บทที่ 910 เจิงมู่ (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“ปีศาจร้าย​จาก​ที่ใด​! บังอาจ​มาบุก​เผ่า​เวท​เจิงมู่ของ​พวกเรา​!”

ร่าง​เงาสีเขียว​หลาย​สาย​พุ่ง​เข้ามา​ ก่อน​จะทิ้งตัว​ลง​บน​พื้น​อย่าง​แรง​ ร่าง​เงาถือ​ไม้เท้า​หงิกงอ​หยาบ​ใหญ่​ไว้​ใน​มือ​ ร่างกาย​หนักอึ้ง​ ตอน​ร่อน​ลง​บน​พื้น​ไม่ได้​ใช้อาคม​อิทธิฤทธิ์​ใดๆ​ แต่กลับ​กระแทก​พื้น​จน​เกิด​เสียงดัง​หนัก​ทึบ​

“จอม​เวท​หรือ​” ลู่​เซิ่งพลิก​ดาบ​

ฟ้าว!​

หงส์​เพลิง​อีก​ตัว​บิน​ออก​มาจาก​คม​ดาบ​ ร่วม​กันสาด​แสงกับ​หงส์​เพลิง​ตัว​ก่อนหน้า​ หงส์​เพลิง​สอง​ตัว​พุ่ง​ใส่จอม​เวท​กลุ่ม​นี้​ทั้ง​ซ้าย​และ​ขวา​

“นี่​เป็นไฟ​อัคคี​เทพ​ทักษิณ​! ขวาง​มัน​ไว้​!”

นัก​เวท​คน​หนึ่ง​ที่​มีความรู้​กว้างขวาง​ จดจำ​ไฟแข็งแกร่ง​ชนิด​นี้​ได้​ทันที​

“อัคคี​เทพ​ทักษิณ​! ไฟแห่ง​การ​คืนชีพ​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​! มีแต่​หงส์​เพลิง​เท่านั้น​ที่จะ​ใช้ได้​ไม่ใช่หรือ​…”

“ตอนนี้​ไม่ใช่เวลา​มาคิด​เรื่อง​พวก​นี้​ กำจัด​มัน​ก่อน​!”

จอม​เวท​หลาย​คน​สืบเท้า​ขึ้นหน้า​ ปลาย​ไม้เท้า​ปรากฏ​หมอก​สีเขียว​ครึ้ม​เรืองแสง​แวววาว​

“ไป!”

หมอก​แสงสีเขียว​หลาย​กลุ่ม​ปะทะ​กับ​หงส์​เพลิง​สอง​ตัวอย่าง​จัง สีเขียว​แดง​ต่าง​สูสี หักล้าง​ซึ่งกันและกัน​

“พลัง​จาก​เทพ​พฤกษา​ พลัง​ฟื้นฟู​สรรพสิ่ง​ จงเปลี่ยน​เปลวเพลิง​ให้​เป็น​ชีวิต​ใหม่​เถิด​!”

จอม​เวท​ที่​แก่​ที่สุด​ร่าย​บท​สวด​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​

ฉับพลัน​นั้น​มีคลื่น​ไร้​รูปร่าง​สาย​หนึ่ง​มายัง​หมอก​แสงสีเขียว​กลางอากาศ​ สีเขียว​เริ่ม​เดือด​พล่าน​และ​ขยาย​ใหญ่​ ครอง​ความได้เปรียบ​ ค่อยๆ​ สะกด​อัคคี​เทพ​ทักษิณ​

“ดูท่า​แล้ง​คง​ไม่ไหว​…นี่​เป็น​พลัง​ทั้งหมด​ของ​เรา​แล้ว​” ลู่​เซิ่งกำ​ดาบ​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​อย่าง​ไม่พอใจ​

เขา​ปลดปล่อย​อานุภาพ​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ของ​อิทธิฤทธิ์​ออกมา​แล้ว​ แต่กลับ​ถูก​ตัว​ละครเล็ก​ๆ ที่​ไม่เคย​เห็น​มาก่อน​แค่​ไม่กี่​คน​ต้านทาน​ไว้​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

ดูเหมือน​ขีดจำกัด​ของ​อิทธิฤทธิ์​ที่​รับ​สืบทอด​ทาง​สายเลือด​น่าจะ​มีเพียงแค่​เท่านี้​แล้ว​ ทำได้​เพียง​ฝืน​รับมือ​การ​ผนึก​กำลัง​ของ​จอม​เวท​ที่อยู่​ใต้​บรรพชน​เวท​เท่านั้น​ สิ่งที่จะ​ตัดสิน​ผล​แพ้ชนะ​ได้​อย่าง​แท้จริง​นั้น​อยู่​ที่​ตัว​เขา​แล้ว​

เขา​สืบเท้า​ขึ้นหน้า​ พุ่ง​ใส่จอม​เวท​ดุจ​สายฟ้า​ฟาด​

“ฆ่ามัน​ซะ!”

หมอก​แสงสีเขียว​หลาย​กลุ่ม​พุ่ง​เข้าใส่​เขา​ ทว่า​ลู่​เซิ่งหลบ​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

“ไม้เขียว​ร่วงหล่น​!”

จอม​เวท​ชรา​ที่​นำ​กลุ่ม​ชูไม้เท้า​ขึ้น​ แสงสีเขียว​เจิดจ้า​กลุ่ม​หนึ่ง​ระเบิด​เหนือ​ไม้เท้า​ทันที​ ต้นไม้​ยักษ์​สีเขียว​ต้น​หนึ่ง​พุ่ง​ออก​มาจาก​แสงสีเขียว​และ​เข้าหา​ลู่​เซิ่งอย่าง​รุนแรง​

“นี่​คือ​ราก​แห่ง​ไม้วสันต์​อัน​มีพลัง​ที่​ยิ่งใหญ่​! ทุ​กราก​หนัก​เป็น​หลาย​สิบ​เท่า​ของ​ต้นไม้​ขนาด​เดียวกัน​! ขอ​ดู​หน่อย​เถิด​ว่า​เจ้าจะต้านทาน​อย่างไร​!” จอม​เวท​ชรา​ต้อง​ใช้น้ำพักน้ำแรง​อย่าง​มาก​ ถึงจะร่าย​อาคม​นี้​ออกมา​ได้​

ต้นไม้​ยักษ์​เส้นผ่าศูนย์กลาง​กว่า​สิบ​หมี่​พุ่ง​ปะทะ​ลู่​เซิ่งอย่าง​รุนแรง​ แต่เพียง​พริบตา​ที่​เกือบจะ​ถึงตัว​ ดาบ​เพลิง​ใน​มือ​ลู่​เซิ่งพลัน​ระเบิด​ออก​ ด้วย​แรง​ระเบิด​ได้​ผลัก​เขา​ไปทางขวามือ​ หลบ​พ้น​ไม้เขียว​ร่วงหล่น​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

“ต่อไป​”

ฉัวะ​

เสียงดัง​ขึ้น​แผ่วเบา​ ดาบ​เพลิง​ปรากฏ​ใน​มือ​ลู่​เซิ่ง ก่อน​จะตวัด​เฉือน​คอ​จอม​เวท​ชรา​

อัคคี​เทพ​ทักษิณ​ลุกไหม้​โหมกระหน่ำ​ปกคลุม​จอม​เวท​ชรา​ไว้​ แค่​สอง​วินาที​ก็​กลายเป็น​เศษผง​ธุลี​

เมื่อ​จอม​เวท​ชรา​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ตาย​ไปแล้ว​ เผ่า​เวท​ที่​เหลือ​ต่าง​ตกใจ​ตื่นตระหนก​จน​มือ​ไม้พัลวัน​ วิ่ง​เตลิด​หนี​ ก่อน​จะถูกลู่​เซิ่งเสก​ไฟออกมา​ไล่​เผา​ทีละ​คน​อย่าง​ง่ายดาย​

“ดูเหมือน​ระดับ​แก่น​ทองคำ​จะไม่ได้​เพิ่ม​พลัง​ให้​เรา​เท่าไร​ เทียบ​กับ​การ​เพิ่ม​พลัง​ทำลาย​ไว้​บน​คม​ดาบ​แล้ว​ พลัง​ปีศาจมหาศาล​ก็​ไม่มีประโยชน์​อะไร​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​แสดง​อานุภาพ​ระดับ​หงส์​ไฟแบบ​เมื่อกี้​เท่านั้น​ และ​อานุภาพ​แค่นั้น​ยัง​สู้จอม​เวท​พวก​นั้น​เลย​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​”

ตอนนี้​ลู่​เซิ่งรู้​แล้ว​ว่า​ใช้ประโยชน์​จาก​พลัง​ปีศาจไม่ได้​มาก​นัก​ จึงถือโอกาส​ถือ​ดาบ​เพลิง​มุ่งหน้า​ต่อไป​

คน​ของ​เผ่า​เจิงมู่พุ่ง​ออกมา​เป็น​กลุ่ม​ๆ บ้าง​ก็​โถมตัว​เข้าหา​เขา​ บ้าง​ก็​หนี​กระเจิดกระเจิง​

แต่​ไม่ว่า​จะเป็น​พวก​ที่​หลบหนี​หรือ​พุ่ง​เข้ามา​ ก็​ไม่อาจ​หลีกเลี่ยง​ชะตาชีวิต​แสน​รันทด​ถูก​เพลิง​เผา​เป็นจุณ​ไปได้​

อานุภาพ​อัน​แข็งแกร่ง​ของ​อัคคี​เทพ​ทักษิณ​เผย​ออกมา​อย่าง​หมดจด​ ไม่ว่า​จะเป็น​มนุษย์​หรือ​สิ่งใด​ ก็​ไม่อาจ​ทน​อยู่​ท่ามกลาง​กอง​เพลิง​ได้​นาน​ ถูก​เผาไหม้​เป็น​เถ้าถ่าน​ใน​พริบตาเดียว​

ใน​ฐานะ​หนึ่ง​ใน​สิบ​มหา​เพลิง​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​ฟ้าดิน​นี้​ มัน​ยัง​เป็น​เปลวไฟ​คู่ชีวิต​ของ​เผ่า​หงส์​เพลิง​อีกด้วย​ อานุภาพ​ของ​อัคคี​ชนิด​นี้​จะเพิ่มขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ตาม​ความบริสุทธิ์​ เพียงแต่​ตอนนี้​ลู่​เซิ่งมีพลัง​ปีศาจไม่มาก​พอ​ ทำให้​เปลวเพลิง​อัคคี​จึงมีอิทธิฤทธิ์​ได้​แค่นี้​

ส่วน​การ​ร่าย​เปลวเพลิง​นั้น​เปลือง​พลัง​มากมาย​มหาศาล​การ​ผลาญ​พลัง​ของ​ยัง​น่ากลัว​สุดขีด​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​ลู่​เซิ่งแตกต่าง​จาก​คน​ทั่วไป​ ด้วย​คุณสมบัติ​ร่างกาย​กับ​การ​หล่อเลี้ยง​อัน​พิเศษ​ของ​เขา​ แก่น​ทองคำ​ที่​รวมตัว​จึงมีปราณ​ปีศาจมหาศาล​ เกรง​ว่า​แค่​จะร่าย​อัคคี​เทพ​ทักษิณ​เพียง​เล็กน้อย​ ก็​คง​ถูกรีด​พลัง​จน​ตัว​แห้ง​อย่าง​ง่ายดาย​

จึงไม่อาจ​กำจัด​จอม​เวท​ชรา​ระดับ​แก่น​ทองคำ​มากมาย​ขนาด​นี้​ได้​

เพลิง​สีแดง​เจือ​ทอง​ลาม​ไปทั่ว​ป่าอย่าง​ต่อเนื่อง​ ไม่นาน​ต้นไม้​ยักษ์​โดยรอบ​ก็​ลุกไหม้​ หัก​โค่น​ถล่ม​ลง​

ลู่​เซิ่งถือ​ดาบ​เพลิง​ ร่าง​วูบ​ไหว​เข้าไป​ใน​ดินแดน​ของ​เผ่า​เจิงมู่

กระท่อม​มากมาย​สร้าง​ขึ้น​จาก​ต้นไม้​และ​เถาวัลย์​จัดเรียง​เป็น​วงกลม​ขนาดใหญ่​ เป็น​ค่าย​ใหญ่​ของ​เผ่า​เจิงมู่

จอม​เวท​เจิงมู่ขี่​หมอก​แสงสีเขียว​กลุ่ม​ใหญ่​ลง​มาจาก​ฟ้า ส่งเสียง​ตะโกน​กึกก้อง​

เขา​เพิ่ง​ไปเยี่ยมเยือน​สหาย​ พอ​กลับมา​ก็​เห็น​สภาพ​น่าอนาถ​เช่นนี้​ เพลิง​โทสะ​พลัน​ลุกโชน​

“ผู้ใด​! เจ้าเป็น​ใคร​กัน​แน่​! บังอาจ​บุก​เผ่า​ในสังกัด​เทพ​พฤกษา​ของ​ข้า​!”

ลู่​เซิ่งเห็น​หมอก​สีเขียว​กลุ่ม​ใหญ่​มาแต่ไกล​ ก็​รู้​ว่า​ผู้มีอำนาจ​ของ​ที่นี่​มาถึงแล้ว​

“ได้ยิน​มาว่า​พวก​เจ้าต้องการ​น้ำยา​คืน​ความรุ่งโรจน์​ของ​ลัทธิ​แสงสว่าง​หรือ​” เขา​เอ่ย​เสียง​ไม่ดัง​ไม่เบา​ ด้านใน​เผ่า​เวท​ที่​ถูก​เปลวเพลิง​โอบล้อม​ล้วน​ได้ยิน​

คนใน​เผ่า​เวท​ที่​เหลือ​รอด​ต่าง​ก็​ได้ยิน​ประโยค​นี้​

“น้ำยา​คืน​ความรุ่งโรจน์​หรือ​ เป็น​พวก​เจ้านี่เอง​! ลัทธิ​แสงสว่าง​” จอม​เวท​เจิงมู่พลัน​โกรธ​เกลี้ย​ว​ ยกมือ​เสก​หมอก​เขียว​ขรึม​ผืน​หนึ่ง​ แมลง​สีขาว​เล็ก​ละเอียด​นับไม่ถ้วน​อยู่​เต็ม​หมอก​เขียว​ กด​ทับ​ใส่ลู่​เซิ่งอย่าง​หนักหน่วง​ดุจ​กำแพง​เขียวขจี​

กำแพง​เขียว​เพิ่ง​ลอย​ไปจาก​มือ​ ก็​ขยาย​ใหญ่​ขึ้น​เรื่อยๆ​ พริบตาเดียว​ก็​ใหญ่​ขึ้น​เป็น​หลาย​สิบ​หมี่​

“มาก็ดี​!” ลู่​เซิ่งมองออก​ทันที​ว่า​กำแพง​นี้​ไม่ใช่สิ่งที่​อิทธิฤทธิ์​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​จะต้านทาน​ได้​

แต่​ไม่เป็นไร​ เขา​ลู่​เซิ่งไม่เคย​พึ่งพา​อิทธิฤทธิ์​อยู่แล้ว​

ขอบเขต​ระดับ​ปรมาจารย์​ มาพร้อมกับ​สายตา​แสน​แม่นยำ​ พลัง​สู้รบ​ประมือ​อัน​แข็งแกร่ง​ รวมถึง​พลัง​ทำลายล้าง​ที่​เด็ดขาด​สามารถ​เจาะช่องโหว่​ได้​โดยตรง​

ขอบเขต​แบบนี้​สามารถ​แสดง​พลัง​หนึ่ง​ส่วน​ได้​เป็น​สิบ​ส่วน​ อาจ​ถึงขั้น​หลาย​สิบ​ส่วน​ ขอ​แค่​อีก​ฝ่าย​มีช่องโหว่​มาก​พอ​ ขอบเขต​นี้​ก็​จะมีผล​มาก​ตาม​ไปด้วย​

กำแพง​เขียว​มหึมา​ดูเหมือน​เหี้ยมหาญ​ร้ายกาจ​ แต่​ใน​สายตา​ลู่​เซิ่ง มัน​เป็น​เพียง​ตาข่าย​เขียว​ที่​มีช่อง​ใหญ่​จน​น่าแปลกใจ​เท่านั้น​

“มรรคา​ยุทธ์​ทำลายล้าง​ใน​พริบตา​ เผชิญ​นภา​!” ลู่​เซิ่งย่อ​ตัว​พุ่ง​ไปด้านหน้า​ ดาบ​เพลิง​ใน​มือ​แทง​ใส่กำแพง​เขียว​เบา​ๆ กำแพง​เขียว​ขนาดใหญ่​พลัน​ถล่ม​ลง​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​

เขา​พุ่ง​ผ่าน​หมอก​เขียว​หลาย​กลุ่ม​ที่​กำลัง​ถล่ม​ลงมา​ พริบตาเดียว​ก็​เข้าถึง​ตัว​จอม​เวท​เจิงมู่ ก่อน​จะฟันดาบ​เข้าใส่​

“รนหาที่​ตาย​!” จอม​เวท​เจิงมู่หัวเราะ​ลั่น​ ยกมือ​ป้องกัน​ไว้​

เค​ร้ง!​

ดาบ​เพลิง​ที่​ฟัน​โดน​แขน​เจิงมู่ กลับ​ส่งเสียง​ทึบ​หนัก​เหมือน​โลหะ​กับ​ไม้ปะทะ​กัน​ บน​แขน​เจิงมู่มีรอย​ขาว​เพิ่ม​มาสาย​หนึ่ง​ ควัน​ขาว​ผุด​ขึ้น​มา ก่อน​จะกลับมา​เป็นปกติ​โดยสิ้นเชิง​

ลู่​เซิ่งถูก​พลัง​มหาศาล​สะท้อน​จน​ร่าง​ปลิว​ออก​ไป

“กาย​เนื้อ​แข็ง​ดี​จริงๆ​!” แทนที่จะ​ตกใจ​เขา​กลับ​ยินดี​ ทิ้งตัว​ลง​บน​ลำ​ต้นไม้​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไปอย่าง​แผ่ว​พลิ้ว​ ก่อน​จะยืน​นิ่ง​ไม่ไหวติง​

อย่างไร​คัมภีร์​จิต​งามเลิศ​ที่​เขา​ฝึกฝน​ ก็​เป็น​เพียง​คัมภีร์​ฝึกฝน​ทั่วไป​ ต่อให้​ผ่าน​การเรียนรู้​และ​เสริม​ความ​แข็งแกร่ง​โดย​เขา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ มัน​ก็​แค่​ยกระดับ​จาก​ทั่วไป​เป็น​โดดเด่น​เท่านั้น​

วิชา​ที่​โดดเด่น​ย่อม​สู้จอม​เวท​เจิงมู่ไม่ได้​ กอปร​กับ​ตัว​จอม​เวท​มีขอบเขต​สูงกว่า​ลู่​เซิ่งไม่น้อย​

เมื่อ​สู้กัน​ เจิงมู่ย่อม​เป็น​ฝ่าย​ได้เปรียบ​

ถ้าไม่ใช่เพราะ​ลู่​เซิ่งมีขอบเขต​ปรมาจารย์​ ก็​อาจ​ถึงขั้น​ไม่มีสิทธิ์​เข้าไป​สู้ระยะ​ประชิด​ด้วยซ้ำ​ แค่​อยู่ห่างๆ​ ก็​ถูก​วิชา​เวท​จัดการ​ได้​แล้ว​

“เจ้าไปฝึก​กาย​เนื้อ​ให้​แข็งแกร่ง​แบบนี้​ได้​อย่างไร​ บอก​ข้า​ได้​หรือไม่​” ลู่​เซิ่งมอง​เจิงมู่อย่าง​สนอกสนใจ​พลาง​ถาม

“ฝึก​หรือ​ ย่อม​ไม่ใช่ นี่​เป็น​สิ่งที่​ได้มา​ตั้ง​แต่กำเนิด​ เป็น​พร​อัน​ประเส​ริบ​ของ​เทพ​พฤกษา​! เป็นการ​สะท้อน​จาก​สายเลือด​ สายเลือด​เทพ​ปีศาจอย่าง​เจ้า ไม่มีทาง​เข้าใจ​ความยิ่งใหญ่​ของ​เผ่า​เวท​หรอก​!” เจิงมู่หัวเราะ​ลั่น​

“พรสวรรค์​หรือ​” ลู่​เซิ่งพลัน​เข้าใจ​ สิ่งนี้​ไม่ใช่สิ่งที่​ได้​มาจาก​การฝึกฝน​

“เจ้าเป็น​จอม​เวท​ก็​แข็งแกร่ง​ขนาด​นี้​แล้ว​ บรรพชน​เวท​ไม่สูงสุด​เลย​หรือ​อย่างไร​” เขา​เปลี่ยน​คำถาม​

“ความสามารถ​ของ​บรรพชน​เวท​เหนือกว่า​ข้า​เป็น​หมื่น​พัน​เท่า​! ปีศาจอย่าง​เจ้ากล้า​วิจารณ์​บรรพชน​เวท​หรือ​ รนหาที่​ตาย​จริงๆ​!” เจิงมู่บัน​ดาลโทสะ​ พร้อมกับ​พุ่ง​เข้า​มาหา​ลู่​เซิ่ง เขา​มีกาย​เนื้อ​แข็งแกร่ง​สุด​อย่าง​หา​ที่ใด​เปรียบ​! เร็ว​ดุจ​สายฟ้า​ฟาด​

เมื่อ​รู้​ว่า​อาคม​ไม่ได้ผล​ เขา​ก็ได้​แต่​สู้ด้วย​กาย​เนื้อ​แล้ว​!

ด้วย​กาย​เนื้อ​ของ​เขา​ อย่า​ว่าแต่​ปีศาจน้อย​ระดับ​แก่น​ทองคำ​ ต่อให้​เป็น​ระดับ​ทารก​กำเนิด​ ก็​ไม่อาจ​ทำร้าย​เขา​ได้​

เมื่อ​มีสายเลือด​ของ​บรรพชน​เวท​โก​ว​หมาง​ผู้​เป็น​เทพ​วสันต์​และ​เทพ​พฤกษา​ เขา​ยัง​มีพลัง​คืนชีพ​ที่​แข็งแกร่ง​อีก​ หาก​ได้รับบาดเจ็บ​ขึ้น​ แค่​หายใจ​ไม่กี่​เฮือก​ก็​กลับ​เป็นปกติ​แล้ว​

ลู่​เซิ่งย่อม​ไม่หลบ​ ทั้ง​ยัง​พุ่ง​เข้า​ไปหา​ระยะ​ประชิด​อีกด้วย​

ดาบ​เพลิง​ตาม​ไล่​ฟัน​จอม​เวท​เจิงมู่อย่าง​ต่อเนื่อง​จน​เกิด​รอย​ขาว​มากมาย​ ทว่า​แม้แต่​รอย​ขาว​ก็​สมาน​ตัวอย่าง​รวดเร็ว​เช่นกัน​

ลู่​เซิ่งยังคง​ฟาดฟัน​ติดต่อกัน​แต่​ก็​ไร้ผล​ ทั้ง​ยัง​ต้อง​หลบ​การ​โจมตี​ของ​อีก​ฝ่าย​อีก​ จอม​เวท​มีพละกำลัง​น่า​สะพรึง​แกร่ง​กว่า​ตัว​เขา​ใน​ตอนนี้​อย่าง​น้อย​สามเท่า​

ฝ่ามือ​ตวัด​ตบ​ลงมา​ หาก​เขา​ไม่เบี่ยง​หลบ​ก็​ต้อง​ใช้ดาบ​เพลิง​ปัด​เพื่อ​เปลี่ยน​ทิศทาง​

เขา​ตาม​ความเร็ว​อีก​ฝ่าย​ไม่ทัน​ แต่​ด้วย​เพราะ​ขอบเขต​ที่​ยัง​สูง เลย​สามารถ​เบี่ยง​หลบ​และ​ออก​กระบวนท่า​ได้​ก่อน​

ทั้งสอง​ต่อสู้​ระยะ​ประชิด​ อัคคี​เทพ​ทักษิณ​กระจัดกระจาย​ออก​ไปหักล้าง​กับ​หมอก​เขียว​ที่​จอม​เวท​คนอื่น​ร่าย​ออกมา​ตลอดเวลา​

“ยอมแพ้​เสียเถอะ​ เป็น​เพียง​นก​พันธุ์​ที่​ดีแต่​หลบ​ ถึงกับ​กล้า​บุก​เผ่า​เจิงมู่ของ​ข้า​ ดูเหมือน​เทพ​ปีศาจของ​อาราม​อาทิตย์​จันทรา​จะไม่ได้​สั่งสอน​เจ้าว่า​ทำ​อะไร​ให้​ควร​ประมาณตน​!” จอม​เวท​เจิงมู่หัวเราะ​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ร่าง​เริ่ม​ขยาย​ใหญ่​อย่าง​รวดเร็ว​ พริบตาเดียว​ก็​ใหญ่​ขึ้น​เป็น​ห้า​เท่า​จากร่าง​เดิม​

ฝ่ามือ​เหมือน​ยักษ์​ขนาดย่อม​ฟาด​ลง​ใส่ลู่​เซิ่งอย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ ความเร็ว​และ​พลัง​เหนือกว่า​เมื่อ​ครู่​มาก​โข​

ลู่​เซิ่งปรับตัว​ไม่ทัน​กับ​ความเร็ว​ที่​เพิ่มขึ้น​อย่าง​กะทันหัน​จึงหลบ​ไม่พ้น​ พลัน​ถูก​กระบวนท่า​โดน​ฝ่ามือ​ฟาด​ใส่ทรวงอก​อย่าง​จัง

ตูม​!

ร่าง​เขา​ฝังลง​ไปกับ​พื้น​ กลายเป็น​หลุม​ดิน​ลึก​กว่า​สิบ​หมี่​

“ตาย​แล้ว​หรือ​” จอม​เวท​เจิงมู่เดิน​กวาดตา​มอง​ลง​ไป

ใน​หลุม​ควัน​ตลบ​ เพลิง​เผาไหม้​ดิน​ก้อนหิน​ ฝุ่นผง​มากมาย​กระจัดกระจาย​ บดบัง​สายตา​ของ​เขา​จน​มอง​อะไร​ไม่เห็น​

ลู่​เซิ่งนอน​นิ่ง​อยู่​ที่​ก้น​หลุม​ เหม่อมอง​ท้องฟ้า​อย่าง​ซึมเซา

“ข้า​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​เนี่ย​”

“ทดลองใช้​ร่างกาย​ที่​เสียเปรียบ​ไปเอาชนะ​คู่ต่อสู้​ที่​ได้เปรียบ​หรือ​”

เขา​พลัน​หวน​นึกถึง​ตอนที่​ยัง​อ่อนแอ​ ตน​ใน​ตอนนี้​มีพลัง​ต้อยต่ำ​ ตัวเลือก​ที่​ถูกต้อง​คือ​กลับ​ไปฝึกฝน​ หลังจาก​ยกระดับ​พลัง​จน​บดขยี้​อีก​ฝ่าย​ได้​ ค่อย​จัดการ​ทุกอย่าง​อีกครั้ง​

“ถึงแม้ตอนแรก​จะนึกไม่ถึง​ว่า​ร่างกาย​ของ​จอม​เวท​จะแข็งแกร่ง​ขนาด​นี้​ก็​เถอะ​ แต่​สภาพ​ใน​ตอนนี้​…มัน​ช่าง…น่าสมเพช​จริงๆ​…” ลู่​เซิ่งเอื้อมมือ​ไว้​ตรงหน้า​

“ช่างเถอะ​…ใน​เมื่อ​คัมภีร์​จิต​งามเลิศ​ยัง​จัดการ​อีก​ฝ่าย​ไม่ได้​ อย่างนั้น​ก็​ใช้สายเลือด​หงส์​เพลิง​ก็แล้วกัน​”

ตูม​!

ทันใดนั้น​จอม​เวท​เจิงมู่ก็​ฟาด​ฝ่ามือ​ใหญ่​ลงมา​

มือมืด​ดำ​คลุม​ฟ้าพราง​ดิน​นั้น​ ราวกับ​ปกคลุม​ท้องฟ้า​เอาไว้​

“ตาย​เสีย​”

“หงส์​เพลิง​!”

ลู่​เซิ่งลืมตา​ ร่างกาย​ลุกไหม้​กลายเป็น​หงส์​เพลิง​เจิด​จรัส​บินขึ้น​ท้องฟ้า​

ใน​เมื่อ​ร่าง​มนุษย์​จัดการ​ไม่ได้​ เช่นนั้น​ก็​คืน​ร่าง​จริง​ พลัง​ร่าง​จริง​ของ​เผ่า​ปีศาจเป็น​สิบ​กว่า​เท่า​ของ​ร่าง​จำแลง​

หงส์​เพลิง​ขนาด​ยักษ์​พุ่ง​กระแทก​ฝ่ามือ​ยักษ์​จน​กระเด็น​ สยาย​ปีก​กลางอากาศ​ ก่อน​จะก้ม​มอง​จอม​เวท​เจิงมู่

“เจ้า…!” เจิงมู่เบิก​ตาโต​ ถอยหลัง​ไปหลาย​ก้าว​ถลึงตา​จ้องมอง​ลู่​เซิ่ง สายเลือด​หงส์​เพลิง​บริสุทธิ์​ระดับ​นี้​ ช่างน่า​เหลือเชื่อ​จริงๆ​! เหมือนกับ​หงส์​เพลิง​ตัวจริง​อย่างไร​อย่างนั้น​!

“ขอโทษ​ที​ ข้า​เบื่อ​แล้ว​” ดวงตา​ของ​ลู่​เซิ่งฉายแวว​เฉยชา​

และ​ความทรงจำ​สุดท้าย​ของ​เจิงมู่ก็​คือ​ กรงเล็บ​แหลม​สีทอง​น่ากลัว​ตะปบ​ลง​มาจาก​ฟากฟ้า​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท