หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 45 ความลับที่อยู่ในท้อง

บทที่ 45 ความลับที่อยู่ในท้อง

บทที่ 45 ความลับที่อยู่ในท้อง

อีกคนหนึ่งกลับนั่งแคะโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะว่าตรงหน้าเขามีเพียงโจ๊กหนึ่งชาม ทั้งในโจ๊กยังผสมของบางอย่างที่มีกลิ่นแปลกด้วย สภาพจิตใจหดหู่เแบบสุด

“นังเด็กบ้า ไหนละเนื้อไก่เป็ดปลา ทำไมเนื้อเนื้อไก่เป็ดปลาล้วนเป็นของเจ้า แต่ของข้ากลับเป็นเพียงโจ๊กเปล่าหนึ่งชามกับอาหารมังสวิรัติ” ชายชราแสดงอาการทักท้วง

แต่ทว่าการทักท้วงไร้ผล

หลานเยาเยาที่จับน่องไก่กัดกินไปด้วยแบบไม่ห่วงภาพลักษณ์เลยแม้แต่น้อย และอธิบายอย่างอดทนไปด้วย

“ตาแก่ ไม่ใช่ว่าข้าไม่ให้เจ้ากินนะ และก็ไม่ใช่เพราะห่วงเศษเหรียญเงินนั่น เจ้าดูสภาพร่างกายของตัวเจ้าตอนนี้สิทั้งอ่อนแอมาก และยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก จะกินของมันๆไม่ได้ ต้องกินของจืดๆ แบบนี้ถึงจะดีต่อร่างกาย ”

พูดไปก็ผลักอาหารมังสวิรัติหลายเมนูที่นางตั้งใจสั่งเพื่อเขาให้วางอยู่ตรงหน้าเขา

“เจ้าดูผักปวยเล้งอันนี้ ข้างในของมันอุดมไปด้วยวิตามินซี แคโรทีน โปรตีน ซึ่งสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันได้

แล้วยังมีมะเขือเทศแผ่นนี้ด้วยนะ อันนี้คุณค่าทางโภชนาการยิ่งสูงเลย ข้างในของมันมีสารไลโคปีนที่สามารถต้านอนุมูลอิสระและป้องกันการแก่ก่อนวัยได้

เจ้าดูอันนี้ด้วย แล้วก็อันนี้ อันนี้ เยอะมากเลย ทั้งหมดล้วนเป็นอาหารที่จะช่วยให้ร่างกายเจ้าแข็งแรงมากขึ้น เจ้ายังจะมาหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่พอใจอะไรอีก? อย่าเป็นคนที่มีความสุขอยู่รอบกาย แต่กลับไม่รู้ว่านั้นคือความสุขล่ะ”

ขณะที่พูด นางก็กินน่องไก่ในมือหมดไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นก็เช็ดปาก และมองเห็นชายชราผมขาวเบะปากใส่ เหมือนกับว่าไม่เห็นด้วยกับคำพูดของนางเลยสักนิด จึงพูดอีกครั้งว่า

“รอกินข้าวหมด ข้าจะพาเจ้าไปหาที่อยู่ปักหลัก จากนั้นข้าจะรักษาตาของเจ้า รับประกันว่าพรุ่งนี้ก็หาย รอเจ้าหายดีแล้ว อยากกินอะไรก็กินอะไรได้เลย”

แบบนี้แล้วไม่ควรหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วนะ?

เป็นอย่างที่คาดไว้

แค่ได้ยินว่าจะรักษาตาให้เขา ชายชราผมขาวรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที รีบยกชามโจ๊กตรงหน้า แบบไม่กลัวร้อนเลย เพียงครู่เดียว ก็ทานโจ๊ก “อึก อึก อึก อึก” จนหมดชาม

จากนั้นหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบผักใส่เข้าปากอย่างตรงจุดถูกต้อง…

ทำให้หลานเยาเยาต้องเบิกตากว้าง

จากนั้นก็ลองโบกมือไปมาตรงหน้าเขา ซึ่งเคยยืนยันแล้วว่าตาเขาบอดชั่วคราวจริง แต่ว่าดูท่าทางการกินผักของเขา อาการไม่เหมือนคนที่มองไม่เห็นเลยนะ

“นังเด็กบ้า หยุดโบกได้แล้ว ข้าน่ะมองไม่เห็นจริงๆ”

ชายชราผมขาวที่พูดอยู่ตอนนี้ ไร้ซึ่งอาการงอนก่อนหน้า

และยิ้มให้นางอย่างมีความหมายลึกซึ้ง

“เจ้ามองไม่เห็นแล้วรู้ได้ยังไงว่ามือข้าโบกอยู่ตรงหน้าเจ้า”

เก่งขนาดเลยหรือ

หากจะพูดว่าเป็นคนที่ตาบอดมานาน นางก็พอทำใจเชื่อได้ เพราะว่าคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมานานนั้นประสาทหูจะไวเป็นพิเศษ สามารถรับรู้ได้ว่าคนอื่นกำลังทำอะไรอยู่ผ่านเสียงเล็กๆที่ดังขึ้นได้

แต่ทว่าชายชราผมขาวคนนี้ต่างออกไป เขาเพิ่งจะตาบอดไปได้ไม่นาน ประสาทหูไม่น่าจะไวขนาดนี้นะ

“เคยใช้ชีวิตอยู่ในคุกลับมาตั้งหลายปี ตอนที่ไม่มีคนมา ข้าต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความมืด มีตากับไม่มีตาไม่ได้แตกต่าง

นานวันเข้า

ประมาณว่าหูสามารถทำหน้าที่แทนตาได้แล้ว บางทีการไม่มีตายิ่งสามารถทำให้แยกแยะเรื่องดีร้ายได้ดีกว่า”

คำพูดของเขาดูมีนัยยะแอบแฝง พูดจาลึกซึ้งคลุมเครือ

ถึงแม้หลานเยาเยาจะฟังไม่เข้าใจ แต่ว่าพยักหน้าตอบรับอย่างตั้งใจ จากนั้นพูดอย่างเอาจริงเอาจังในเรื่องนั้นว่า

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ตาของเจ้ายังจะรักษาอยู่ไหม?”

ฟังความที่เขาพูดแล้ว การไม่มีตาสามารถแยกแยะเรื่องดีชั่วได้ดีกว่าการมีตา ดังนั้นเขาคงหวังว่าไม่ต้องรักษาตาให้หายก็ได้มั้ง

แค่เพียงไม่รักษา ก็หมายความว่านางสามารถประหยัดเงินค่ายารักษาได้เยอะเลยทีเดียว

“นางเด็กบ้า ใครบอกว่าไม่ต้องล่ะ ข้าดื่มโจ๊กหมดแล้ว ผักก็กินหมดแล้ว เจ้าอย่ามาคืนคำนะ” ชายชราผมขาวใจร้อนขึ้นมาทันที

ล้อเล่นอะไรกัน?

ตอนที่ต้องอยู่ในคุกใต้ดินนั่นเป็นเพราะว่าไม่มีทางเลือก ตาไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ออกมาแล้วการใช้ประโยชน์ของดวงตามีเยอะแยะถมไป

เขายังคงต้องใช้ดวงตาแก่ๆคู่นี้ของเขาเพื่อไปดูโลกในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว หลังจากที่ใช้เวลาผ่านไปในคุกหลายปี

พวกเพื่อนร่วมงานยังมีชีวิตอยู่ไหม?

ไฮ้

เกรงว่าคงเหลือไม่กี่คนแล้วล่ะ

——

ยามจื่อเพิ่งผ่านไป หมอกบางๆดั่งแพรไหมบางที่ยิ่งอยู่ยิ่งหนาขึ้น พระจันทร์เสี้ยวที่ถูกปิดไว้ครึ่งดวงได้ถูกเมฆหนาบดบังไว้หมดแล้ว

ในตรอกซอยลึกๆ บ้านหลังหนึ่งที่ถูกละทิ้งมาเป็นเวลานานข้างในมีแสงเทียนสว่างไสว ลมเย็นๆพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่เก่าผุพัง ทำให้เทียนดับไปหนึ่งเล่ม

เสียงแก่หง่อมเอือมๆดังขึ้น

“นังเด็กบ้า เจ้าบอกว่าห้องนี้คือห้องเกรดพรีเมี่ยมของโรงแรมนี้หรือ?”

ที่นี่นอกจากมีเสียงลมพัด“วี๊ดๆ” และเสียงของเขาสองคนแล้ว อย่าว่าแต่เสียงตีระฆังบอกยามเลย แม้แต่เสียงอื่นๆก็ไม่มีเลย

นังเด็กบ้าไม่ใช่ว่าตระหนี่ขี้เหนียวจนพาเขามานอนในป่าในเขาหรอกนะ?

“แน่นอนสิ โรงแรมที่นี่ถึงแม้จะไกลไปหน่อย อาจจะเทียบไม่ได้กับโรงแรมหรูหราติดอันดับ แต่ว่าคนสามารถอยู่ได้ เจ้าก็ถูไถอยู่ไปก่อน ”

บ้านที่ถูกทิ้งร้างนี้ เป็นสถานที่เดียวกันกับที่แอบสะกดรอยตามพ่อบ้านในจวนคนก่อนกับพวกถิงเมี่ยนแลกเปลี่ยนข้อเสนอกัน

อาจจะดูโกโรโกโสไปหน่อย แต่ว่าพอบังลมบังฝนได้อยู่

นางก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน ในมือมีเงินอยู่ไม่มากแล้ว นางกะว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปที่ร้านประมูลเสินตู เพื่อขายพวกยา จากนั้นซื้อบ้านสักหลังเพื่อตั้งหลัก

“ดีดีดี ข้าน่ะถูไถได้อยู่แล้ว เจ้าก็นอนเช้าหน่อยนะ นังเด็กบ้า”

ชายชราผมขาวลองจับดูตรงตาที่ใส่ยาและผ้าพันแผลไว้

ในใจถอนหายใจไปที หวังว่าพรุ่งนี้เขาจะมองเห็นได้แล้ว

อาจเป็นไปได้ว่าเขาทั้งสองคนต่างก็มีเรื่องในใจ อีกคนนอนที่ห้องด้านใน อีกคนนอนอยู่ห้องด้านนอก ทั้งสองหลับตาลง แต่กลับนอนไม่หลับ

กว่าจะทนจนถึงเช้าได้ ขณะที่กำลังสะลึมสะลือ หลานเยาเยาได้ยินเสียง “ซีๆโซๆ”

ตามด้วยเสียง “อ๊าก” หนึ่งครั้ง เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของชายชราได้ผ่านเข้ามาในหู

ความง่วงงัวเงียของหลานเยาเยาหายไปทันที นางลุกขึ้นและรีบเดินเข้าไปที่ห้องด้านใน

พอเข้ามาถึงที่ห้องก็พบชายชราผมขาวตกลงมาจากเตียงนอนเก่า นอนกลิ้งที่พื้นอย่างทุกข์ทรมาน

หลานเยาเยาชะงักไปครู่ นึกว่าตาของเขามีปัญหาอะไร รีบเดินไปดูอาการ

กลับพบว่าผ้าที่พันรอบดวงตาของชายชราผมขาวไว้ไม่ได้ถูกแตะเลย แต่มือทั้งคู่ของเขากุมที่ท้องไม่ใช่ที่ตา

แปลก?

หรือว่าจะเป็นอาหารเย็นเมื่อวาน?

จะเป็นไปได้อย่างไร?

อาหารเย็นเมื่อวานที่นางให้เขากินล้วนเป็นอาหารรสจืด ไม่มีของมันเลย จะท้องเสียได้อย่างไร และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งผลต่อร่างกายของเขา

งั้นตอนนี้มีความเป็นไปได้อีกอย่าง ร่างกายของเขานอกจากอ่อนแอและช้ำในแล้ว น่าจะมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เขาเจ็บปวดถึงปานนี้

“เว่ย ตาแก่ เจ้าไม่เป็นไรนะ ปวดท้องใช่ไหม ให้ข้าดูหน่อยนะ” พูดไปก็ไม่รอให้เขาตอบกลับเดินเข้าไปตรวจเช็คเลย

กลับคาดไม่ถึง……

ร่างของชายชราผมขาวหายไปไหนพริบตาต่อหน้านาง จากนั้นปรากฏตัวอีกที่ที่ห่างกันราวสามเมตร ใบหน้าเขาซีดเซียว และพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

“นังเด็กบ้า เจ้าอย่าเข้ามานะ ข้าไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นไรหรอก ก็แค่โรคเก่ากำเริบ พักแป๊บก็หาย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง”

มือที่หลานเยาเยายื่นออกไปหยุดอยู่ที่กลางอากาศ..

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท