หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 58 เลียนแบบอันธพาล

บทที่ 58 เลียนแบบอันธพาล

บทที่ 58 เลียนแบบอันธพาล

องค์หญิงจาวหยางนิ่งแข็งเป็นหินไปแล้ว

วันงานเสกสมรสของหลานเยาเยา กลับแอบมาในที่ของนางนี้ เพียงเพื่อค่ารักษาเหล่านี้หรือ?

นางเอาเสด็จอาของนางไว้ที่ตรงไหน?

“องค์หญิง ท่านอย่างมองข้าอย่างนี้ นี่คือสิ่งที่ข้าควรจะได้”

หากไม่พบองค์หญิงจาวหยางที่นี่ นางคงใช้เวลาเพียงชั่ววินาทีเอาค่ารักษาเหล่านี้ใส่เข้าไปในระบบแล้ว

“เยาเยา เจ้ารีบกลับเข้าไปในห้องหอเถอะ หากคนรับใช้หาเจ้าไม่พบ ห้องหอนั้นต้องยุ่งแน่ๆ”

ที่สำคัญกว่านั้นคือ คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ!

หากเสด็จอาเห็นว่าภายในไม่มีคน จะไม่พังห้องหอจนพินาศหรอกหรือ?

เมื่อเห็นองค์หญิงจาวหยางท่าทางรีบร้อน หลานเยาเยาจึงเดินเข้าไปนั่งเงียบๆ ข้างหน้านาง พลางเอ่ยปลอบขึ้น

“อย่าตกใจไปเลย เย่แจ๋หยิ่งจะไม่มาที่ห้องหอหรอก พูดก็พูดเถอะ ถึงเขาจะมา สาวใช้ทั้งสี่ของข้าต่างต้องดูแลปรนนิบัติเขาอย่างดีแน่นอน”

แต่ว่า องค์หญิงจาวหยางยังอยากเตือนนางอีก หลานเยาเยาจึงเอ่ยขึ้นเสียงน้ำเสียงหนักแน่น “หากเจ้าจะตักเตือนข้าอีก อย่างนั้นข้าจะออกไปเที่ยวคนเดียวแล้ว”

องค์หญิงเจาหยางได้ยินดังนั้น ก็ฟังออกถึงนัยความหมายอะไรบางอย่าง ครู่เดียวก็ทำให้นางลืมเรื่องที่จะกล่าวตักเตือน พร้อมส่งสายตาจดจ้องรอคอยไปยังนาง

“เจ้าจะออกไปเที่ยวหรือ?”

พานางไปด้วยจะได้ไหม?

นางไม่ได้ออกจากจวนกว่าสามปีมาแล้ว อยากออกไปดูความครึกครื้นของบ้านเมืองภายนอก

“แน่นอน!เจ้าอยากไปด้วยไหม?”

วันนี้เป็นวันเสกสมรสของเย่อ๋องผู้แสนโด่งดัง ราษฎรทั่วไปในเมืองหลวงต่างออกมาบนถนนเพื่อชมความครึกครื้นของเมือง โรงงิ้วต่างๆ หิร้านเหล้าหลายแห่ง และยังหอชาทั้งหลาย ต่างขายดีมากกว่าวันปกติทั่วไป

หากพวกนางไปไม่คร้านจะสนุกสนานคึกคัก

ในเมื่อว่างอยู่แล้ว วันนี้ก็ยังได้รับค่ารักษามากมาย หากไม่นำไปใช้จ่ายสักหน่อย ก็คงคันไม้คันมือนัก

“ข้าไปด้วยได้ไหม?”

องค์หญิงจาวหยางเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ นางอยากไปนัก แต่ก็กลัวอาการป่วยจะกลับมา

ใครเล่าจะรู้ นางถูกเขกหน้าผากเบาๆหนึ่งที “มีข้าอยู่ ไปกันเถอะ”

หลานเยาเยาแต่งตัวให้กับองค์หญิงจาวหยางครู่หนึ่ง แล้วจึงถอดชุดสมรสของตัวเองด้านนอกออก และยืมเสื้อคลุมของจาวหยางคลุมไว้ด้านนอก

อย่างนี้ค่อยช่วยให้ดูไม่ออกว่านางคือเจ้าสาวหมาดๆ

เพียงชั่วครู่เดียว!

หลานเยาเยาในท่าทางซุกซนพาองค์หญิงจาวหยางที่โรคอาจจะกำเริบขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ออกจากจวนทางประตูใหญ่ด้านหลัง ต่างทำให้องครักษ์ลับที่แอบซุ่มอยู่ต่างอ้าปากค้าง

ในวันเสกสมรสพระชายาก็พาองค์หญิงออกไปเที่ยวเล่นแล้ว?

ท่านองค์คืนนี้จะเข้าหออย่างไรกัน?

เมื่อออกจากจวนแล้ว หลานเยาเยาก็พาองค์หญิงจาวหยางไปกินอาหารอร่อย

ระหว่างนั้น

“เยาเยา เป็นสตรีควรเป็นทำตัวเรียบร้อยรักษาจริต ต้องรักษากิริยามารยาท เจ้าดูเจ้าในตอนนี้สิ”

ดูราวกับหญิงป่าเถื่อน เสด็จอาชอบอะไรในตัวนางอย่างนั้นหรือ?

“ที่นี่ก็ไม่มีใครอื่น จะจู้จี้อะไรมากมาย กินให้อร่อยก็พอแล้ว”

หากกินข้าวยังจะต้องรักษาระเบียบมากมาย ค่อยๆกิน ระวังกิริยา อย่างนั้นแล้วจะกินไปได้อะไรกัน?

ช่างไม่ได้อารมณ์เลยจริงๆ!

“แต่ว่า…”

นางเป็นถึงองค์หญิงของแคว้น จะให้นางมากินข้าวอย่างตะกรุมตะกรามอย่างนี้ได้อย่างไร หากฮ่องเต้และฮองเฮามาเห็นเข้า นางต้องถูกตำหนิอย่างแน่นอน

“ก็ข้าเห็นเจ้าอยู่คนเดียวในจวนถึงสามปีแล้ว ก็เลยพาเจ้าออกมาแก้เบื่อ หากเจ้ายังเป็นอย่างนี้ละก็ ต่อไปข้าไม่พาเจ้าออกมาแล้ว”

“แต่ว่า…”

จะพูดอย่างไรก็ตามพวกนางก็ถือตัวเป็นหญิงสูงศักดิ์ ทำไมถึงต้องมากินอาหารที่ไม่มีระดับข้างทางเช่นนี้?

แต่ว่ากินไปกินมา ทำไมอาหารเหล่านี้ถึงได้อร่อยขนาดนี้?

“ไอหยา ไม่ต้องแต่ว่าอะไรแล้ว เจ้าดูอันนี้สิ รสชาติเยี่ยม เข้าปากแล้วละลายในปาก อร่อยมากๆ เลย”

แม้จะบอกว่ากินของอร่อยเหล่านี้แล้วจะท้องเสีย แต่อย่างไรก็อดไม่ได้อยากจะกิน ทำอย่างไรดี?

“แต่ว่า…”

เมื่อเห็นองค์หญิงจาวหยางดูเหมือนอยากจะพูดอะไรขึ้นมา หลานเยาเยาก็ถือเนื้อที่ทั้งชาทั้งเผ็ด เลิกผ้าคลุมหน้าขององค์หญิงขึ้นแล้วยัดเข้าปากองค์หญิงไป

จาวหยางเผ็ดจนกระโดดลุกขึ้น เดินไปเดินมาทั่วทิศโดยไม่รู้จะทำอย่างไร เดินไปเดินมาชั่วครู่ในที่สุดก็หาน้ำดื่มพบ แล้วรีบวิ่งกลับมาหาหลานเยาเยา พลางเอ่ยขึ้น

“แต่ว่าข้าเห็นมีคนขโมยตั๋วเงินเจ้าไปแล้ว”

แม้จะโดนขโมยตั๋วเงินไปเพียงปึกเดียว แต่มองดูราวกับมีมูลค่ามากอยู่ ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ต้องเตือนขึ้น

“อะไรนะ?” ตั๋วเงินถูกขโมยหรือ?

กล้าขโมยตั๋วเงินข้าหรือ?

อย่างนั้นก็เตรียมตัวเป็นขันทีไปตลอดชีวิตซะ

ดังนั้น นางกระโดดผลุงขึ้น มองไปรอบสี่ทิศ แต่ก็ยังไม่พบใครวิ่งออกไปจากที่นั่น กลับถามขึ้น

“คนผู้นั้นวิง่หนีไปทางใดแล้ว?”

“เยาเยา ช่างมันเถอะ เพียงตั๋วเงินแค่ปึกเดียวเท่านั้น หากเจ้าคิดเสียดายละก็ กลับไปข้าให้เสด็จอาให้เจ้าเพิ่มขึ้นอีกหน่อย”

เมื่อขโมยไปแล้วก็ช่างเถอะ อย่างไรก็ไม่นับเป็นตั๋วเงินกี่มากน้อย ที่สำคัญคือโจรผู้นั้นหน้าตาดูโหดร้ายดุดัน มองดูแล้วน่ากลัวเหลือเกิน

พวกนางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอเท่านั้น!

หลานเยาเยาสั่นศีรษะขึ้นทันที

เพียงตั๋วเงินปึกเดียวอย่างนั้นหรือ?

นั่นล้วนเป็นตั๋วเงินที่นางหามาด้วยความยากลำบาก ผลของแรงงานของนางกลับโดนคนอื่นขโมยไปอย่างนี้ จะไม่ให้นางทำอะไรเลยหรือ?

เวลานั้นหลานเยาเยาคว้าน่องไก่ขึ้น ถูเข้ากับผงพริกจนเป็นชั้นหนา แล้วชี้ไปยังองค์หญิงจาวหยางพลางเอ่ยปากขึ้น “เจ้ารีบพูดออกมา โจรขโมยของนั้นวิ่งไปทางไหน?ไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้าเผ็ดตาย”

เมื่อถูกหลานเยาเยากดดันเข้า องค์หญิงจาวหยางก็ชี้ไปยังตรอกตรอกหนึ่ง

หลานเยาเยาไม่พูดร่ำทำเพลงก็วางน่องไก่นั้นลง รูปพุ่งตัวไปยังตรอกนั้นทันที เมื่อจาวหยางเห็นดังนั้น ก็รีบวิ่งตามไปด้วย

ภายในตรอกนั้น

หลานเยาเยาเพียงครู่เดียวก็ตามทันโจรผู้เชื่องช้าคนนั้น โจรผู้นั้นไม่ทันคาดคิด เมื่อเขาขโมยตั๋วเงินแล้วกลับไม่เห็นว่ามีคนตามเขามา เมื่อคิดว่าไม่มีใครเห็น เขาจึงไม่กลัวอะไร

แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหว และหันกลับไปก็เห็นหลานเยาเยายกมือเท้าสะเอวขึ้น มองเขาด้วยสายตา

หมาป่าผู้หิวโหย ทำเขาหวาดกลัวจนวิ่งหนีเตลิด

แต่ยังไม่ทันได้วิ่งหนีไปเท่าใด ก็ถูก หลานเยาเยาวิ่งไล่ตาม แล้วจึงถูกเหวี่ยงข้ามไหล่ไปอย่างสวยงาม

“โอ้ย!”

เสียงบุรุษร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดลอยมาจากด้านในตรอก จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องขอชีวิต

เมื่อองค์หญิงจาวหยางมาถึง ก็เห็นโจรผู้นั้นถอยหลังลนลานด้วยความหวาดกลัว ท่าทางน่าสงสารยิ่งนัก ราวกับถูกตีจนเสียสติไปแล้ว

นางรีบวิ่งเข้าไป เมื่อเห็นหลานเยาเยานำตั๋วเงินที่ถูกขโมยไปคืนได้แล้ว ก็รีบเตือนขึ้นทันที

“เยาเยา ตั๋วเงินก็ได้คืนแล้ว คนก็ทุบตีแล้ว อย่างนี้แล้วก็ช่างมันเถิด”

หลานเยาเยามองไปยังองค์หญิงจาวหยาง วัดน้ำหนักของตั๋วเงินที่อยู่ในมือตัวเอง

จำนวนตั๋วเงินไม่หายไปไหน ตัวเองก็ทุบตีคนไปแล้วรอบนึง ถือซะว่าก็ยังเป็นเรื่องดีละกัน

“ในเมื่อเจ้าช่วยขอร้องแทนเขา ข้าก็ไว้หน้าเจ้าหน่อยแล้วกัน ไปกันเถอะ”

เมื่อพูดจบก็พาองค์หญิงหันกายเดินจากไป แต่ยังไม่ทันเดินได้กี่ก้าว ด้านหลังก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“รอก่อน!”

เมื่อทั้งสองหันกลับไป กลับพบด้านหลังของโจรมีคนมาสมทบอีกหลายคน แต่ละคนไม่ถือด้ามไม้ก็ถือมีดเล่มใหญ่ ทั้งยังพร้อมกันถือพาดบ่ากันทุกคน

แม่เจ้าโว้ย!

พวกอันธพาลหรือนี่?

เสียดายเพียงว่าเหล่าพวกอันธพาลจริงๆ แล้วต้องยังหนุ่มแน่น และบางคนยังหล่อร้านเหล้าเอาการเสียด้วย

แต่คนพวกนี้หน่ะหรือ?

แต่ละคนต่างหัวมันหน้าไหม้ ไขมันย้วยเหมือนหมูนี่มันเกิดอะไรขึ้น?

“หายไปครู่เดียว ทำไมต่างกันมากขนาดนี้?”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท