ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 1502 แผนร้ายของหลิวซื่อ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1502 แผนร้ายของหลิวซื่อ

แม้รู้ว่าใครเป็นคนวางยา เขาก็สามารถหักล้างได้เพื่อร่างกายของฮูหยิน ตราบใดที่ยืนยันว่าไม่รู้ส่วนผสมของกลิ่นอีหลานเซียงก็ไม่มีใครถูกตัดสินให้ลงโทษได้

ในการสืบหาตัวฆาตกร แน่นอนว่าต้องเริ่มจากพวกพ้องที่อยู่รอบตัวฮูหยินฟาง

และมีเพียงคนเหล่านั้นที่สามารถสัมผัสกลิ่นอีหลานเซียงได้ และรู้ส่วนผสมของกลิ่นหอมนั้น ถึงจะสามารถวางยาได้

เมื่อเห็นท่าทางที่เจ็บปวดรวดร้าวใจอย่างยิ่งของกู้เสี่ยวหวาน ถานอวี้ซูก็รู้ว่าการตามหาตัวฆาตกรเป็นเรื่องยาก จึงได้แต่อธิษฐานให้ฮูหยินฟางฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด

ในจวนตระกูลฟาง หลิวซื่ออารมณ์ดีมาก และมองดูสาวใช้ข้างกายที่กำลังย้อมเล็บสีแดงให้นาง

หลังย้อมเสร็จหนึ่งนิ้ว หลิวซื่อก็ยื่นมือกลับมาอย่างพอใจ และมองไปสองสามทีที่นิ้วที่เรียวยาวเหมือนรากหัวหอมที่เหมาะกับสีแดงมาก ในใจยิ่งคิดก็ยิ่งงาม

หลิวซื่อถามคนรอบตัวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มมีเสน่ห์ “เจ้าว่า ข้าฮูหยินคนนี้งามหรือไม่”

คนใกล้ตัวรีบตอบทันที “ใบหน้าของฮูหยินงดงามราวกับนางเซียน แน่นอนว่างามที่สุด”

“เจ้าอย่ามาหยอกข้าหน่อยเลย” ใบหน้าของหลิวซื่อเหมือนหญิงสาวที่เขินอาย

สาวใช้ที่อยู่ข้างกายตอบด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ฮูหยินเป็นที่โปรดปรานของนายท่าน เป็นธรรมดาที่ฮูหยินจะงดงามราวกับดอกไม้ นายท่านจึงโปรดปรานฮูหยิน นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าน้อยได้เห็นผู้ชายที่คลั่งรักเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะฮูหยินใหญ่มาขัดขวาง นายท่านก็คงเลี้ยงดูฮูหยินเหมือนภรรยาแล้ว ฮูหยินและคุณหนูทั้งสองก็คงเป็นนายหญิงที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลฟางนานแล้ว”

สาวใช้ที่กำลังพูดคนนั้นชื่อหงเหมย เป็นสาวใช้ส่วนตัวของหลิวซื่อตอนอยู่ข้างนอก ต่อมาก็ตามหลิวซื่อเข้ามาในจวนตระกูลฟาง และได้ทำเรื่องรังแกข่มเหงผู้คนมามากมายพร้อมกับหลิวซื่อ เป็นคนสนิทของหลิวซื่อ

ได้ยินหงเหมยพูดเช่นนี้ หลิวซื่อก็ยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย “หลูเหวินซินหญิงสารเลวผู้นั้นกล้าสู้กับข้า นางยังอ่อนเกินไป”

“นั่นมันแน่นอน ฮูหยินอายุน้อยกว่านาง งามกว่านาง อีกทั้งยังเฉลียวฉลาดกว่านาง ให้กำเนิดคุณหนูมาใบหน้าก็งามกว่านาง คนเช่นนี้ แม้แต่นิ้วเท้าของฮูหยินก็เทียบไม่ติด”

เมื่อได้ยินคำเยินยอของหงเหมย หลิวซื่อก็รู้สึกสบายใจ “หึ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของนางเป็นขุนนางระดับสี่ นายท่านคงจัดการนางไปนานแล้ว”

หลิวซื่อถูกเสนอให้เป็นภรรยาตั้งนานแล้ว ฟางเจิ้งสิงก็มีความตั้งใจเช่นนี้ แต่ว่าหญิงสารเลวคนนั้นไม่ยินยอม

เรื่องนี้ยอมเป็นเรื่องยาก นอกจากที่นางจะตายไปเสีย

นายท่านยังคงคิดถึงความรักครั้งเก่า แต่ก็หันมาปลอบใจหลิวซื่อ และบอกว่ารักหลิวซื่อเพียงคนเดียว เพื่อให้หลิวซื่อไม่ร้อนใจและเป็นกังวล

นางจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร ลูกสาวทั้งสองคนอายุก็ใกล้จะแต่งงานแล้ว หากเป็นคุณหนูรองก็แต่งได้เป็นคุณหนูรองเท่านั้น

หรือว่าจะให้ลูกเป็นอนุภรรยาเช่นเดียวเหมือนนาง เป็นไม้ประดับตลอดไป

นั่นเป็นลูกสาวที่นางให้กำเนิด มีความรู้ความสามารถ มีหน้ามีตา อีกทั้งพ่อยังเป็นขุนนางระดับสูง หากตัวตนเปลี่ยนเป็นคุณหนูใหญ่ ไม่ว่าจะรัชทายาทหรือท่านอ๋องก็สามารถแต่งได้

จะไปแต่งเป็นคุณหนูรองได้อย่างไร

หลิวซื่ออดทนต่อความลำบากมามากเช่นนี้ ไม่ง่ายเลยที่จะผ่านความขมขื่นนี้มาได้ แล้วจะให้ลูกสาวทำพลาดซ้ำเหมือนนางได้อย่างไร

“ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างไร ตายแล้วหรือไม่” หลิวซื่อยิ้มอย่างชั่วร้าย มองดูเล็บสีแดงของตนและยิ้มอย่างน่าขนลุก

“คำพูดของฮูหยิน ได้ยินว่าใกล้แล้ว” หงเหมยก็พูดด้วยรอยยิ้ม “คนที่ถูกส่งไปเฝ้าดูตระกูลหลู บอกว่าได้จัดซื้อของสำหรับจัดพิธีงานศพแล้ว”

“ฮ่าฮ่า” หลิวซื่อแสยะยิ้ม “ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะตายแล้วจริง ๆ ช่างดีเหลือเกิน”

เหมือนภูเขาที่อยู่ในใจของนางมาเป็นสิบ ๆ ปี ในที่สุดนางก็ได้โค่นมันลงทีละนิดแล้ว

ในที่สุดคนผู้นั้นก็จะตายแล้ว

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท