บทที่ 911 หงส์เพลิง (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ฟู่!

ผืนดิน​สั่น​ไหว​ เปลวเพลิง​สีแดงฉาน​จากลู่​เซิ่งแผ่ออก​ไปใน​รัศมี​มากกว่า​พัน​หมี่​

สัตว์ประหลาด​ร่าง​สูงใหญ่​ที่​มีหัว​เป็น​นก​ตัว​เป็น​คน​ สวม​ชุด​ปีก​สีแดง​ ยก​ร่าง​ของ​จอม​เวท​เจิงมู่ลอย​อยู่​กลาง​กอง​เพลิง​

มือ​เขา​เป็น​กรงเล็บ​สีทอง​เหมือนกับ​นก​ ยาม​นี้​เล็บ​หนาม​แหลม​เจาะปัก​เข้าไป​ใน​ร่าง​จอม​เวท​เจิงมู่

อัคคี​เทพ​ทักษิณ​นับไม่ถ้วน​ทะลัก​ออก​มาจาก​ปาก​แผล​เจิงมู่ เปลวเพลิง​ความร้อน​สูงหลอมละลาย​ร่าง​จอม​เวท​อย่าง​ช้าๆ

จอม​เวท​ที่อยู่​รอบ​ๆ กลายเป็น​เถ้าธุลี​เพราะ​การ​โจมตี​เมื่อ​ครู่​ ไม่เหลือ​ร่องรอย​ใดๆ​ ไว้​ทั้งสิ้น​

“ในที่สุด​ก็​จัดการ​ได้​แล้ว​…” ลู่​เซิ่งพ่น​ลมหายใจ​ “เป็น​อย่าง​ที่​คิด​ไว้​ “ระดับ​แก่น​ทองคำ​เพียงพอ​แค่​ต่อสู้​ได้​เท่านั้น​ แต่​ก็​จนปัญญา​ การ​ยกระดับ​ร่างกาย​ต้องการ​เวลา​ใน​การปรับตัว​ แต่​เรา​รอ​ไม่ไหว​แล้ว​”

เขา​ยืน​อยู่​กลาง​ทะเลเพลิง​กวาดสายตา​มอง​รอบข้าง​ ก่อน​จะพบ​อะไร​บางอย่าง​ดำ​ๆ บน​ซาก​เจิงมู่

ของ​สีดำ​นั้น​ลอย​ขึ้น​ เขา​ยื่นมือ​ออก​ไปรับ​ ก่อนที่​มัน​จะตกลง​ใน​มือ​เขา​เบา​ๆ

เพิ่งจะ​แตะ​กับ​ฝ่ามือ​เขา​ ลู่​เซิ่งพลัน​รู้สึก​พลัง​อาวรณ์​หนาแน่น​สาย​หนึ่ง​พรั่งพรู​เข้าสู่​ตัว​เขา​

พลัง​อาวรณ์​หรือ​!? ใน​ใจเขา​พลัน​ยินดี​

ถึงตอนนี้​เขา​จะครอบครอง​พลัง​อาวรณ์​ถึงพัน​ห้า​ร้อย​ล้าน​หน่วย​ แต่​ไอ้​ของ​อย่างนี้​ใครๆ​ ก็​ต้องการ​ทั้งนั้น​

ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ เขา​รู้สึก​ได้​อย่าง​เลือนราง​ว่า​ พลัง​อาวรณ์​ที่​จำเป็นต้อง​ใช้ตั้งแต่​อนธการ​ถึงขั้น​ต่อไป​ คง​เป็น​จำนวน​มหาศาล​น่า​หวาด​สะพรึง​สุดขีด​

จำนวน​พัน​ห้า​ร้อย​ล้าน​หน่วย​ไม่แน่​ว่า​จะพอ​

ต้อง​เตรียม​พลัง​อาวรณ์​เพิ่ม​สักหน่อย​ จะได้​เผื่อเหลือเผื่อขาด​เมื่อ​ถึงเวลา​ใน​ ดินแดน​แห่ง​ยุค​บรรพกาล​ มีของ​วิเศษ​มากมาย​ ซึ่งของ​วิเศษ​ก็​คือ​การ​ตกผลึก​ที่​เหมาะสม​กับ​พลัง​อาวรณ์​อย่าง​สมบูรณ์​ไม่ใช่หรือ​

ลู่​เซิ่งพิจารณา​ของ​ดำ​ๆ ใน​มือ​ ของ​สิ่งนี้​ดู​เหมือนกับ​โหล​กระเบื้อง​ ผิว​เต็มไปด้วย​รอยแตก​และ​อักขระ​เวท​ประหลาด​

“เหมือน​จะเป็น​ของขลัง​อย่างหนึ่ง​ คงจะ​ได้รับ​การ​บูชา​ทั้งวันทั้งคืน​จาก​เผ่าพันธุ์​ที่​แข็งแกร่ง​อย่าง​เผ่า​เวท​ มิน่า​ถึงได้​มีพลัง​อาวรณ์​มากมาย​ขนาด​นี้​ ไม่เลว​เลย​ๆ!” ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ถึงพลัง​อาวรณ์​ที่​พรั่งพรู​เข้า​ร่าง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ใช้เวลา​ไม่กี่​นาที​ พลัง​อาวรณ์​ใน​ของขลัง​ก็​หมด​ลง​ มีพลัง​อาวรณ์​จำนวนมาก​ถึงสามล้าน​กว่า​หน่วย​

เขา​ปลดปล่อย​พลังจิต​ระดับ​แก่น​ทองคำ​ออกมา​พิเคราะห์​รอบ​ๆ เมื่อ​ไม่พบ​ผู้รอดชีวิต​ ก็​เร่งรีบ​เร่งฝีเท้า​จากไป​

แก​ร๊ก​

เสียงแตก​ดัง​ขึ้น​ โหล​กระเบื้อง​แตก​เป็น​เสี่ยง​ๆ กระจาย​เต็ม​พื้น​

รอบข้าง​ไม่เหลือ​ผู้รอดชีวิต​ ถึงขั้น​ไม่มีนก​หรือ​แมลง​ด้วยซ้ำ​ เหลือ​เพียง​ซากปรักหักพัง​ของ​เผ่า​เจิงมู่เท่านั้น​

หลาย​ชั่วโมง​ต่อมา​

ควัน​กลุ่ม​หนึ่ง​ลอย​มาจาก​ที่​ไกล​ เมื่อ​ทิ้งตัว​ถึงพื้น​ก็​กลายเป็น​บุรุษ​สตรี​ร่าง​สูงใหญ่​ผิวดำ​หลาย​คน​

บุรุษ​สตรี​กลุ่ม​นี้​ถือ​ไม้เท้า​ สีหน้า​อึมครึม​ สวม​เสื้อคลุม​สีดำ​อย่าง​เรียบง่าย​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​ เมื่อ​ครู่​สัมผัส​ได้​ว่า​ของขลัง​เทพ​พฤกษา​แตก​เป็น​เสี่ยง​ๆ ตรงนี้​ ที่นี่​คือ​เผ่า​เจิงมู่ไม่ใช่หรือ​” จอม​เวท​หญิง​คน​หนึ่ง​กวาดตา​มอง​รอบ​ๆ อย่าง​คร่ำเคร่ง​

“เหอะ​ ดูเหมือน​เพราะ​เคลื่อนไหว​มานาน​ ในที่สุด​ก็​มีคน​ท้าทาย​ความ​น่าเกรงขาม​ของ​เผ่า​เวท​อย่าง​พวกเรา​…” ชาย​ชรา​ผอม​ซูบ​อีก​คน​แค่น​หัวเราะ​อย่าง​ลึกลับ​

ชาย​ชรา​เดิน​ไปถึงดิน​ไหม้​เกรียม​ที่​ยังมี​ควัน​ลอย​อยู่​ ก้มลง​ไปหยิบ​ดินดำ​มาเล็กน้อย​ ก่อน​จะบี้​และ​ชิม

“นี่​คือ​ธุลี​เผาไหม้​ของ​ไฟระดับสูง​ อือ​…กลิ่น​ไหม้​เกรียม​ของ​ขนน​ก.​..ไม่ใช่ไฟหงส์​อมตะ​ เป็นไฟ​หงส์​เพลิง​ หรือว่า​จะเป็น​กระเรียน​เพลิง​นะ​…”

“ที่นี่​มีสัตว์​อื่นๆ​ ถูก​เผา​ตาย​ น่าประหลาด​ ทั้งที่​โดน​เผา​ไปแล้ว​ แต่​ยังมี​วิญญาณ​หลง​เหลืออยู่​” พ่อ​มด​อีก​คน​ขมวดคิ้ว​

“นั่น​คือ​ไฟหงส์​เพลิง​…ใน​ไฟระดับสูง​มีแต่​ไฟหงส์​เพลิง​เท่านั้น​ถึงจะมีผล​ใน​การนำ​วิญญาณ​ขึ้น​สวรรค์​” ชาย​ชรา​ร่าง​ผอม​เอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​

“เหตุใด​จึงไม่ใช่ไฟอื่น​ ไฟกระเรียน​เพลิง​ก็​มีผล​หลอมละลาย​วิญญาณ​เหมือนกัน​กระมัง​” จอม​เวท​คน​หนึ่ง​เอ่ย​ถามอย่าง​สงสัย​

“การ​หลอมละลาย​จะทำให้​เหลือ​ชิ้นส่วน​กับ​กลิ่น​กาย​…แต่​การนำทาง​จากไป​ จึงเป็นการ​ทำความสะอาด​อย่าง​หมดจด​…” จอม​เวท​ชรา​ผุด​สีหน้า​เย็นชา​ “ไปเถอะ​ ไฟเทพ​หงส์​เพลิง​ที่​บริสุทธิ์​ระดับ​นี้​จะต้อง​เป็น​ฝีมือ​ของ​เผ่า​หงส์​เพลิง​ หรือไม่​ก็​สายเลือด​ของ​มัน​แน่นอน​ พวกเรา​กลับ​ไปรายงาน​ ดู​ซิว่า​คราวนี้​เจ้าพันธุ์​ทางใน​อุทยาน​ปีศาจจะรับมือ​อย่างไร​! สังหาร​เผ่า​เวท​ของ​เรา​อย่าง​ไร้เหตุผล​! นี่​เป็นการ​จงใจก่อ​สงคราม​!”

“รับทราบ​!”

จอม​เวท​ทั้ง​กลุ่ม​กลาย​เป็นควัน​ดำ​สลาย​หาย​ไป

ณ อุทยาน​ปีศาจ

อาราม​สีเงิน​ขนาด​ยักษ์​ลอย​วนเวียน​อยู่​เหนือ​ท้องฟ้า​ เหมือนกับ​เทือกเขา​สูงต่ำ​เป็น​คลื่น​ อาราม​ซ้อน​ทับกัน​เป็นชั้นๆ​ สูงต่ำ​สลับ​กัน​ ราวกับ​ของ​วิเศษ​ระดับ​สุดยอด​ มีบรรยากาศ​หยาบกระด้าง​ของ​เผ่า​ปีศาจใน​ความวิจิตร​งดงาม​

ณ อาณาเขต​ใจกลาง​สุด​ของ​กลุ่ม​อาราม​ ด้านบน​ลาน​กว้าง​ของ​เสาหยก​สีขาว​กว้างขวาง​

จักรพรรดิ​สวรรค์​แห่ง​อุทยาน​ปีศาจ มหาเทพ​ตง​หวง​ กับ​พี่น้อง​ของ​เขา​ ตี้ซ​วิน​ ซีเห​อ​ นั่ง​อยู่​บน​จุดสูงสุด​

ทั้ง​สามต่าง​มีแสงสีทอง​หลาย​สาย​และ​เปลวเพลิง​อำพราง​รูปลักษณ์​ คนอื่น​เห็น​เพียง​ร่าง​เงาพร่ามัว​บน​บัลลังก์​สามจุด​เท่านั้น​

สอง​ฟาก​ข้าง​ของ​ลาน​กว้าง​คือ​ขุนนาง​สำคัญ​ของ​เผ่า​ปีศาจ เทพ​ปีศาจแต่ละ​ตน​สวม​อาภรณ์​เมฆาและ​เกราะ​เซียน​ ลักษณะ​แตก​ต่างกัน​ กำลัง​รับ​ชมการ​ร้องรำทำเพลง​ และ​ดื่ม​สุรา​เลิศ​รส​

หลังจาก​ก่อตั้ง​สวรรค์​แห่ง​เผ่า​ปีศาจขึ้น​ ตอนแรก​อาจ​มีเทพ​ปีศาจเกิด​ความทะเยอทะยาน​ ต้องการ​ช่วย​เทพ​ตง​หวง​ปกครอง​ฟ้าดิน​ กลายเป็น​สวรรค์​เพียง​แห่ง​เดียว​

แต่​ต่อมา​ก็​ไม่อาจ​จัดการ​เผ่า​เวท​ได้​ เทพ​ปีศาจหลาย​ตน​จึงเริ่ม​หา​ความสุข​ ชมชอบ​รสชาติ​อัน​เย้ายวน​ของ​อำนาจ​ใน​ตำแหน่ง​สูง อยาก​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​เช่นนั้น​

พวกเขา​อาศัย​อยู่​ใน​อุทยาน​ปีศาจ ต่อให้​เจอ​ผู้​บำเพ็ญ​หรือ​จอม​ปีศาจที่​แข็งแกร่ง​กว่า​ตน​ มีอิทธิฤทธิ์​ร้ายกาจ​กว่า​ตน​ ก็​สามารถ​รวบรวม​สมัครพรรคพวก​บุก​ตะลุย​ได้​ ต่อให้​เป็น​จอม​ปีศาจที่​แข็งแกร่ง​อย่างไร​ก็​โดน​บดขยี้​อยู่ดี​

เป็น​เช่นนี้​เรื่อย​มา อุทยาน​ปีศาจไม่คิด​ขยับ​ขยายอำนาจ​อีกต่อไป​ เริ่ม​เป็น​เฉกเช่น​อย่าง​ใน​ปัจจุบัน​

แม้แต่​จอม​เทพ​ตง​หวง​กับ​ตี้ซ​วิน​ก็​จนปัญญา​ ไม่อาจ​บังคับ​แข็งขืน​ มีแต่​ซีเห​อ​ภรรยา​ของ​ตี้ซ​วิน​เท่านั้น​ที่​เป็นกังวล​กับ​เรื่อง​นี้​มาโดยตลอด​

งาน​ร้องรำทำเพลง​บน​ลาน​กว้าง​ดำเนิน​อย่าง​สงบ​ สุรา​เลิศ​รส​และ​ผลไม้​ประหลาด​วาง​ทั่ว​บริเวณ​ เทพ​ปีศาจทุก​ตน​ต่าง​ผ่อนคลาย​สบายอารมณ์​ ล้อมรอบ​ไปด้วย​หญิง​งามสลับ​กัน​เต้น​สลับ​กัน​ร้อง​ บ้าง​ก็​ริน​สุรา​ บ้าง​ก็​ถอด​เสื้อผ้าอาภรณ์​ แอบ​ร่วมรัก​กับ​เทพ​ปีศาจ

เผ่า​ปีศาจไม่สนใจ​พิธีรีตอง​อะไร​อยู่แล้ว​ ฟ้าดิน​กว้างใหญ่​ คิด​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​ ธรรมเนียม​นี้​แผ่ขยาย​มายัง​อุทยาน​สวรรค์​สำเร็จ​ ต่อให้​เป็น​จอม​เทพ​ตง​หวง​กับ​ตี้ซ​วิน​ก็​เห็น​ว่า​เรื่อง​พวก​นี้​สมเหตุสมผล​เช่นกัน​

หลังจาก​งาน​ร่ายรำ​ร้องเพลง​ผ่าน​ไป เสียงดนตรี​ก็​ค่อยๆ​ แผ่วเบา​ลง​

ด้าน​ข้าง​มีขุนนาง​รายงาน​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้ามา​ องครักษ์​อาราม​พูด​กระซิบกระซาบ​กับ​อีก​ฝ่าย​สอง​สามคำ​ ทาง​ฝ่าย​องครักษ์​ก็​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ เดิน​ไปถึงข้าง​คุรุ​ปีศาจคุ​นเผิง​ เอ่ย​รายงาน​เบา​ๆ

ร่าง​มนุษย์​ที่​คุ​นเผิง​จำแลง​เป็น​ชาย​ชรา​ร่าง​สูงใหญ่​หนวด​ผม​ขึ้น​หงอก​ขาว​ สีหน้า​ทะนง​ตน​ เสื้อคลุม​สีดำ​ของ​เขา​ปัก​รูป​สัตว์ประหลาด​คล้าย​ปลา​ไม่ใช่ปลา​ คล้าย​นก​ไม่ใช่นก​ นั่น​เป็น​ร่าง​จริง​ของ​เขา​

“พวก​เผ่า​เวท​มัน​เป็นบ้า​อีกแล้ว​หรือ​ สงบเสงี่ยม​กัน​มากว่า​พันปี​ อยู่​ๆ ก็​โผล่​มาหาเรื่อง​อีกแล้ว​!” คุ​นเผิง​กล่าว​อย่าง​ไม่พอใจ​ หันไป​ทาง​จอม​เทพ​ ส่งข้อมูล​ก่อนหน้า​ให้​แก่​จอม​เทพ​โดยตรง​

“หยุด​ก่อน​” ทันใดนั้น​มหาเทพ​ที่อยู่​หลัง​ม่าน​ ก็​เอ่ย​เสียง​บุรุษ​ทรง​เสน่ห์​มาก​พลัง​ทุ้ม​ต่ำ​ดัง​มา

เสียงเพลง​หยุด​ลง​

“ประกาศ​ให้​ขุน​นางหงส์​เพ​ลิ​งอ​วี่​ซวน​ขึ้น​อาราม​” เสียง​มหาเทพ​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​

สติ​พวก​เทพ​ปีศาจแจ่มใสดี​ยิ่ง​ พลัน​ผุด​สีหน้า​สงสัย​ใคร่รู้​ มอง​เหตุการณ์​ตรงหน้า​อย่าง​สนใจ​

โถงสวรรค์​อายุ​ยาวนาน​ อาบ​พลัง​ดารา​ภายใต้​ค่าย​กล​นภา​ดาว​ ต่อให้​ไม่ฝึกฝน​ พลัง​ฝึกปรือ​ของ​พวก​เทพ​ปีศาจก็​จะเพิ่มขึ้น​ช้าๆ ตาม​กาลเวลา​ที่​ผ่าน​ไป

ผ่าน​ไปนาน​วัน​เข้า​ ทุกคน​เริ่ม​หย่อนยาน​

ปกติ​ทุก​ตน​ไม่มีเรื่อง​ใด​น่าสนุก​ นอกจาก​หา​ความสุข​กับ​การ​นอน​ หรือ​ออก​ไปท่องเที่ยว​ด้านนอก​ ตอนนี้​อุตส่าห์​มีเรื่อง​น่าสนใจ​ ย่อม​สนอกสนใจ​

เผ่า​หงส์​เพลิง​ ทุกคน​ย่อม​ทราบ​ว่า​เป็น​ขุนนาง​ด้าน​คีตะ​แห่ง​โถงสวรรค์​ที่​ได้รับ​บรรดาศักดิ์​มานาน​มาก​แล้ว​

กล่าว​ออก​ไปใน​ฐานะ​เทพ​อัคคี​แห่ง​แดน​ทักษิณ​ หงส์​เพลิง​ควร​เป็น​เผ่า​ที่​เก่าแก่​ยิ่งกว่า​หงส์​อมตะ​เสีย​อีก​

แต่​เพราะ​พลัง​ของ​พวกเขา​ไม่ได้​เด่น​ที่​พลัง​ทำลาย​ แต่​อยู่​ที่​เสียงดนตรี​เป็นหลัก​ จึงแตกต่าง​โดยสิ้นเชิง​กับ​สัตว์ประหลาด​เหี้ยมหาญ​ที่​เผาไหม้​ไปทั่ว​อย่าง​หงส์​อมตะ​

ครั้งกระโน้น​สมัย​สงคราม​มังกร​หงส์​ พวกเขา​ยังมี​ตำแหน่ง​พอใช้ได้​เนื่องจาก​อาศัย​บารมี​หงส์​อมตะ​ แต่​ตอนนี้​มังกร​หงส์​ร่วงโรย​ เหลือ​เพียง​สายเลือด​ชายขอบ​ เผ่า​หงส์​เพลิง​มีกำลัง​รบ​ไม่พอ​ จึงได้​แต่​สวามิภักดิ์​กับ​อุทยาน​สวรรค์​ รับหน้าที่​ขุนนาง​คีตะ​ คอย​ดูแล​เครื่องดนตรี​ใน​อุทยาน​สวรรค์​

หลังจาก​ประกาศ​เรียกตัว​ขุนนาง​ ไม่นาน​นัก​สตรี​คิ้ว​งามสวม​เสื้อคลุม​สีแดง​ สวม​กวน​ลายเส้น​ขน​สีรุ้ง​ เดิน​นวยนาด​ขึ้น​ลาน​มาพลาง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​

“กระ​หม่อ​มอ​วี่​ซวน​หัวหน้า​เผ่า​หงส์​เพลิง​ เข้าเฝ้า​องค์​ตง​หวง​ ตี้ซ​วิน​ และ​ซีเห​อ”​

แม้จักรพรรดิ​สวรรค์​จะมีคนเดียว​ นั่น​คือ​มหาเทพ​ แต่​มหาเทพ​บอก​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ ตี้ซ​วิน​ผู้​เป็น​พี่ชาย​กับ​ซีเห​อ​ผู้​เป็น​พี่สะใภ้​ อยู่​ใน​ระดับ​เดียว​กับ​เขา​ ดังนั้น​ตี้ซ​วิน​จึงถูก​ยก​ให้​เป็น​ซีหวง​ ซีเห​อ​เป็น​ซีโหว​

ทั้ง​สามเป็น​อีกา​ทอง​สามขา​ที่​ผา​น​กู่​ให้กำเนิด​จาก​ดวงอาทิตย์​ สายเลือด​เชื่อมโยง​กัน​ มีความสัมพันธ์​ล้ำลึก​ แบบนี้​จึงไม่มีใคร​ว่า​อะไร​ได้​

อย่างไร​มหาเทพ​ก็​ถือ​โองการ​ผู้วิเศษ​หง​จวิน​ ใช้ระ​หัส​สากล​ใน​ของ​วิเศษ​ก่อน​กำเนิด​เป็น​รากฐาน​ใน​การ​ก่อตั้ง​อุทยาน​สวรรค์​ เขา​จึงทำ​อะไร​ตามใจ​ไม่ได้​

“อวี่​ซวน​ คนใน​เผ่า​เจ้าไปยัง​เผ่า​เวท​ และ​แอบ​ทำลาย​เผ่า​จอม​เวท​เผ่า​หนึ่ง​ หมาย​จะจุด​ความขัดแย้ง​ระหว่าง​อุทยาน​สวรรค์​และ​บรรพชน​เวท​ เจ้ารู้เรื่อง​นี้​หรือไม่​” เสียง​ของ​มหาเทพ​ดัง​มาจาก​หลัง​ม่าน​ ไม่อาจ​แยกแยะ​อารมณ์​ได้​ เพียง​ให้​ความรู้สึก​กดดัน​ล้ำลึก​ราบเรียบ​เท่านั้น​

เดิมที​อวี่​ซวน​เป็น​เพียง​ขุนนาง​คีตะ​ ไม่มีสถานะ​ใดๆ​ ใน​กลุ่ม​เทพ​ปีศาจ เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​มีเหตุการณ์​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​สอง​ผู้ปกครอง​ที่​ยิ่งใหญ่​ รู้สึก​เหมือน​มีเสียง​ฟ้าร้อง​ระเบิด​ใน​หัว​ของ​นาง​ ร่าง​สั่นเทา​เล็กน้อย​

“กระ​หม่อ​ม…กระ​หม่อ​ม…ไม่รู้เรื่อง​นี้​เลย​!” เสียง​นาง​แห​ลมขึ้น​เล็กน้อย​ “คน​ของ​เผ่า​หงส์​เพลิง​อาศัย​อยู่​ที่​เทือกเขา​ธาร​ทักษิณ​ ไม่เคย​ออกจาก​ที่นั่น​ บรรพชน​ใน​เผ่า​ล้วน​รับ​ตำแหน่ง​ใน​อุทยาน​สวรรค์​! ระมัดระวัง​ตัว​มาโดยตลอด​ ไม่เคย​คิด​เป็นอื่น​ ยิ่ง​ไม่กล้า​มีความคิด​ท้าทาย​ปีศาจเวท​! ขอ​พระองค์​ทรง​พิจารณา​ด้วย​!”

นาง​คุกเข่า​กับ​พื้น​ ตกใจ​จน​หน้าถอดสี​ เหงื่อกาฬ​ไหล​ออกมา​เล็กน้อย​

“เผ่า​เวท​ส่งเถ้าธุลี​มาแล้ว​ พวกเรา​เอง​ก็​ตรวจสอบ​แล้ว​เช่นกัน​ ย่อม​ต้อง​เป็นไฟ​หงส์​เพลิง​ความบริสุทธิ์​สูง ไฟหงส์​เพลิง​ที่​บริสุทธิ์​แบบ​นั้น​ ทั่ว​ฟ้าดิน​มีแต่​เผ่า​หงส์​เพลิง​ของ​เจ้าเท่านั้น​ถึงจะร่าย​ออกมา​ได้​ ส่วน​เผ่า​ปีศาจอื่น​ ไม่มีทาง​ทำได้​เด็ดขาด​!” เทพ​ปีศาจตน​หนึ่ง​หัวเราะ​ เทพ​ปีศาจตน​นี้​มีสอง​หัว​ หัว​หนึ่ง​ดื่ม​สุรา​ หัว​หนึ่ง​จ้องมอง​หงส์​เพลิง​อวี่​ซวน​อย่าง​เย็นชา​ ใน​ดวงตา​ฉายแวว​ละโมบ​อย่าง​เลือนราง​

“ขุนนาง​ไต่สวน​ดวงดาว​ก็​ตรวจสอบ​จน​แน่ใจ​แล้ว​เช่นกัน​ว่า​เป็นไฟ​หงส์​เพลิง​จริงๆ​ มิหนำซ้ำ​ยังมี​แต่​เผ่า​หงส์​เพลิง​ที่​มีความ​เข้มข้น​สูงถึงระดับ​ร่าง​อริยะ​หงส์​เพลิง​เท่านั้น​ ถึงจะสามารถ​ปล่อย​ไฟระดับ​นี้​ออกมา​ได้​” เทพ​ปีศาจอีก​ตน​เอ่ย​เสียงทุ้ม​

“อย่างนั้น​…เผ่า​หงส์​เพลิง​ของ​เจ้า ตอนนี้​จะแก้ตัว​อย่างไร​” ตี้ซ​วิน​เอ่ย​อย่าง​ช้าๆ

ความจริง​แล้ว​ปกติ​มหาเทพ​ตง​หวง​ย่อม​ไม่ยุ่ง​เรื่อง​เหล่านี้​ เขา​ต่างหาก​ที่​เป็น​คน​ดูแล​เรื่อง​น้อย​ใหญ่​ของ​อุทยาน​สวรรค์​และ​เรื่อง​ตระกูล​ขุนนาง​ เพียงแต่​เมื่อ​ครู่​มหาเทพ​กล่าว​วาจา​ เขา​จึงสอด​ปาก​ไม่ได้​

เขา​มีความ​ชมชอบ​เผ่า​หงส์​เพลิง​ใน​ระดับ​หนึ่ง​ อย่างไร​เสีย​ เสียง​เพลิง​ของ​อุทยาน​สวรรค์​ที่​ไพเราะ​เพราะพริ้ง​เท่า​ของ​พวก​นาง​ ก็​มีอยู่​ไม่มาก​

ซีเห​อ​ผู้​เป็น​ภรรยา​ก็​ค่อนข้าง​ให้การ​ดูแล​เผ่า​หงส์​เพลิง​มาโดยตลอด​เช่นกัน​ ดังนั้น​การ​เอ่ย​วาจา​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ จึงเป็นการ​ดู​ว่า​จะพลิก​สถานการณ์​อย่างไร​ได้​บ้าง​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท