หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 67 ฝังพระชายาทั้งเป็น

บทที่ 67 ฝังพระชายาทั้งเป็น

บทที่ 67 ฝังพระชายาทั้งเป็น

พอน้ำเสียงนั่นหยุดลง

เย่แจ๋หยิ่งที่กดนางเอาไว้ก็ถอยหลังออก สายตาของเขาเย็นชาลง แต่ยังคงมองไปที่นางอยู่

หลังจากที่เห็นว่านางผงกหัวเหมือนนกไม้ นางก็ยังคงยืนอึ้งอยู่เหมือนเดิม

มันทำให้เย่แจ๋หยิ่งอดที่จะหน้านิ่งไม่ได้

“ยังไม่รีบไปอีก?”

“อือ ไปเดี๋ยวนี้แหละ”

หลานเยาเยาหันหน้าหนีไป ใบหน้าของนางดูสับสนมาก

หรือว่านางจะรู้สึกพลาดได้เหมือนกัน?

เขาไม่ได้อยากจะทำให้นางหลงแล้วยึดเอาทรัพย์สินของนาง? แต่อยากให้นางไปเอาเสื้อผ้ามาให้จริง ๆ ?

ก็ได้

เพราะความเป็นจริงเขาก็รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ

หลานเยาเยายักไหล่อย่างจนปัญญา หลังจากนั้นก็ทำตามที่เย่แจ๋หยิ่งต้องการ ไปเอาเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้ามา มันเป็นชุดสีดำเงาตัดขาว ปักลายด้วยด้ายสีทอง

ทันใดนั้นเองหลานเยาเยาก็รู้สึกเหมือนนางจะพบอะไรที่สำคัญเข้า

นั่นก็คือ เสื้อผ้าของเย่แจ๋หยิ่งนอกจากชุดประจำตำแหน่งของเขาแล้ว มันมีแต่ชุดสีดำตัดขาว อีกทั้งยังเป็นลายปักด้ายสีทองทั้งหมดด้วย

คนมีเงินก็เอาแต่ใจแบบนี้นี่แหละ

นางหยิบชุดมาให้เย่แจ๋หยิ่ง ในตอนนี้เอง เขาก็ได้กางแขนออก รอให้นางถอดเสื้อให้เขา

“ท่านอ๋อง?”

นี่คิดอยากจะให้ช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อจริง ๆ เหรอ?

“ทำไม?”

เย่แจ๋หยิ่งมองไปที่นาง จากนั้นก็หัวเราะ แล้วก็เอาเสื้อมาจากมือของนาง

“มีความกล้าแค่นี้เองเหรอ”

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปที่หลังฉากบังลม แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเอง

“ …… ”

ความกล้ามันทำไมเหรอ?

ความกล้าของนางปกติแม้แต่ตัวนางยังกลัวเลย

หลังจากนั้นไม่นาน

ทั้งสองคนก็นั่งรถม้าออกนอกเมืองไปพร้อมกัน

ในรถม้าหลานเยาเยารู้สึกอึดอัดมาก นางอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองเย่แจ๋หยิ่งที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับนาง

เมื่อกี้ตอนอยู่ในเมือง นางเห็นร้านขายของกินเต็มไปหมดเลย น้ำลายของนางแทบจะไหลออกมาอยู่แล้ว คิดอยากลงรถไปซื้อ แต่ไม่ว่านางจะบอกให้หยุดรถยังไง ก็ไม่มีใครสนใจนางเลย

นางก็รู้คนที่บังคับรถม้าไม่ได้ยินคำสั่งของเย่แจ๋หยิ่ง ก็ไม่มีทางหยุดรถแน่นอน

ดังนั้นนางเลยจ้องไปที่เย่แจ๋หยิ่ง แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จนรถม้าออกนอกเมืองมาแล้วแม้แต่ตอบผ่านทางสายตาเขาก็ไม่มีให้นางเลย

ในใจของนางรู้สึกโกรธมาก

เย่แจ๋หยิ่ง ช้าเร็ว ข้าจะทำให้เจ้ามาคุกเข่าลงตรงหน้าข้าแน่นอน

ไม่นานเท่าไหร่ เดิมทีรถม้าที่นั่งมาสบาย ๆ กลับเหมือนมีอะไรมาทิ่มกระแทกไปกระแทกมา นั่งนาน ๆ ไปมันทำให้รู้สึกไม่สบายก้นเลย

หลานเยาเยาขยับก้นไม่รู้กี่รอบ สุดท้ายนางก็พูดขึ้นมาว่า

“ตกลงเราจะไปที่ไหนกัน?”

เมื่อกี้นางแอบมองผ่านหน้าต่างออกไปแล้ว รถม้ายิ่งวิ่งยิ่งไกลออกไป จนถึงด้านหลัง เหมือนไม่มีแม้แต่คนเลย

“อีกเดี๋ยวก็จะถึงแล้ว”

“เชอะ”

อีกเดี๋ยวก็จะถึงแล้ว

ตลอดทางนางสังเกตท่าทางของเขา เขาไม่ขยับก้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งยังไม่ลืมตาด้วย

ในสถานการณ์แบบนี้เขายังรู้ได้อีกเหรอว่าจะถึงที่หมายเมื่อไหร่?

หลอกผีหรือไงกัน

เหมือนน้ำเสียงของนางจะผิดปกติ มันทำให้เย่แจ๋หยิ่งถึงกับต้องลืมตาขึ้นมา แล้วใช้สายตาที่อันตรายมองมาที่นาง

“เจ้ากำลังสงสัยข้าอย่างนั้นเหรอ?”

หลานเยาเยายิ่งอยู่ยิ่งใจกล้ามากไปแล้วนะ เดี๋ยวเถอะ หวังว่านางยังรักษาสภาพของนางแบบนี้ไว้ได้แล้วกัน

ในที่สุดรถม้าก็มาจอดที่พื้นที่ราบระหว่างภูเขา

หลานเยาเยามองไปที่ภูเขาสูงที่อยู่ทั้งสองฝั่ง บนภูเขามีต้นไม้ใบหญ้าหนาทึบไปหมด

นางอดกลืนน้ำลายไม่ได้

หากเดาไม่ผิด ที่นี่ก็คือหน้าผาที่ก่อนหน้านี้นางตกลงไป รอบด้านล้อมรอบไปด้วยภูเขา ส่วนที่นางอยู่ในตอนนี้มันคือหนึ่งในทางเข้า

ครั้งที่แล้วเพื่อเอาชีวิตรอด นางใช้เถาวัลย์แล้วปีนขึ้นมา ทำให้เย่แจ๋หยิ่งจับนางไม่ได้

ตอนนี้เขาพานางมาที่นี่คิดจะทำอะไรกัน?

นางใช้สายตาแบบแจ้งเตือนมองไปที่เขา แต่นางกลับพบว่าเขาไม่ได้มองมาที่นางเลย แต่เดินตรงไปด้านหน้า

แต่ว่าท่าทางของเขามันดูระมัดระวังมาก

หลานเยาเยาถึงแม้จะสงสัย แต่ในใจรู้สึกว่า เย่แจ๋หยิ่งไม่มีทางวิ่งมาในที่ที่พวกเขาเจอกันครั้งแรก เพื่อมา “ระลึกความหลัง” โดยไม่มีอะไรหรอกนะ

นอกจากว่าเขามีปัญหา

ใครจะคิด ……

หลานเยาเยายืนอยู่ตรงหลุมที่นางเคยขุดขึ้นมาเอง ในใจของนางมันตกไปถึงตาตุ่มแล้ว สีหน้าของนางตอนนี้ไม่รู้เลยว่าต้องใช้คำไหนมาบรรยายดี

ตอนที่เห็นข้างหลุมที่ขุดใหม่ สายตาของนางดูเสียใจมาก

“เจ้ายังจำที่นี่ได้ไหม?”

เมื่อน้ำเสียงของเขาดังเข้าหู ไม่รู้ว่าเขามีเจตนาอะไร

“ไม่รู้สิ ที่นี่ที่ไหนเหรอ?”

ก่อนที่จะแน่ใจว่าเย่แจ๋หยิ่งคิดอยากจะแก้แค้นนางจริงหรือเปล่า นางต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรก่อน หยั่งเชิงให้แน่ใจว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ก่อน

ใครจะคิด ……

กลับมีคนผลักนางจากด้านหลัง จนนางตกลงไปในหลุม

หลังจากหลานเยาเยายืนขึ้นมาได้ก็หันหน้ากลับมา เห็นเย่แจ๋หยิ่งกำลังจ้องมาที่นาง ริมฝีปากของเขาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

“เจ้าผลักข้าทำไม?”

บ้าไปแล้วหรือไง อย่าบอกนะว่าคิดจะฝังนางทั้งเป็น?

แต่ว่าในความเป็นจริงมันก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้น เขาเห็นเย่แจ๋หยิ่งเหมือนจะขยับเล็กน้อย จื่อเฟิงกับจื่อซีหยิบเสียมออกมาขุดดินอ่อนด้านข้าง แล้วสาดใส่ตัวนาง

บ้าเอ้ย

นี่คิดจะฝั่งนางทั้งเป็นจริง ๆ เหรอ?

ในตอนนี้หลานเยาเยาจะอยู่เฉยได้ยังไง นางเอามือกอดเอว ใบหน้าของนางโกรธมาก

“ท่านอ๋อง สมองของท่านมีเนื้องอกหรือยังไง? ท่านพาข้ามาไกลขนาดนี้เพื่อฝังข้าเหรอ?”

เขาล้อเล่นใช่ไหม !?

จะต้องล้อเล่นแน่ ๆ

จากนั้น เย่แจ๋หยิ่งตอบกลับนางด้วยความพูดที่ว่า “เสียงเจี๊ยวจ๊าวจริง”

หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มแบบคนจะดูดเลือด เขาหันไปสั่งจื่อเฟิงว่า “จับนางมัดไว้ แล้วปล่อยให้นอนลง”

“ขอรับ นายท่าน”

จื่อเฟิงโยนเสียมไปข้าง ๆ แล้วยกมือคำนับ

หลานเยาเยายังไม่เชื่อว่านี่มันจะเป็นเรื่องจริง จื่อเฟิงเดินไปสกัดชีพจรของนางอย่างง่ายดาย แม้แต่สายตาก็ไม่กระพริบ จากนั้นก็จับนางนอนอยู่ที่หลุม

“ข้า …… ไม่ใช่สิ เจ้าเอาจริงเหรอเนี้ย?”

หลานเยาเยาที่อยู่ในสภาพอึ้งอยู่ ในหัวตอนนี้โล่งไปหมด

เย่แจ๋หยิ่งเจ้าทึ่มบ้าไปแล้วหรือไงเนี้ย?

สายตาของเย่แจ๋หยิ่งเย็นชาตั้งแต่ต้นจนจบ

นางรู้ดีว่าเย่แจ๋หยิ่งไม่มีทางตอบคำถามของนางแน่นอน สายตาของนางจ้องไปที่จื่อซี

เจ้าเด็กบ้านี่ชื่มชมวิชาแพทย์ของนางอยู่ ยังแอบมาเรียนกับนางบ่อย ๆ คิดว่าเขาน่าจะยอมตอบคำถามของนางจริงไหม?

ใครจะคิด ……

จื่อซีเอาแต่ใช้เสียมตักดินมากลบนาง ไม่แม้แต่จะมองมาที่นางเลย

แย่แล้ว

แย่แล้ว แย่แล้ว แย่แล้ว

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้ามันคนใจแคบ ยังไงข้าก็ถือเป็นผู้มีพระคุณของเจ้านะ เจ้ากลับคิดจะฝังข้าแบบนี้น่ะเหรอ”

เจ้าบ้าเอ้ย เจ้าสารเลว ไอ้คนนิสัยไม่ดี ต่ำช้า หน้าไม่อาย ……

ยังมีคำไหนอีกนะ? นางจะต้องด่าคำให้สาแก่ใจไปเลย

จื่อซีกับจื่อเฟิงมองหน้ากัน

จื่อซี : ร้ายกาจมาก ด่านายท่านได้ขนาดนี้ มิน่าถึงได้ตายเป็นหมูตกถังน้ำร้อน

จื่อเฟิง : ข้าควรจะเอากระบี่แทงไปเลยดีไหม?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท