สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1548 รีบแก้ไข

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1548 รีบแก้ไข

ทว่า เชื้อพระวงศ์เหล่านี้กลับเรียกขานชาวบ้านอย่างดูถูกว่าคือคนต่ำต้อย เช่นนี้จะไม่ให้เจ้านายของเขาโมโหได้อย่างใดกัน!

“ฝ่าบาททรงเห็นชาวบ้านเหล่านี้เป็นดั่งสายเลือดของตัวเอง ทว่า พวกเจ้ากลับกล้าเรียกพวกเขาว่าชาวบ้านต่ำต้อย ผู้ใดมอบความกล้านี้ให้แก่พวกเจ้ากัน!”

น้ำเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนแผ่วเบา ถ้อยคำไม่ได้รุนแรง ทว่า เหล่าเชื้อพระวงศ์กลับรีบก้มศีรษะคำนับแนบพื้นอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว จากนั้นเอาแต่กล่าวว่าไม่กล้า

“แม่ทัพคุ้มกันเมืองก้าวออกมารายงาน…”

เซียวหรงเหยี่ยนกวาดสายตามองบรรดาเชื้อพระวงศ์ จากนั้นหยุดสายตาอยู่ที่ด้านหลังคนเหล่านั้น

แม่ทัพคุ้มกันเมืองรีบก้าวไปด้านหน้าทันที

“ทูลผู้สำเร็จราชการ ตอนแรกราชสำนักประกาศว่ายาที่พวกเรามีอยู่คือของล้ำค่า ห้ามส่งให้เมืองต้าเยี่ยนที่อยู่ในการปกครองของต้าโจวเด็ดขาด ทว่า หมอจูผู้นั้นกลับขัดคำสั่ง ลอบนำยาที่เมืองลี่อี่มีไม่มากไปให้เมืองอันซุ่น ดังนั้น…”

“ให้ตายเถิด!”

แม่ทัพคุ้มกันเมืองยังไม่ทันกล่าวจบเยว่เฉวียนหย่งที่คุกเข่าอยู่ทางด้านหลังจึงสถบออกมาอย่างทนไม่ไหวต่อหน้าเซียวหรงเหยี่ยน

เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางเยว่เฉวียนหย่ง ไม่นานจึงจำเขาได้

“เจ้าคือ…คนของเซี่ยสวิน”

เยว่เฉวียนหย่งโค้งกายคำนับเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นกล่าวขึ้น

“ทูลผู้สำเร็จราชการ ข้าได้รับมอบหมายให้นำยามาส่งที่เมืองลี่อี้พ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าว่ามาสิ…”

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว

“ทูลผู้สำเร็จราชการ จูเฉิงหรูคือหมอของเมืองลี่อี้ ครั้งนี้เขาช่วยชีวิตชาวบ้านไว้มากมาย ต่อมา…”

เยว่เฉวียนหย่งมองไปทางเชื้อพระวงศ์

“เชื้อพระวงศ์เหล่านี้จงใจสั่งให้พ่อค้าแอบนำถ้วยชาที่ผู้ป่วยติดเชื้อโรคระบาดใช้แล้วไปขายยังเมืองอันซุ่นจนเมืองอันซุ่นเกิดโรคระบาดขึ้นเช่นเดียวกัน บ้านพ่อตาของหมอจูผู้นี้อยู่ในเมืองอันซุ่นเขาจึงนำยาไปมอบให้พ่อตาของตัวเองครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นทำให้เขาได้รู้ว่าเชื้อพระวงศ์เหล่านี้เป็นคนแพร่เชื้อโรคระบาดไปยังเมืองอันซุ่น เขาจึงนำยาของโรงหมอของตัวเองไปมอบให้เมืองอันซุ่น เมื่อราชสำนักประกาศห้ามเขาจึงหยุดพ่ะย่ะค่ะ เขาไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายแต่อย่างใดพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้ากล่าววาจาเหลวไหล”

เชื้อพระวงศ์คนหนึ่งหันไปชี้หน้าด่าเยว่เฉวียนหย่ง

“ราชสำนักมีคำสั่งลงมาก่อน ทว่า หมอผู้นั้นลอบนำยาไปมอบให้ต้าโจวต่างหาก! ตอนนั้นเจ้าไม่ได้อยู่ในเมืองลี่อี้ เจ้าจะรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างใดกัน ไม่รู้เรื่องอันใดก็อย่ากล่าวเหลวไหลดีกว่า!”

“เจ้าสิกล่าวเหลวไหล! ข้าเหล่าเยว่ไม่เคยกล่าวเรื่องโกหก! หากผู้สำเร็จราชการไม่เชื่อสามารถสอบถามเด็กรับใช้ในร้านยา หรือสอบสวนหมอจูผู้นั้นดูก็ได้พ่ะย่ะค่ะว่าคำสั่งของราชสำนักมาถึงก่อนหรือทีหลังกันแน่!”

เยว่เฉวียนหย่งไม่สนใจเชื้อพระวงศ์เหล่านั้น เขาก้มศีรษะคำนับเซียวหรงเหยี่ยน

“ส่วนเรื่องที่พ่อค้าจงใจนำเชื้อโรคระบาดแพร่ไปยังเมืองอันซุ่น ทหารทุกคนล้วนเป็นพยานได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้ยินเหล่าทหารเอ่ยถึงเรื่องนี้หลายรอบแล้ว ที่สำคัญชาวบ้านล้วนชื่นชมและยกย่องหมอจูผู้นั้นกันทั้งสิ้นพ่ะย่ะค่ะ”

“ได้ยินทหารเล่าว่าต่อมาพ่อค้าที่นำเชื้อโรคไปแพร่ที่เมืองอันซุ่นต้องการกลับเข้ามาในเมือง ทว่า เชื้อพระวงศ์เหล่านี้ส่งคนมาขัดขวางมิให้พวกเขาเข้าเมือง กล่าวว่าพวกเขาใช้ถ้วยชาต่อจากคนที่ติดเชื้อโรคระบาด พวกเขาต้องติดโรคระบาดแล้วแน่นอน แค่ยังไม่แสดงอาการเท่านั้น เชื้อพระวงศ์มีสองทางให้พวกเขาเลือก…ทางแรกคือไปรักษาตัวที่โรงพักรักษาตัวนอกเมือง ทางที่สองคือไปอยู่ที่เมืองอันซุ่น เหตุนี้ท่านหมอจูจึงรีบเอายาไปให้เมืองอันซุ่นพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้ากล่าวเหลวไหล”

เชื้อพระวงศ์เหล่านั้นหันไปจ้องเยว่เฉวียนหย่งตาเขม็ง

“แม่ทัพเยว่ ท่านได้เงินจากหมอจูเท่าใดกันถึงได้กล้าใส่ร้ายเชื้อพระวงศ์เพื่อคนทรยศแคว้นเช่นนี้ หรือว่าเจ้าเป็นคนทรยศเช่นเดียวกับหมอจูผู้นั้น! เจ้าอยากให้ต้าเยี่ยนแพ้เดิมพันจะได้กลายเป็นชาวบ้านของต้าโจวเร็วๆ อย่างนั้นสินะ!”

“ผู้สำเร็จราชการ!”

เยว่เฉวียนหย่งไม่อยากสนทนากับเหล่าเชื้อพระวงศ์อีก เขากล่าวขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดทั้งสิ้น

“ข้าเยว่เฉวียนหย่งกล้าสาบานว่าทุกคำที่ข้ากล่างคือเรื่องจริง หากข้าโกหกแม้แต่คำเดียวขอให้สวรรค์ลงโทษให้ข้าติดเชื้อโรคระบาดจนตายพ่ะย่ะค่ะ”

เชื้อพระวงศ์ถลึงตาใส่เยว่เฉวียนหย่ง จากนั้นกล่าวเสียงรอดไรฟัน

“ผู้ใดสาบานไม่เป็นบ้างกัน คำกล่าวลอยๆ เช่นนี้จะถือเป็นหลักฐานได้อย่างใด ช่างน่าขันยิ่งนัก เช่นนั้นต่อไปเวลาทางการตัดสินคดีก็แค่สาบานก็สิ้นเรื่องอย่างนั้นสินะ! คงไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานและพยานแล้ว”

“เจ้า…”

แม้เยว่เฉวียนหย่งจะไม่กลัวอำนาจของเชื้อพระวงศ์ ทว่า เขาไม่อาจเถียงกลับได้เช่นเดียวกัน เขาโค้งกานคำนับเซียวหรงเหยี่ยนอีกครั้ง จากนั้นใช้มือตบอกตัวเองอย่างแรง

“หากผู้สำเร็จราชการไม่เชื่อ สามารถส่งคนไปตรวจสอบเรื่องนี้ในเมืองได้พ่ะย่ะค่ะ หากเยว่เฉวียนหย่งโกหก ข้ายินดีรับโทษไปพร้อมกับท่านหมอจูพ่ะย่ะค่ะ”

เยว่เฉวียนหย่งคือคนห่ามและใจกล้า เมื่อเห็นแม่ทัพคุ้มกันเมืองก้มหน้าต่ำกว่าเมจึงไม่คิดดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นมาเขารับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวก็พอ แม้เขาจะดูถูกความขี้ขลาดของแม่ทัพคุ้มกันเมือง ทว่า เขาไม่จำเป็นต้องลากผู้อื่นมาเดือดร้อนด้วยดังนั้นเยว่เฉวียนหย่งจึงไม่ได้บังคับให้แม่ทัพคุ้มกันเมืองกล่าวความจริงออกมา

เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนยังนิ่งเหมือนเคย เยว่เฉวียนหย่งล่วงเกินเชื้อพระวงศ์ไปแล้ว เขาจึงไม่กลัวที่จะล่วงเกินหนักกว่าเดิม เขากล่าวขึ้นต่อ

“เมื่อกี้ท่านบอกว่าผู้ใดก็สาบานได้ คำสาบานเป็นเพียงลมปากเท่านั้น ทว่า ข้าไม่เห็นพวกท่านออกมาสาบานแม้แต่คนเดียว พวกท่านกลัวสิ่งใดอย่างนั้นหรือ”

“เจ้ามันคนห่าม ไม่คู่ควรที่จะสนทนากับข้า! เจ้ามันไม่รู้เรื่องอันใดสักอย่าง แค่ไม่อยากเสียเวลาลดตัวไปคุยกับเจ้า!”

เชื้อพระวงศ์คนหนึ่งเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยน

“ผู้สำเร็จราชการได้โปรดวินิจฉัยด้วย พวกเราล้นทำไปเพื่อแคว้นต้าเยี่ยน พวกเราคือคนของตระกูลมู่หรง พวกเราไม่อยากให้แผ่นดินของต้าเยี่ยนตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นอยู่แล้ว พวกเราทุกคนกล้าสาบานว่าที่พวกเราทำไปทั้งหมดล้วนทำไปเพราะอยากให้ต้าเยี่ยนชนะการเดิมพันทั้งสิ้น หากกล่าวโกหกแม้แต่คำเดียวขอให้กระหม่อมไม่ตายดี! ที่พวกเราไม่กล่าวออกมาก่อนหน้านี้เพราะไม่อยากให้ผู้อื่นคิดว่าพวกเราทำเพราะหวังผลเท่านั้น”

“ใช่แล้วผู้สำเร็จราชการ เจ้าเมืองน่าจะไม่ได้ขอบำเหน็จให้พวกเราเพราะเรื่องโรคระบาด ทว่า เป็นเพราะพวกเรากำลังพยายามเพื่อชัยชนะของต้าเยี่ยนต่างหาก”

เชื้อพระวงศ์คนหนึ่งกล่าวพลางมองไปทางเจ้าเมือง

เจ้าเมืองรีบรับคำทันที

เมื่อเยว่เฉวียนหย่งโวยวายขึ้นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์จึงคิดวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ออก เขาแก้ตัวเรื่องที่เจ้าเมืองขอบำเหน็จให้พวกเขาได้สำเร็จ พวกเขาไม่ได้ทำให้ชาวบ้านต้าเยี่ยนเดือดร้อน พวกเขากำลังช่วยให้ต้าเยี่ยนที่อ่อนแอกว่าต้าโจวชนะการเดิมพันในครั้งนี้ ที่สำคัญเรื่องที่พวกเขาทำเห็นผลได้อย่างชัดเจน ต่อให้ผู้สำเร็จราชการจะโมโหก็คงไม่ลงโทษพวกเขาหนัก เชื้อพระวงศ์เหล่านี้ล้วนคิดเช่นนี้เหมือนกันทุกคนเซียวหรงเหยี่ยนกระแทกถ้วยชาลงบนโต๊ะอย่างแรง

“ความดีความชอบอย่างนั้นหรือ! พวกเจ้าคิดว่าสิ่งที่พวกเจ้าและเจ้าเมืองทำคือสิ่งที่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ”

“กระหม่อมไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ!”

เจ้าเมืองรีบก้มศีรษะแนบพื้น

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท