ตอนที่ 593 การประชุมแลกเปลี่ยนเสร็จสิ้น(2)
หลี่หมิงฮุ่ยอยากรู้ว่าเมื่อสักครู่ฉินมู่หลานพูดอะไร แต่เขาก็ไม่ถามมาก ขณะที่เยวี่ยจงจีก็ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
แต่เซเลน่าและมัลฟอยยังไม่อยากกลับไปตอนนี้ “ฉิน พวกเราไปเดินเล่นกันเถอะ พวกเราอยากจะลองเดินเล่นดูวัฒนธรรมประเพณีของทางปักกิ่งอีกสักหน่อย”
ได้ฟังคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว พาคนกลุ่มนี้ไปเดินเล่นหลังรับประทานอาหารเสร็จ
เซเลน่าและมัลฟอยซื้ออาหารขึ้นชื่อของที่นี่มากมาย วางแผนเอาไว้ว่าพรุ่งนี้เมื่อเดินทางกลับจะนำไปฝากคนในครอบครัว กระทั่งเยวี่ยจงจีและหลี่หมิงฮุ่ยก็ซื้อของกันไม่น้อย
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นหลายคนซื้อของเยอะแยะ จึงอดถามไม่ได้ “พวกเธอไม่กลัวว่าถึงเวลาจะเอากลับไปไม่หมดเหรอ”
“ไม่หรอก เอากลับได้อยู่แล้ว”
เซี่ยปิงหรุ่ยค้นพบว่า ผู้ชายก็ซื้อของเก่งเหมือนกัน ท่ามกลางสี่คนนี้ เซเลน่าเป็นคนที่ซื้อของน้อยที่สุด
จนกระทั่งทุกคนซื้อของกันจนหนำใจแล้ว สุดท้ายก็กลับไปยังที่พัก
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยไปส่งพวกเขาเสร็จก็วางแผนจะกลับบ้าน แต่เซเลน่าและมัลฟอยรั้งพวกเขาเอาไว้ก่อน “ฉิน เซี่ย รอเดี๋ยว”
เมื่อเห็นทั้งสองเรียกพวกเธอ ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็ยอมหยุดอยู่แล้ว
“พวกเธอรอแปบนึงนะ ฉันกับมัลฟอยจะกลับห้องไปเอาของบางอย่างมาก่อน”
หลังจากเซเลน่าและมัลฟอยกลับเข้าไปในห้อง หลี่หมิงฮุ่ยก็หันมองเยวี่ยจงจีด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วกล่าวว่า “จงจี นายลองเดาซิว่าพวกเขาสองคนคิดจะทำอะไร”
เยวี่ยจงจีกลอกตามองหลี่หมิงฮุ่ย “ยังจะต้องเดาอะไรอีกล่ะ ฉันว่าก็คงไปเอาของขวัญมาน่ะสิ”
หลี่หมิงฮุ่ยก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น อาจจะ…
เซเลน่าและมัลฟอยหยิบกล่องเครื่องประดับสองกล่อง แล้วมอบฉินมู่หลานพร้อมรอยยิ้ม “ฉิน ขอบคุณเธอมากที่ช่วยทำยาให้พวกเรา พวกเราเลยขอมอบของขวัญให้เธอเป็นการตอบแทน”
ฉินมุ่หลานมองกล่องของขวัญที่อยู่ในมือ ก่อนจะรีบดันกลับไปแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก แค่พวกเธอเชื่อใจฉัน ก็ทำให้ฉันมีความสุขแล้ว”
แต่ถึงอย่างนั้นเซเลน่าและมัลฟอยได้ส่งของไปแล้ว จึงไม่ยอมรับกลับคืนมา
หลี่หมิงฮุ่ยที่อยู่อีกด้านพูดขึ้น “นักศึกษาฉิน นี่เป็นสิ่งที่เธอควรได้รับ รับเอาไว้เถอะ แต่ฉันอยากจะรู้จังเลยว่าพวกเขามอบอะไรให้เป็นของขวัญ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ปรายตามองหลี่หมิงฮุ่ย เมินเฉยกับคำพูดของเขา “พวกนายก็รีบกลับห้องเถอะ ฉันกับปิงหรุ่ยขอตัวกลับก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าฉันจะไปส่งพวกนายที่สนามบิน”
“พรุ่งนี้เช้าพวกเธอจะมาเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
หลี่หมิงฮุ่ยยิ้มแล้วโบกมือให้ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ย หลังจากนั้นก็กลับห้องพร้อมเยวี่ยจงจี
อันที่จริงแล้วเซี่ยปิงหรุ่ยก็อยากรู้นิดหน่อยเหมือนกัน ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยมีท่าทีสนใจ จึงยิ้มแล้วปิดกล่องของขวัญ เซเลน่ามอบเข็มกลัดทับทิมอันหนึ่งให้ ทับทิมที่ประดับอยู่ทางด้านบนมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มองเพียงแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นของมีมูลค่ามาก และสิ่งที่มัลฟอยมอบให้ก็คือเพชรลูกเม็ดหนึ่ง
“ว้าว…สองคนนี้ใจกว้างจัง เข็มกลัดก็ว่าสวยแล้ว เพชรลูกสีน้ำเงินนี้ก็ยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ มู่หลาน เธอเอาไปทำเป็นแหวนได้นะ หรือทำเป็นสร้อยคอก็ดูดีเหมือนกัน”
ฉินมุ่หลานนึกไม่ถึงว่าทั้งสองจะให้ของที่มีมูลค่ามากขนาดนี้ “ดูเหมือนจะต้องคืนให้พวกเขานะ สองอย่างนี้มันราคาสูงเกินไป”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่คิดว่ามันแปลกตรงไหน
“มู่หลาน เธอก็รู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของเธอมีค่ามากที่สุดแล้ว เธอช่วยรักษาให้พวกเขาได้ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นว่าฉินมู่หลานยังไม่อยากยอมรับมันเอาไว้ ก็อดพูดไม่ได้ “ฉันดูแล้วยังไงพวกเขาสองคนก็ไม่ยอมรับมันกลับคืนไปหรอก เพราะฉะนั้นเธอก็อย่าคิดมากเรื่องนี้เลย เอาเป็นว่ามอบของอย่างอื่นตอบแทนพวกเขาดีกว่า”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็พยักหน้า
“อย่างนั้นก็ได้ ถึงเวลาจะมอบของดี ๆ ให้พวกเขาสักหน่อย”
จนกระทั่งถึงเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากฉินมู่หลานมา ก็ใช้โอกาสนี้มอบยาบำรุงสุขภาพให้เซเลน่าและมัลฟอย “พวกเธอให้ของขวัญแพงเกินไป เพราะฉะนั้นฉันจึงนึกถึงอาการเจ็บป่วยของพวกเธอ แล้วทำยาบำรุงสุขภาพให้พวกเธออีก ยานี้เป็นของดี พวกเธอต้องกินเอง อย่าได้มอบให้ใครเชียวนะ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าพวกเธอพลาดมาก”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ เซเลน่าและมัลฟอยก็รีบรับขวดยาไป
ในเมื่อฉินมู่หลานกล่าวแบบนั้น เช่นนั้นยาเม็ดนี้ต้องเป็นของดี พวกเขาย่อมต้องใช้เองแน่นอน
อีธานเห็นเด็กทั้งสองอยู่กับฉินมู่หลานอีกครั้ง เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างก็ต้องกลั้นเอาไว้อีก วันนี้ก็จะกลับกันแล้ว เขาจึงไม่พูดอะไรมาก แต่ในใจคิดเรื่องนี้ดีแล้ว ว่าหลังจากกลับประเทศจะต้องบอกครอบครัวของเซเลน่าและมัลฟอยเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน
หลี่หมิงฮุ่ยที่อยู่อีกด้านหนึ่งเห็นฉินมู่หลานมอบสิ่งของให้เซเลน่าและมัลฟอย เขาก็หาโอกาส อดไม่ได้ที่จะพูดกับฉินมู่หลาน “นักศึกษาฉิน พวกเราก็ถือว่าเป็นเพื่อนกัน ทำไมไม่มีของขวัญอำลาให้บ้างล่ะ”
ฉินมุ่หลานได้ยินแบบนี้ก็ปรายตามองหลี่หมิงฮุ่ยแล้วเอ่ยถาม “หลายวันมานี้นายกินยาตรงเวลาไหม?”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ หลี่หมิงฮุ่ยก็หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงกะทันหัน “นักศึกษาฉิน อย่าเอาเรื่องแบบนี้มาถามกันในที่สาธารณะสิ”
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็แอบกล่าวเสียงเบา “วางใจ ฉันกินยาตรงเวลาอยู่แล้ว”
เมื่อเห็นสีหน้าแดงระเรื่อของหลี่หมิงฮุย ฉินมู่หลานก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายอีก และมอบยาหนึ่งขวดให้กับเขาแทน ก่อนจะกล่าวว่า “กินหนึ่งเม็ดก่อนนอนทุกคืน จะดีกับตัวนาย”
หลี่หมิงฮุ่ยได้ยินดังนั้นก็รีบรับไป “อย่างที่คิดเอาไว้ว่านักศึกษาฉินใจดี ไว้มีโอกาสก็ไปเที่ยวฮ่องกงบ้างนะ เดี่ยวฉันจะพาเธอเที่ยวเอง จริงสิ อย่าลืมชวนนักศึกษาเซี่ยไปด้วยนะ”
เยวี่ยจงจีเห็นภาพนี้ จากนั้นก็หันมองตรงไปที่ฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานเห็นแบบนี้ก็บอกกล่าวตามตรง “ฉันไม่ได้ตรวจชีพจรนาย ก็เลยไม่มียาอะไรจะให้นาย”
เยวี่ยจงจี “…”
อันที่จริงเขาสามารถขอให้เธอตรวจชีพจรให้ตอนนี้เลยก็ได้ แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้มันสายไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ ฉินมู่หลานเตรียมของอย่างอื่นเอาไว้ให้เขาแทน “นี่คือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของผู้ชาย มู่เสวี่ยของเราเพิ่งพัฒนาออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายเอาไปลองก่อนได้”
ปกติเยวี่ยจงจีไม่ใช้ของพวกนี้ แต่เขาก็ยังรับเอาไว้ แล้วกล่าวคำมั่น “ตกลง เดี๋ยวฉันจะลองใช้”
หลี่หมิงฮุ่ยเห็นแล้วก็อยากรู้อยากลอง “นักศึกษาฉิน แล้วของฉันล่ะ ฉันก็อยากได้เหมือนกัน”
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นหลี่หมิงฮุ่ยเป็นแบบนี้ ก็กลอกตามองเขา “หลี่หมิงฮุ่ย ทำไมนายถึงอยากได้ไปทุกอย่างเลยล่ะ เดี๋ยวรอมันเปิดตัววางขายอย่างสมบูรณ์ นายก็แค่เข้าไปซื้อจากห้างของเยวี่ยจงจีเอาก็ได้”
ขณะที่หลายคนกำลังพูดคุยกัน หลินไคจงและหลัวซงผิงก็มากันแล้ว หลังจากที่อาจารย์และนักศึกษาแลกเปลี่ยนมากันครบแล้ว จากนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็ออกเดินทางตรงไปที่สนามบิน
จนกระทั่งนักศึกษาและอาจารย์ที่มาแลกเปลี่ยนกลับไปกันแล้ว หลินไคจงและหลัวซงผิงก็ถอนหายใจ จากนั้นก็หันไปมองฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยพร้อมกล่าวว่า “นักศึกษาฉิน นักศึกษาเซี่ย ช่วงนี้พวกเธอทำงานหนัก เดี๋ยวพวกเธอกลับบ้านไปเถอะ กลับไปพักผ่อนกันให้เยอะ ๆ นะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปเรียน”