เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย – บทที่ 585 เมืองหลวง พวกเรากลับมาแล้ว!

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

บทที่ 585 เมืองหลวง พวกเรากลับมาแล้ว!

จี้จือฮวนและเผยยวนไม่ได้รู้สึกอะไรเกี่ยวกับความวุ่นวายในลานบ้านเมื่อคืนนี้แม้แต่น้อย

เพราะทุกคืนก็เหมือนมีหนูนับร้อยตัวเข้ามาในบ้านอยู่แล้ว ดังนั้นก็ปล่อยพวกเขาวุ่นวายกันไปเถอะ

ตอนเช้า ฟางซวินได้ต้มโจ๊กมันเทศ และทำกับข้าวเอาไว้อีกสามสี่อย่าง ทั้งครอบครัวจึงมานั่งรอกินข้าวนานแล้ว

แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ ผีหิวโหยเหล่านั้น วันนี้ไม่รู้ว่าหายไปอยู่ที่ใดกันหมด

“กินข้าวกันเถอะ แค่แบ่งไว้ให้พวกเขาก็พอ” จี้จือฮวนตัดสินใจว่าจะไม่รอพวกเขาแล้ว

ทันทีที่สิ้นเสียง ไป๋จิ่นก็เท้าเอวเดินเข้ามา สีหน้าราวกับถูกปีศาจสิบตนผลัดกันสูบพลังตลอดทั้งคืน

“รอ~ข้า~ด้วย~”

น้ำเสียงของเขาราวกับวิญญาณจะหลุดออกจากร่างอย่างไรอย่างนั้น

อาชิงถือตะเกียบเอาไว้ “อาจารย์ แล้วอาจารย์เยว่พั่วหลัวเล่าขอรับ?”

“อยู่นี่~”

จากนั้นก็เห็นเยว่พั่วหลัวเดินตามเข้ามาด้วยหน้าตาแจ่มใส เผยยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็มองไป๋จิ่นก่อนจะกระแอมออกมาแล้วพูดขึ้น “เพลา ๆ บ้างเถอะ ยังไม่ทันได้กลับเมืองหลวงก็จะถูกคนสูบพลังจนหมดเสียก่อน”

ไป๋จิ่นมองเขาด้วยความคับแค้นใจ

ไม่ใช่เพราะภรรยาของเจ้ากำลังท้องหรอกหรือ เจ้าถึงเอาภาพเร้าอารมณ์ที่เจ้าไม่ได้ใช้เหล่านั้นมายัดให้ข้า

ทำให้เมื่อคืนนี้เยว่พั่วหลัวอยากจะลองขึ้นมา

เดิมทีพูดถึงตรงนี้ก็ควรพอและกินข้าวต่อไปได้แล้ว เพราะมีเด็กอยู่ด้วย

แต่ใครจะคิดว่าจีฝูเย่จะเดินเข้ามาพร้อมขอบตาดำคล้ำ ก่อนจะเอ่ยด้วยความโมโห “เมื่อคืนนี้เตียงของใครพังกัน! เอี๊ยดอ๊าดทั้งคืน! ทำลายศีลธรรมอันดีงามจริง ๆ!”

เขานั่งลงด้วยความโมโห สายตาก็จับจ้องไปที่ผู้ต้องสงสัยทั้งสองคน

เพราะตอนนี้ท่านอาจารย์ผู้งดงามของเขาก็คงไม่สะดวกทำเรื่องอย่างว่าแล้ว!

ดังนั้นต้องเป็นดาวเคราะห์ชั่วร้ายสองคนนี้อย่างแน่นอน ช่างไม่รู้จักกาลเทศะเอาเสียเลย!

จีฝูเย่เริ่มกินโจ๊กด้วยความขุ่นเคือง

ทว่าโจ๊กเพิ่งจะเข้าปากไปหนึ่งคำ แต่เมื่อสายตาของเขากวาดมองไปยังประตู โจ๊กในปากก็พุ่งออกมาทันที

ทุกคนต่างก็เงยหน้าขึ้นมอง นอกจากจี้จือฮวนและเผยยวนแล้ว ทุกคนก็เกือบจะพ่นโจ๊กออกมา เมื่อเห็นเผยเสี่ยวเตาสวมชุดกระโปรงสีชมพูสด และเอาชาดสีแดงสดมาแต่งแต้มที่แก้มด้วย ส่วนดวงตาทั้งสองข้างก็ไม่รู้ว่าเอาอะไรมาทา อย่างกับสยงเมาอย่างไรอย่างนั้น จนตาขาวก็แทบจะมองไม่เห็นอยู่แล้ว

ทั้งยังเดินบิดสะโพกเข้ามา เมื่อเห็นพวกเขามองมาก็สะบัดผ้าเช็ดหน้าด้วยความเขินอาย พลางบีบเสียงให้เล็กลง “ทำไมมองคนเขาเช่นนั้นเล่า~”

“พรวด” คราวนี้แม้แต่เผยยวนเองก็ทนไม่ไหวอีกแล้ว

เหลือเพียงจี้จือฮวนเท่านั้นที่ยังคงสงบนิ่งอยู่

โจ๊กทั้งหม้อถูกทุกคนพ่นออกมาจนเกือบหมด โชคดีที่ฟางซวินต้มเอาไว้เยอะ จึงได้ตักชามใหม่มาให้พวกเขา

ทั้งยังกำชับด้วยว่า “หากพ่นออกมาอีกก็ไม่มีแล้วนะเจ้าคะ”

เผยเสี่ยวเตาเห็นปฏิกิริยาของพวกเขา ปากสีแดงสดก็มุ่ยลง “ทำไม! ไม่เคยเห็นหญิงงามหรือ?”

จีฝูเย่มองนางนั่งลง ก่อนจะกลืนน้ำลายแล้วเอ่ยถาม “แม่นางเสี่ยวเตา ท่านได้รับความกระทบกระเทือนอะไรมาหรือไม่ พวกเราต่างเป็นคนกันเอง ท่านบอกมาได้เลย ผู้ใดหลอกให้ท่านทำเช่นนี้! ข้าจะเอาเครื่องหลั่งโลหิตที่ข้าแก้ไขแล้วไปตัดหัวมันซะ”

สีหน้าของเผยเสี่ยวเตาพลันเปลี่ยนไป “เช่นนี้ไม่สวยหรือ?”

นางเห็นผู้หญิงข้างนอกล้วนแต่งตัวแต่งหน้าเช่นนี้กันทั้งนั้น!

เซียวเย่เจ๋อมองนางนิ่ง ๆ “ข้าเอาบัตรสมาชิกพิเศษสำหรับแต่งหน้าของร้านเราให้เจ้าดีหรือไม่?”

“ไม่เป็นไร ข้าแต่งเป็น” จากนั้นเผยเสี่ยวเตาก็เอ่ยต่ออย่างมีความสุข “พวกเจ้าแค่ไม่เข้าใจก็เท่านั้น”

เอ่ยจบนางก็กินถั่วลิสงอย่างมีความสุข แล้วยังเอ่ยกับฟางซวินที่ยกโจ๊กมาให้ “ขอบคุณแม่นมฟาง”

พริบตาต่อมาเว่ยเจ๋อเซิงก็เดินเข้ามา ตอนที่เผยเสี่ยวเตาหันหน้าไป สีชาดที่แต้มบนใบหน้าก็ยิ่งแดงมากขึ้นกว่าเดิม

เดิมพวกเขายังคิดว่าหากเว่ยเจ๋อเซิงไม่พูดคำว่า ‘แม่นางเสี่ยวเตา เจ้าเป็นอะไรไป?’ ก็คงจะเป็น ‘เสี่ยวเตา! ผู้ใดลอบทำร้ายเจ้า!’

แต่ใครจะคิดว่าวันนี้ความสามารถในการเอาใจผู้อื่นของเจ้าหมอนี่จะดูเชี่ยวชาญขึ้นเช่นนี้

“เตาเตา เมื่อครู่ข้าไปต่อแถวซื้อแป้งอบไส้รวมผักเค็มแห้งที่เจ้าชอบมาให้ เจ้าลองชิมดูสิ กรอบมากเลยนะ”

ทุกคน “…”

หากเจ้าถูกบังคับ เจ้าก็แค่ขยิบตาให้พวกเราก็พอ

“คนบ้า มีคนมากมายดูอยู่นะ” เผยเสี่ยวเตากะพริบตาปริบ ๆ จากนั้นก็กัดแป้งอบนั่นครึ่งชิ้นภายในคำเดียว

เดี๋ยวนะ พวกเจ้าสองคนคืนดีกันตั้งแต่เมื่อใด!?

ขณะที่ทุกคนกำลังหดหู่ใจอยู่นั้น ป่านหลานเกินก็พาพวกเจี๋ยหมิงจื่อเดินเข้ามาในห้องพร้อมด้วยสีหน้าหดหู่ยิ่งกว่า ก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะอีกตัวแล้วเริ่มกินโจ๊ก สำนักเทพพยากรณ์ที่ตามหลังมาก็ได้หยิบกระดาษแดงออกมาหารือกับพวกเขา

“วันนี้ดี”

“ข้าคิดว่าวันนี้ดีกว่า”

“นี่ไม่ได้ เหตุใดเจ้าจงใจเลือกวันที่ศิษย์พี่หญิงของพวกเราเป็นระดูเล่า แบบนี้ต้องเลี่ยง! ทำนายเป็นหรือไม่ ต้องเลือกวันนี้ วันนี้ แล้วก็วันนี้ คลอดลูกยังต้องถามพวกเราด้วย เข้าใจหรือไม่!”

ใช้วิธีคำนวณอย่างพวกเขา แล้วเมื่อใดจะได้มีศิษย์หลานที่น่ารัก ๆ มาวิ่งตามหลังกัน?!

อาชิงกินอิ่มแล้ว ขาสั้น ๆ ก็กระโดดลงจากเก้าอี้ ก่อนจะชะโงกหัวที่มีผมหนา ๆ เข้าไปตรงช่องว่างระหว่างพวกเขา จากนั้นก็หยิบพู่กันของพวกเขามาแล้ววาดวงกลมวงหนึ่งลงไป “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว เอาวันนี้เถอะ!”

ทุกคนหันไปมอง

“ก็ได้”

“วันก็ตรงด้วย”

“น้องชาย ไม่เลวนี่นา”

อาชิงกะพริบตาปริบ ๆ “เลือกวันเอาไปทำอะไรอย่างนั้นหรือ?”

สำนักเทพพยากรณ์ “…” ไม่รู้แล้วเจ้ามาร่วมวงด้วยทำไมกันล่ะเนี่ย!

ลู่เอี้ยนหลังจากเมื่อคืนนี้ได้สติแล้ว ก็ให้คนกลับไปที่เมืองแล้วขนสินสอดมาที่นี่อย่างมีความสุข ถ้าหากตระกูลหมอเทวดาต้องการ จะถือเป็นสินเดิมของเขาก็ได้

ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะทำให้นางประทับลายนิ้วมือได้ หากเย่จิ่งฝูกล้ากลับคำ เช่นนั้นเขาก็ทำได้เพียงกำจัดภรรยาเพื่อคุณธรรมแล้ว!

หากไม่ยอมก็คงต้องจับมัดแล้วเอากลับไปปรนนิบัติอย่างดีที่บ้านเสียแล้ว

จะจัดงานมงคลทั้งที ดังนั้นทุกคนจึงอยากจะกลับไปจัดที่สำนัก ดังนั้นสองวันนี้ทุกคนจึงร่ำลากันและกัน เพื่อกลับสำนักไปเตรียมจัดงานมงคล

อีกทั้งพวกเขาก็ไม่สามารถอยู่ที่ชายแดนนาน ๆ ได้ คนไข้อื่น ๆ ก็รออยู่เช่นกัน

ทันทีที่จี้จือฮวนทราบเรื่อง ก็เลือกหนังสือหลายสิบเล่มจากห้องเก็บของในมิติพิเศษแล้วเอามามอบให้พวกเขา เมื่อเทียบกับยาสมุนไพรอันล้ำค่าเหล่านั้นแล้ว สำหรับพวกเขาตำราแพทย์เหล่านี้ต่างหากที่เปรียบเสมือนสมบัติที่แท้จริง

เย่จิ่งฝูเดิมยังลังเลอยู่ว่าจะหนีงานแต่งดีหรือไม่ แต่เมื่อเห็นจี้จือฮวนเตรียมสินสอดเช่นนี้ให้ลู่เอี้ยน นางก็ถึงกับถามลู่เอี้ยนวันละสามเวลาว่าจะแต่งงานกันเมื่อใด เร็วขึ้นอีกหน่อยได้หรือไม่

อย่าทำให้นางได้สินสอดล่าช้าจะได้หรือไม่!

ลู่เอี้ยนได้ยินก็ตกตะลึงไปทันที!

มีเรื่องดีเช่นนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ?

ส่วนไป๋จิ่นกับเยว่พั่วหลัวก็ต้องกลับไปทางใต้อีกสักครั้ง นอกจากนี้ยังต้องเอาตัวเจ้าสุนัขไช่หุ่ยไปส่งด้วย

กว่าพวกเขาจะกลับเมืองหลวงไปสอนอาชิงครั้งหน้า ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะแต่งงานกันแล้ว

เพราะดูจาก ‘ความขยัน’ ของพวกเขาแล้ว หากยังไม่แต่งงานกันอีกละก็ เกรงว่าลูกคงคลอดออกมาเสียก่อน!

หลังจากการบุกเบิกที่ดินรอบแรกในหลงซีประสบความสำเร็จ กองทหารรักษาการณ์ที่ราชสำนักส่งมาก็มาถึงชายแดนแล้วเช่นกัน

อาเหริ่นและเซิงเซิงก็ตัดสินใจตามลูก ๆ กลับไปที่เมืองหลวงด้วย

พวกเขาสูญเสียช่วงเวลาที่ลูก ๆ ต้องการพวกเขามากที่สุดไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถสูญเสียช่วงเวลาที่พวกเขาเติบโตได้อีก

ทัพใหญ่ของกองทัพทหารเกราะเหล็กเดินทางออกจากหลงซีอย่างเป็นทางการ ในวันที่พวกเขาจากมา ชาวเมืองหลงซีต่างก็คุกเข่าเพื่อส่งพวกเขา รอส่งจนกระทั่งพวกเขาไกลออกไปเรื่อย ๆ นับยี่สิบลี้ ก็ยังพากันขึ้นไปบนยอดเขาและมองจนพวกเขาหายลับตาไป

ส่วนเผ่าหมาป่าก็ได้ตามมาส่งด้วย ทั้งยังมอบหมาป่าหิมะน้อยที่เพิ่งคลอดให้พวกเขาอีกหนึ่งครอก อาอินมองแผ่นดินที่อยู่ด้านหลังอย่างแน่วแน่ นางสาบานว่าภายหน้าจะต้องกลับมาปกป้องที่นี่แทนท่านพ่อกับท่านแม่ให้จงได้!

เมืองหลวง! พวกเรากลับมาแล้ว!!! หมู่บ้านตระกูลเฉิน! ช่างคิดถึงยิ่งนัก!

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

Status: Ongoing
หน่วยสืบราชการลับ—จี้จือฮวนเกิดใหม่เป็นตัวประกอบในนิยายที่ได้แต่งกับเทพสงครามเป็นแม่เลี้ยงของ 3 วายร้ายแต่กลับต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ในเมื่อปฏิเสธชะตาไม่ได้ขอแค่ไม่ตายก็จะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!จี้จือฮวน–หน่วยสืบสวนราชการลับระดับ S ในโลกล้ำยุค จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่เคยอ่าน(แต่ไม่จบ) ซึ่งตายตั้งแต่ยังไม่พ้นสามบทแรก! เธอคนนี้แต่งงานกับเผยยวนได้รับสมญานาม ‘เทพสงครามแห่งความตาย’ และเป็นแม่เลี้ยงของเด็กแสบสามคนจี้จือฮวนปฏิเสธชะตากรรมนองเลือด ขอแค่มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ต่อไปก็พอแต่เรื่องกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวประกอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ดันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเลี้ยงทั้งสามกลายเป็นตัวมากเล่ห์ จอมมารร้าย ซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบอันเศร้าสลดเมื่อทั้งสามโตขึ้น…นั่นก็คือความตายอย่างน่าอนาถในเมื่อเลือกไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เธอจะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!.โชคดีสวรรค์ยังมีตา เธอมีทักษะทุกอย่าง ทั้งงานฝีมือ ทักษะการเพาะปลูกและทำนาที่สามารถหาเงินเพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งกว่านั้น เธอมีของดีที่สุด คือมิติพิเศษที่ช่วยให่เธอหยิบยืมอะไรก็ได้จากโลกอนาคตติดตัวมาด้วย!.เอาล่ะ! ในฐานะอดีตสายลับระดับสุดยอด ใครหน้าไหนก็หยามกันไม่ได้! ต่อให้เป็นสวรรค์ก็เถอะ หากคิดจะฆ่าเธอทิ้ง เธอจะชิงสังหารสวรรค์ก่อน!..ต่อมาลูกชายคนโตที่ตั้งแต่เด็กสุดแสนจะเงียบขรึมกลับได้ขึ้นเป็นกษัตริย์! นักรบจอมพลังซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองก็กลายเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้า แม้แต่ลูกชายคนเล็กก็กลายเป็นแพทย์หนุ่มผู้เชี่ยวชาญสารพัดพิษ ร่างกายของเขาทนทานต่อพิษทั้งปวงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้..จี้จือฮวนรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ในฐานะสาวงามที่ถูกราชสำนักและประชาชนผลักไสอย่างไร้ความปรานี เธอจึงจำต้องทำให้ตัวเองเป็นสตรีที่น่าเกรงขาม เป็นที่หวาดกลัวต่อราชสำนักและประชาชนเมื่อทุกคนนึกถึง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท