สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 283 คำให้การ

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 283 คำให้การ

แม้การลงใต้ครั้งนี้เตรียมของอย่างง่ายๆ เพื่อลดภาระสัมภาระ แต่พวกกระดาษพู่กันก็เป็นสิ่งของที่ซินโย่วนิยมพกติดตัวยามเดินทางเสมอ

ไม่นานเชียนเฟิงก็นำกระดาษพู่กันมายืนข้างๆ ซินโย่ว

การค้นพบโจรภูเขาสมคบคิดกับนายอำเภอเป็นเรื่องกะทันหัน ซินโย่วกับเฮ่อชิงเซียวยังไม่ทันได้หารือว่าควรดำเนินการเช่นไร แต่หัวหน้าใหญ่สารภาพด้วยตนเอง ทำให้นางเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา

“ข้าคือขุนนางตรวจสอบติดตามมาจับตาดูกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินทำคดี ระหว่างข้ากับนายอำเภอของอำเภอหลิงก็เรียกได้ว่าขอหนังเสือจากเสือ[1] รู้สึกสงสัยคำพูดที่ว่าทอดแหกวาดล้างโจรภูเขาให้สิ้นซากอย่างมาก เจ้าลองเล่ามาให้ละเอียดว่าพวกเจ้ามาพบเจอกันได้อย่างไร” ซินโย่วพูดไปก็มองเฮ่อชิงเซียวทีหนึ่ง

เฮ่อชิงเซียวขมวดคิ้ว “ผู้ตรวจการเจี่ย นายอำเภอเจิ้งบอกเรื่องโจรภูเขาทันทีที่พบพวกเรา ทั้งยังสำแดงหลักฐานการติดต่อกัน ข้าคิดว่าเขาไม่มีปัญหา”

ทหารราชวงศ์ต้าซย่าเข้มแข็งเก่งกล้า ก่อกบฏเพราะไร้ทางออก เห็นชัดว่านายอำเภอเจิ้งหมิงแห่งอำเภอหลิงสมคบคิดกับโจรภูเขามิใช่เพื่อตั้งตนเป็นใหญ่ แต่เพราะละโมบในทรัพย์ หัวหน้าใหญ่ต้องมอบผลประโยชน์ให้เจิ้งหมิงไม่น้อยเป็นแน่ กล่าวเช่นนี้ก็ย่อมไร้ช่องโหว่

ดังคาด หัวหน้าใหญ่ได้ยินก็แค่นเยาะ “พวกเจ้าคิดว่าเขาเป็นขุนนางดีอันใดหรือ ก็มิใช่พวกยัดเงินให้ก็ทำเป็นไม่รู้เห็นเรื่องที่พวกเราปล้นฆ่าหรือไร นี่คงเพราะเห็นกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินมา จึงกลัวเรื่องรับสินบนถูกเปิดโปง และกังวลว่าจะพลอยติดร่างแหสมคบคิดกบฏไปด้วย จึงได้ลนลานทำตัวเป็นคนดี”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ลองเล่ามา ข้าเป็นขุนนางที่ฝ่าบาทให้ตามมาตรวจสอบการทำงาน แม้กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินทรงอำนาจมากบารมี แต่ข้าก็มีหลักการของข้า” ซินโย่วยืดตัวตรงเล็กน้อย เผยท่าทางภาคภูมิ

หัวหน้าใหญ่พบว่าผู้ตรวจการเจี่ยทำงานไม่ประสานกับกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน คิดถึงนายอำเภอเจิ้งที่ต้องการเหยียบกองกระดูกเขาขึ้นไปรับความชอบ ในใจก็คั่งแค้นแทบกระอักโลหิต จึงเอ่ยอย่างแค้นใจ “ข้าเป็นหัวหน้ากองสังกัดผู้บัญชาการอู่ ชื่อว่าหลี่เฉียง ตอนนั้นผู้บัญชาการอู่ตายไป โชคดีข้านำพาคนเหล่านี้หนีรอดมาถึงอำเภอหลิง…”

หัวหน้าใหญ่เล่าอย่างคั่งแค้น ทุกคนนิ่งฟัง มีเพียงหัวหน้าหกที่แสดงสีหน้าประหลาดใจ

ไม่ถูกต้อง คุณชายสองท่านนี้ เอ่อ… เห็นชัดว่าความสัมพันธ์ของใต้เท้าสองท่านนี้ดีมาก ตอนจับตัวพวกเขาได้ก็ได้ยินว่าหัวหน้าใหญ่เข้าไปในอำเภอ ใต้เท้าทั้งสองไม่ได้ติดต่อกับทางการ มีเพียงเช้านี้ที่ทิ้งลูกน้องสองคนคุมตัวเจ้าแปดไปที่ทำการอำเภอ…

แววตาหัวหน้าหกวาบขึ้น เริ่มคาดเดาว่าหัวหน้าใหญ่คงไม่ได้ถูกคนเหล่านี้หลอกกระมัง

น่าเสียดาย เขาถูกอุดปากไว้ พูดไม่ได้…พอมีความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมา หัวหน้าหกมือขยับไม่ได้ ปากก็พูดไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่ค้อนใส่ทีหนึ่ง

เหตุใดเขาต้องเตือนด้วย พวกหัวหน้าใหญ่ฆ่าพี่น้องของเขา หลังยึดค่ายโจรภูเขาของเขาแล้ว หากนำพาให้พี่น้องค่ายเมฆดำกินดีอยู่ดีก็แล้วไป ผลปรากฏว่าล่อเอากองกำลังองครักษ์จิ่นหลินมาจัดการ

นี่จะพาค่ายเมฆดำพวกเขาลงหม้อไปด้วยหรือ เจ้าพวกไม้กวาดตัวซวย!

หัวหน้าใหญ่พูดจบ ซินโย่วก็เขียนจบ ส่งพู่กันให้ผิงอัน ก้มลงกล่าวกับเชียนเฟิงที่ก้มตัวเป็นโต๊ะว่าลำบากเจ้าแล้ว

“เจ้ารู้หนังสือไหม”

คำถามนี้ของซินโย่ว หัวหน้าใหญ่แค่นเยาะเยียบเย็น “แน่นอน”

“เช่นนั้นเจ้าดูว่ามีเรื่องใดหลุดไปหรือไม่”

หัวหน้าใหญ่มองดูหมึกที่ยังไม่แห้งดี แล้วก็พยักหน้า “ถูกต้อง”

“เช่นนั้นก็ลงนามประทับลายนิ้วมือได้”

พอได้ยินลงนามประทับลายนิ้วมือ หัวหน้าใหญ่จึงได้มีสีหน้าตกใจ กำลังคิดปฏิเสธ

ซินโย่วยิ้ม “เจ้าทำความผิดมากมายเช่นนี้ คงไม่คิดว่าจะหนีรอดไปได้กระมัง จะรับทัณฑ์ทรมานจากกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน หรือว่าให้ข้ารายงานต่อสามศาล[2]เพื่อพิจารณาโทษ เชื่อว่าเจ้าตัดสินใจได้”

สำหรับบรรดาขุนนางและชนชั้นสูงแล้ว ทำความผิดต้องขึ้นสามศาล เป็นเรื่องสมเหตุสมผลยิ่ง การสอบสวนไม่ได้น่ากลัวเพียงนั้น อย่างมากก็แค่หัวหลุดจากบ่า แต่หากถูกนำตัวไปกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินก็คงดั่งตกนรกแผดเผาแล้ว

“วันหน้าข้าจะนำคำสารภาพนี้ไปรายงานเป็นหลักฐานความผิดของนายอำเภอของอำเภอหลิง แน่นอนอาจเป็นดังที่ใต้เท้าเฮ่อวิเคราะห์ นายอำเภอเจิ้งใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อ ไม่เพียงแต่ไม่มีความผิด แต่ยังมีความชอบ…”

“ข้าลงนาม!”

ซินโย่วมองหัวหน้าใหญ่ลงนามประทับนิ้วมือในคำให้การด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกแล้ว ในใจก็ผ่อนคลายลง กล่าวกับเฮ่อชิงเซียว “ใต้เท้าเฮ่อ ขอคุยทางนี้สักครู่”

เฮ่อชิงเซียวแววตามีรอยยิ้ม “ได้”

ทิ้งคนอื่นๆ ไว้เฝ้าโจรภูเขาที่ยังโชคดีรอดชีวิตมาได้ ซินโย่วกับเฮ่อชิงเซียวเดินไปใต้ต้นไม้ไม่ไกลนัก

“ผู้ตรวจการเจี่ยฉลาดมีไหวพริบเหนือสามัญ ข้าเลื่อมใสยิ่ง”

“ล้วนเพราะใต้เท้าเฮ่อให้ความร่วมมือดี”

ทั้งสองคนสบตายิ้มให้กัน ก่อนจะเข้าสู่ประเด็น

“พวกเราออกเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้นำกำลังคนมามากมายนัก เดิมคิดว่าจะมอบให้ที่ทำการในท้องที่จัดการก่อน พร้อมกับรายงานด่วนไปยังเมืองหลวง ตอนนี้พบว่าโจรภูเขาก็คือทหารกบฏ และสมคบคิดกับนายอำเภอ เกรงว่าคงต้องใช้วิธีการจัดการแบบอื่นๆ”

“ใต้เท้าเฮ่อมีแผนการใด”

“ห่างจากอำเภอหลิงไม่ไกลนักมีกองกำลังหนิงซานประจำการอยู่ เดินทางมาครั้งนี้ ฝ่าบาททรงมอบตราคำสั่งเคลื่อนกำลังทหารในพื้นที่ให้ข้า ข้าคิดจะเคลื่อนกำลังกองกำลังหนิงซานมาจับกุมตัวนายอำเภออำเภอหลิง กวาดล้างโจรภูเขา”

แผนการของเฮ่อชิงเซียวเหมาะสมมาก แต่ซินโย่วกลับเอ่ยขึ้นเรื่องหนึ่ง “ทางกองกำลังหนิงซานมีอุทกภัย นำกำลังมาช่วยทางนี้เกรงว่าต้องใช้เวลาไม่น้อย ข้ามีความคิดหนึ่ง พวกเราใช้คนของพวกเราเหล่านี้ก็พอ…”

ได้ยินซินโย่วพูดจบ แววตาเฮ่อชิงเซียวก็มีประกายประหลาดใจวาบขึ้นมา

แผนการนางอุกอาจมาก แต่มีความเป็นไปได้มากเช่นกัน หากไม่ใช่ว่าต้องคุ้มกันนางลงใต้ เขาก็คงเลือกที่จะทำเช่นนี้ก่อน

“ใต้เท้าเฮ่อคิดว่าได้หรือไม่”

ยามสบแววตาคาดหวังของนาง เฮ่อชิงเซียวพยักหน้าอย่างไม่ทันรู้ตัว แต่พอนางเผยรอยยิ้มกลับลังเลเล็กน้อย “แม้แผนการใช้ได้ แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่บ้าง…”

ซินโย่วหุบยิ้ม เอ่ยสีหน้าจริงจัง “ใต้เท้าเฮ่อ ภารกิจของข้ากับท่านก็คือคุ้มกันข้าให้ปลอดภัย ข้าไม่ใช่กระเบื้องที่บอบบาง และยิ่งไม่มีทางทำตัวเป็นคนกระเบื้องบอบบาง ดำรงชีวิตอยู่บนโลกนี้ไม่อาจสมบูรณ์พร้อมไร้ซึ่งอันตราย ดื่มน้ำยังอาจสำลักตายได้ ขณะมั่นคงอย่างที่สุด แต่กลับหัวหดเพราะเกรงภัยอันตราย ใช่ว่าจืดชืดไร้รสชาติหรือ”

เฮ่อชิงเซียวมองสีหน้าจริงจังของนางก็เหมือนถูกชักจูงไปด้วย

คุณหนูที่เขารู้จักเป็นเช่นนี้เสมอ การคุ้มกันนางเป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่อ้างคำว่าคุ้มกันทำให้นางไม่เป็นตัวของตัวเอง

“การเดินทางลงใต้ไปนำโลงศพท่านแม่ข้าเข้าเมืองหลวง เส้นทางมากมาย คนมากมาย แต่เรากลับต้องมาพบกับขบวนพ่อค้ากลุ่มนั้น ได้พบพฤติกรรมชั่วของขุนนางสมคบคิดกับโจรร้าย บางทีนี่ก็คือลิขิตฟ้า ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อขจัดภัยโจรร้ายให้ชาวประชา และก็เพื่อสร้างกุศลให้มารดา ใต้เท้าเฮ่อ ท่านรับปากเถอะนะเจ้าคะ” ซินโย่ว รู้ดีว่าแผนการนี้อาศัยนางกับองครักษ์ส่วนตัวทั้งสองคนไม่อาจทำสำเร็จได้ กล่าวจนสุดท้ายน้ำเสียงก็เริ่มอ่อนลง

เฮ่อชิงเซียวแอบรับปากในใจเงียบๆ นานแล้ว ยามนี้หัวใจกระตุกวาบ ได้แต่รีบพยักหน้า

ซินโย่วกระดกมุมปาก “ขอบคุณใต้เท้าเฮ่อ”

พอกลับไป เฮ่อชิงเซียวก็สั่งการ “เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน กลับอำเภอหลิง”

ในห่อสัมภาระของกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินล้วนมีเครื่องแต่งกายองครักษ์ของตนเอง เตรียมไว้เปลี่ยน ตอนสมทบกับขบวนอารักขาโลงพระศพฮองเฮาเข้าเมืองหลวง ได้ยินเฮ่อชิงเซียวสั่งการ ทุกคนรีบเปลี่ยนชุดองครักษ์ แต่ละคนองอาจเกรียงไกร แม้คนไม่มาก แต่เปล่งรัศมีน่าเกรงขาม

หัวหน้าใหญ่เป็นหนึ่งในสามคนที่รอดชีวิต รวมพวกหัวหน้าหกทั้งหมดสี่คน ถูกมัดเป็นก้อนอุดปากไว้แน่น ทหารองครักษ์จิ่นหลินคุมแบบตัวต่อตัว เตรียมออกเดินทาง

ซินโย่วกวาดตามองศพโจรภูเขาที่กำลังจะถูกลากเข้าป่าทีหนึ่ง เสนอว่า “นำศพเหล่านี้ไปด้วย ให้ขุนนางและชาวบ้านอำเภอหลิงได้เห็นด้วยตาตนเอง”

[1] เจรจากับเสือขอหนังเสือ เปรียบเทียบเจรจากับคนร้าย

[2] สมัยราชวงศ์หมิงและชิง หมายถึงกรมอาญา สำนักตรวจสอบและศาลต้าหลี่

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท