถึงที่สุด เครื่องหน้าสะสวย รูปร่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างกลิ่นอายห้าวหาญที่หลั่งไหลทั่วร่างยิ่งทำให้นางงดงามไร้ที่เปรียบ
“เลือดมากมายเต็มฟ้า ผู้ใดกันที่ก่อการฆ่าล้างเช่นนี้?!”
ด้านหน้ามีแสงสีเลือดไร้ขอบเขตในอาณาจักรแห่งหนึ่ง นี่จะต้องสังหารคนไปมากน้อยเพียงใดจึงจะมีแสงสีเลือดเช่นนี้ได้!
“ไป!”
สตรีผู้งดงามหยิบหอกออกมาด้วยความห้าวหาญไร้ลังเล
นางถือหอกพุ่งเข้าไปในอาณาจักรแห่งนั้นทันที
ทันทีที่เข้าไปในด้านในอาณาจักรแห่งนั้น นางก็อดรู้สึกหนังศีรษะชาวาบขึ้นมาไม่ได้ เบื้องหน้าของนางเต็มไปด้วยศพทุกหนแห่ง ทั้งภูเขาธารน้ำและพื้นดินต่างอาบย้อมไปด้วยสีแดง!
ไม่แปลกใจเลยที่แสงสีโลหิตจะเปล่งออกมาจากอาณาจักรแห่งนี้ และออกไปยังจักรวาลดวงดาราได้!
นางโกรธเสียจนตัวสั่นสะท้าน ต้องไร้ความเป็นมนุษยธรรมมากเพียงใดถึงกระทำเช่นนี้ลงไปได้?
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนมีชีวิต แต่กลับสังหารกองรวมกันเป็นภูเขา ไม่เห็นชีวิตอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย!
“พลังมืดมิดถูกกวาดล้าง ‘สำนึก’ โรคทั้งหมดสูญสลาย เช่นนั้นผู้อำมหิตเพียงนี้มาจากที่ใดกัน?!”
นางคิดว่าวันข้างหน้าจะเป็นยุคสมัยแห่งความสงบ สิ่งมีชีวิตทุกอาณาจักรสามารถพัฒนาอย่างรุ่งโรจน์ ทว่าผู้ใดจะล่วงรู้ เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงไม่นานนางกลับได้เห็นฉากการฆ่าล้างเช่นนี้!
ตู้ม!
ในตอนนั้นเอง มีลำแสงอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าใส่ ยังดีที่นางตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว หลบเลี่ยงการโจมตีนั้นได้!
ด้านหลังของนาง ยอดเขาที่โดนลำแสงกระทบถูกตัดจนแบนราบทันที
“น่าสนใจ ข้ารู้สึกว่าเจ้าเหมือนจะแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตมายาทั่วไป”
สุ้มเสียงดังขึ้น ร่างเด็กหนุ่มไร้ผมปรากฏด้านข้างจักรพรรดินีด้วยรอยยิ้ม
ใช่แล้ว หญิงงามถือหอกผู้นี้คือจักรพรรดินีที่ออกมาลับคมฝึกฝนตนเอง!
นางต้องการจะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อช่วยเหลือการต่อสู้ของคุณชายในอนาคต ดังนั้นนางจึงฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง พัฒนาตนเองขึ้นไปในทุกด้าน
แน่นอน วิธีการเช่นนี้ได้ผลเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ขอบเขตของนางไม่ได้สูงส่งอันใด แต่ตอนนี้นางมาถึงขอบเขตล้ำขีดแล้ว!
ทว่าการที่นางเคยอยู่ข้างกายคุณชายมาก่อนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งยังสำคัญมาก
เมื่อตอนที่นางได้อยู่ข้างคุณชาย นางได้รับผลประโยชน์อันไม่อาจจินตนาการได้ หลังจากนั้นภายใต้สถานการณ์ที่นางโหมฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง ผลประโยชน์เหล่านี้จึงค่อย ๆ เผยออกมา ส่งนางขึ้นไปถึงขอบเขตล้ำขีด
ก่อนหน้านี้ นางยังได้จัดการ ‘สำนึกโรค’ ไปจำนวนไม่น้อย
“เจ้าเป็นใคร!”
จักรพรรดินีมองไปทางเด็กหนุ่มหัวโล้น ตะโกนออกมาเสียงดังถามที่มาของเด็กหนุ่มหัวโล้น
สิ่งมีชีวิตมายา?
เด็กหนุ่มหัวโล้นผู้นี้มาจากดินแดนที่แท้จริงหรือ?
ระหว่างการต่อสู้กับ ‘สำนึกโรค’ เหล่านั้น นางยังได้เรียนรู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับมายาและความจริง ล่วงรู้ว่าสาเหตุที่ ‘สำนึกโรค’ จำนวนมากมายเพียงนี้ปรากฏออกมาก็เนื่องจากผู้เบิกทางไม่อาจแยกแยะจริงเท็จ!
ผู้เบิกทางคิดว่าพวกเขาล้วนเป็นภาพมายา ไม่มีอยู่จริง โลกแห่งความจริงนั้นตั้งอยู่ที่อื่น
ยามนี้เด็กหนุ่มหัวโล้นเรียกนางว่าสิ่งมีชีวิตมายา ทำให้นางรู้สึกได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มหัวโล้นอาจมาจากสถานที่ที่เรียกว่าดินแดนที่แท้จริง
“ดูแล้วเจ้าไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตมายาธรรมดา ข้าจะบอกชื่อตนเองให้กับเจ้า”
เด็กหนุ่มหัวโล้นแสยะยิ้ม “สิ่งมีชีวิตมายาทั่วไปไม่มีคุณสมบัติพอจะรู้ชื่อของข้า”
“ข้าชื่ออู่เลี่ย มาจากโลกใหม่ — นิกายฝู่ถู่”
เขาเอ่ยนามตนเองออกมา
“โลกใหม่? สถานที่ที่เรียกว่าดินแดนที่แท้จริง?”
จักรพรรดินีขมวดคิ้ว
“เอ๋ เจ้าพูดสิ่งใด? ข้าได้ยินผิดหรือไม่? เจ้าพูดว่าดินแดนที่แท้จริง?”
อู่เลี่ยรู้สึกคาดไม่ถึงเมื่อได้ยินคำว่า ‘ดินแดนที่แท้จริง’ จากปากของสิ่งมีชีวิตมายา
เหตุใดสิ่งมีชีวิตมายาตรงหน้าจึงตระหนักรู้ว่าตนเองเป็นภาพมายา?
นี่มันน่าสนใจจริง ๆ!