หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 41 เหตุสุดวิสัยที่อธิบายไม่ได้

บทที่ 41 เหตุสุดวิสัยที่อธิบายไม่ได้

บทที่ 41 เหตุสุดวิสัยที่อธิบายไม่ได้

มองดูสถานการณ์แล้ว หลานเยาเยาไม่สนใจว่าจะขายหน้าหรือไม่ ลุกขึ้นแล้ววิ่งเลย วิ่งตรงไปที่รถม้าของเย่แจ๋หยิ่ง ไม่ว่ายังไงครั้งนี้ก็ต้องขึ้นรถม้าให้ได้

โชคดีที่ฟ้ามีตา ก่อนที่ล้อรถยังไม่หมุน นางปีนขึ้นไปทันที

ใช่

หลังจากที่นางปีนขึ้นไปบนรถม้าอย่างเหนื่อยหอบ ทั้งยังเข้าไปข้างในรถม้าอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดคนขับรถม้ายังไม่ทันรู้ตัว นางก็คลานถึงที่ข้างเท้าของเย่แจ๋หยิ่งแล้ว

ทันใดนั้น

หลังจากที่หลานเยาเยาเข้าไปแล้วอุณหภูมิภายในรถม้า หนาวขึ้นมาทันที และมีเหตุที่ส่อให้เห็นว่าจะยิ่งอยู่ยิ่งหนาว หลานเยาเยาหดลำคอโดยไม่รู้ตัว ตามด้วยส่งยิ้มแหะๆให้เย่แจ๋หยิ่ง

“ท่านอ๋อง ข้ามีเรื่องขอพบท่าน”

นางมาพร้อมท่าทางจริงจัง แต่กลับมีท่าคลานที่ติดตลก ราวกับหมาน้อยที่กำลังสะบัดหางร้องขอความเมตตา ทำให้เย่แจ๋หยิ่งที่กำลังโกรธจนจะระเบิดค่อยๆเย็นสงบลง

แต่เขาไม่ลังเลเลยที่จะส่งสายตานิ่งเฉยและสายตาที่ดูถูกให้กับนาง ตามด้วยคำพูดที่เย็นชา

“เจ้าอยากยึดครองจวนของข้างั้นหรือ?”

ระหว่างที่พูด ดวงตาของเย่แจ๋หยิ่งหรี่ลงเบาๆ กระตุกมุมปากยิ้มหยันบางจนไม่อาจบางได้อีก

ดีมาก

นังผู้หญิงคนนี้ คิดจะยึดครองสมบัติของเขาได้อย่างไรกัน?

“ไม่ไม่ไม่ นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด บางครั้งคนเรามักใช้คำผิดในขณะที่รีบร้อน ยึดครองอะไรกัน ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ท่านดูสิ ข้าจะได้เป็นพระชายาและอีกหน่อยข้าก็เป็นนายหญิงแล้ว จะใช้คำว่ายึดครองได้อย่างไรกัน?

เมื่อครู่ล้วนเป็นคำพูดเพราะโมโห ร้องจนคอแหบคอแห้ง ขาวิ่งจนจะหักอยู่แล้ว เวลาโกรธนะคำพูดอะไรก็พูดออกมาได้ทั้งนั้น ท่านอย่าคิดจริงจังนะ”

คำโบราณที่เขาพูดว่าดีไม่ใช่หรือ?

ของของท่านก็คือของของข้า ของของข้าก็ยังเป็นของของข้า แต่ว่าตอนนี้ต้องขจัดความสงสัยของเย่แจ๋หยิ่งก่อน นางจึงต้องพูดดีไว้ก่อน

“เฮ้อ”

ไม่รู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งจะเชื่อนางหรือเปล่า แค่เห็นเขาส่งเสียง ฮึ แล้ว ก็ไม่ได้มองมาที่นางอีก แต่ดวงตาที่ลึกล้ำกลับหลับตาลง

“ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่านจริงๆ”

คลานอยู่แบบนี้ก็ไม่ใช่วิธีที่ดีนัก ถึงแม้จะรู้สึกว่านอนน่าจะสบายตัวกว่า แต่ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของตน ลุกขึ้นนั่งดีกว่า

หลานเยาเยา พูดไปด้วยค่อยๆยืนขึ้นด้วย กำลังคิดจะไปนั่งตรงข้ามเย่แจ๋หยิ่ง ทันใดนั้นรถม้าออกตัว นางเสียหลักโน้มทับไปทั้งตัว และไปทับโดนต้นขาของเย่แจ๋หยิ่งพอดี

หัวอยู่เสมอเอวของเขาที่มีสายรัดเอวพอดี มือทั้งสองข้างจับต้นขาทั้งสองของเขาและจับไว้อย่างแน่น ขาทั้งสองคุกเข่าตรงระหว่างต้นขาทั้งสองของเขาพอดี

ท่าทางที่เก้อเขินนี้ทำให้อากาศภายในรถม้าเงียบสงบไปชั่วขนาด

จนกระทั่งสายตาที่เย็นเฉียบสุดขีดมองมาที่ร่างกายของนาง ทำราวกับว่าจะยิงทะลุผ่านร่างกายนาง

“นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการพูดหรือ?” เสียงที่ทุ้มต่ำและมีแรงดึงดูดของเย่แจ๋หยิ่งดังขึ้น

“อา? เข้าใจผิดแล้ว เข้าใจผิดแล้ว” นางยิ้มแหยๆ อยากจะอธิบายว่าเป็นเพราะคนขับรถม้า แต่เมื่อได้มองเห็น

สายตา ดูเหมือนว่าไม่ว่านางจะอธิบายยังไงเขาก็จะไม่เชื่อ จึงพูดอย่างน้อยใจว่า

“มันไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิดจริงๆนะ”

เมื่อครู่นางวิ่งตามรถม้าของเขาอยู่ตั้งนาน หลังจากที่พูดนินทาเขา แล้วยังจะปีนขึ้นรถม้าเขาอีก ยังไม่ทันได้พูดกี่คำ ก็โน้มทับมาทางระหว่างต้นขาของเขาอีก…

เมื่อนึกถึงการพรรณนาเย่แจ๋หยิ่งของพระราชธิดาจาวหยาง หัวใจของนางเย็นวูบขึ้นมาทันที

โอ้พระเจ้า

ตอนนี้นางยังพูดได้ นับเป็นเรื่องโชคดีไหม?

ฮือ ฮือ ฮือ……

เป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงๆเลยนะ

“หากไม่ได้เป็นอย่างที่ข้าคิด เจ้าจะอธิบายอย่างไรที่ตอนนี้เจ้ายังอาลัยอาวรณ์ไม่ยอมลุกขึ้นมาอีก อืม?” นางต้องการทำอะไรอีกกันแน่

นังผู้หญิงบ้า ความอดทนของเขามีขีดจำกัดนะ

เออ…

อาลัยอาวรณ์?

หลานเยาเยาอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา นางอาลัยอาวรณ์ตรงไหนกันล่ะ?

“นางแค่อยากอธิบาย แต่พูดออกมาไม่ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เย่แจ๋หยิ่งเข้าใจผิดอีก นางรีบลุกขึ้นมาทันที และนั่งตรงข้ามเขาแต่โดยดี แต่สายตากลับไม่เชื่อฟังเหลือบมองไปที่ช่วงล่างของเขา”

“ตอนนี้เจ้าเชื่อข้าได้หรือยัง” ดูเหมือนว่าใบหน้าของนางจะชนโดนเย่แจ๋หยิ่งน้อย หลานเยาเยามิอาจห้ามได้ที่จะจับใบหน้าของตนโดยพลัน…

“……”

เย่แจ๋หยิ่งมิอาจห้ามได้ที่จะนวดตรงหัวคิ้วของตน ดูเหมือนว่าปวดหัวหน่อยๆ

อาการตาเยิ้มที่นางแสดงออกมานั้น จะให้เขาเชื่อได้อย่างไร?

ไม่รู้จริงๆว่าเขาคิดตอบตกลงให้นังผู้หญิงลามกโลภมากคนนี้มาเป็นพระชายาของเขาได้อย่างไรกัน

คิดมาถึงตรงนี้ เขามิอาจห้ามได้ที่จะหลับตาแกล้งหลับ ไม่อยากมองหน้าหลานเยาเยาอีกครั้ง ยิ่งไม่อยากได้ยินนางพูดอีกแม้แต่คำเดียว

หลานเยาเยาจนปัญญาเสียจริง

นางไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ

ตอนนี้เย่แจ๋หยิ่งแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากสนใจนาง มันทำให้นางยิ่งร้อนใจ

ทีนี้จะทำอย่างไรดี

หลานเยาเยาใช้ปลายนิ้วมือลูบต้นขาไปมาหลายครั้ง ในหัวก็คิดหาวิธีอย่างรวดเร็ว ผ่านไปครู่ใหญ่ สายตานางฉายแววประกายขึ้นมาอีกครั้ง

แหะๆ

เพียงแค่นางพูดปฏิเสธว่าไม่แต่งงานกับเขาแล้ว ให้เขาเอาของหมั้นกลับคืนไป ก็สามารถพิสูจน์เรื่องทั้งหมดได้แล้วใช่ไหมล่ะ?

ยิ่งไปกว่านั้น

ถึงแม้ชื่อเสียงและเงินทองเป็นสิ่งที่เย้ายวนใจคน แต่นางก็ไม่อาจทำเพื่อเห็นแก่ของเหล่านี้แล้วตบแต่งกับตระกูลผู้ดีว่าไหม? นางเป็นคนที่มีหลักเกณฑ์ของตัวเองนะ

หลานเยาเยารู้สึกว่าความคิดนี้ใช้ได้

หลังจากนางพยักหน้าให้กับตนเอง และเปิดปากพูด “อ๋องเย่ พูดตามความจริงนะ ข้า……”

พอดีกับตอนนี้

ล้อรถม้าข้างหนึ่งเหยียบโดนก้อนหินบนพื้นหนึ่งก้อน รถม้าโยกเอียงทันที

หลานเยาเยาโน้มตัวไปที่เย่แจ๋หยิ่งอีกครั้ง…

ครั้งนี้ไม่เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งทั้งตัวโน้มทับไปที่ร่างกายของเขา มากไปกว่านั้นคือ ปลายจมูกของทั้งสองชนเข้าหากันเบาๆจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ ริมฝีปากแดงของนางกับริมฝีปากบางของเขาห่างกันแค่เพียงหนึ่งนิ้ว

ดวงตาสองคู่ ที่ประสานกัน ทำให้ทั้งสองตกตะลึงมาก

พวกเขาเกือบจูบกันแล้ว บรรยากาศที่คลุมเครือ

โอบล้อมพวกเขาไว้ ทำให้พวกเขาต่างได้ยินเสียงหัวใจเต้นของกันและกัน

มองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรจุติมาเกิดอยู่ใกล้แค่เอื้อม เสียงหัวใจเต้นของหลานเยาเยา “ตึก ตึก ตึก ตึก ” เต้นอย่างรวดเร็ว……

หลังจากที่นางดึงสติกลับมา ก็รีบเด้งตัวออกไปทันที และกลืนสิ่งที่จะพูดก่อนหน้าลงคอไปเสียหมด

“แล้วอันนี้จะอธิบายอย่างไร?” เข้าทำเสียงไฮ้ พร้อมซักถาม

“อธิบาย?”

จะให้อธิบายบ้าบออะไรอีก

ตอนนี้ต่อให้กระโดดลงแม่น้ำหวงเฮอก็ล้างความผิดไม่หมดแล้ว

ดังนั้น จึงจำต้องพูดอย่างหมดอาลัยตายอยาก “ไม่อธิบายแล้ว เป็นอย่างที่ท่านคิดแหละ”

นางกลัวมากหากนางยิ่งอยากอธิบายอีก จะเกิดเหตุสุดวิสัยอะไรอีก พวกเขาจะต้องได้จูบกันจริงๆแน่

“ฮึ้ม” รู้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้

เย่แจ๋หยิ่งจัดแจงเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงหน่อยๆชั่วครู่ และย้ายสายตาไปทางอื่น

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน รถม้าหยุดกะทันหัน แรงอาฆาตที่แอบซ่อนอยู่ล้อมรอบมาจากทุกทิศทุกทาง ดวงตาของหลานเยาเยาหรี่ตาลงนิดๆ

รีบมองไปทางเย่แจ๋หยิ่งที่ไม่รู้ว่าหลับตาลงอีกครั้งเมื่อไหร่ สังเกตเห็นลมหายใจของเขานิ่งสงบ ราวกับว่าหลับไปแล้ว แต่ทว่าปลายนิ้วที่เรียวยาวของเขากลับกระดิกอย่างมีจังหวะ ไร้ความกังวลใดๆ

“เจ้านาย เป็นพวกนักฆ่าจากยิงจวน” คนขับรถม้าจับบังเหียนแน่น พูดพร้อมขมวดคิ้ว

“ฆ่ามัน”

คำพูดเย็นยะเยือกหนึ่งคำ ออกจากริมฝีปากบางเฉียบของเย่แจ๋หยิ่ง น้ำเสียงเงียบสงบที่สุด ราวกับว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไป…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท