Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 746 พังไปเถอะ เหนื่อยแล้ว

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 746 พังไปเถอะ เหนื่อยแล้ว

ใช่แล้ว

ชาวเน็ตซึ่งได้อ่านตอนต่อไปในการ์ตูนสแลมดังก์ต่างประทับใจกับเรื่องราวนี้ของมิสึอิ ฮิซาชิ!

คนกลุ่มนี้หลังจากระเบิดต่อมน้ำตาไปแล้ว ก็แทบโพสต์ข้อความเดียวกันอย่างพร้อมเพรียงกัน

อาจารย์อันไซ ผมอยากเล่นบาสครับ!’

ภาพประกอบนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นช่วงที่มิสึอิพูดประโยคคลาสสิกนี้ออกมา

คำพูดนี้ปรากฏขึ้นอย่างถล่มทลายบนหน้าจอ!

ที่จริงแล้วหลายคนทำเรื่องเหล่านี้

ไม่ว่าจะอ่านนิยายหรือรับชมแอนิเมชัน ภาพยนตร์ และซีรีส์ หากชื่นชอบฉากใดฉากหนึ่งหรือประโยคใดประโยคหนึ่งเป็นพิเศษ ก็จะจดบทนี้ไว้ ใส่พร้อมกับภาพประกอบที่เกี่ยวข้อง และโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต เช่นบนโมเมนต์วีแช็ต

มีความหมายในเชิงให้กำลังใจอยู่เล็กน้อย

คนที่เข้าใจ จะผุดยิ้มเมื่อเห็นโพสต์ประเภทนี้

ไม่ว่าจะกดไลก์เพราะตรงใจ หรือคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น หลังจากนั้นจึงแลกเปลี่ยนมุมมองกันเกี่ยวกับผลงานชิ้นนี้ หรือแม้แต่มองว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจ…

คนที่ไม่เข้าใจจะสับสน

ทำไมจู่ๆ พวกเขาถึงอยากเล่นบาสเกตบอลขึ้นมาล่ะ

เหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นได้ง่ายในระหว่างคนสองกลุ่มซึ่งมีช่องว่างระหว่างวัย

เช่น มีคนโพสต์ข้อความว่า ‘ม้า**ตาย[1]’

คนที่ไม่รู้จะยิ่งสับสน ถึงขั้นนึกอิจฉา**คนนี้ บ้านต้องรวยขนาดไหนกันนะ ถึงเลี้ยงม้าไว้ด้วย

นี่คือช่องว่างระหว่างวัย

โดยทั่วไปแล้วคนหนุ่มสาวจะไม่มีช่องว่างระหว่างวัยประเภทนี้ ต่อให้ไม่เข้าใจก็พอจะเดาได้ว่านี่เป็นมุกตลก สามารถสืบค้นบนอินเทอร์เน็ตได้

คนส่วนใหญ่ดูแอนิเมชันห้าตอนแรกของสแลมดังก์ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปอ่านฉบับการ์ตูนต่อ

เพราะฉะนั้น

เมื่อประโยคที่ว่า ‘โค้ชครับ ผมอยากเล่นบาส’ เริ่มปรากฏอย่างเนืองแน่นบนโลกออนไลน์ สแลมดังก์จากเหลียนเหมิงการ์ตูนจึงสร้างการโปรโมทที่แข็งแกร่งได้สำเร็จ

ทันใดนั้น ผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงรู้ว่าการ์ตูนอัปเดตเร็วกว่าแอนิเมชัน และพอจะรู้ว่าจะมีเรื่องราวสุดเจ๋งตามมาหลังจากนี้

ย่อมมีความสงสัยใคร่รู้และความคาดหวังตามมาอย่างแน่นอน

ด้วยความสงสัยใคร่รู้และความคาดหวังนี้ ผู้คนจึงไปหาสแลมดังก์ฉบับการ์ตูนมาอ่านมากขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งอ่านยิ่งตื่นเต้น!

ยิ่งอ่านยิ่งติด!

หลายคนอ่านแล้วถึงกับกอดเข่าร้องไห้เมื่ออ่านจบ!

‘เนื้อเรื่องตอนนี้คลาสสิกจริงๆ !’

‘น้ำตาไหลพราก!’

‘ก่อนที่จะอ่านถึงตรงนี้รู้สึกว่านี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง พอได้อ่านจนถึงตอนนี้ก็รู้สึกว่าผลงานชิ้นนี้เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ!’

‘รู้สึกว่าตัวเองเข้าใจถึงความรักนี้ได้!’

‘ฉันร้องไห้หนักกว่ามิสึอิอีก!’

‘…’

เนื้อเรื่องตอนนี้คลาสสิกจริงๆ อาจจะตามกระแส หรือเป็นเพราะรู้สึกอย่างแท้จริง ความถี่ของ ‘โค้ชครับ ผมอยากเล่นบาส’ ซึ่งปรากฏบนหน้าจอก็สูงยิ่งกว่าเดิมเสียอีก!

สุดท้ายก็คือผลลัพธ์จากการกระหน่ำหน้าจอ

หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนไม่เข้าใจจะสับสน ว่าทำไมทั่วทั้งโลกออนไลน์จึงร้องไห้และตะโกนว่าอยากเล่นบาสเกตบอล

และแฟนคลับของเหอต้าจวิ้นถูกกระชากเศษผ้าบางบดบังความอายชิ้นสุดท้ายไปแล้ว

ความจริงเป็นประจักษ์ว่าเรื่องราวต่อจากนั้นของสแลมดังก์ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเดิม!

ไม่นาน

แฟนคลับซึ่งซื้อการ์ดเปลี่ยนชื่อและภาพโปรไฟล์ จากนั้นจึงแสร้งว่าไม่เคยชื่นชอบเหอต้าจวิ้นมาก่อนจึงมากยิ่งกว่าเดิม

ตัวตนใหม่ของพวกเขาคือแฟนคลับสแลมดังก์!

ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ ดูเหมือนจะมีการดูถูกเหยียดหยามกันระหว่างแฟนคลับของเหอต้าจวิ้นและแฟนคลับของอิ่งจือ!

มีคนกลุ่มหนึ่งไปเขียนคอมเมนต์กระสุนในแอนิเมชันของเหอต้าจวิ้น

‘แย่กว่าสแลมดังก์อีก’

‘สแลมดังก์ดีกว่า’

‘คนที่ดูการ์ตูนเรื่องนี้กระจอกมาก’

‘หลังจากดูสแลมดังก์แล้ว เรื่องนี้น่าเบื่อมาก’

‘…’

ยกย่องฝ่ายหนึ่ง เหยียบย่ำอีกฝ่ายหนึ่ง

สำหรับสแลมดังก์ของเหอต้าจวิ้น จังหวะนี้คือการทำลายล้างอย่างแท้จริง

เหอต้าจวิ้นจบเห่แล้ว

อย่างน้อยผลงานเรื่องนี้ของเขาก็จบเห่แล้ว

เพียงแต่ในเวลานี้มีคนไม่ มากนักที่ให้ความสนใจกับผู้แพ้รายนี้

เนื่องจากลมพายุแห่งบาสเกตบอลนี้ยังคงขยายตัวต่อไป!

ถึงขั้นที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับคนจำนวนหนึ่ง!

ตัวอย่างเช่นในครอบครัวหนึ่ง หลังจากลูกชายดูสแลมดังก์จบ จู่ๆ ก็มองพ่อของเขา

“ผมรู้แล้วว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิด!”

“อะไรหรือ”

“ผมขอลูกบาสหนึ่งลูก!”

“…”

นี่คือตัวอย่างสถานการณ์เล็กๆ

สถานการณ์เล็กๆ ซึ่งเกิดขึ้นในที่ต่างๆ มากมาย

ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ การเผยแพร่เรื่องสแลมดังก์นั้นมีอิทธิพลต่อคนบางส่วนจริงๆ

หลายคนอ่านสแลมดังก์จบแล้วถึงเริ่มชื่นชอบบาสเกตบอล

และสิ่งที่ทำให้ทั้งโลกออนไลน์ตะลึงจนต้องขยี้ตายิ่งกว่าก็คือ เมื่อความฝันเกี่ยวกับบาสเกตบอลถูกปลูกลงในหัวใจของเด็กๆ นักกีฬาในแต่ละทวีปต่างลุกขึ้นมา!

นักกีฬาคนหนึ่งจากฉินโจวโพสต์ว่า

‘อ่านสแลมดังก์จบแล้ว ผมอยากอุทิศสแลมดังก์ที่ตื่นตาตื่นใจให้กับบลูเกมส์สักครั้ง’

นักกีฬามืออาชีพจากฉีโจวคนหนึ่งก็ตามมาติดๆ

‘แนะนำสแลมดังก์จริงๆ การฝึกซ้อมในเรื่องมีหลักการมาก ใครสนใจก็ไปฝึกตามได้!’

นักกีฬาคนหนึ่งจากฉู่โจวกล่าวว่า

‘หลังซ้อมเสร็จมีคนแนะนำให้ดูสแลมดังก์ ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ผมถูกรุคาวาตกไปแล้วครับ!’

นักกีฬาคนหนึ่งจากเยี่ยนโจว

‘ยะฮู้ว! รีบไปดูสแลมดังก์เร็ว ผมนี่แหละอาคางิในบลูเกมส์ครั้งนี้!’

นักกีฬาจากหานโจว

‘ไม่รู้ว่าทำไมคนเยี่ยนถึงชอบกอริขนาดนั้น ผมกลับชอบซากุรางิ!’

พรึบๆๆ !

นักกีฬามืออาชีพหลายคนต่างแนะนำการ์ตูนเรื่องนี้!

นอกจากนั้นยังมีนักกีฬาที่ออกมาป่าวประกาศในทำนองว่า ‘มิสึอิเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้า’ อีกด้วย

และนั่นพอจะเปิดเผยให้เห็นว่าพวกเขากำลังขี้เกียจฝึกซ้อม

ถึงอย่างไร นั่นก็เป็นเรื่องราวในการ์ตูน ต้องอ่านไปจนถึงด้านหลังจึงจะเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ หากพวกเขาฝึกซ้อมอย่างแข็งขันกันตามปกติ ไม่มีทางมีเวลามามากถึงเพียงนั้นหรอก

และในนั้น

สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกประหลาดใจมากที่สุด คือข้อมูลซึ่งถูกเปิดเผยโดยนักกีฬามืออาชีพ

ดูเหมือนว่าความรู้เกี่ยวกับบาสเกตบอลทั้งหมดในสแลมดังก์จะมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก!

ถึงขั้นมีนักกีฬาบางคนนึกสะท้อนใจ บอกว่าอิ่งจืออาจปรึกษากับมืออาชีพในวงการบาสเกตบอล เพราะในนั้นมีข้อมูลบางส่วนที่หากไม่ใช่มืออาชีพย่อมไม่มีทางเข้าใจ ซึ่งนั่นยังอยู่เกินกว่าขอบเขตความเข้าใจของแฟนกีฬาทั่วไป

‘ไม่มีใครเข้าใจบาสเกตบอลดีไปกว่าอิ่งจือ!’

คำพูดของเหอต้าจวิ้นถูกนำไปใช้กับอิ่งจือโดยตรง ทั้งยังผ่านการประทับตรารับรองจากทางการอีกด้วย!

และในบ้านของหลินเยวียน

พี่สาวกำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างตื่นเต้น มีส่วนร่วมในการพูดคุยเกี่ยวกับสแลมดังก์อย่างต่อเนื่อง!

บนอินเทอร์เน็ตมีการพูดคุยเกี่ยวกับสารพัดเรื่องราว

ตัวอย่างเช่น ตัวละครซึ่งปรากฏในแอนิเมชัน เนื้อเรื่องที่เปิดเผยในตอนต่อไป ประโยคคลาสสิกของมิสึอิ หรือแม้แต่เพลงประกอบแอนิเมชันซึ่งฟังเพียงครั้งเดียวก็ติดหูอย่างเพลงอยากบอกดังๆ ว่ารักเธอ!

พี่สาวพูดคุยเกี่ยวกับรุคาวามากที่สุด

เมื่อดูแอนิเมชันจบ พี่สาวก็กลายเป็นแฟนคลับตัวยงของรุคาวาในทันที บุคลิกและความสามารถของรุคาวานั้นมีสเน่ห์ดึงดูดผู้หญิงได้โดยธรรมชาติ!

น้องสาวนั่งดูอยู่ด้านข้าง พลางเปิดเพลงคลอในมือถือ

เป็นเพลงหลักชื่อว่า ‘อยากตะโกนดังๆ ว่ารักเธอ’ ซึ่งปล่อยบนแพลตฟอร์มฟังเพลงพร้อมกับแอนิเมชัน

หนานจี๋นอนขดอยู่ด้านข้าง หลินเยวียนลูบหัวมันอย่างเบื่อหน่าย

ส่วนแม่หาวหวอด บอกว่าจะไปนอน

ทันใดนั้นเอง

โทรศัพท์มือถือของหลินเยวียนก็ดังขึ้น

เป็นสายจากจินมู่ ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก จนหลินเยวียนกลัวว่าอีกฝ่ายจะน้ำลายกระเด็นผ่านโทรศัพท์ได้

“ดังแล้วครับ!”

“ผมรู้แล้วครับ”

“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ ผมหมายถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องของการ์ตูนเรื่องนี้ดังแล้วครับ เมื่อกี้มีหลายบริษัทติดต่อมาว่าอยากร่วมมือกับเราในการพัฒนาสินค้า กำไรที่จะได้จากในนั้นก็เหนือความคาดหมายมาก คุณรู้ไหมครับว่าหุ่นฟิกเกอร์มีมูลค่าเท่าไหร่ ถ้าทำได้ดีราคาสูงลิบเลยนะครับ เศรษฐีที่เล่นของเล่นพวกนี้มีเยอะมาก!”

“อ้อ งั้นทำให้ผมด้วย”

หลินเยวียนคิดว่าถ้าวางฟิกเกอร์สแลมดังก์ไว้ในห้องทำงานและห้องหนังสือคงเท่ไม่เบา สินค้าและฟิกเกอร์ต่างๆ จากการ์ตูนเรื่องก่อนๆ ของเขา ปัจจุบันนี้ก็เก็บไว้ในห้องหนังสือและห้องทำงานเช่นกัน สินค้าของผลงานเหล่านี้ไม่นับว่าเป็นที่นิยมมากนัก นี่อาจมีเหตุผลมาจากประเภทของผลงานก็เป็นได้

“ยังมีอีกครับ!”

จินมู่เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “คุณเห็นชาร์ตเพลงหรือยังครับ เพลงธีมหลักของสแลมดังก์ขึ้นไปอยู่ทันดับที่สิบห้าแล้ว ทุกคนมีท่าทีกระตือรือร้นกับเพลงนี้มา ดูแล้วต่อจากนี้น่าจะขึ้นไปติดในสิบอันดับแรกได้ไม่มีปัญหา หรือไม่ก็เป็นอันดับเจ็ดได้ด้วยซ้ำ พอถึงตอนนั้นเจ็ดอันดับแรกบนชาร์ตเพลงเดือนนี้จะถูกคุณเหมาหมด!”

หลินเยวียนสับสน “นี่ก็ใกล้จะกลางเดือนแล้ว”

จินมู่กระหยิ่มใจ “งั้นคุณคงไม่เข้าใจ เดือนนี้มีความพิเศษ เพราะนี่คือเดือนที่เพลงธีมบลูเกมส์จะคว้าแชมป์อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีพ่อเพลงคนไหนลงมือ ชาร์ตเพลงนอกจากคุณแล้วก็มีอยู่แค่ไม่กี่คนที่พอจะไต่ชาร์ตไหว หวงตงเจิ้งก็ไม่ไหว ไม่เหมือนกับเพลงอยากตะโกนดังๆ ว่ารักเธอ ที่สามารถยืมกระแสแอนิเมชันมาไต่ชาร์ตได้ แถมผู้ขับร้องยังเป็นราชาเพลงอย่างเหลียงจื่อหยวนอีก!”

หลินเยวียนคาดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องดีเช่นนี้เกิดขึ้น

นี่นับว่าเป็นข่าวดีข่าวหนึ่ง

ถึงแม้จะเป็นเหตุการณ์พิเศษในช่วงเวลาพิเศษ ไม่ได้มีน้ำหนักของความสำเร็จมากนัก แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร การได้ครองทั้งเจ็ดอันดับแรกบนชาร์ตเพลงก็เป็นความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง นี่นับว่าเป็นสถิติส่วนบุคคลของหลินเยวียน

……

อีกด้านหนึ่ง

เมื่อหวงตงเจิ้งสังเกตเห็นว่าเพลงอยากตะโกนดังๆ ว่ารักเธอทะยานขึ้นอย่างว่องไวไปบนชาร์ตเพลงราวสายรุ้ง ก็ส่ายหน้าอย่างไร้อารมณ์ ในใจแอบรู้สึกอยากหัวเราะด้วยซ้ำไป

พังไปเถอะ รีบหน่อย เหนื่อยแล้ว

……

และช่วงเวลานี้

เช่นเดียวกับช่วงเวลานั้น

ปู้ลั่วการ์ตูน

หลิงคงอ่านสแลมดังก์จบ และส่ายหน้าเช่นเดียวกับหวงตงเจิ้งราวกับบังเกิดความเข้าใจร่วมกัน

พังไปเถอะ รีบหน่อย เหนื่อยแล้ว

[1] ม้า**ตาย เป็นมุกซึ่งเล่นคำมาจากประโยคสบถในภาษาต้นฉบับว่า ‘แม่มึ*ตาย’ เนื่องจากคำว่า ‘ม้า’และ ‘แม่’ ในภาษาจีนกลางนั้นออกเสียงคล้ายกัน ต่างกันเพียงวรรณยุกต์

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท