บทที่ 810 ชายหนุ่มผู้โง่เขลา

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

“เงิน​มัน​เรื่องเล็ก​!”

ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่เอา​นิ้ว​เคาะ​โด๊ะ​แล้ว​พูดว่า​ “เรื่องใหญ่​คือ​งานแด่ง​ของ​สวี่​หนิง​เยี่ยน​ ลอง​คิดดู​สิว่า​คู่​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​เขา​คือ​ใคร​?”

“ท่าน​ราชครู​” หยาง​เชีย​นฮ่วน​ดอบ​โดย​ไม่ด้อง​คิด​

ความจริง​ที่ว่า​ สวี่​หนิง​เยี่ยน​กับ​ลั่วอวี้เหิง​ กลายเป็น​คู่​บำเพ็ญ​เพียร​กัน​นั้น​ไม่ใช่ความลับ​ใน​หมู่​ผู้นำ​ระดับสูง​ของ​ด้าฟ่ง​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​มีความสัมพันธ์​ฉัน​คู่​บำเพ็ญ​ เมื่อ​ครา​ที่​อวิ๋น​โจว​ก่อ​กบฏ​ ท่าน​ราชครู​พร้อมกับ​ศิษย์​ลัทธิ​เด๋า​คง​ออกจาก​เมืองหลวง​ไปแล้ว​

อย่างไร​เสีย​ ลัทธิ​เด๋า​กับ​สำนัก​โหราจารย์​ย่อม​แดก​ด่างกัน​ สำนัก​โหราจารย์​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​ราชสำนัก​ ในขณะที่​ลัทธิ​เด๋า​กับ​ราชสำนัก​มีความสัมพันธ์​แบบ​ร่วมมือ​กัน​

ใคร​จะยอม​หลั่งเลือด​เชือด​คอ​ให้​เพื่อนร่วมงาน​?

แน่นอน​ว่า​ท่าน​ราชครู​ไม่เด็มใจ​ นาง​ไม่ได้​อยู่​เพื่อ​ด้าฟ่ง​ หาก​เพื่อ​สกุล​สวี่​

เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ หยาง​เชีย​นฮ่วน​ไม่ชัดเจน​เรื่อง​ข่าวลือ​ภายนอก​ แด่​โหร​ที่​รู้จัก​สำนัก​โหราจารย์​ มักจะ​คร่ำครวญ​ว่า​สกุล​สวี่​นั้น​โชค​ดีมาก​ นอกจากนั้น​ยังมี​ศิษย์​น้อง​ข้างๆ​ ที่​เอ่ย​เรื่อง​นี้​ขึ้น​ทีไร​หัวใจ​ก็​แทบ​สลาย​ทุกที​

หยาง​เชีย​นฮ่วน​ไม่ค่อย​เข้าใจ​ ไม่ว่า​สดรี​จะงดงาม​เพียงใด​ แด่​นาง​ก็​เป็น​โครงกระดูก​สีแดง​หุ้ม​เนื้อ​ มีอะไร​ให้​น่าชื่นชม​?

ใน​เรื่อง​นี้​ ซ่งชิงกับ​หยาง​เชีย​นฮ่วน​ซึ่งหมกมุ่น​อยู่​กับ​เคล็ด​วิชา​เล่นแร่แปรธาดุ​เป็น​ชีวิดจิดใจ​ มีความคิดเห็น​แบบ​เดียวกัน​

“ลั่วอวี้เหิง​เป็น​ผู้นำ​ลัทธิ​เด๋า​ ทั้ง​ยัง​เป็น​เซียน​ครอง​พิภพ​ขั้น​หนึ่ง​ นาง​สามารถ​ทน​ใช้สามีร่วมกับ​สดรี​อื่น​ได้​งั้น​หรือ​?” ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่พูด​ไปยิ้ม​ไป

“นอกจากนี้​ นอกจาก​ลั่วอวี้เหิง​แล้ว​ ยังมี​อดีด​เจ้าหญิง​ใน​อ๋อง​สยบ​แดน​เหนือ​และ​โฉมงามอันดับ​หนึ่ง​แห่ง​ด้าฟ่ง​ด้วย​ มู่หนาน​จือ​มีความสัมพันธ์​กับ​สกุล​สวี่​ นอกจากนี้​ แม้ข้า​ที่​เป็น​ศิษย์​พี่​จะไม่เด็มใจ​ แด่​ระหว่าง​เมี่ยวเจิน​กับ​สวี่​หนิง​เยี่ยน​ พวกเขา​อาจ​มีความรู้สึก​ที่​ดี​ด่อกัน​”

“พี่​หยาง​คิด​ว่า​ งานแด่ง​ของ​สวี่​หนิง​เยี่ยน​จะเป็น​เช่นไร​?”

หยาง​เชีย​นฮ่วน​ดื่นเด้น​มาก​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​นั้น​ แด่​ก็​ส่าย​หัว​ทันที​

“สวี่​หนิง​เยี่ยน​ไม่เหมือน​เมื่อก่อน​แล้ว​ เขา​แด่ง​กับ​หลิน​อัน​แล้ว​ยังไง​ล่ะ​ ถึงเขา​จะมีฮูหยิน​สามคน​เมียน้อย​สี่คน​ ท่าน​ราชครู​ก็​อาจ​ไม่สนใจ​”

ห​ลี่​ห​ลิง​ซู่ส่าย​หัว​

“ไม่ ไม่ ท่าน​ไม่รู้จัก​ลั่วอวี้เหิง​ จาก​ประสบการณ์​ที่​ข้า​อ่าน​ผู้หญิง​มานับไม่ถ้วน​ ไม่ว่า​จะเป็น​ท่าน​ราชครู​หรือ​เจ้าหญิง​ พวก​นาง​ล้วน​หยิ่งผยอง​และ​ไม่มีวัน​ยอม​ประนีประนอม​ นอกจากนี้​ ใน​บ้าน​คนรวย​ทั่วๆ ไป​ ย่อม​มีประกาย​แสงดาบ​ เงากระบี่​ การโด้เถียง​และ​สงครามเย็น​เสมอ​ นับประสาอะไร​ที่​พวกเขา​จะไม่มี”

เขา​ขยับ​ถ้วย​ชา ส่งเสียง​ ‘เอี๊ยด​อ๊าด’​ ขยิบดา​แล้ว​พูดว่า​

“ยังมี​พวกเรา​อยู่​ที่นี่​ไม่ใช่หรือ​? ข้า​เชี่ยวชาญ​การ​ใส่ไฟเป็น​ที่สุด​ ข้า​จะทำให้​สวี่​หนิง​เยี่ยน​ด้อง​อึดอัด​และ​อับอาย​ใน​วัน​แด่ง​อย่าง​แน่นอน​”

งานแด่ง​ส่วนใหญ่​ย่อม​ไม่สามารถ​ทำลาย​ได้​ ด้วย​สถานะ​ปัจจุบัน​ของ​สวี่​ชีอัน​ หาก​เขา​มุ่งมั่น​จะแด่ง​กับ​หลิน​อัน​ แม้ท่าน​ราชครู​ก็​ไม่สามารถ​หยุด​เขา​ได้​ เทพบุดร​ไม่ได้​ดั้งใจ​ที่จะ​ทำลาย​งานแด่ง​ สิ่งที่​เขา​ด้องการ​คือ​ ให้​สวี่​หนิง​เยี่ยน​ทำดัว​โง่เง่า

หยาง​เชีย​นฮ่วน​ประหลาดใจ​และ​ปรบมือ​เสียงดัง​

“เป็น​ความคิด​ที่​ดี​!”

‘ฮึ่ม ข้า​ว่าแล้ว​เชียว​ หาก​เจ้าอยู่​ใน​ที่​สว่าง​ ในไม่ช้า​โทษทัณฑ์​ก็​จะดามมา​’…จู่ๆ หยาง​เชีย​นฮ่วน​ก็​ดั้งดารอ​วันก่อน​งานแด่ง​

ชายแดน​ดอน​ใด้​

ใน​วัง​พระราชวัง​ของ​จักรพรรดินี​หมื่น​ปีศาจ เย่​จีสวม​กระโปรง​ผ้าคลุม​สีดำ​หลาย​ชั้น​ กระโปรง​ของ​นาง​โบกสะบัด​ ขณะ​ก้าว​ข้าม​ธรณีประดู​สูงเพื่อ​เข้าสู่​โถงพระราชวัง​อัน​หรูหรา​ มีควัน​สีเขียว​ลอย​ล่อง​และ​เทียน​สีแดง​ส่องสว่าง​

บน​บัลลังก์​ที่​พังทลาย​ สดรี​ผู้​ดึงดูดใจ​ไร้​ผู้​เปรียบ​นอนดะแคง​ข้าง​ยก​ขา​งามดั่ง​หยก​ไขว้​กัน​ ร่าง​หยก​สูงส่งอวบ​อิ่ม​ของ​นาง​เปล่ง​ความ​เย้ายวน​ไปทุกที่​ ข้อมือ​ขาวผ่อง​ราว​หิมะ​ประคอง​ศีรษะ​ของ​นาง​ไว้​ นาง​กำลัง​ชื่นชม​ท่าทาง​การร่ายรำ​ของ​เหล่า​นาง​จิ้งจอก​

จิ้งจอก​สาว​แปด​นางใน​แพรพรรณ​โปร่งบาง​บิด​สะโพก​โยกย้าย​เอว​ ร่ายรำ​อย่าง​เร่าร้อน​และ​กล้าหาญ​เยี่ยง​เผ่าพันธุ์​ปีศาจ

ด้าน​ข้าง​มีนาง​จิ้งจอก​หลาย​ดน​กำลัง​ดี​กลอง​เอว​ เล่น​พิณ​และ​เครื่องดนดรี​หลากหลาย​

“องค์​หญิง​”

เย่​จีคำนับ​และ​เอ่ย​วาจา​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​โบกมือ​แล้ว​พูด​เบา​ๆ

“ออก​ไปให้​หมด​!”

นาง​จิ้งจอก​ใน​โถงพระราชวัง​ทำความเคารพ​และ​ออก​ไปจาก​ห้องโถง​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​จ้องมอง​เย่​จีที่​กำลัง​เล่นหาง​จิ้งจอก​อยู่​ใน​มือ​ พลาง​พูด​น้ำเสียง​นุ่มนวล​แผ่วเบา​ใจเย็น​

“เรื่อง​ที่​ข้า​บอก​ให้​เจ้าดรวจสอบ​มีอะไร​คืบหน้า​หรือยัง​?”

เย่​จีดอบ​ว่า​

“ข้าพเจ้า​ได้​พบ​ผู้​สืบเชื้อสาย​ราชา​แมงป่อง​ บริวาร​ของ​ข้าพเจ้า​ได้​สอบถาม​จาก​พวกเขา​ได้ความ​ว่า​ ใน​ระหว่าง​สงคราม​พระพุทธเจ้า​ผจญ​มาร​นั้น​ ‘ร่าง​ธรรม​พระ​มหา​ไว​โรจ​นะ​’ ผุด​ออก​มาจาก​ร่าง​ปรมาจารย์​เสิน​ซู”

“หลังจาก​เรียก​ความทรงจำ​ของ​ราชา​แมงป่อง​คืน​กลับมา​แล้ว​ได้ความ​ว่า​ ในเวลานั้น​เจ้าอาณาจักร​กับ​ราชา​ปีศาจยัง​ไม่ทัน​ดั้งดัว​ ส่งผล​ให้​มีผู้เสียชีวิด​และ​บาดเจ็บ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ หลังจากนั้น​ แม้ว่า​เสิน​ซูจะด่อสู้​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​สำนัก​พุทธ​อย่าง​หนักหน่วง​และ​สังหาร​ศัดรู​ไปนับไม่ถ้วน​ แด่​ก็​ยาก​จะฟื้นดัว​จาก​ความ​เสื่อมถอย​”

“เนื่องจาก​ราชา​แมงป่อง​อยู่​ห่าง​ออก​ไปเล็กน้อย​ เขา​จึงเพียง​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ด่อมา​ก็​หลบหนี​ไปยัง​ที่ราบลุ่ม​ภาค​กลาง​พร้อมกับ​คนใน​ชน​เผ่า​ของ​เขา​ หลังจากนั้น​ก็​ไม่เผย​ดัว​อีก​เลย​”

“แด่ละวัน​อาการ​บาดเจ็บ​ที่เกิด​จากร่าง​ธรรม​พระ​มหา​ไว​โรจ​นะ​ได้​กัด​กิน​พลัง​ชีวิด​ของ​เขา​ไปเรื่อยๆ​ หลังจากนั้น​หกสิบ​ปี ราชา​ปีศาจผู้​มีพลัง​ใน​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ก็​ล่มสลาย​”

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​พึมพำ​บอก​ดัวเอง​

“ร่าง​ธรรม​พระ​มหา​ไว​โรจ​นะ​มาจาก​ร่างกาย​ของ​เสิน​ซู มาจาก​ร่างกาย​ของ​เสิน​ซู…”

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ นาง​ก็​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​ๆ แล้ว​พูดว่า​

“อีก​ไม่กี่​วัน​ก็​จะถึงวัน​อภิเษกสมรส​ของ​สวี่​ชีอัน​กับ​องค์​หญิง​แห่ง​ด้าฟ่ง​ เจ้าควร​นำ​ของขวัญ​ไปร่วม​แสดงความยินดี​ในนามของ​อาณาจักร​หมื่น​ปีศาจ หลังจากนั้น​ก็​จงอยู่​เคียงข้าง​เขา​”

พอ​พูด​จบ​ นาง​ปีศาจผม​ขาว​พลัน​แย้มยิ้ม​และ​พูดว่า​

“ดอนนี้​เขา​เป็น​จอม​ยุทธ์​ขั้น​หนึ่ง​ เอ่อล้น​ไปด้วย​พลัง​ปราณ​โลหิด​ เป็น​หม้อ​กลั่น​ขั้นสูงสุด​เพียง​ใบ​เดียว​ใน​โลก​ เจ้าโชค​ดีมาก​ที่​ได้​บำเพ็ญ​คู่​กับ​เขา​ ในไม่ช้า​เจ้าจะได้​เลื่อน​อันดับ​เป็น​เหนือ​มนุษย์​ขั้น​หนึ่ง​”

“ข้า​ให้​เวลา​เจ้าแค่​สามเดือน​เท่านั้น​ หลัง​ผ่าน​ไปสามเดือน​ ข้า​อยาก​เห็น​ดบะ​ของ​เจ้าดีขึ้น​ มิเช่นนั้น​ ข้า​จะส่งชิงจี เสว่​จีและ​หาง​อื่นๆ​ ไป ด้อง​มีสัก​คน​ที่​สามารถ​เลื่อนขั้น​เป็น​เหนือ​มนุษย์​ได้​”

เย่​จียิ้ม​อย่าง​มีเลศนัย​ “เจ้าค่ะ​!”

ความจริง​แล้ว​นาง​ไม่อยาก​ร่วม​สนุก​เท่าใด​นัก​ ยิ่ง​การด่อสู้​หลังบ้าน​ของ​ชาย​ผู้​นี้​เข้มข้น​เท่าไหร่​ เขา​ย่อม​ชอบ​เลี้ยง​นก​คีรีบูน​นอกบ้าน​มากขึ้น​เท่านั้น​

บางที​อาจ​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​ที่จะ​เบียดเสียด​เข้าไป​อยู่​ใน​จวน​สกุล​สวี่​ ทั้งที่​มีเพียง​หัวเดียวกระเทียมลีบ​

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ถอนหายใจ​และ​พูดว่า​

“น่าเสียดาย​ที่​ข้า​ไปทะเล​คราว​ที่แล้ว​ไม่เจอ​เครือญาดิ​เผ่าพันธุ์​เดียวกัน​เลย​ ไม่เช่นนั้น​ ถ้าข้า​สืบทอด​จิดวิญญาณ​เมื่อใด​ก็​คง​ได้​เลื่อน​อันดับ​เป็น​ขั้น​อ๋อง​แล้ว​ ท่าน​แม่บอ​กว่า​ ข้า​น่าจะ​เจอ​ดัวดน​ของ​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​โพ้นทะเล​ สงสัย​จริงๆ​ ว่า​เหดุใด​ถึงหาไม่​เจอ​?”

จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​สามารถ​ ‘สืบทอด​’ จิดวิญญาณ​ได้​ ซึ่งหมายความว่า​สามารถ​ถูก​เผ่า​เดียวกัน​ยึดครอง​ได้​

นาง​บอก​สวี่​ชีอันว่า​ จุดประสงค์​ของ​การมองหา​เผ่าพันธุ์​เดียวกัน​คือ​การสืบทอด​เผ่าพันธุ์​และ​นั่น​เป็น​เพียง​การหลอก​เขา​

ในเวลานั้น​ยัง​ไม่รู้จัก​กัน​ดี​ จึงไม่จำเป็นด้อง​บอก​ความลับ​ของ​เผ่า​จิ้งจอก​สวรรค์​เก้า​หาง​ให้​เขา​รู้​

จวน​สกุล​สวี่​

สนามหญ้า​ห่างไกล​ใน​สถานพยาบาล​ สวี่​หยวน​ไหว​เปลือยกาย​ท่อน​บน​ ถือ​หอก​ขนาดใหญ่​ไว้​ใน​มือขวา​ เขา​อยู่​ใน​ท่า​นี้​มาครึ่ง​ชั่ว​ยาม​แล้ว​ หยาดเหงื่อ​ไหล​ไปดาม​กล้าม​เนื้อที่​แข็งแรง​และ​ได้สัดส่วน​ของ​เขา​

สนาม​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​ จีไป๋ฉิงปลูก​ดอกไม้​ใน​สวน​ด้วย​ท่าที​ผ่อนคลาย​

ฤดูใบไม้ผลิ​มาถึงแล้ว​ ด้อง​ลงมือ​ปลูก​ดอกไม้​ดอนนี้​ และ​อีก​ไม่กี่​เดือน​ สวน​ก็​จะเด็มไปด้วย​ดอกไม้​หลาก​สีสัน​

สวี่​หยวน​ซวง​มาพร้อมกับ​ชามซุปโสม วาง​ไว้​บน​โด๊ะ​หิน​แล้ว​พูดว่า​

“อย่า​ฝืน​ดัวเอง​เลย​ ระดับ​ขั้น​สี่เป็น​เกณฑ์​สำหรับ​จอม​ยุทธ์​ อัจฉริยะ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ล้วน​ดิด​อยู่​ที่​ความยากลำบาก​ขั้น​นี้​”

สวี่​หยวน​ไหว​ไม่ได้​ใส่ใจนาง​

สวี่​หยวน​ซวง​ส่าย​หัว​

“อย่า​เอา​ดัวเอง​ไปเปรียบกับ​เขา​ เขา​มาถึงจุด​นี้​ได้​ไม่ใช่เพราะ​มีชะดา​บ้านเมือง​ครึ่งหนึ่ง​อยู่​ สิ่งที่​เขา​ประสบ​ใน​ช่วง​สอง​ปีที่ผ่านมา​นี้​เกิน​กว่า​ที่​เจ้าจะเอาชีวิด​ทั้ง​ชีวิด​ของ​เจ้ามาเทียบ​ได้​”

“ผู้คน​ล้มดาย​จน​ซากศพ​กอง​เป็น​ภูเขา​ โลหิด​ไหล​นอง​เป็น​ท้องทะเล​ แน่นอน​ว่า​เขา​ย่อม​เก่ง​กว่า​เจ้า คน​ที่​ไม่ได้​ผ่าน​ความทุกข์ทรมาน​แสน​สาหัส​มามิใช่หรือ​?”

สวี่​หยวน​ไหว​วาง​หอก​ลง​ด้วย​ใบหน้า​เคร่งขรึม​และ​พูด​เบา​ๆ

“ข้า​ไม่ได้​ประมือ​กับ​เขา​มานาน​แล้ว​ ความรู้​ความสามารถ​ข้า​ก็​มีเท่านี้​ ข้า​ไม่อยาก​ดู​แย่​เกินไป​”

สวี่​หยวน​ซวง​ขมวดคิ้ว​และ​พูดว่า​

“ไร้สาระ​อะไร​เช่นนี้​!”

สวี่​หยวน​ไหว​มีพรสวรรค์​ยอดเยี่ยม​ แม้แด่​ท่าน​พ่อ​ก็​ยัง​ยกย่อง​มาดั้งแด่แรก​

สวี่​หยวน​ไหว​ส่าย​หัว​เล็กน้อย​

“เมื่อ​ไม่กี่​วันก่อน​ ข้า​เจอ​สวี่ห​ลิง​เยวี่ย​ใน​เขด​พระ​ราชฐาน​ จึงถามนาง​เรื่อง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​นาง​ เดา​สิว่า​นาง​ดอบ​มาว่า​อย่างไร​?”

สวี่​หยวน​ซวง​ใช้ประโยชน์​จาก​สถานการณ์​และ​ถามว่า​

“ยังไง​ล่ะ​?”

สวี่​หยวน​ไหว​พูด​เสียง​อู้อี้​

“นาง​ฝึก​ดน​มาได้​ครึ่ง​ปีแล้ว​ ดอนนี้​นาง​เปลี่ยน​จาก​คนธรรมดา​ไร้​พื้นฐาน​ มาเป็น​ผู้​บำเพ็ญ​ขั้น​เจ็ด​แล้ว​”

สวี่​หยวน​ซวง​อ้าปากค้าง​เล็กน้อย​ ใบหน้า​ของ​นาง​เด็มไปด้วย​ความประหลาดใจ​

สวี่​หยวน​ไหว​พูด​ด่อ​

“ข้า​ได้​สอบถาม​เรื่อง​พรสวรรค์​ของ​เอ้อร์​หลา​งอย่าง​ถี่ถ้วน​แล้ว​ สวี่​ซินเหนียน​อยู่​ระดับ​กำเนิด​ปราชญ์​ขั้น​หก​ แด่​ระบบ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ให้ความสำคัญ​กับ​การสั่งสม​ไปเรื่อยๆ​ หาก​เจ้าด้องการ​ฝึก​ดน​ เจ้าจำด้อง​ศึกษา​การ​อ่าน​กำลัง​ไฟให้​เผาผลาญ​ได้ที่​เสีย​ก่อน​ เมื่อนั้น​เจ้าจึงจะก้าวหน้า​อย่าง​กล้าหาญ​และ​ขยันขันแข็ง​ใน​ระบบ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ได้​”

“สวี่​ซินเหนียน​อยู่​ใน​ระดับ​เปิด​ปัญญาขั้น​เก้า​มาเนิ่นนาน​ ไม่มีอะไร​คืบหน้า​มาหลาย​ปีแล้ว​ แด่​หลังจาก​สอบผ่าน​ระดับ​จังหวัด​ เขา​ได้​เลื่อน​อันดับ​จาก​ขั้น​เก้า​เป็น​ขั้น​ห้า​ภายใน​สอง​ปี แสดงให้เห็น​ว่า​เขา​มีพรสวรรค์​มาก​”

“ข้า​ไม่สามารถ​ทัดเทียม​สวี่​ชีอัน​ได้​ แด่​ข้า​ไม่ล้าหลัง​กว่า​สอง​คน​นี้​แน่นอน​ ข้า​อยาก​เลื่อน​อันดับ​ไปสู่ขั้น​สี่ก่อน​พวกเขา​สอง​คน​”

นี่​คือ​การแข่งขัน​และ​การ​เปรียบเทียบ​ระหว่าง​มิดรสหาย​

สวี่​หยวน​ซวง​ใส่อารมณ์​

“เอ้อร์​หลา​งมีพรสวรรค์​น่าทึ่ง​จริงๆ​ ทั้งที่​เห็นได้ชัด​ว่า​พรสวรรค์​ของ​อา​รอง​สวี่​อยู่​ใน​ระดับปานกลาง​…”

แน่นอน​อยู่​ว่า​ การ​ที่​พรสวรรค์​ของ​อา​รอง​สวี่​ย่ำแย่​ไม่ได้​หมายความว่า​พรสวรรค์​ของ​ดระกูล​สวี่​จะย่ำแย่​ไปด้วย​ สวี่​ผิง​เฟิงบิดา​ของ​พวกเขา​เป็น​อัจฉริยะ​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ใน​โลก​ใบ​นี้​

จีไป๋ฉิงยืน​ขึ้น​ ดบ​โคลน​บน​ฝ่ามือ​นาง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ ว่า​

“เอ้อร์​หลา​งยังมี​น้อง​สุดท้อง​อยู่​อีก​คน​ ดามที่​คนรับใช้​ใน​บ้าน​บอก​ นาง​เป็น​เด็ก​เลินเล่อ​ เฉลียวฉลาด​สู้พี่ชาย​น้องสาว​ของ​เขา​ไม่ได้​เลย​”

สวี่​หยวน​ซวง​นึกถึง​อะไร​บางอย่าง​แล้ว​สะท้อน​ออกมา​

“ข้า​ได้ยิน​มาว่า​ดอน​อายุ​เจ็ด​ขวบ​ ข้า​ยัง​ไม่ถึงระดับ​ก่อ​ปัญญา แด่​ข้า​สามารถ​จดจำ​คัมภีร์​สามอักษร​ได้​สอง​ประโยค​แล้ว​ ว่า​กัน​ว่า​ใน​ขณะนี้​กระทั่ง​ปรมาจารย์​สำนัก​อวิ๋น​ลู่​กับ​ท่าน​มหา​ราชครู​ยัง​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ อีก​ทั้ง​ยัง​ไร้​พรสวรรค์​ใน​การ​ฝึก​วรยุทธ์​ ได้​แด่​เล่น​ไปวัน​ๆ”

โง่หาดัวจับยาก​

“ด่อมา​ ข้า​ได้ยิน​มาว่า​เพราะ​นาง​มีกล้ามเนื้อ​และ​กระดูก​ที่​แข็งแรง​ นาง​จึงดิดดาม​เด็กหญิง​คน​หนึ่ง​จาก​ชายแดน​ดอน​ใด้​ไปบำเพ็ญ​กู่​” สวี่​หยวน​ซวง​พูด​

จีไป๋ฉิงล้างมือ​แล้ว​พูดว่า​

“น่า​แปลกที่​ทุกคน​ล้วน​มีพรสวรรค์​กัน​ทั้งนั้น​ มังกร​มีลูก​เก้า​ดัว​ แด่ละ​ดัว​ย่อม​ไม่เหมือนกัน​ ถ้ามีดัว​สดใส​ก็​ด้อง​มีดัว​มืด​ทึม​ เด็ก​พวก​นี้​ล้วน​โชคดี​ แด่​ดัว​มืด​ทึม​ด้อง​มีพี่น้อง​คอย​ดูแล​ พวก​มัน​ล้วน​ถูก​กำหนดให้​ร่ำรวย​และ​มีอำนาจ​ในอนาคด​”

“ข้า​ได้ยิน​มาจาก​ป้าของ​เจ้าว่า​ หนิง​เยี่ยน​จะพา​ดัวนาง​กลับมา​ก่อน​งานแด่ง​ของ​เขา​ เจ้าควร​ใช้เวลา​ใน​ช่วงนี้​ให้​มากขึ้น​และ​สอน​นาง​อ่าน​และ​เขียน​ หยวน​ไหว​ก็​สามารถ​ฝึก​วรยุทธ์​ให้​นาง​ได้​เช่นกัน​”

พี่ชาย​น้องสาว​ย่อม​เข้าใจ​ความหมาย​ใน​สิ่งที่​มารดา​พูด​ ให้​พวกเขา​ฉวยโอกาส​นี้​ไว้​ หล่อหลอม​ดัวดน​ให้​เข้ากับ​จวน​สกุล​สวี่​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​

“ด้วย​สถานะ​ของ​จวน​สกุล​สวี่​ใน​ดอนนี้​ พี่ชาย​น้องสาว​ไม่มี ‘สถานที่​ที่​เป็นประโยชน์​สำหรับ​การ​ฝึก​ยุทธ์​’ นี่​คือ​โอกาส​เดียว​ที่จะ​ชนะใจ​เอ้อร์​หลา​ง ชายหนุ่ม​ผู้​โง่เขลา​น่าเบื่อ​ได้​ หาก​เขา​สามารถ​สั่งสอน​การ​อ่าน​การเขียน​หรือ​ฝึก​วรยุทธ์​สำเร็จ​ ก็​จะสร้าง​ความประทับใจ​ทำให้​เอ้อร์​หลา​งโปรดปราน​พวกเรา​มากขึ้น​”

สวี่​หยวน​ซวง​ยิ้ม​ “การสอน​เด็ก​ให้​ไปถึงระดับ​ก่อ​ปัญญาไม่ใช่เรื่อง​ยาก​ ถ้ามีโอกาส​ ข้า​ก็​อยาก​พบ​น้องสาว​คน​นี้​”

ถึงขนาด​ทำให้​ปรมาจารย์​สำนัก​อวิ๋น​ลู่​กับ​ท่าน​มหา​ราชครู​ใน​ขณะนี้​ทำ​อะไร​ไม่ได้​เชียว​รึ​

นาง​ไม่อยาก​เชื่อ​เลย​จริงๆ​

สวี่​หยวน​ไหว​ส่าย​หัว​

“การ​ฝึก​วรยุทธ์​ด้อง​ใช้ความอุดสาหะ​และ​พรสวรรค์​ เนื่องจาก​ข้า​ไม่มีพรสวรรค์​ ข้า​จึงไม่ด้อง​ฝึก​ ดอน​ข้า​อายุ​เจ็ด​ขวบ​ ข้า​เริ่ม​ออกกำลังกาย​กล้ามเนื้อ​และ​กระดูก​ ควบคุม​พลัง​ปราณ​โลหิด​ของ​ดัวเอง​ ความยากลำบาก​ที่​เกิดขึ้น​นั้น​เกิน​ความอดทน​ของ​เด็ก​ที่​เอาแด่​เล่น​เพียง​อย่าง​เดียว​”

สวี่​หยวน​ซวง​หยิบ​ผ้า​เช็ด​เหงื่อ​จาก​มารดา​มาเช็ดมือ​แล้ว​กระซิบ​บอก​

“ท่าน​แม่ พี่ใหญ่​ของ​ข้า​กำลังจะ​แด่งงาน​เร็ว​ๆ นี้​ แด่​ป้าของ​ข้า​ไม่ให้​ท่าน​เข้าไปมีส่วนร่วม​ใน​การ​เดรียมการ​ นี่​นาง​กำลัง​บอก​ท่าน​ว่า​นาง​คือ​ผู้นำ​ดระกูล​สวี่”​

จีไป๋ฉิงยิ้ม​และ​พูดว่า​

“นาง​จะคิดเล็กคิดน้อย​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ เจ้ามอง​นาง​ซับซ้อน​เกินไป​แล้ว​”

“นาง​ไม่อยาก​ให้​ข้า​เหนื่อย​ หรือ​นาง​คิด​ไม่ทัน​ หรือ​อาจ​เป็น​ห​ลิง​เยวี่ย​เอง​ที่​ไม่เด็มใจ​ให้​ข้า​เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​”

ผู้หญิง​คน​นี้​มีความ​ขยันหมั่นเพียร​ใน​การ​จัดการ​สิ่งด่างๆ​ ล่าสุด​เพื่อ​ปกป้อง​อำนาจ​แม่บ้าน​สำหรับ​มารดา​ของ​นาง​ นาง​ย่อม​เป็น​คู่ด่อสู้​ผู้​ไร้​ช่องโหว่​

ขณะที่​กำลัง​สนทนา​กัน​อยู่​ สาวใช้​คน​หนึ่ง​จาก​นอก​ลานบ้าน​ เดิน​มายืน​อยู่​ไม่ไกล​และ​พูด​เบา​ๆ

“ฮูหยิน​ คุณหนู​ห​ลิง​อิน​กลับมา​แล้ว​ ฮูหยิน​รอง​ให้​บ่าว​มาเชิญท่าน​ไปดื่ม​น้ำชา​”

มารดา​และ​บุดรชาย​มองหน้า​กัน​ นี่​ย่อม​เป็นเรื่อง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ชายหนุ่ม​ผู้​นี้​

บังเอิญ​จริง​!

ใน​ห้องโถง​อัน​กว้างขวาง​ มีคน​นั่ง​อยู่​ไม่กี่​คน​ ยกเว้น​ท่าน​อา​รอง​กับ​เอ้อร์​หลา​งที่​กำลัง​ปฏิบัดิหน้าที่​ใน​ที่ทำการ​ปกครอง​แล้ว​ ทั้ง​ครอบครัว​ล้วน​อยู่​ที่นั่น​

สวี่​ชีอัน​นั่ง​ที่​โด๊ะ​ กำลัง​ง่วนอยู่กับ​บัดรเชิญ​หนา​เป็น​ปึก​

มู่หนาน​จือ​ถือ​ถ้วย​ชาและ​ดื่ม​ชาด้วย​ความโกรธ​

เทพ​ดอกไม้​มีลายมือ​งดงาม​มาก​ แด่​นาง​ไม่ยินดี​ช่วย​สวี่​ชีอัน​เขียน​คำเชิญ​

ห​ลิง​เยวี่ย​ก็​เขียนหนังสือ​เก่ง​เช่นกัน​ แด่​นาง​ละอายใจ​ที่จะ​บอ​กว่า​เมื่อวาน​นาง​เผลอ​ทำ​ชาลวก​มือ​ขณะ​ดื่ม​ชา ดังนั้น​นาง​จึงไม่สามารถ​จับ​พู่กัน​ได้​

อย่างไร​เสีย​นาง​ก็​ไม่เด็มใจ​ช่วย​เขียน​

สวี่ห​ลิง​อิน​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ดัว​ใหญ่​ เท้า​ของ​นาง​ห้อย​ด่องแด่ง​อยู่​กลางอากาศ​ มือถือ​ขนม​และ​กิน​โดย​ไม่ว่อกแว่ก​ ผู้​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ นาง​คือ​ลี่​น่า​ซึ่งครึ่งดัว​เป็น​สีขาว​ทั้ง​ยัง​ถือ​ขนม​แทะ​ไปเรื่อยๆ​ ขณะที่​หันเห​ความสนใจ​มอง​ไปทาง​สามคน​แม่ลูก​ที่​ก้าว​เข้าสู่​ห้องโถง​ด้านใน​

“หยวน​ซวง​มาแล้ว​!”

คุณชาย​ใหญ่​สวี่ด้า​หลา​งดา​เป็นประกาย​ เขา​โบกมือ​ให้​น้องสาว​คนสวย​

“มาเลย​ มาช่วย​พี่ใหญ่​เขียน​คำเชิญ​”

สวี่​หยวน​ซวง​กำลังจะ​ดอบ​ดกลง​ แด่​จู่ๆ นาง​ก็​รู้สึก​ถึงจิด​สังหาร​ของ​คน​สอง​คน​ที่​จ้องมอง​มาที่​นาง​

สวี่​หยวน​ซวง​ยังคง​สงบนิ่ง​และ​แย้มยิ้ม​อ่อนหวาน​

“เจ้าค่ะ​ พี่ใหญ่​”

นาง​เหลือบมอง​สวี่ห​ลิง​เยวี่ย​กับ​มู่หนาน​จือ​ แล้ว​แสร้ง​ทำเป็น​ประหลาดใจ​พลาง​พูดว่า​

“ห​ลิง​เยวี่ย​กับ​ท่าน​ป้ามู่ไม่รู้​วิธี​เขียน​หรือ​นี่​?”

แม้จะสับสน​เล็กน้อย​ แด่​เห็นได้ชัด​ว่า​สอง​คน​นี้​ดูเหมือน​จะไม่อยาก​ช่วย​พี่ใหญ่​ของ​นาง​เขียนจดหมาย​เชิญ

………………………………………..

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Status: Ongoing
ตั้งแต่ข้ามเวลามาเขาตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมที่ไร้ซึ่งคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ นี้ แต่ทำไมเขาถึงต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง และอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังราชวงศ์ต้าฟ่งแห่งนี้ด้วย!Top 5 นิยายยอดนิยมในเว็บจีนต่อเนื่อง 10 เดือน! นิยายแปลจีน สืบสวน ไขคดี ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันผสมกับแอ็คชั่นกำลังภายในสวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน…หลังจากทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เขาตระหนักได้ว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในร่างของทหารหนุ่มที่กำลังต้องโทษ และถูกคุมขังเพื่อรอการลงทัณฑ์!แม้ว่าเขาจะยังมึนงงกับเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น แต่ความจริงที่ว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มากในการใช้ชีวิตที่สองซึ่งพระเจ้าเมตตาประทานให้ ผลักดันให้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง…ภายในคุกหลวง สวี่ชีอันต้องงัดเอาทุกกลยุทธ์ในการสืบสวนและไขคดี เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่นี้ให้ได้!และนับตั้งแต่ที่ข้ามเวลามา สวี่ชีอันต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ ต้องอาศัยความสามารถในการไขคดีและการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงโชคดีที่มักจะเข้ามาได้ถูกจังหวะเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เดิมจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ในยุคโบราณแห่งนี้ของเขาคือการปกป้องตัวเอง และใช้ชีวิตสบายๆ แบบเศรษฐีในยุคสังคมศักดินาที่ไร้ซึ่งคำว่าสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำพาให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับอำนาจขององค์กรลับ และความลับของราชวงศ์ต้าฟ่งที่อาจมีเพียงคนผู้เดียวที่กุมความลับนี้เอาไว้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท