หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 50 คุณชายเหลียงเฉิน

บทที่ 50 คุณชายเหลียงเฉิน

บทที่ 50 คุณชายเหลียงเฉิน

“โอ๊ย…เจ็บ เจ็บ เจ็บ นังหนูโยนเบาๆมือหน่อย? โอ๊ย นังเด็กบ้า เอาจริงใช่ไหม?”

“โอ๊ย หยุดตีได้แล้ว น่องไก่เก็บไว้ให้เจ้าอยู่นะ โอ๊ย ทำไมยังตีอีกล่ะ? เอาล่ะ ข้ายอมรับว่า น่องไก่ที่ข้าเก็บไว้ให้เจ้าข้าแอบกัดกินไปแล้วสองคำ โอ๊ย…”

สามวันผ่านไป

หลานเยาเยาที่ผมเผ้ายุ่งอย่างกับรังนกนั่งลงตรงหน้ากระจก ที่พอมองเห็นภาพในกระจก นางโมโหตะโกนเสียงดังทันที

“ไอ้แก่เย่น ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ เจ้าวาดหน้าข้าแบบนี้ได้ไง?”

ภาพที่วาดบนหน้านางคือเต่าหรือ?

เต่ามีปีกด้วย?

พอหัวขยับเบาๆ ทันใดนั้นไข่สองฟองกลิ้งลงมา โชคดีที่นางมือไม้เร็วจับไว้ได้ทัน ไม่งั้นตกลงไปที่พื้นแตกแน่นอน

อืม?

ไข่?

แม่งเอ้ย ไอ้แก่บ้า นึกไม่ถึงว่าจะเอาไข่มาวางไว้ที่ผมนางตั้งสองฟอง

กำมือแน่นทันทีดัง “แกรกๆ” ดังขึ้น ท่าทางราวกับว่าจะบีบไอ้แก่เย่นให้แหลกสลายในทันที

ใครจะไปรู้

นางโกรธจัดวิ่งไปที่ห้องนอนของเขา ไม่มีคน แล้วรีบวิ่งไปที่ด้านนอกไปดูที่บนหลังคา ไม่มีคนอยู่

หรือว่าอยู่ในห้องครัว?

พอคิดถึงความเป็นไปได้ข้อนี้ หลานเยาเยาเอามือตบไปที่ต้นขาหนึ่งที

เมื่อคืนนางซื้อของกินอร่อยๆมากมายกลับมา ส่วนใหญ่เป็นเนื้อ ร่างกายของไอ้แก่เย่นไม่ดี กินของมันเยอะไม่ได้

ทว่า เขามักจะชอบแอบกิน

คิดว่าตอนนี้น่าจะกำลังกินอย่างอร่อยที่ห้องครัว

แต่ทว่า นัยน์ตาของหลานเยาเยาราวกับจะพ่นเลือดออกมาให้ได้พุ่งตรงไปที่ห้องครัว เท้าเพิ่งก้าวเข้าไป บะหมี่หอมกรุ่นร้อนๆยื่นมาตรงหน้านาง

“นังเด็กบ้า กินอาหารเช้าแล้วจ้า”

หลานเยาเยาอบอุ่นที่ใจ รับบะหมี่ไว้ แต่ว่ายังคงสงสัยจึงไปตรวจดูอาหารที่ตู้เก็บของ

ตรวจดูอย่างละเอียดหนึ่งรอบ ไม่มีสิ่งใดขาดไป

ใจที่ห้อยไว้วางใจลง จากนั้นหยิบตะเกียบขึ้นมากินบะหมี่ กินไปเพิ่งรู้ว่าใต้บะหมี่ซ่อนน่องไก่ไว้หนึ่งชิ้น บ่นพึมพำอย่างอดไม่ได้

“ไอ้แก่บ้า”

นางกินเสร็จก็ออกจากบ้านไป ไอ้แก่เย่นยืนที่ขอบประตูมองแผนหลังนางที่ไกลออกไป บนปากมีรอยยิ้มจางๆ

——

หลานเยาเยามาถึงที่ตลาดมืดอีกครั้ง มาถึงสถานที่ที่พูดคุยกับถิงเมี่ยนได้อย่างชำนาญ

ข้างในเชิงเทียนหลายอัน เทียนบนเชิงเทียนละลายหมดแล้ว ถิงเมี่ยนนั่งอยู่บนขอบโต๊ะ มือข้างหนึ่งเท้าคางไว้ อีกข้างหนึ่งหยิบกินขนมอย่างไม่มีอารมณ์

ได้ยินเสียงจากข้างนอก รีบหันหน้ากลับมา

แค่เห็นหลานเยาเยาที่คลุมเสื้อคลุมอยู่ นัยน์ตาดำสนิทเป็นประกายขึ้นมาทันที

“แม่นางหลาน เจ้ามาสักที บ้านที่ท่านต้องการสองวันก่อนก็หาให้ท่านแล้ว ราคายุติธรรมแน่นอน และอยู่สบายแน่นอน”

หลานเยาเยาพยักหน้าตอบรับ

ราคายุติธรรมหรือไม่ขึ้นอยู่กับนาง อยู่สบายหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนาง

แต่ทว่า

ในเมื่อเขาเป็นคนหา ไม่น่าจะด้อยอะไรมาก

“นำทางเถอะ พวกเราไปดูกัน”

“ได้เลย ไปไปไป เราไปดูบ้านกัน เจ้าชอบบ้านที่ดูดีมีระดับหน่อยใช่ไหม? บ้านหลังนี้ที่ข้าหามาได้รับรองว่าดูดีมีระดับแน่นอน จุดนี้เชื่อข้าได้เต็มร้อย”

เออ…

นางบอกกับเขาเมื่อไหร่กันว่าอยากได้ดูดีมีระดับ?

เขาเพี้ยนไป หรือว่าสมองมีปัญหา?

แต่ทว่า

หลานเยาเยามองไปที่เขาแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วเบาๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินตรงไปข้างหน้า

ตอนที่จะเดินออกจากห้อง นางชะงักไป หยุดฝีเท้าลง ทอดสายตาไปที่พื้น

มองไปที่พื้นที่เต็มไปด้วยเมล็ดทานตะวัน สีหน้าเปลี่ยนไปหน่อยๆจากนั้นมองไปที่ถิงเมี่ยน ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า

“เจ้าไม่ชอบกินเมล็ดทานตะวันหอมห้ากลิ่นหรือ?”

“ไม่ใช่ไม่ใช่ ข้าน่ะชอบกินเมล็ดทานตะวันหอมห้ากลิ่นมากที่สุด แค่ว่าไม่ทันระวังทำหกที่พื้น ”

ถิงเมี่ยนรีบทำท่าทางอธิบาย แต่ว่าตาของเขากระพริบให้นางอย่างไม่หยุด แต่ว่าหลานเยาเยาไม่ทันสังเกต

ในที่สุดก็สังเกตเห็น หลานเยาเยาเดินเข้ามาใกล้ต้วเขา หรี่ตาลงเบาๆถามขึ้น

“ตาเจ้าเป็นอะไร? วันก่อนดูเจ้าก็ยังปกติดี วันนี้ดูเหมือนมีปัญหานะ

มามามา ข้าช่วยดู ข้ารักษายุติธรรมแน่นอน และรับรองว่ารักษาเร็วเห็นผลไว ดูแป๊บเดียว เหรียญเงินห้าสิบตำลึง ไม่แพงแน่นอน”

“……”

ถิงเมี่ยนเอามือจับหน้าผากไร้คำพูดต่อกรทันที

เจ๊ใหญ่เอ้ย

อย่าเชื่อข้าขนาดนั้นได้ไหม? ข้ากำลังส่งสัญญาณให้เจ้านะ

แล้วก็อะไรนะ ตรวจตาแป๊บเดียวต้องใช้เหรียญเงินห้าสิบตำลึงเชียว ถ้าจะขนาดนี้นางไปแย่งมาเลยดีกว่า

“เป็นไงบ้าง? พิจารณาดูแล้วเป็นไง? ต้องการให้ข้ารักษาไหม?”

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง”

ถิงเมี่ยนพูดอย่างเงียบๆ ตายแล้ว

เขารู้สึกได้ถึงสายตาแหลมคมคู่หนึ่งกำลังเพ่งมองมาที่แผนหลังของเขา ราวกับต้องการสื่อว่าหากเขาไม่เชื่อฟังอีก วินาทีต่อไปก็จะกลายเป็นศพตายไม่สวย

ทีนี้ ถิงเมี่ยนไม่กล้าออกเสียงตักเตือนแล้ว

หลังจากที่ออกจากตลาดมืด ถิงเมี่ยนพานางมาที่ห้องอาหาร ณ โรงแรมหรูหราแห่งหนึ่ง

หลานเยาเยาเพิ่งนั่งลง ถิงเมี่ยนก็ลุกขึ้นทันที

“แม่นางหลาน ท่านนั่งรอตรงนี้สักครู่ ข้าไปรับคนที่ชั้นล่าง”

“อืม เจ้าไปเถอะ”

นางไม่ระแวงสงสัยแม้แต่น้อย แต่ว่าด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงเปิดฝากาน้ำชาออก จากนั้นดมกลิ่นไอร้อนที่ลอยออกมาจากกาน้ำชา

โอ้โห

ชาที่ชงในกาน้ำชานี้ ชงได้หอมมาก เข้มอ่อนลงตัว จะต้องเป็นชาชั้นเลิศแน่นอน

ผ่านไปครู่เดียว ประตูห้องอาหารเปิดออก มีชายรูปงามเข้ามาข้างใน ฝีเท้าเดินอย่างสง่างามค่อยๆเดินก้าวเข้ามา

หลานเยาเยามองตาค้าง

โธ่ โธ่

เมืองหลวงประเทศก่วงส้าทำไมมีชายหนุ่มรูปงามมากมายเพียงนี้?

ถึงแม้รูปลักษณ์อาจจะสู้เย่แจ๋หยิ่งที่หล่อปานเทพยดาจุติมาเกิดไม่ได้ แต่ว่าหล่อขนาดนี้ก็นับว่าหล่อที่สุดแล้ว

สำหรับภาพบรรยากาศดีๆแบบนี้ หลานเยาเยายินดีเชยชม

“ข้าชื่อโม่เหลียงเฉิน แม่นางคือคนที่ต้องการซื้อบ้านใช่ไหม?”

โม่เหลียงเฉินเดินมายืนที่ข้างโต๊ะนาง นิ้วมือวางทางที่โต๊ะเบาๆ มองไปที่นางด้วยสีหน้าอบอุ่น

“ใช่” หลานเยาเยาพยักหน้าตอบแบบตะลึงๆ

โม่เหลียงเฉิน?

ชื่อคุ้นหู เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน

แต่ทว่ารูปลักษณ์ที่ออกนอกหน้า มักจะถูกคนพูดถึง เคยได้ยินสองสามครั้งโดยบังเอิญก็ถือเป็นเรื่องปกติ

“ข้ามีภาพวาดบ้านหลังหนึ่ง แม่นางสามารถดูก่อนได้ ถ้ารู้สึกว่าเหมาะสม เราค่อยนัดไปดูบ้านจริงก็ไม่สาย”

พูดไป โม่เหลียงเฉิน ก็กางภาพวาดออก “ซู่” เปิดออก

ในภาพมีศาลา ต้นไม้ใบหญ้า บ้านพักลานกว้าง มีครบถ้วนทุกอย่าง ทั้งยังตกแต่งได้สวยงามอย่างลงตัว

ทำให้หลานเยาเยาที่มองแวบเดียวก็ชื่นชอบแล้ว นางถือภาพไว้ที่มือ มองอย่างละเอียด มุมปากกระตุกยิ้ม แสดงว่านางพอใจมาก

“บ้านหลังนี้ราคาเท่าไหร่? มันถูกปล่อยร้างมานานหรือเปล่า”

“แม่นางวางใจได้ ภาพที่ท่านเห็นในตอนนี้คือภาพที่เพิ่งวาดเสร็จเพียงไม่กี่วัน หมึกที่วาดยังแห้งไม่ดีพอเลย

สำหรับราคา…ห้าร้อยตำลึง บ้านปล่อยทิ้งไว้ที่นั่นก็เปล่าประโยชน์ สู้ขายถูกๆไปเลยดีกว่า”

ว้าว ห้าร้อยตำลึง

จะว่าแพงก็นับว่าแพงไปหน่อยแต่ทว่าเมื่อเทียบกับตัวบ้านแล้วก็นับว่าคุ้มค่า

“คุณชายโม่ ข้าดูจากการแต่งตัวของท่านก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทองอะไร ถูกลงกว่านี้หน่อยเถอะ”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท