บทที่ 29 สังหารหรือช่วยชีวิต
ยิ่งไปกว่านั้น ยังพูดพึมพำกับตนเองว่า “ยายเมิ่งยิงจวน นั่นยายเมิ่งยิงจวน!”
“ฮัวหยู่อัน ชื่อเจ้าอยู่บนรายชื่อยมราช วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแล้วล่ะ” เสียงน่าสะพรึงกลัวอันไร้แก่นสารลอยมา เสียงนั้นราวกับว่ามาจากนรกอเวจี
“ฮะแอ้ม เมื่อกล่าวดังนี้ เช่นนั้นคงไม่เกี่ยวข้องอันใดกับข้าแล้วใช่หรือไม่”
หลานเยาเยามองจ้องตายายเมิ่งยิงจวน ถามอย่างโง่เขลา สองมือทำท่าจะออกวิ่ง
“เจ้า……เจ้าคือผู้ใดกัน”
ในตาของยายเมิ่งยิงจวนมีประกายแปลกใจเล็กน้อย
เจ้าเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าสบสายตากับนางเช่นนี้ พบได้มิบ่อยจริง ๆ
ได้ฟังคำของยายเมิ่ง หลานเยาเยาก็เปลี่ยนความคิด ชี้นิ้วไปยังสตรีนามฮัวหยู่อันที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวขึ้นพลางหัวเราะว่า “ข้าน่ะรึ ข้าเดินผ่านมาน่ะ ข้ามิได้เกี่ยวข้องอันใดกับสตรีนางนี้แม้แต่น้อย เมื่อครู่นางยังอยากจะสังหารข้าอยู่เลย อีกเพียงนิดเดียวข้าก็จะจัดการนางได้แล้ว น่าเสียดาย พวกเจ้ามาเร็วเกินไปเสียหน่อย”
นางจ้องมองฮัวหยู่อันอย่างหัวเสียอยู่มิน้อย ทำให้ฮัวหยู่อันโมโหจนรู้สึกคันไม้คันมือ
“เจ้าหนุ่มโอหัง มือสังหารยิงจวนฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา อีกทั้งวิธีการยังโหดร้ายทารุณเป็นอย่างยิ่งด้วย คนชรา สตรีและเด็ก แม้แต่เด็กที่อยู่ในครรภ์ก็ตาม หากมีชื่ออยู่ในรายชื่อยมราชแล้วล่ะก็ จักต้องตายอย่างอนาถ เจ้าคิดว่าจะรอดมีชีวิตกลับไปได้อย่างนั้นหรือ”
บ้าบอสิ้นดี!
ถึงจะรู้ว่าพวกคนที่แต่งตัวเยี่ยงภูตผีปีศาจพวกนี้ มิน่าจะใช่คนดีอันใด แต่นึกไม่ถึงว่าจะโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้
เพียงแต่ว่าชื่อของนางนั้น ไม่ได้อยู่บนรายชื่อยมราช พวกเขาจะมาสังหารนางได้อย่างไรกัน!
ใจเต้น “ตึกตัก!”
หลานเยาเยาราวกับว่านึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางมองไปยังฮัวหยู่อัน น่าเสียดายที่ยามนี้ฮัวหยู่อันชี้มาที่นาง พลางกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า
“เขาเป็นคนรักของข้าเอง เคยกล่าวไว้ว่าจะปกป้องข้าไปชั่วชีวิต และยังจะไม่มีวันทิ้งข้าไป เขาบอกอีกด้วยว่า ต่อให้ตายก็จะต้องตายไปด้วยกัน”
“หึ……”
หลานเยาเยาอดขำขันกับคำพูดซี้ซั้วของนางมิได้ เรื่องราวเกินจริงถึงเพียงนี้ผู้ใดจะไปเชื่อเล่า!”
เมื่อเป็นเช่นนั้น นางปัดมืออย่างขอไปทีใส่ยายเมิ่งยิงจวนพลางกล่าวขึ้นว่า
“เจ้าดูสิ นางพูดจาน่าขบขันยิ่งนัก นางสวมชุดนินจาสีดำทั้งตัว เห็นเพียงแค่ดวงตาสองข้างเท่านั้น หากมิใช่ว่าข้าคลำไปโดนหน้าอกของนางเข้า แม้แต่คนรักของนางเป็นใครข้าก็ไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำ
นี่ นี่ นี่ ทำไมพวกเจ้ามองข้าอย่างนั้นเล่า ข้ามิใช่คนรักของนางจริง ๆ หากพวกเจ้าไม่เชื่อ ข้าจะสังหารนางด้วยตัวข้าเองก็ได้”
ยามนี้คนพวกนั้น แต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยแรงอาฆาตต่อนาง ไม่ฟังคำอธิบายของนางโดยสิ้นเชิง
“ฮ่า ๆๆ……”
ยายเมิ่งยิงจวนหัวร่อแล้ว จากนั้นยายแก่ก้าวเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ก่อนโยนกระบี่อันแหลมคมสีดำสนิทมายังเบื้องหน้านาง “สังหารนางเสีย พิสูจน์ตัวเจ้าเอง”
“ได้! สบายมาก เดิมทีข้าก็อยากจะสังหารนางอยู่แล้ว”
กล่าวจบ นางย่อตัวลงในทันใด ปราดตาดูกระบี่สั้นสีดำสนิท พลันหรี่ตาลงในชั่วครู่
กระบี่สั้นอันแหลมคมเล่มนี้ นึกไม่ถึงว่าสร้างขึ้นจากกระดูกมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นกระบี่อาบยาพิษที่มีพิษร้ายแรงมากด้วย เมื่อนางกำลังจะยกกระบี่อาบยาพิษขึ้น ก็ได้ยินฮัวหยู่อันกล่าววาจาเหน็บแนมขึ้นว่า
“เจ้าคนเขลา
!”
หลานเยาเยาฮัมในลำคอ ก่อนยกกระบี่อาบยาพิษขึ้นมา
“เคร้ง….”
ครู่เดียวนางก็ชักกระบี่ออกมาจากฝักแล้ว ยิ้มอย่างยินดียิ่งกับความโชคร้ายของนางพลางกล่าวว่า “โง่เขลาแล้วเป็นเช่นไร ท่านอยากลากข้าเข้าไปพัวพันด้วยเอง ท่านว่าอย่างไรเล่า อยากได้รับความสาสมใจหน่อยไหม”
ขณะที่พูด นางก็เดินไปยังฮัวหยู่อันทีละก้าว มือที่ถือกระบี่อาบยาพิษวาดไปบนร่างกายของนางทุกส่วน ราวกับกำลังตัดสินใจว่าจะควรลงมือที่ใดก่อนดี
แม้ว่าฮัวหยู่อันจะไม่กลัวตาย แต่ว่าก่อนที่จะตายก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี
ร่างนางสั่นสะท้านเบา ๆ เดินถอยหลังไปทีละก้าว เดิมทีแววตาที่ตื่นตระหนกเล็กน้อยนั่น มองไปยังกระบี่อาบยาพิษที่อยู่ในมือหลานเยาเยา แล้วอดตะลึงมิได้
เขาสัมผัสกระบี่อาบยาพิษได้โดยไม่เป็นอันใดเลยหรือ
“นี่เจ้า…..”
“ข้าทำไม กลัวแล้วหรือ หึ ๆๆ ถ้าเช่นนั้น ข้าก็จะทำให้เจ้าสาสมใจก็แล้วกัน”
พอกล่าวจบ!
มุมปากของหลานเยาเยายกขึ้น แววตาพลันเฉียบคม แทงตรงไปยังหน้าอกของฮัวหยู่อันอย่างโหดเหี้ยม ฮัวหยู่อันเมื่อเห็นว่าตนถอยจนไปอยู่เบื้องหน้าพวกมือสังหารแล้ว มิอาจก้าวถอยไปได้อีก ก็หลับตาลงอย่างสิ้นหวัง
ยามนี้ กระบี่อาบยาพิษพุ่งมายังบริเวณหน้าอกของฮัวหยู่อันแล้ว หลานเยาเยานำกระบี่อาบยาพิษแหงนขึ้นไปยังเบื้องบนในทันใด กระบี่อาบยาพิษเคลื่อนผ่านลำคอของฮัวหยู่อัน แทงตรงเข้าไปยังหัวใจของมือสังหารที่อยู่ทางเบื้องหลัง
“อ้าก…..”
“ยามนี้มิหนีไป จะรอคอยถึงยามใดกัน”
พอกล่าวจบ หลานเยาเยาก็ดึงกระบี่อาบยาพิษออก ก่อนจะแทงไปยังมือสังหารอีกคนที่เพิ่งจะได้สติกลับคืนมา น่าเสียดายที่การตอบสนองของเขาช้ากว่านาง
เสียงโอดครวญดังขึ้นอีกหนหนึ่ง
ได้ยินเสียงร้องโอดครวญ ฮัวหยู่อันนิ่งงันเบิกตากว้าง มองดูหลานเยาเยาที่ชักกระบี่อาบยาพิษออกด้วยความรวดเร็วอย่างแม่นยำและเหี้ยมโหดอย่างอัศจรรย์ใจ โบกสะบัดมืออันขาวเนียนนุ่มอีกข้าง โปรยผงยาสีขาวโพลนไปยังมือสังหารที่พุ่งมาทางด้านข้างสองคน พอมือสังหารสูดดมแล้วก็สิ้นชีวิตล้มลงบนพื้น
เขา นึกไม่ถึงว่าจะลงมือสังหารเหล่ามือสังหารของยิงจวนสี่คนลงได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ หากเมื่อก่อนหน้านี้ เขาคิดอยากจะฆ่านาง ยามนี้นางก็คงจะตายไปแล้ว
การตอบสนองของฮัวหยู่อันถือว่ารวดเร็วพอตัว พอรู้ว่าเปิดทางให้แล้ว ก็ใช้ดาบสั้นปะทะกับมือสังหารคนหนึ่งที่พุ่งตัวเข้ามา
“อย่ามัวหลงใหลกับการต่อสู้สิ! ไปได้แล้ว!”
หลานเยาเยารู้สึกหมดปัญญาอยู่บ้าง
มีทางหนีแล้ว ฮัวหยู่อันไม่ยอมหนีก็ว่าไปอย่าง นึกไม่ถึงว่าจะไปปะทะกับมือสังหารเหล่านั้นด้วย
ต้องรู้ไว้ว่า คนพวกนี้เป็นผู้ติดตามที่ไม่สำคัญอันใด ผู้ที่ร้ายกาจอย่างยายเมิ่งยิงจวนนั้นยังมิทันได้ลงมือเอง!
ได้ยินเช่นนั้น!
ฮัวหยู่อันพยักศีรษะเข้าใจ จากนั้นหมุนตัวไป พอคิดจะเหาะเข้าไปท่ามกลางหมอกพิษ ในยามนี้เอง ยายเมิ่งยิงจวนที่มองดูด้วยสายตาเยือกเย็นมาตลอดกล่าวขึ้นว่า
“คิดจะหนีอย่างนั้นหรือ ฮ่า ๆๆ….”
ยายแก่นำไม้เท้าหัวอสรพิษเคาะบนพื้นอย่างเหี้ยมโหด ที่ปากอสรพิษพ่นอาวุธลับสีดำสนิทเล่มหนึ่งไปยังฮัวหยู่อันด้วยความเร็วสูง
หลานเยาเยาฮัมอย่างเยือกเย็นในลำคอ พลันโยนกระบี่อาบยาพิษในมือออกไป ความเร็วนั้นนับว่าหาผู้ใดเปรียบมิได้ จากนั้นเสียงดัง “เคร้ง” อาวุธลับชนเข้ากับกระบี่อาบยาพิษ อาวุธลับกระเด็นไป ทว่ากระบี่อาบยาพิษยังคงพุ่งไปทางยายเมิ่งยิงจวนอย่างรวดเร็ว
ยายเมิ่งยิงจวนเบิกตากว้างในทันใด นางประเมินหลานเยาเยาที่ไม่มีกำลังภายในต่ำเกินไปเสียแล้ว เพราะความเลินเล่อชั่วขณะ จึงทำได้เพียงใช้มือปัดป้องกระบี่อาบยาพิษ
อย่างไรก็ดี!
แม้ว่ากำลังภายในของนางจะเหลือล้นยิ่งกว่านี้ ถูกกระบี่อาบยาพิษฟันเข้าไปแล้วรอยหนึ่ง พิษร้ายกำลังจะแผ่ซ่าน นางจึงรีบคลำหายาถอนพิษอย่างรวดเร็ว
“คนที่ข้าอยากจะปกป้อง จะให้เจ้ามาจัดการไปได้อย่างราบรื่นง่ายดายได้อย่างไร!”
ได้ยินเช่นนั้น!
ร่างของฮัวหยู่อันสั่นสะท้านเบา ๆ ปราดตามองหลานเยาเยาด้วยสีหน้าอ้ำอึ้ง จากนั้นจับแขนนางไว้ก่อนจะเหาะหนีไป
ครู่ต่อมา!
หลานเยาเยามองดูไอพิษหนาแน่นที่มีระดับความสูงลดลง ลมแรงที่ปะทะบนใบหน้าราวกับถูกมีดกรีด หลานเยาเยาเดิมทีนั้น รู้สึกตื่นเต้นอยู่มิน้อย พลันคิดถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ กล่าวขึ้นในบัดดลว่า
“อย่าได้บินเป็นเส้นตรง หาไม่ พวกเราคงจะเหาะไปสู่อ้อมอกของยายแม่มดเฒ่าเป็นแน่”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ” ฮัวหยู่อันมองอย่างอดเบิกตากว้างไม่ได้
“นี่เจ้า เจ้าคงมิได้เหาะเป็นเส้นตรงจริง ๆ หรอกนะ” นางรู้สึกหนักอึ้งในใจทันใด รู้สึกถึงลางร้ายในบัดดล พลันตะโกนเสียงดังว่า “รีบหันกลับสิ รีบหันกลับไป หาไม่ก็ต้องตายเป็นแน่”
“ไม่ทันการณ์แล้ว!