หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 65 สั่งสอนสาวใช้

บทที่ 65 สั่งสอนสาวใช้

บทที่ 65 สั่งสอนสาวใช้

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก ……”

“พระชายา ตื่นได้แล้วเพคะ ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว” น้ำเสียงเหมือนกำลังประชดอยู่

น้ำเสียงมันคุ้นหูมาก ไม่เหมือนสาวใช้ที่ชื่อชิวซวนเลย แต่เป็นสาวใช้อีกคนที่ติดตามมาด้วย เหมือนจะชื่อว่าชิงปี้

ในตอนนี้ หลานเยาเยาลุกขึ้นมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วโดยไม่ได้ไปสนใจนาง แต่หวีผมให้ตัวเอง หลังจากทำอะไรเรียบร้อยแล้ว ถึงได้เปิดประตูออกไป

สิ่งที่นางเห็นในแววตาของนางก็คือสาวใช้คนหนึ่งที่มีสีหน้าท่าทางประชดแดกดันนางแต่เก็บท่าทีไม่ทัน

ก่อนที่นางจะเปิดประตูออกมา สาวใช้คนนี้กำลังนินทานางกับชิงปี้ว่าเมื่อคืนนางไม่ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋องเย่

แต่นางไม่ได้เบาเสียงที่พูด เหมือนกับว่าไม่ได้กลัวว่านางจะได้ยินเลย

ในเวลาแบบนี้ตั้งใจให้นางได้ยิน เป้าหมายก็เพื่อหยามเกียรตินาง

พอได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสองก็รีบสำรวมขึ้นมาแล้วพูดพร้อมกันว่า

“พระชายา”

“เจ้า” หลานเยาเยาชี้ไปที่ชิงปี้ แล้วสั่งอย่างหน้าตาเป็นมิตรว่า “เจ้าไปช่วยข้าตักน้ำมาหน่อยสิ ข้าอยากจะล้างหน้า”

“เพคะ พระชายา”

เพราะถูกสั่ง น้ำเสียงของชิงปี้ไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ยังถืออ่างทองแดงไปตักน้ำมา

เมื่อนางเอาน้ำมาแล้ว หลานเยาเยาก็มอง พบว่าน้ำในอ่างทองแดงมันไม่ใสสะอาดเลย เหมือนเป็นของคนที่ใช้มากแล้ว อีกทั้งที่ก้นอ่างยังมีเหมือนเศษโคลนด้วย

“น้ำนี่ไปตักมาจากไหน?”

หลานเยาเยาพูดอย่างเรียบง่าย แต่สายตาจ้องไปที่ชิงปี้อย่างดุดัน

“ทูลพระชายา ตักมาจากโอ่งในห้องเครื่องเพคะ ห้องเครื่องต่างใช้น้ำนี่ในการล้างพักทำอาหารเพคะ พระชายาโปรดวางพระทัย”

พระชายาที่ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่ได้รับการโปรดปรานแน่นอน เมื่อคืนเป็นคืนเข้าหอ ท่านอ๋องก็ไม่ได้อยู่ค้างด้วย

ถึงแม้เมื่อคืนพวกนางที่เป็นสาวใช้ที่ติดตามมากับขบวนเจ้าสาว ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้สลบไปกันหมด แต่จากสภาพห้อง

เมื่อคืนอ๋องเย่ไม่ได้มาแน่นอน ไม่อย่างนั้นหลานเยาเยาก็คงไม่อาละวาดจนห้องเละเทะแบบนี้แน่นอน

“น้ำจากห้องเครื่องดีนี่ เจ้ามาดูให้ดีดีสิ นี่ใช่น้ำในห้องเครื่องจริงหรือเปล่า?”

เห็นนางโง่หรือไม่มีสมองกัน?

หากเป็นน้ำในห้องเครื่องของจวนอ๋องเย่ น้ำที่ใช้ทำอาหารเป็นแบบนี้ คนในห้องเครื่องต่อให้มีสักร้อยหัวก็ไม่พอให้ตัดแน่

เมื่อได้ยินนางพูดแบบนี้ ชิงปี้ก็เดินขึ้นหน้ามาแบบไม่พอใจ จากนั้นก็เหลือบไปมองน้ำในอ่าง แล้วตอบแบบไม่ใส่ใจว่า

“ใช่เพคะ พระชายา นี่เป็นน้ำในห้องเครื่อง ……”

นางพูดยังไม่ทันจบ อีกทั้งโค้งตัวลงยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นมาดีดี หัวของนางก็เหมือนถูกแรงกดให้ลงไปในอ่างทองแดง

“อือ …… อือ …… อือ ……”

ชิงปี้ถูกหลานเยาเยาจับกดอย่างแรง ไม่ว่านางจะดิ้นยังไงก็ไม่หลุด จนนางหายใจไม่ออก ดื่มน้ำในอ่างไปหลายอึก

น้ำในอ่างกระเด็นออกมาด้านนอกมากมายจากการดิ้นของนาง

ในช่วงเวลาที่นางหน้าแดงจนหายใจจนแทบตาย หลานเยาเยาถึงได้ปล่อยมือ

“แคก แคก แคก ……”

ชิงปี้สูดอากาศหายใจ อีกทั้งยังทรุดลงไปกับพื้น ใบหน้า ลำตัว หัวของนางเปียกไปหมด

สภาพอนาถมาก อนาถจริง ๆ

ชิงปี้ที่ได้สติกลับมา นางเช็ดน้ำบนหน้าของนาง จากนั้นก็มองไปที่หลานเยาเยา จ้องไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

“หลานเยาเยา เจ้ากล้ากดข้าลงไปในน้ำล้างเท้าเหรอ? ข้าจะต้องบอกให้คุณหญิงทำโทษเจ้าแน่”

น้ำล้างเท้า?

น้ำล้างเท้าสกปรกได้ขนาดนี้เลยเหรอ?

คุณหญิงที่ชิงปี้หมายถึง ก็คือนางนิ่งซื่อแห่งจวนแม่ทัพ

น่าเสียดาย

นางนิ่งซื่อยังเอาตัวไม่รอดเลย

ชิงปี้คิดว่าหลังจากที่หลานเยาเยาได้ยินที่นางพูดแล้ว จะกลัวจนตัวสั่น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลานเยาเยาจะหัวเราะขึ้นมา

อีกทั้งยังหัวเราะแบบสะใจมากด้วย มันทำให้นางไม่รู้จะพูดยังไงต่อ

“เพลี๊ยะ ……”

หลานเยาเยาตบไปที่หน้าของนางอย่างแรง จากนั้นก็หัวเราะแล้วพูดว่า

“ตบแรกนี้ตบเพื่อเตือนสติสมองโง่ ๆ ของเจ้า นางนิ่งซื่อที่เจ้าอ้างถึงเมื่อวานก่อนที่ข้าจะออกเรือน นางก็เข้าไปอยู่ในคุกแล้ว เจ้าเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ตอนนี้เจ้ายังกล้าอาศัยชื่อนางมากดข้าอีกเหรอ ใช้สมองส่วนก้นคิดหรือยังไง?

“เพลี๊ยะ ……”

“ตบที่สองนี่ก็เพื่อตอบแทนความรู้สึกที่เจ้ามีให้ เลยให้รางวัลที่เจ้าตั้งใจโกหกข้า ยังตั้งใจจะให้ข้าใช้น้ำล้างเท้ามาล้างหน้าอีก”

โกหกไม่เนียน อีกทั้งยังไม่ใช่ลูกไม้ใหม่ ไม่ให้ตบนางให้ตบใครได้อีก?

“เพลี๊ยะ ……”

นางพูดจบก็ตบลงไปอีก จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาเป่าเพราะมือชา

“ตบที่สาม เอ่อ …… เอาเหตุผลอะไรดีล่ะ? คิดตอนนี้เลยล่ะกัน เพราะเจ้าสมควรโดน”

เหตุผลนี้มันบ้ามาก โอหัง เอาแต่ใจสุด ๆ

หลานเยาเยามองไปที่หน้าที่บวมแดงเหมือนหัวหมูของชิงปี้ จากนั้นก็เหลือบไปมองสาวใช้อีกคนหนึ่ง

สาวใช้คนนั้นอึ้งไป หลังจากเห็นว่านางมองมา ก็กลัวจนคุกเข่าลงไปกับพื้น

“ข้าน้อยผิดไปแล้ว พระชายาทรงมีเมตตา ปล่อยข้าน้อยไปสักครั้งเถอะเพคะ ต่อไปข้าน้อยจะยอมเป็นวัวเป็นม้า ทำตามที่ทรงรับสั่งทุกอย่างเพคะ”

เพราะนางตกใจกลัวมาก ทำให้ตัวสั่นไปทั้งตัว

น่ากลัวเกินไปแล้ว

หลานเยาเยาในตอนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว

หลานเยาเยามองไปที่สาวใช้คนนั้น แล้วก็มองไปที่ชิงปี้ นางพูดอย่างไม่มีพิษมีภัยว่า

“เป็นสาวใช้ก็ควรทำหน้าที่ของสาวใช้ให้ดี ไม่ใช่วัน ๆ คิดแต่เรื่องที่ไม่ควรคิด ไม่อย่างนั้นคราวหน้าข้าจะให้พวกเจ้าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย”

ชิงปี้ที่ถูกตบจนหน้าบวม ใช้มือปิดหน้าที่เจ็บปวดของนางเอาไว้ แล้วมองไปที่หลานเยาเยาด้วยสายตาโกรธแค้น

เมื่อกี้นางเกือบตายเพราะหลานเยาเยาแล้ว

ความน่ากลัวของความตาย มันทำให้นางตัวสั่นไปทั้งตัว

เมื่อได้สติกลับมา นางก็คุกเข่าลง แล้วพูดอ้อนวอนว่า

“ข้า ข้าน้อยผิดไปแล้วเพคะ ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว พระชายาทรงไว้ชีวิตด้วย ทรงไว้ชีวิตด้วย”

พูดจบก็โขกศีรษะลงไปอย่างแรง เสียงดังฟังชัดมาก

“ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าควรทำยังไง?”

คนฉลาดสั่งสอนนิดหน่อยก็พอ ไม่ต้องให้นางพูดอะไรมา นางก็เข้าใจว่าควรทำยังไง

แต่เรื่องนี้มันเหนือความคาดหมายของนางมาก

นางประเมินความเข้าใจของชิงปี้สูงเกินไป

หลังจากได้ยินคำพูดของนางแล้ว ชิงปี้ก็สะดุ้ง นางหยุดโขกศีรษะ น้ำตาไหลออกมาอย่างหนัก จากนั้นก็พูดอย่างหนักแน่นว่า

“ข้าน้อยทราบแล้วเพคะ ข้าน้อยจะดื่มน้ำล้างเท้านี่เข้าไปให้หมด”

“ …… ”

ที่จริงนางแค่ต้องการให้นางไปตักน้ำมาใหม่เท่านั้น

ก็ได้ ในยุคนี้มันจำกัดความคิดของข้า

หลังจากนั้นไม่นาน

หลานเยาเยาก็สั่งให้พวกนางไปตักน้ำมาใหม่ หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้ว นางกำลังคิดว่าจะไปที่ ลานน่อนซิน ก็เห็นพ่อบ้านเหมยกำลังเดินมาที่ลานซวนซี

นางยิ้ม

ตามปกติแล้ว เช้าวันต่อมาของการแต่งงานจะต้องเข้าวังไปถวายน้ำชาให้กับฮ่องเต้ ฮองเฮาแล้วก็ไทเฮา

แต่ว่าวันนี้เลยเวลาอาหารเช้าแล้วยังไม่มีใครมาเรียกนางเลย นางคิดว่าคงไม่ต้องไปแล้ว กำลังคิดว่าสบายแล้ว

คิดไม่ถึงว่าพ่อบ้านเหมยจะมา

เย่แจ๋หยิ่งคงไม่ได้ให้มาบอกให้นางเข้าวังไปคนเดียวหรอกใช่ไหม?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท